Word1 Word2 Definition
ก ก พยัญชนะตัวต้น เป็นพวกอักษรกลาง ใช้เป็นตัวสะกดในแม่กก.
ก็,ก็ ๑ ก็ ๑ สัน. แล้ว, จึง, ย่อม, เช่น พอหันหน้ามาก็พบเขาทำดีก็ได้ดี.
ก็,ก็ ๒ ก็ ๒ นิ. ไขความ เช่น ถึงแก่กรรมก็ตายนั่นเอง ประสาทพิการก็บ้านั่นเอง, เน้นความให้เด่นหรือให้ชัดแจ้ง เช่น ทั้งฟืนเจ้าก็หัก ทั้งผักเจ้าก็หา.
ก กา ก กา น. เรียกแม่บทแจกลูกพยัญชนะต้นกับสระโดยไม่มีตัวสะกดว่า แม่ ก กา หรือ มาตรา ก กา.
ก ข ก ข [โบ อ่านว่า กอข้อ] น. พยัญชนะแต่ ก ถึง ฮ.
ก ข ไม่กระดิกหู ก ข ไม่กระดิกหู [โบ อ่านว่า กอข้อ-] (สํา) น. ผู้ที่เรียนหนังสือแล้วไม่รู้ อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้.
ก หัน ก หัน น. อักษร ก คู่ ในหนังสือโบราณใช้แทนไม้หันอากาศตัวหนึ่ง เป็นตัวสะกดตัวหนึ่ง เช่น จกก = จัก หลกก = หลัก.
กก,กก ๑ กก ๑ น. เรียกคำหรือพยางค์ที่มีตัว ก ข ค ฆ สะกดว่า แม่กก หรือ มาตรากก.
กก,กก ๒ กก ๒ น. โคน เช่น กกไม้, ต้น เช่น กกขา, ลําต้น เช่น กกเสา.
กก,กก ๓ กก ๓ น. ชื่อไม้ล้มลุกในวงศ์ Cyperaceae เกิดในที่ชุ่มแฉะ ชนิดลําต้นกลมใช้ทอหรือสานเสื่อ เรียกว่า กกกลม หรือ กกเสื่อ (Cyperus corymbosus Rottb., C. tegetiformis Roxb.) ที่ลําต้นเป็นสามเหลี่ยม เช่น กกลังกา (C. alternifolius L.) กกสามเหลี่ยม [Schoenoplectus grossus (L.f.) Palla] กกขนาก หรือ กกกระหนาก (C. difformis L.).
กก,กก ๔ กก ๔ ก. แนบไว้กับอก โดยปรกติเป็นอิริยาบถนอน เช่น กกกอด กกไข่ กกลูก, โดยปริยายหมายความว่า เก็บนิ่งไว้นานเกินควร เช่น เอาเรื่องไปกกไว้.
กก,กก ๕ กก ๕ (ถิ่น-พายัพ) ก. ตัด, บั่น, เช่น กกกิ่ง กกยอด.
กก,กก ๖ กก ๖ น. ซอกด้านในหรือซอกด้านหลังของบานประตูหรือหน้าต่าง, ถ้าเป็นด้านหลังของแผ่นบานประตู เรียกว่า กกประตู, ถ้าเป็นด้านหลังของแผ่นบานหน้าต่าง เรียกว่า กกหน้าต่าง.
กก,กก ๗ กก ๗ ดู กะวะ ๒.
ก๊ก ก๊ก น. พวก, หมู่, เหล่า, โดยปรกติมักใช้เข้าคู่กันว่า เป็นก๊กเป็นพวก เป็นก๊กเป็นหมู่ เป็นก๊กเป็นเหล่า. (จ. ว่า ประเทศ).
กกขนาก กกขนาก ดู กก ๓.
กกช้าง กกช้าง น. ชื่อไม้ล้มลุกชนิด Typha angustifolia L. ในวงศ์ Typhaceae ขึ้นในนํ้า ช่อดอกคล้ายธูปขนาดใหญ่, กกธูป ธูปฤๅษี ปรือ หรือ เฟื้อ ก็เรียก.
กกธูป กกธูป ดู กกช้าง.
กกหู กกหู น. บริเวณหลังใบหู.
กกุธภัณฑ์ กกุธภัณฑ์ [กะกุดทะ-] น. เครื่องหมายความเป็นพระราชาธิบดีตามที่แสดงไว้ในบรมราชาภิเษก ร. ๗ คือ ๑. พระมหาพิชัยมงกุฎ ๒. พระแสงขรรค์ชัยศรี ๓. ธารพระกร ๔. วาลวีชนี (พัดกับแส้จามรี) ๕. ฉลองพระบาท รวมเรียกว่า เบญจราชกกุธภัณฑ์. (ป. กกุธ ว่า เครื่องหมายความเป็นพระราชา + ภณฺฑ ว่า ของใช้; ระบุไว้ในอภิธานัปปทีปิกา คาถาที่ ๓๕๘ ว่า พระขรรค์ ฉัตร อุณหิส ฉลองพระบาท วาลวีชนี คือ มีฉัตรแทนธารพระกร; ในจดหมายเหตุบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ ๒ มีทั้งฉัตรและธารพระกร พระแสงขรรค์ พระแสงดาบ วาลวีชนี พระมหาพิชัยมงกุฎ และฉลองพระบาท รวมเป็น ๗ สิ่ง. วาลวีชนี ที่ปรากฏวัตถุเป็นพัดกับแส้จามรีนั้น แต่ก่อนเป็นพัดใบตาลอย่างที่เรียกว่า พัชนีฝักมะขาม ต่อมาท่านเห็นควรเป็นแส้จามรีจะถูกกว่า เพราะศัพท์ว่าวาลวีชนี หมายความเป็นแส้ขนโคชนิดหนึ่ง จึงสร้างแส้จามรีขึ้น แต่ก็ไม่อาจเลิกพัดใบตาลของเก่า เป็นอันรวมไว้ทั้ง ๒ อย่างในเครื่องที่เรียกว่า วาลวีชนี).
กง,กง ๑ กง ๑ น. เรียกคำหรือพยางค์ที่มีตัว ง สะกด ว่า แม่กง หรือ มาตรากง.
กง,กง ๒ กง ๒ น. วง, ส่วนรอบของล้อเกวียนหรือล้อรถม้าเป็นต้น, เรียกสิ่งที่มีลักษณะคล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น ขนมกง, บางทีก็ใช้เข้าคู่กับคํา วง ว่า เป็นวงเป็นกง; ไร่ล้มลุกที่ถางป่าเป็นหย่อม ๆ ตามเนื้อที่และกั้นเป็นขอบเขตไว้.<2t>(กลอน) ก. แวดล้อม เช่น ม้ากันม้ากง. (ไทยสิบสองปันนาและสิบสองจุไทย กง ว่า ขอบเขตที่ล้อม เช่น ดินกง คือ ดินที่ล้อมเป็นขอบเขตไว้, ร่ายกง คือ ไร่ที่ล้อมเป็นขอบเขตไว้).
กง,กง ๓ กง ๓ น. ไม้รูปโค้งที่ตั้งเป็นโครงเรือ (เทียบมลายู กง, ตะเลง กง, ในความเดียวกัน); ไม้สําหรับดีดฝ้ายมีรูปเหมือนคันธนู เรียกว่า ไม้กง หรือ ไม้กงดีดฝ้าย (เทียบอะหม ไม้กงดีดฝ้าย และ คันกระสุน ว่า กง; พายัพ ว่า โก๋ง ได้แก่ คันกระสุน), เสลี่ยงที่มีพนักโค้งเหมือนกงเรือ เรียกว่า เสลี่ยงกง.
กง,กง ๔ กง ๔ น. ปลามังกง. (ประถม ก กา ในจินดามณี).
กง,กง ๕ กง ๕ ดู จงโคร่ง, โจงโคร่ง.
ก่ง ก่ง ก. ทำให้งอเป็นรูปโค้ง, ทำให้โค้ง, เช่น ก่งศร ก่งคอ, โก่ง ก็ว่า.<2t>ว. โค้ง เช่น คิ้วก่ง, โก่ง ก็ว่า.
ก้ง ก้ง (ถิ่น-พายัพ) ว. ลาย, ด่าง, เช่น แมวก้ง ผ้าตาก้ง (คือ ผ้าตาโต ๆ ที่มีสีต่าง ๆ กัน).
ก๊ง ก๊ง (ปาก) ก. ดื่ม (ใช้แก่เหล้า) เช่น ก๊งเหล้า.<2t>น. หน่วยตวงเหล้าโรงเป็นต้นตามวิธีประเพณี ๑ ก๊ง เท่ากับ ๕๐ ลูกบาศก์เซนติเมตร. (จ.).
กงกอน กงกอน ดู โกงกาง.
กงการ กงการ (ปาก) น. กิจการ, หน้าที่, ธุระ, เช่น กงการอะไรของคุณ ไม่ใช่กงการของฉัน.
กงเกวียน กงเกวียน น. ล้อเกวียน.
กงเกวียนกำเกวียน กงเกวียนกำเกวียน (สํา) ใช้เป็นคําอุปมาหมายความว่า เวรสนองเวร, กรรมสนองกรรม, เช่น ทําแก่เขาอย่างไร ตนหรือลูกหลานเป็นต้นของตนก็อาจจะถูกทำในทำนองเดียวกันอย่างนั้นบ้าง เป็นกงเกวียนกําเกวียน.
กงโก้ กงโก้ (ปาก) ว. โก่ง ๆ โค้ง ๆ เช่น ยืนกงโก้, หลังโกงไม่น่าดู เช่น ผอมกงโก้; เกะกะไม่เรียบร้อย เช่น กงโก้กงกก, โกงโก้ ก็ว่า.
กงข้าง,กงค้าง กงข้าง, กงค้าง น. กงที่ตรึงข้างไม่ถึงท้องเรือสลับกับกงวาน. (ตํานานภาษีอากร).
ก้งโค้ง ก้งโค้ง ก. โก่งก้นให้โด่ง, โน้มตัวลงยกก้นให้สูงขึ้น, โก้งโค้ง ก็ว่า.
กงจักร กงจักร น. สิ่งที่มีรูปเป็นวงกลม มีริมเป็นแฉก ๆ โดยรอบ.
กงฉาก กงฉาก น. เครื่องยึดมุมฉาก.
กงไฉ่ กงไฉ่ น. ผักกาดเค็มชนิดหนึ่งของจีน. (จ. ก้งไฉ่ ว่า ผักดองเค็ม).
กงเต๊ก กงเต๊ก น. การทําบุญให้แก่ผู้ตายตามพิธีของนักบวชนิกายจีนและญวน มีการสวดและเผากระดาษที่ทําเป็นรูปต่าง ๆ มีบ้านเรือน คนใช้ เป็นต้น. (จ.).
กงพัด,กงพัด ๑ กงพัด ๑ น. กงสําหรับพัด เป็นรูปใบพัดที่หมุนได้ เช่น กงพัดสีลม กงพัดเครื่องสีฝัด กงพัดเครื่องระหัด; ประตูหมุน; เครื่องมือชนิดหนึ่งเป็นไม้ยาวประมาณ ๕๐ เซนติเมตร เจาะรูหัวท้าย ใส่ไม้ขวาง สําหรับพัดด้าย.
กงพัด,กงพัด ๒ กงพัด ๒ น. ไม้เหลี่ยมสอดในรูซึ่งเจาะที่โคนเสาเรือน ปลายทั้ง ๒ ยื่นออกมาวางอยู่บนหมอน (ซึ่งเรียกว่า งัว) ข้างละต้น, หรือถ้าไม่เจาะรู ก็ใช้เป็น ๒ อัน ตีขวางขนาบโคนเสาข้างละอันวางอยู่บนหมอนเหมือนกัน เพื่อกันทรุด.
กงวาน กงวาน น. กงที่มีรูสําหรับนํ้าเดินที่ท้องเรือ. (ม. ร่ายยาว กุมาร).
กงเวียน กงเวียน (โบ) น. เครื่องมือสำหรับเขียนวงกลม ส่วนโค้งของวงกลม หรือกะระยะ ทำด้วยโลหะ มี ๒ ขา ปลายข้างหนึ่งแหลม ปลายอีกข้างหนึ่งมีดินสอเป็นต้น อีกแบบหนึ่งมีปลายแหลมทั้ง ๒ ข้าง แบบหลังนี้ใช้สำหรับเขียนบนโลหะก็ได้, กางเวียน หรือ วงเวียน ก็ว่า.
กงสี กงสี น. ของกองกลางที่ใช้รวมกันสําหรับคนหมู่หนึ่ง ๆ, หุ้นส่วน, บริษัท. (จ. กงซี ว่า บริษัททําการค้า, กิจการที่จัดเป็นสาธารณะ).
กงสุล กงสุล (กฎ) น. ชื่อตําแหน่งของบุคคลซึ่งรัฐบาลของประเทศหนึ่งแต่งตั้งให้เป็นผู้แทนประจําอยู่ในเมืองต่าง ๆ ของอีกประเทศหนึ่ง เพื่อทําหน้าที่ช่วยเหลือคนชาติของประเทศผู้แต่งตั้งกงสุลที่ไปอยู่ในเมืองต่างประเทศนั้น ๆ และเพื่อดูแลผลประโยชน์ทั่วไปของประเทศผู้แต่งตั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการพาณิชย์ กงสุลมี ๒ ประเภท คือ (๑) กงสุลโดยอาชีพ ได้แก่ ผู้ที่เป็นข้าราชการของประเทศผู้แต่งตั้ง และ (๒) กงสุลกิตติมศักดิ์ ได้แก่ ผู้ได้รับแต่งตั้งซึ่งมิใช่ข้าราชการและไม่ได้รับเงินเดือน ซึ่งอาจเป็นคนชาติของประเทศผู้แต่งตั้ง หรือคนชาติอื่นก็ได้ กงสุลที่มีตําแหน่งเป็นหัวหน้าสถานกงสุลมี ๔ ระดับ คือ กงสุลใหญ่ กงสุล รองกงสุล และตัวแทนฝ่ายกงสุล.<2t>ว. เกี่ยวกับกงสุล เช่น สถานกงสุล เขตกงสุล พนักงานฝ่ายกงสุล. (ฝ. consul).
กช,กช- กช, กช- [กด, กดชะ-] (กลอน; ตัดมาจาก บงกช) น. ดอกบัว เช่น ดุจบัวอันบานชู กชกรรณิกามาศ. (สมุทรโฆษ), โดยมากใช้เข้าคู่กับคํา กร เป็น กรกช เช่น กรกชชุลีคัล. (อิเหนาคําฉันท์). (ป. ปงฺกช).
กชกร กชกร [กดชะกอน] (กลอน) น. ดอกบัวคือมือ คือ กระพุ่มมือ เช่น กชกรต่างแต่งตั้ง ศิรสา. (หริภุญชัย).
กฎ กฎ [กด] (โบ) ก. จดไว้เป็นหลักฐาน เช่น ให้นายยกกระบัตรกฎปากหลากคําไว้. (กฎหมายอายัดทาส), ตรา เช่น ตรัสแก่ขุนศรีภูริปรีชาให้กฎเป็นตําราไว้. (อัยการเบ็ดเสร็จ), พระมหาธรรมราชาก็ตรัสให้กฎลงมาให้เอาพระยารามเป็นพระยาพิชัย. (พงศ. ๑๑๓๖). (เทียบ ข. กต่ ว่า จด).<2t>น. คําบังคับ เช่น จึ่งสมเด็จพระมหินทราธิราชเจ้าแผ่นดินก็ตรัสให้ทําตามกฎให้ลงมานั้นทุกประการ. (พงศ. ๑๑๓๖); (กฎ) ข้อกําหนดหรือข้อบัญญัติที่บังคับให้ต้องมีการปฏิบัติตาม เช่น กฎกระทรวง กฎหมาย; (วิทยา) ข้อกําหนดในเรื่องธรรมชาติตามที่ค้นคว้าได้. (อ. law).
กฎกระทรวง กฎกระทรวง (กฎ) น. บทบัญญัติที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงออกโดยอาศัยอํานาจตามพระราชบัญญัติ หรือบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่มีฐานะเท่าพระราชบัญญัติ เป็นต้นว่า ประมวลกฎหมาย พระราชกําหนด, เดิมเรียกว่า กฎเสนาบดี.
กฎเกณฑ์ กฎเกณฑ์ น. ข้อกําหนดที่วางไว้เป็นหลัก, หลักเกณฑ์.
กฎข้อบังคับ กฎข้อบังคับ (กฎ) น. บทบัญญัติที่เป็นชั้นข้อบังคับซึ่งกําหนดขึ้นไว้เป็นระเบียบในการปฏิบัติหรือดําเนินการตามกฎหมาย, ปัจจุบันนิยมใช้ว่า ข้อบังคับ.
กฎทบวง กฎทบวง (กฎ) น. ข้อบัญญัติที่รัฐมนตรีว่าการทบวงออกโดยอาศัยอํานาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายเช่นเดียวกับกฎกระทรวง.
กฎธรรมชาติ กฎธรรมชาติ น. กฎในเรื่องธรรมชาติ.
กฎธรรมดา กฎธรรมดา น. ข้อกําหนดระเบียบการปฏิบัติเนื่องจากธรรมดาวิสัยของมนุษย์และสังคม.
กฎบัตร กฎบัตร (กฎ) น. ตราสารที่จัดตั้ง จัดระเบียบ และกําหนดอํานาจหน้าที่ขององค์การ.
กฎบัตรกฎหมาย กฎบัตรกฎหมาย (ปาก) น. กระบวนกฎหมาย, เชิงกฎหมาย.
กฎบัตรสหประชาชาติ กฎบัตรสหประชาชาติ น. ตราสารที่สถาปนาและจัดระเบียบองค์การระหว่างประเทศที่เรียกว่า องค์การสหประชาชาติ.
กฎมณเฑียรบาล,กฎมณเทียรบาล กฎมณเฑียรบาล, กฎมณเทียรบาล (โบ) น. กฎมนเทียรบาล.
กฎมนเทียรบาล กฎมนเทียรบาล (กฎ) น. ข้อบัญญัติพิเศษเกี่ยวกับพระราชฐาน พระราชวงศ์ และระเบียบการปกครองในราชสํานัก, โบราณใช้ว่า กฎมณเฑียรบาล หรือ กฎมณเทียรบาล ก็มี.
กฎยุทธวินัย กฎยุทธวินัย (กฎ; เลิก) น. ชื่อย่อของกฎว่าด้วยยุทธวินัยและการลงอาญาทหารบกฐานละเมิดยุทธวินัย.
กฎศีลธรรม กฎศีลธรรม น. กฎว่าด้วยการกระทำที่ถูกต้องและไม่ถูกต้องทางศีลธรรม.
กฎเสนาบดี กฎเสนาบดี (เลิก) ดู กฎกระทรวง.
กฎหมาย กฎหมาย (กฎ) น. กฎที่สถาบันหรือผู้มีอํานาจสูงสุดในรัฐตราขึ้น หรือที่เกิดขึ้นจากจารีตประเพณีอันเป็นที่ยอมรับนับถือ เพื่อใช้ในการบริหารประเทศ เพื่อใช้บังคับบุคคลให้ปฏิบัติตาม หรือเพื่อกําหนดระเบียบแห่งความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลหรือระหว่างบุคคลกับรัฐ.<2t>(โบ) ก. จดบันทึกไว้เป็นหลักฐาน เช่น สั่งให้นายอินกฎหมายผู้มีชื่อทั้งนี้ไว้. (พงศ. อยุธยา), ทําหนังสือเป็นหลักฐาน เช่น อนึ่ง มีผู้ทําหนังสือร้องเรียนกฎหมายว่า.... (พระราชกําหนดเก่า); ออกหมายกําหนด เช่น ให้มหาดไทยกลาโหมกฎหมายบอกแก่ตระลาการ ถ้ากฎหมายมิทั่ว จะเอาตัวผู้กฎหมายลงโทษ. (พระราชกําหนดเก่า); กฎหมายงานพระบรมศพครั้งกรุงเก่า; ตราสั่ง เช่น จึ่งกฎหมายให้สามไป เดือนหนึ่งจอมไตร ดํารัสให้เร่งคืนมา. (พากย์); กําหนดขีดขั้น เช่น ให้ปลูกโรงรจนาใน นอกหน้าศาลชัย ให้ตั้งพิกัดกฎหมาย. (พากย์).
กฎหมายนานาประเทศ กฎหมายนานาประเทศ (กฎ; โบ) น. ชื่อเดิมของกฎหมายระหว่างประเทศ. (ดู กฎหมายระหว่างประเทศ).
กฎหมายปกครอง กฎหมายปกครอง (กฎ) น. กฎหมายสาขาหนึ่งของกฎหมายมหาชนที่วางหลักเกี่ยวกับการจัดระเบียบในทางปกครองของรัฐ และการดำเนินกิจกรรมของฝ่ายปกครองในการจัดทำบริการสาธารณะรวมทั้งวางหลักความเกี่ยวพันในทางปกครองระหว่างฝ่ายปกครองกับเอกชน. (อ. administrative law).
กฎหมายปิดปาก กฎหมายปิดปาก (กฎ) น. หลักกฎหมายที่ไม่ยอมให้อ้างหรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงให้ผิดไปจากข้อเท็จจริงที่ปรากฏตามพฤติการณ์ ไม่ว่าข้อเท็จจริงที่ปรากฏนั้นจะเป็นจริงหรือไม่ก็ตาม. (อ. estoppel).
กฎหมายพาณิชย์ กฎหมายพาณิชย์ (กฎ) น. กฎหมายที่วางระเบียบความเกี่ยวพันทางการค้าหรือธุรกิจระหว่างบุคคล เช่น กฎหมายว่าด้วยการซื้อขาย การเช่าทรัพย์ การจํานอง การจํานํา ตั๋วเงิน หุ้นส่วน บริษัท. (อ. commercial law).
กฎหมายแพ่ง กฎหมายแพ่ง (กฎ) น. กฎหมายที่วางระเบียบความเกี่ยวพันระหว่างบุคคลเกี่ยวกับสถานภาพ สิทธิ และหน้าที่ของบุคคลตามกฎหมาย เช่น กฎหมายว่าด้วยนิติกรรม ละเมิด ทรัพย์สิน ครอบครัว มรดก. (อ. civil law).
กฎหมายมหาชน กฎหมายมหาชน (กฎ) น. กฎหมายที่วางระเบียบความเกี่ยวพันระหว่างรัฐกับเอกชน ในฐานะที่รัฐมีอำนาจปกครองเอกชนที่อยู่ในดินแดนของรัฐนั้น เช่น กฎหมายรัฐธรรมนูญ กฎหมายอาญา. (อ. public law).
กฎหมายระหว่างประเทศ กฎหมายระหว่างประเทศ (กฎ) น. หลักกฎหมายหรือหลักปฏิบัติที่ยอมรับกันว่าด้วยรัฐและความเกี่ยวพันระหว่างรัฐ รวมทั้งความเกี่ยวพันระหว่างรัฐกับองค์การระหว่างประเทศและประชาคมระหว่างประเทศ, เดิมเรียกว่า กฎหมายนานาประเทศ. (อ. international law).
กฎหมายรัฐธรรมนูญ กฎหมายรัฐธรรมนูญ (กฎ) น. กฎหมายสาขาหนึ่งของกฎหมายมหาชนที่มีวัตถุประสงค์ในการวางระเบียบการปกครองรัฐในทางการเมือง โดยกำหนดโครงสร้างของรัฐ ระบอบการปกครอง การใช้อำนาจอธิปไตยและการดำเนินงานของสถาบันสูงสุดของรัฐที่ใช้อำนาจอธิปไตย. (อ. constitutional law).
กฎหมายเหตุ กฎหมายเหตุ น. จดหมายเหตุ. (พงศ. ประเสริฐ); (กฎ; โบ) กฎเกณฑ์การปฏิบัติที่ตราขึ้นหรือเนื่องจากประเพณีซึ่งมีค่าบังคับ.
กฎหมายอาญา กฎหมายอาญา (กฎ) น. กฎหมายที่กําหนดลักษณะของการกระทําที่ถือว่าเป็นความผิด และกําหนดบทลงโทษทางอาญาสําหรับความผิดนั้น. (อ. criminal law).
กฎหมายเอกชน กฎหมายเอกชน (กฎ) น. กฎหมายที่วางระเบียบความเกี่ยวพันระหว่างเอกชนหรือระหว่างเอกชนกับรัฐ ในฐานะที่รัฐดำเนินการอย่างเอกชนเกี่ยวกับสถานภาพของบุคคลตามกฎหมาย สิทธิและหน้าที่ของเอกชน รวมทั้งวางระเบียบเกี่ยวกับทรัพย์สินของเอกชน เช่น กฎหมายแพ่ง กฎหมายพาณิชย์. (อ. private law).
กฎหมู่ กฎหมู่ น. อํานาจกดดันที่บุคคลจํานวนมากนํามาใช้บีบบังคับให้อีกฝ่ายหนึ่งกระทําหรือเว้นกระทําสิ่งที่บุคคลจำนวนนั้นต้องการ (มักไม่เป็นไปตามตัวบทกฎหมาย).
กฎแห่งกรรม กฎแห่งกรรม น. กฎว่าด้วยกรรมและผลแห่งกรรมที่ผู้กระทําจักต้องได้รับ.
กฎอัยการศึก กฎอัยการศึก (กฎ) น. กฎหมายซึ่งได้ตราขึ้นไว้สําหรับประกาศใช้เมื่อมีเหตุจําเป็น เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง เช่น ในกรณีเกิดสงคราม การจลาจล ในเขตที่ประกาศใช้กฎอัยการศึกเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารมีอํานาจหน้าที่เหนือเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือนในส่วนที่เกี่ยวกับการยุทธ์ การระงับปราบปราม หรือการรักษาความสงบเรียบร้อย และศาลทหารมีอํานาจพิจารณาพิพากษาคดีอาญาบางอย่างที่ประกาศระบุไว้แทนศาลพลเรือน.
กฏิ กฏิ (แบบ) น. สะเอว. (ป.).
กฏุก,กฏุก- กฏุก, กฏุก- [กะตุก, กะตุกะ-] ว. เผ็ด, เผ็ดร้อน, เช่น ตรีกฏุก หมายถึงเครื่องยาที่เผ็ดร้อนรวม ๓ อย่าง คือ พริกไทย ดีปลี ขิงแห้ง. (ป.).
กฏุกผล กฏุกผล [กะตุกะผน] (แบบ) น. ผลอันเผ็ดร้อน. (ชุมนุมตํารากลอน ปาราชิตฉันท์).
กฐิน,กฐิน- กฐิน, กฐิน- [กะถิน, กะถินนะ-] น. ผ้าพิเศษที่พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตแก่ภิกษุสงฆ์เฉพาะกฐินกาล, ตามศัพท์แปลว่า ไม้สะดึง คือ กรอบไม้สำหรับขึงผ้าที่จะเย็บเป็นจีวร; คํา กฐิน นี้ ใช้ประกอบกับคําอื่นอันเนื่องด้วยพิธีกฐิน ผ้าที่ถวายแก่ภิกษุสงฆ์ในพิธีนี้ เรียกว่า ผ้ากฐิน ในฤดูกาลเรียกว่า กฐินกาล [กะถินนะกาน] คือระยะเวลาตั้งแต่แรมคํ่าหนึ่ง เดือน ๑๑ ถึงกลางเดือน ๑๒ ระยะเวลานี้เรียกเป็นสามัญว่า เทศกาลกฐิน [เทดสะกานกะถิน] ฤดูกฐิน หรือ หน้ากฐิน ก็มี ก่อนจะถึงกฐินกาลผู้ประสงค์จะถวายผ้ากฐินแก่ภิกษุสงฆ์วัดใดจะต้องไปแจ้งความจํานงว่าจะนำผ้ากฐินไปทอดที่วัดนั้นเป็นการล่วงหน้า การแสดงความจํานงล่วงหน้านี้ เรียกว่า จองกฐิน การทําพิธีถวายผ้ากฐิน เรียกว่า ทอดกฐิน พระภิกษุผู้ได้รับมอบผ้ากฐินจากสงฆ์โดยวิธีที่กําหนดไว้ในพระวินัย เรียกว่า ผู้กรานกฐิน ผู้ครองกฐิน หรือ องค์ครองกฐิน เฉพาะผ้ากฐิน บางทีก็เรียกว่า องค์กฐิน ถ้าพร้อมกับของอื่นอันเป็นบริวารสําหรับถวายภิกษุสงฆ์ เรียกว่า เครื่องกฐิน หรือ บริวารกฐิน [บอริวานกะถิน] เมื่อนําผ้ากฐินไปทอดโดยมีขบวนแห่ เรียกว่า แห่กฐิน ถ้ามีพิธีฉลอง เรียกว่า ฉลองกฐิน การที่ภิกษุสงฆ์ผู้ร่วมอยู่ในพิธีอนุโมทนาต่อองค์ครองกฐินตามพระวินัย หรือการที่บุคคลแสดงความยินดีในการที่เขาทอดกฐิน เรียกว่า อนุโมทนากฐิน [อะนุโมทะนากะถิน] ภิกษุสงฆ์ผู้ได้อนุโมทนากฐินแล้วนั้น ย่อมได้ชื่อว่าเป็น ผู้กรานกฐิน ด้วย ผลของการทอดกฐิน เรียกว่า อานิสงส์กฐิน, ในทางวินัยสิทธิพิเศษ ๕ ประการซึ่งมีแก่ภิกษุผู้ได้กรานกฐินแล้ว ก็เรียกว่า อานิสงส์กฐิน เช่นกัน. (ดู กรานกฐิน และ จุลกฐิน).
กฐินทาน กฐินทาน [กะถินนะทาน] น. การทอดกฐิน.
กฐินัตถารกรรม กฐินัตถารกรรม [กะถินัดถาระกํา] น. การกรานกฐิน. (ป. กิน + อตฺถาร + ส. กรฺม).
กณิกนันต์ กณิกนันต์ [กะนิกนัน] (แบบ) ว. ละเอียดยิ่ง เช่น ลวดหลายลายกณิกนันต์. (ม. คําหลวง ทานกัณฑ์). (ป. กณิก ว่า น้อย + อนนฺต ว่า ไม่มีที่สุด).
กณิการ์ กณิการ์ น. ไม้กรรณิการ์. (ม. ร่ายยาว ทานกัณฑ์).
กด,กด ๑ กด ๑ น. เรียกคำหรือพยางค์ที่มีตัว จ ฉ ช ซ ฌ ฎ ฏ ฐ ฑ ฒ ด ต ถ ท ธ ศ ษ ส สะกด ว่า แม่กด หรือ มาตรากด.
กด,กด ๒ กด ๒ น. (๑) ชื่อปลาไม่มีเกล็ด มีหนวด หลายชนิด หลายขนาด ครีบหลังตอนแรกและครีบอกมีก้านครีบเป็นเงี่ยง ครีบหลังตอนที่ ๒ เป็นครีบไขมัน ส่วนใหญ่เป็นสกุล Arius ในวงศ์ Ariidae พบมากในเขตนํ้ากร่อย เช่น กดแดง หรือ กดหัวโม่ง (A. caelatus) บางชนิดพบในทะเล เช่น กดทะเล หรือ ริวกิว (A. thalassinus), ที่อยู่ในสกุล Ketengus ได้แก่ กดหัวโต (K. typus), ในสกุล Hemipimelodus เช่น กดโป๊ะ (H. borneensis).<2t>(๒) ชื่อปลานํ้าจืดบางชนิดในสกุล Mystus วงศ์ Bagriidae ลักษณะทั่วไปคล้ายกด (๑) เช่น กดเหลือง ชงโลง หรือ กดขาว (M. nemurus) กดคัง (M. wyckii).
กด,กด ๓ กด ๓ น. ชื่อนกชนิดหนึ่ง เช่น นกกดอดทนสู้ พบงูเห่าเอาปีกบัง. (ประพาสธารทองแดง).
กด,กด ๔ กด ๔ ก. บังคับลง, ข่ม, ใช้กําลังดันให้ลง, โดยปริยายหมายความว่า แกล้งกักไว้ เช่น กดคดี; ทำให้มีค่าน้อยลงกว่าที่ควรจะเป็น เช่น กดราคา กดคะแนน; (กลอน) สะกด, ขืน, เช่น อย่ากดใจฟั้นย่า นานนัก. (ลอ).
กด,กด ๕ กด ๕ น. คํากํากับชื่อปีในวิธีนับศักราชของไทยเหนือ ตรงกับเลข ๗.
กดขาว กดขาว ดู กดเหลือง.
กดขี่ กดขี่ ก. ข่มให้อยู่ในอํานาจตน, ใช้บังคับเอา, ทําอํานาจเอา, บางทีใช้เข้าคู่กับคำ ข่มเหง เป็น กดขี่ข่มเหง.
กดคอ กดคอ (ปาก) ก. บังคับเอา.
กดดัน กดดัน ก. บีบคั้น.
กดน้ำ กดน้ำ (ปาก) ก. ใช้กําลังกดสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้มิดลงไปในนํ้า ในความว่า จับกดน้ำ จับหัวกดน้ำ.
กดหัว กดหัว (ปาก) ก. ทําให้หือไม่ขึ้น.
กดเหลือง กดเหลือง น. ชื่อปลาน้ำจืดชนิด Mystus nemurus ในวงศ์ Bagriidae ไม่มีเกล็ด หัวแบน หนวดยาวถึงครีบก้น ข้างลำตัวสีเหลือง ด้านหลังสีน้ำตาลดำ มีชุกชุมทั่วไปแม้ในเขตน้ำกร่อยใกล้ปากแม่น้ำ, กดขาว หรือ ชงโลง ก็เรียก.
ก็ดี,ก็ได้,ก็ได้ ๑ ก็ดี, ก็ได้ ๑ นิ. แสดงความหมายเป็นส่วน ๆ หรือเน้นความให้มีนํ้าหนักเท่ากัน เช่น บิดาก็ดี มารดาก็ดี ย่อมรักบุตร ยานี้กินก็ได้ ทาก็ได้.
ก็ได้,ก็ได้ ๒ ก็ได้ ๒ นิ. แสดงความหมายว่ายอมอย่างไม่เต็มใจนัก เช่น ท่านจะไปก็ได้.
กตเวทิตา กตเวทิตา [กะตะ-] น. ความเป็นผู้ประกาศคุณท่าน, ความเป็นผู้สนองคุณท่าน, เป็นคําคู่กันกับ กตัญญุตา. (ป.).
กตเวที กตเวที [กะตะ-] ว. (ผู้) ประกาศคุณท่าน, (ผู้) สนองคุณท่าน, เป็นคําคู่กันกับ กตัญญู. [ป. กต ว่า (อุปการคุณ) ที่ท่านทําแล้ว + เวที ว่า ผู้ให้รู้, ผู้ประกาศ].
กตัญชลี กตัญชลี [กะตันชะลี] (แบบ) ก. ยกมือไหว้. (ป. กต ว่า อันเขาทําแล้ว + อญฺชลี ว่า กระพุ่มมือ).
กตัญญุตา กตัญญุตา [กะตัน-] น. ความกตัญญู, ความเป็นผู้รู้อุปการคุณที่ท่านทำให้, ความเป็นผู้รู้คุณท่าน. (ป.).
กตัญญู กตัญญู [กะตัน-] น. (ผู้) รู้อุปการะที่ท่านทําให้, (ผู้) รู้คุณท่าน, เป็นคําคู่กันกับ กตเวที. [ป. กต ว่า (อุปการคุณ) ที่ท่านทําแล้ว + ญู ว่า ผู้รู้].
กตาธิการ กตาธิการ [กะตาทิกาน] (แบบ) น. อธิการ (บารมีอันยิ่ง) ที่ทําไว้.<2t>ว. มีอธิการที่ทําไว้, มีบารมีที่สั่งสมไว้. (ป. กต ว่า อันเขาทําแล้ว + อธิการ).
กตาภินิหาร กตาภินิหาร [กะตาพินิหาน] (แบบ) น. อภินิหาร (บุญอันยิ่ง) ที่ทําไว้.<2t>ว. มีอภินิหารที่ทําไว้. (ป. กต ว่า อันเขาทําแล้ว + อภินิหาร).
ก็ตาม ก็ตาม นิ. ใช้อย่าง ก็ดี, แต่บางแห่งมีแววความหมายเท่ากับ ก็ตามใจ ก็ตามที ก็ตามเรื่อง แล้วแต่กรณีที่ใช้ โดยอาศัยพฤติการณ์ของเรื่องเป็นเครื่องแวดล้อม.
กติกา กติกา [กะ-] น. กฎเกณฑ์หรือข้อตกลงที่บุคคลตั้งแต่ ๒ ฝ่ายขึ้นไปกําหนดขึ้นเป็นหลักปฏิบัติ เช่น กติกาชกมวย กติกาฟุตบอล; (กฎ) หนังสือสัญญา; ข้อตกลง. (ป.; อ. covenant).
กติกาสัญญา กติกาสัญญา (กฎ) น. ความตกลงระหว่างประเทศ. (อ. pact).
กถา กถา [กะ-] น. ถ้อยคํา, เรื่อง, คําอธิบาย, คํากล่าว. (ป.).
กถามรรค กถามรรค [-มัก] น. ลาดเลาแห่งกถา ได้แก่เรื่องที่แต่งตามอัตโนมัติของผู้แต่งว่าด้วยธรรมนั้น ๆ. (ส. กถา + มรฺค ว่า ทาง).
กถามรรคเทศนา กถามรรคเทศนา [-มักคะเทดสะหฺนา] น. เทศนาฝ่ายกถามรรค, คู่กับ สุตตันตเทศนา. (ส. -เทศนา ว่า การแสดง).
กถามุข กถามุข น. เบื้องต้นของเนื้อเรื่อง. (ป.; ส. -มุข ว่า หน้า).
กถิกาจารย์ กถิกาจารย์ [กะถิกาจาน] (แบบ) น. อาจารย์ผู้กล่าว. (ป., ส. กถิก + ส. อาจารฺย).
กทรรป กทรรป [กะทับ] (แบบ) ก. กําหนัด เช่น ตรูกามกทรรปหฤทัย. (สมุทรโฆษ). (ส. กนฺทรฺป ว่า กามเทพ).
กทลี กทลี [กะทะ-] (แบบ) น. กล้วย. (ป.).
กน,กน ๑ กน ๑ น. เรียกคำหรือพยางค์ที่มีตัว ญ ณ น ร ล ฬ สะกด ว่า แม่กน หรือ มาตรากน.
กน,กน ๒ กน ๒ (โบ) ก. มัว, คอย, เฝ้า, เช่น จะกนกินแต่นํ้าตาอนาทร. (นิ. ลอนดอน).
ก่น,ก่น ๑ ก่น ๑ (โบ) ก. ตั้งหน้า, มุ่ง, เช่น อยู่เย็นยงงก่นเกอดพิจลการ. (ม. คําหลวง ทานกัณฑ์).
ก่น,ก่น ๒ ก่น ๒ ก. ขุดโค่น.
ก้น ก้น น. ส่วนเบื้องล่างหรือส่วนท้ายของลําตัว, โดยปริยายหมายความถึงบริเวณก้นด้วย เช่น ล้างก้น; ส่วนล่างของภาชนะ เช่น ก้นหม้อ, ส่วนสุดของห้วงหรือแอ่ง เช่น ก้นบ่อ ก้นสระ ก้นคลอง, ตรงข้ามกับ ปาก; ส่วนสุดที่เหลือ เช่น ก้นเทียน ก้นบุหรี่.
กนก กนก [กะหฺนก] (แบบ) น. ทองคํา เช่น มาลากนก = มาลัยทอง, โดยมากใช้ประกอบเป็นส่วนหน้าของสมาสเช่น กนกนัครา. (สมุทรโฆษ). (ป.; ส.).
ก้นกบ ก้นกบ น. ปลายกระดูกสันหลังที่สุดลงมาข้างล่าง, พายัพเรียก ก้นหย่อน, โดยปริยายเรียกสิ่งที่มีลักษณะคล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น ก้นกบว่าวจุฬา.
ก้นกระดก ก้นกระดก (สำ) ว. ลืมตัวเพราะถูกเยินยอ.
ก้นกุฏิ ก้นกุฏิ [-กุดติ] (ปาก) ว. ที่สนิทเป็นที่ไว้วางใจได้.
ก้นขบ ก้นขบ น. ชื่องูชนิด Cylindrophis ruffus ในวงศ์ Aniliidae หรือ Uropeltidae สีดําแกมม่วง มีลายขาวเป็นปล้อง ๆ ไม่มีพิษ แต่เข้าใจกันว่ามีพิษข้างหางเพราะชูและแผ่หางซึ่งปลายมีสีแดงส้ม.
ก้นครัว ก้นครัว (ปาก) ว. ไม่ได้ออกหน้าออกตา.
ก่นโคตร ก่นโคตร ก. ขุดโคตรขึ้นมาด่า.
ก้นตะกรน ก้นตะกรน น. ก้นที่มีขี้ตะกอน.<2t>ว. เดนคัด, เดนเลือก, ขนาดเล็กมาก, ในคำว่า มะม่วงก้นตะกรน.
ก่นแต่ ก่นแต่ ก. เฝ้าแต่, มัวแต่, เช่น ก่นแต่จะร้องไห้.
ก้นบึ้ง ก้นบึ้ง น. ส่วนสุดของสิ่งที่ลึก, ส่วนใต้สุด, โดยปริยายหมายถึงลักษณะที่คล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น ก้นบึ้งของหัวใจ.
ก้นปล่อง ก้นปล่อง น. ชื่อยุงในสกุล Anopheles วงศ์ Culicidae มีหลายชนิด ที่พบเป็นสามัญเช่น ชนิด A. minimus ยุงเหล่านี้เวลาเกาะหรือดูดเลือดคนหรือสัตว์ หัวจะปักลง ก้นชี้ขึ้น ผนังด้านล่างของส่วนท้องไม่มีเกล็ด ตัวเมียมีรยางค์ที่ปากยาวออกมา ๑ คู่ เช่นเดียวกับตัวผู้ ทําให้เหมือนกับมีปากเป็นสามแฉก ตัวเมียดูดเลือดและบางชนิดเป็นพาหะในการนําโรคมาสู่คนและสัตว์ เช่น โรคมาลาเรีย ตัวผู้กินนํ้าหรือนํ้าหวานจากดอกไม้.
ก้นปอด ก้นปอด น. ก้นที่สอบเล็กผิดปรกติ, ก้นที่ไม่ใคร่มีเนื้อ.
ก้นปิด ก้นปิด ว. เรียกใบไม้ที่มีก้านติดอยู่ภายในของใบ เช่น ใบบัว ใบมะละกอ ว่า ใบก้นปิด.
ก้นปูด ก้นปูด (ถิ่น-พายัพ) น. นกกะปูด. (ดู กะปูด).
ก้นแมลงสาบ ก้นแมลงสาบ ว. แหลมมนอย่างก้นแมลงสาบ, เรียกเครื่องมือเหล็กที่มีลักษณะเช่นนั้นว่า เหล็กก้นแมลงสาบ.
ก้นย้อย ก้นย้อย น. เนื้อก้น ๒ ข้างที่ยุ้ยออกมา.
ก่นสร้าง ก่นสร้าง (โบ) ก. ขุดโค่นต้นไม้ตอไม้และแผ้วถางเพื่อปลูกสร้าง, โก่นสร้าง ก็ว่า.
ก้นหนัก ก้นหนัก ว. ไปนั่งคุยอยู่นาน ไม่ยอมกลับง่าย ๆ.
ก้นหย่อน ก้นหย่อน (ถิ่น-พายัพ) น. ก้นกบ.
ก้นหอย ก้นหอย น. รอยเส้นขดวนเข้าหาศูนย์กลางอย่างรูปก้นหอยมีที่นิ้วมือเป็นต้น, โดยปริยายเรียกสิ่งที่มีลักษณะคล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น ม้วนผมแบบก้นหอย.
ก้นอ้อย ก้นอ้อย น. เนื้อก้น ๒ ข้างตรงที่นั่งทับ.
กนิษฐ,กนิษฐ-,กนิษฐ์ กนิษฐ-, กนิษฐ์ [กะนิดถะ-, กะนิด] ว. น้อยที่สุด. (ส.; ป. กนิฏฺ), (ราชา) ถ้าใช้ว่า พระกนิษฐภคินี หมายถึง น้องสาว, ถ้าใช้ว่า พระกนิษฐภาดา หมายถึง น้องชาย, ถ้าใช้ว่า พระกนิษฐา หมายถึง น้องสาว. (ส.; ป. กนิฏฺ).
กนิษฐภคินี กนิษฐภคินี น. น้องหญิง. (-ป., ส. ภคินี ว่า น้องหญิง).
กนิษฐภาดา กนิษฐภาดา น. น้องชาย. (-ป. ภาตา ว่า น้องชาย).
กนิษฐา กนิษฐา (กลอน) น. น้องสาว, คู่กับ เชษฐา คือ พี่ชาย; (ราชา) นิ้วก้อย ใช้ว่า พระกนิษฐา. (ส.).
กบ,กบ ๑ กบ ๑ น. เรียกคำหรือพยางค์ที่มีตัว บ ป พ ฟ ภ สะกด ว่า แม่กบ หรือ มาตรากบ.
กบ,กบ ๒ กบ ๒ น. ชื่อสัตว์สี่เท้าสะเทินนํ้าสะเทินบกในวงศ์ Ranidae ไม่มีหาง ตีนแบนมีหนังติดเป็นพืด กระโดดได้ไกล ว่ายนํ้าดํานํ้าได้เร็ว มักวางไข่ในนํ้า เมื่อยังเป็นตัวอ่อนจะมีหาง อยู่ในนํ้าเรียกว่า ลูกอ๊อด ภายหลังจึงงอกขา หางหดหายไป แล้วขึ้นอาศัยบนบก หน้าแล้งอยู่แต่ในรู ไม่ออกหาอาหารชั่วคราว เรียกว่า กบจําศีล มีหลายชนิด เช่น กบนา (Rana tigerina).
กบ,กบ ๓ กบ ๓ ดู คางคก ๒.
กบ,กบ ๔ กบ ๔ น. เครื่องมือช่างไม้สําหรับไสไม้ ทําหน้าไม้ให้เรียบ ให้เป็นราง หรือลอกบัว ลอกลวด มีมากชนิดด้วยกัน เช่น กบกระดี่ กบบรรทัด กบบัว; อุปกรณ์ใช้เหลาดินสอ.
กบ,กบ ๕ กบ ๕ น. (๑) ชื่อทุเรียนพันธุ์หนึ่ง.<2t>(๒) ชื่อไม้ล้มลุกมีหัวชนิดหนึ่งในสกุล Geodorum วงศ์ Orchidaceae หัวมีลักษณะเหมือนกบ เชื่อกันว่าใช้ในทางอยู่ยงคงกระพันได้, ข้าวอังกุลี ก็เรียก.
กบ,กบ ๖ กบ ๖ ว. เต็มมาก, เต็มแน่น, เช่น ข้าวกบหม้อ มะพร้าวมีลูกกบคอ.
กบ,กบ ๗ กบ ๗ ก. ประกบ.
กบ,กบ ๘ กบ ๘ น. สลักไม้ที่ใส่ไว้ด้านในส่วนล่างตอนกลางของบานหน้าต่างหรือประตู ทําหน้าที่คล้ายกลอน เมื่อปิดหน้าต่างหรือประตู ใช้กบนี้สอดเข้าในช่องเจาะตัวไม้ธรณี.
กบแจะ กบแจะ (ปาก) ก. แตะ, กระทบ, ประกบกัน, (ใช้เฉพาะการเล่นอย่างเล่นโยนหลุม โดยโยนสตางค์หรือเบี้ยให้ไปแตะหรือประกบกัน), แจะ ก็ว่า.
กบฏ กบฏ [กะบด] ก. ประทุษร้ายต่อทางอาณาจักร, ทรยศ.<2t>น. การประทุษร้ายต่อทางอาณาจักร, ความทรยศ; ผู้ประทุษร้ายต่อทางอาณาจักร, ผู้ทรยศ, ขบถ ก็ว่า; (กฎ) ชื่อความผิดอาญาฐานกระทําความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักร โดยใช้กําลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กําลังประทุษร้ายเพื่อล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ หรือล้มล้างอํานาจนิติบัญญัติ อํานาจบริหาร หรืออํานาจตุลาการ หรือแบ่งแยกราชอาณาจักร หรือยึดอํานาจปกครองในส่วนใดส่วนหนึ่งแห่งราชอาณาจักร เรียกว่า ความผิดฐานเป็นกบฏ. (ส. กปฏ ว่า ความคด, ความโกง).
กบดาน กบดาน ก. นอนพังพาบกับพื้นใต้นํ้า เป็นอาการของจระเข้, โดยปริยายหมายถึงหลบซ่อนตัวไม่ออกมา.
กบเต้น กบเต้น น. ชื่อเพลงไทยร้องรํา ๒ ชั้นสมัยกรุงศรีอยุธยา หน้าทับสองไม้ คือ ชั้นต้นมีทํานองช้าก่อนแล้วก็เร็วเข้ากํากับกันไป ใช้กับบทโศกหรือรัญจวน เช่นตอนรจนาครํ่าครวญน้อยใจที่สังข์ทองจะไม่ช่วยตีคลี. (ดึกดําบรรพ์).
กบเต้นกลางสระบัว กบเต้นกลางสระบัว น. ชื่อกลบทชนิดหนึ่ง ตัวอย่างว่า หมายชิดมิตรเชือนไม่เหมือนหมาย.
กบเต้นต่อยหอย กบเต้นต่อยหอย น. ชื่อกลบทชนิดหนึ่ง ตัวอย่างว่า คิดยิ่งแสนแค้นยิ่งศรเสียบทรวงหมอง.
กบเต้นสลักเพชร กบเต้นสลักเพชร น. ชื่อกลบทชนิดหนึ่ง ตัวอย่างว่า เจ็บเรียมห่างจางรักให้ใจเรียมหวน.
กบเต้นสามตอน กบเต้นสามตอน น. ชื่อกลบทชนิดหนึ่ง ตัวอย่างว่า เจ็บคําจําคิดจิตขวย.
กบทู กบทู น. สันแห่งหลังคาเรือน, ไม้ข่มข้างกลอน.
กบทูด กบทูด น. ชื่อกบภูเขาขนาดใหญ่ชนิด Rana blythii ในวงศ์ Ranidae ขนาดใหญ่ที่สุดที่พบในประเทศไทย ตัวยาวประมาณ ๓๐ เซนติเมตร อาศัยในป่าดงดิบชื้นตามลําธารบนภูเขา.
กบนา กบนา น. ชื่อกบชนิด Rana tigerina ในวงศ์ Ranidae ตัวสีเขียว มีลายสีเข้ม มักอาศัยในรูตามคันนา นิยมนำมาทำเป็นอาหาร.
กบในกะลาครอบ กบในกะลาครอบ (สำ) น. ผู้มีความรู้และประสบการณ์น้อยแต่สำคัญตนว่ามีความรู้มาก.
กบบัว กบบัว น. ชื่อกบชนิด Rana erythraea ในวงศ์ Ranidae ตัวสีเขียว ขนาดเล็กกว่ากบนา มักอาศัยอยู่ตามกอบัว จึงมีผู้เรียกว่า เขียดบัว และร้องเสียงจิ๊ก ๆ บางครั้งจึงเรียกว่า เขียดจิก.
กบเลือกนาย กบเลือกนาย (สํา) น. ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนผู้บังคับบัญชาอยู่เรื่อย ๆ.
กบาล กบาล [กะบาน] น. ส่วนกลางของกะโหลกศีรษะ, หัว, (คําไม่สุภาพ) เช่น ตีกบาล เขกกบาล; แผ่นกระเบื้อง; ลานกลางหมู่บ้าน เรียกว่า กบาลบ้าน; เครื่องเซ่นผีที่ใส่ภาชนะกับตุ๊กตาแล้วนําไปทิ้งที่ทางสามแพร่ง และต่อยหัวตุ๊กตาเสีย เรียกว่า เสียกบาล, เรียกภาชนะที่ใส่เครื่องเช่นนั้น เช่น เอาเหล้าข้าวใส่กบาลออกเซ่นวัก. (ขุนช้างขุนแผน), บางทีใช้ว่า กระบาล เช่น ปรุตรุเคลือบกระบาลหิน. (จารึกวัดโพธิ์). (ป., ส. กปาล ว่า กะโหลกหัว).
กบินทร์ กบินทร์ [กะ-] (แบบ) น. พญาลิง, กเบนทร์ ก็ว่า. (ป., ส. กปิ = ลิง + ส. อินฺทฺร = ผู้เป็นใหญ่).
กบิล,กบิล ๑ กบิล ๑ [กะบิน] (แบบ) น. ลิง. (ส. กปิล).
กบิล,กบิล ๒ กบิล ๒ [กะบิน] น. ระเบียบ, แบบ, ทาง, เช่น กบิลความ; วิธีการ เช่น กบิลเมือง; กระบวน, หมู่, เช่น กบิลไม้; บรรดา เช่น กบิลว่าน, คํานี้บางทีเขียนเป็น กะบิล กระบิล ระบิล. (เทียบ ฮ. กปิล ว่า ชนิด,จําพวก, ตระกูล).
กบี่ กบี่ [กะ-] น. ลิง, นิยมเขียนเป็น กระบี่. (ป., ส. กปิ).
กบี่ธุช กบี่ธุช ดู กระบี่ธุช.
กบูร กบูร [กะบูน] (แบบ) ว. แต่ง, ประดับ, งาม, เช่น ก็ใช้สาวสนมอนนกบูร. (ม. คําหลวง นครกัณฑ์), คํานี้บางทีเขียนเป็น กระบูร กระบวร ขบูร ขบวร.
กเบนทร์ กเบนทร์ [กะ-] (กลอน) ดู กบินทร์.
กโบร กโบร [กะโบน] (แบบ) น. ศอก, ข้อศอก. (พจน.). (ป. กปฺปร; ส. กูรฺปร).
กโบล กโบล [กะโบน] น. แก้ม. (ป. กโปล).
กปณ กปณ [กะปะนะ] ว. อนาถา, ไร้ญาติ, น่าสงสาร, (กลอน) เขียนเป็น กปนา ก็มี เช่น แม้มนุษยกปนาจํานง ขอสิ่งประสงค์ประสาททาน. (ม. คําหลวง มัทรี). (ป.).
กปณก กปณก [กะปะนก] น. ผู้อนาถา, ผู้ไร้ญาติ, ผู้น่าสงสาร, เขียนเป็น กปนก ก็มี เช่น เถ้ากปนกแพนกพล้าว มีแม่ย้าวสาวศรหนึ่งน้นน. (ม. คำหลวง ชูชก). (ป. กปณ).
กปณา กปณา [กะปะนา] ว. อนาถา, ไร้ญาติ, น่าสงสาร, เขียนเป็น กปนา ก็มี เช่น แม้มนุษยกปนาจำนง ขอสิ่งประสงค์ประสาททาน. (ม. คำหลวง มัทรี). (ป. กปณ).
กปิ กปิ [กะ-] (แบบ) น. ลิง เช่น ทรงพาหะองคต กปิยศโยธิน. (พากย์). (ป., ส.).
กปิตัน กปิตัน (โบ) น. กัปตัน, นายเรือ; หัวหน้าหมู่ชน.
กม,กม ๑ กม ๑ น. เรียกคำหรือพยางค์ที่มีตัว ม สะกด ว่า แม่กม หรือ มาตรากม.
กม,กม ๒ กม ๒ (โบ) ก. กุม เช่น เกลือกเจ้าแม่มาคิดคม ครุบคั้นกินกม บไว้บวางตัวตู. (เสือโค).
ก้ม ก้ม ก. ทําให้ตํ่าลงโดยอาการน้อม (ใช้เฉพาะ หัว หน้า และหลัง) เช่น ก้มหัว ก้มหน้า ก้มหลัง.
กมณฑลาภิเษก กมณฑลาภิเษก [กะมนทะ-] (แบบ) น. หม้อนํ้าสรง เช่น อนนเต็มในกมณฑลาภิเษก. (ม. คําหลวง มหาราช). (ป., ส. กมณฺฑลุ = หม้อนํ้า + ส. อภิเษก = รด).
กมณฑโลทก กมณฑโลทก [กะมนทะ-] (แบบ) น. นํ้าในหม้อ เช่น ชําระพระองค์ด้วยกมณฑโลทก. (ม. คําหลวง มหาราช). (ป., ส. กมณฺฑลุ = หม้อน้ำ + อุทก = นํ้า).
กมล กมล [กะมน] (แบบ) น. บัว เช่น บาทกมล. (สมุทรโฆษ); ใจ เช่น ดวงกมล.<2t>ว. เหมือนบัว เช่น เต้าสุวรรณกมลคนที. (ม. คําหลวง หิมพานต์), บางทีใช้ว่า กระมล. (ป., ส.).
กมล,กมล-,กมลา กมล-, กมลา [กะมะละ-, กะมะ-] น. ชื่อฉันท์วรรณพฤติ กําหนดด้วย ๔ คณะสลับกัน คือ ส คณะ ย คณะ ส คณะ ย คณะ (ตามแบบว่า กมลาติ เณยฺยา สยเสหิ โย เจ) ตัวอย่างว่า จะวิสัชนาสาร พิสดารก็หลายเลบง เรียกว่า กมลฉันท์ หรือ กมลาฉันท์. (ป. ว่า นางงาม; ส. ว่า พระลักษมี).
กมลาศ กมลาศ [กะมะลาด] (กลอน) น. บัว; ใจ. (ป., ส. กมล + ศ เข้าลิลิต).
กมลาสน์ กมลาสน์ [กะมะลาด] (แบบ) น. ผู้มีบัวเป็นที่นั่ง คือ พระพรหม. (ป., ส. กมล = บัว + อาสน = ที่นั่ง).
กมเลศ กมเลศ [กะมะเลด] (กลอน) น. บัว; ใจ; พระนารายณ์ เช่น ดุจองค์สมเด็จกมเลศอันลีลาศ ลงจากชั้นสุทธาวาสบวรวิมาน. (ม. ร่ายยาว ฉกษัตริย์). (ป., ส. กมล + ศ เข้าลิลิต; ในสันสกฤตหมายความว่า ผู้เป็นใหญ่แห่งพระลักษมี คือ พระนารายณ์ มาจาก กมลา = พระลักษมี + อีศ = เป็นใหญ่).
ก้มหน้า ก้มหน้า (สํา) ก. จําทน เช่น ต้องก้มหน้าทําตามประสายาก.
ก้มหน้าก้มตา ก้มหน้าก้มตา (สํา) ก. ทําโดยไม่มองดูสิ่งอื่น, ทําโดยตั้งใจ, เช่น ก้มหน้าก้มตาทําไปจนกว่าจะสําเร็จ.
ก้มหลัง ก้มหลัง ก. น้อมหลังลงเพื่อแสดงกิริยาเคารพ.
ก้มหัว ก้มหัว ก. น้อมหัวลงเพื่อแสดงกิริยาเคารพ, โดยปริยายหมายความว่า ยอมอ่อนน้อม (มักใช้ในความปฏิเสธ) เช่น ไม่ยอมก้มหัวให้ใคร.
กมัณฑลุ กมัณฑลุ [กะมันทะ-] (แบบ) น. กะโหลกนํ้าเต้า, เต้านํ้า, หม้อนํ้า, ภาชนะใส่นํ้าเล็ก ๆ เป็นบริขารเครื่องใช้ประจําของนักบวชนอกพระพุทธศาสนา ทําด้วยไม้หรือดิน, เช่น กมัณฑลุภาชน์ = ภาชนะใส่น้ำ คือ เต้านํ้า. (ม. ร่ายยาว วนปเวสน์), ใช้ว่า กมัณฑลู ก็มี เช่น บัดนี้คาวียุพราชาชัยลีลา ก็เอากมัณฑลูลง. (เสือโค). (ป., ส.).
กมุท กมุท [กะมุด] (แบบ) น. บัว เช่น ส่งดวงกมุทให้กัณหา. (ม. คําหลวง มัทรี). (ป., ส. กุมุท ว่า บัวสายดอกขาว).
กร,กร ๑ กร ๑ [กอน] น. ผู้ทํา, ใช้ประกอบเป็นส่วนหลังของสมาส เช่น กรรมกร เกษตรกร. (ป.).
กร,กร ๒ กร ๒ [กอน] น. มือ (มักใช้ในบทประพันธ์); แขน เช่น เจ้างามกรอ่อนดังงวงเอราวัณ. (กลบท). (ป., ส.).
กร,กร ๓ กร ๓ [กอน] น. แสง, ใช้ประกอบเป็นส่วนหลังของสมาส เช่น รัชนีกร. (ป.).
กรก,กรก- กรก, กรก- [กะหฺรก, กะระกะ-] (แบบ) น. ลูกเห็บ เช่น กรกวรรษ = ฝนลูกเห็บ. (ป., ส.).
กรกช กรกช [กอระกด] (กลอน) น. ดอกบัวคือมือ คือ กระพุ่มมือ เช่น ธก็ยอกรกชประนม. (ลอ).<2t>ก. ไหว้ เช่น เอกภูธรกรกช ทศนัขสมุชลิต. (ยวนพ่าย). (ดู กช).
กรกฎ,กรกฏ กรกฎ, กรกฏ [กอระกด] (แบบ) น. ปู เช่น กรกฎกุ้งกั้งมังกร. (ม. ร่ายยาว มหาพน); ชื่อกลุ่มดาวรูปปู เรียกว่า ราศีกรกฎ เป็นราศีที่ ๓ ในจักรราศี. (ส. กรฺกฏ; ป. กกฺกฏ).
กรกฎาคม กรกฎาคม [กะระกะ-, กะรักกะ-] น. ชื่อเดือนที่ ๗ ตามสุริยคติ ซึ่งเริ่มด้วยเดือนมกราคม มี ๓๑ วัน. (ส. กรฺกฏ = ปู + อาคม = มา = เดือนที่อาทิตย์มาสู่ราศีกรกฎ); (เลิก) ชื่อเดือนที่ ๔ ตามสุริยคติ ซึ่งเริ่มด้วยเดือนเมษายน.
กรกัติ กรกัติ [กฺระกัด] (โบ) ก. กระกัด, ใคร่, อยาก, ยินดี, เช่น กรกัติกามา. (สรรพสิทธิ์).
กรง กรง [กฺรง] น. สิ่งที่ทําเป็นซี่ ๆ สําหรับขังนกเป็นต้น ตั้งอยู่กับที่หรือยกไปได้; ในบทกลอนใช้หมายความว่า เปล ก็มี เช่น ถนอมในพระกรงทอง. (เห่กล่อม). (เทียบมลายู กุรง; ข. ทฺรุง).
กรงทอง กรงทอง (ราชา) น. เรียกเปลที่ทําเป็นลูกกรง ว่า พระกรงทอง.
กรงเล็บ กรงเล็บ น. กลุ่มเล็บของแมวหรือนกเป็นต้นเมื่อขยุ้มเหยื่อ มีเค้าคล้ายกรง.
กรชกาย กรชกาย [กะระชะ-] (แบบ) น. ร่างกาย. (ดู กรัชกาย).
กรณฑ์,กรณฑ์ ๑ กรณฑ์ ๑ [กฺรน] น. ภาชนะมีฝาปิด, ภาชนะใส่นํ้า เช่น หม้อกรณฑ์, กรัณฑ์ หรือ กรัณฑก ก็เรียก; ผอบ เช่น บรรจุพระบรมธาตุในสุวรรณกรณฑ์. (เทศนาพระราชประวัติ). (ป., ส. กรณฺฑ, กรณฺฑก ว่า ขวด).
กรณฑ์,กรณฑ์ ๒ กรณฑ์ ๒ [กฺรน] (คณิต) น. เรียกเครื่องหมาย ว่า เครื่องหมายกรณฑ์; วิธีหาค่าจากจํานวนจริงที่เขียนไว้ภายในเครื่องหมายกรณฑ์ เช่น จะได้ ๗ จะได้ -๓.
กรณิการ์ กรณิการ์ [กะระ-] น. กรรณิการ์.
กรณี กรณี [กะระ-, กอระ-] น. คดี, เรื่อง, เหตุ, เช่น ในกรณีนี้ = ในเรื่องนี้. (ป., ส. กรณี ว่า ที่เป็นเหตุกระทํา).
กรณีย,กรณีย-,กรณีย์,กรณียะ กรณีย-, กรณีย์, กรณียะ [กะระ-, กอระ-] น. กิจ.<2t>ว. อันควรทํา, อันพึงทํา. (ป.).
กรณียกิจ กรณียกิจ น. กิจที่พึงทำ, หน้าที่อันพึงทํา.
กรด,กรด ๑ กรด ๑ [กฺรด] น. สารอย่างหนึ่ง มีรสเปรี้ยว โดยปรกติกัดหรือทําให้สิ่งอื่นแปรไป; (เคมี) มีความหมายหลายอย่าง สุดแล้วแต่ทฤษฎีที่ใช้เป็นหลักกําหนด คือ เป็นสารเคมีที่ประกอบด้วยธาตุไฮโดรเจน และเมื่อสารนี้ละลายนํ้าเป็นสารละลายแล้ว ไฮโดรเจนที่มีอยู่ทั้งหมดหรือบางส่วนต้องแปรสภาพออกมาเป็นไฮโดรเนียมไอออน (H3O+) สารละลายที่ได้มีรสเปรี้ยวเปลี่ยนสีลิตมัสสีนํ้าเงินเป็นสีแดงได้; สารเคมีที่มีสมบัติจ่ายโปรตอนให้แก่สารอื่นได้; สารเคมีที่มีสมบัติรับอิเล็กตรอนคู่หนึ่งมาจากสารอื่นได้. (อ. acid).
กรด,กรด ๒ กรด ๒ [กฺรด] ว. คมมีลักษณะที่กัดกร่อนหรือตัดสิ่งของได้ เช่น นํ้ากรด = นํ้าที่คม ลมกรด = ลมที่คม.
กรด,กรด ๓ กรด ๓ [กฺรด] น. ชื่อไม้เถาชนิด Combretum tetralophum C.B. Clarke ในวงศ์ Combretaceae มักขึ้นในที่นํ้าท่วม เช่น ตามฝั่งนํ้าลําคลอง ใบโดยมากออกรอบข้อ ๒ หรือ ๓ ใบ ใบอ่อนสีม่วงดํา เมื่อแก่เปลี่ยนเป็นสีเขียว ผลมีสันแข็งเป็น ๔ ครีบ, เถาวัลย์กรด ก็เรียก; อีกชนิดหนึ่ง คือ C. trifoliatum Vent. มีลักษณะคล้ายกันมาก แต่ผลมี ๕ ครีบ เช่น กรดกระถินอินจันพรรณไม้. (นิ. อิเหนา), สีเอยเจ้าสีสด เจ้าปลูกต้นกรดไว้ริมท่า. (กล่อมเด็ก).
กรด,กรด ๔ กรด ๔ [กฺรด] น. ภาชนะใส่นํ้าเทพมนตร์ของพราหมณ์ ลักษณะเหมือนคนโทมีฝาปิด มีพวยอย่างกานํ้า. (เลือนมาจาก ป. กลส; ส. กลศ).
กรด,กรด ๕ กรด ๕ [กฺรด] (ปาก) ว. ยิ่ง, มาก, เช่น ไวเป็นกรด ฉลาดเป็นกรด.
กรน กรน [กฺรน] ก. หายใจมีเสียงดังในลําคอขณะหลับ เหตุลิ้นตกจุกคอหอยหรือลิ้นตกจุกคอหอยและลิ้นไก่กับเพดานอ่อนสั่น.
กรนทา กรนทา [กฺรน-] (โบ) น. ไม้คนทา (ลิปิ) เช่น กรนทาดาษดวงพรายก็มี. (ม. คําหลวง มหาพน).
กรนนเช้า กรนนเช้า [กฺรัน-] (โบ) น. กระเช้า เช่น คร้นนเช้าก็หิ้วกรนนเช้า ชายป่าเต้าไปหาชาย. (ม. คําหลวง มัทรี).
กรบ กรบ [กฺรบ] น. เครื่องแทงปลา ทําด้วยไม้ ๓ อัน มัดติดกัน มีลักษณะคล้าย ๓ เส้า สวมเหล็กแหลมที่ปลาย ด้ามรูปงอคล้ายไม้เท้า.
กรบูร กรบูร [กะระบูน] น. การบูร.
กรพินธุ์ กรพินธุ์ [กอระ-] น. ทับทิม เช่น จงแต่งเขนแต่งขันธ์ ผ้าเกราะพรรณรายแพร้ว ดยรดาษแก้วกรพินธุ์. (ม. คําหลวง มหาราช). (บางทีจะเพี้ยนมาจาก กุรุพินท์ ซึ่งตรงกับคำสันสกฤตว่า กุรุวินฺท = ทับทิม).
กรภุม กรภุม [กอระ-] (โบ) น. กระพุ่ม เช่น สนธยากรภุมบุษปบังคมบําบวงสรณ. (อนิรุทธ์).
กรม,กรม ๑ กรม ๑ [กฺรม] ก. ระทม, เจ็บอยู่ภายในเรื่อยไป, เช่น กรมใจ; กลัด เช่น กรมหนอง. [ข. กฺรุ :ํ (กฺรม) ว่า ลำบาก เช่น กฺรุ ํจิต = ลำบากใจ], ตรม ก็ว่า.
กรม,กรม ๒ กรม ๒ [กฺรม] (แบบ) น. ลําดับ เช่น จะเล่นโดยกรม. (สมุทรโฆษ). [ส.; ข. กฺรุ ํ (กฺรม) ว่า หมวด, หมู่, กอง; ครอบครัว เช่น มวยกฺรุ ํ = ครอบครัวหนึ่ง].
กรม,กรม ๓ กรม ๓ [กฺรม] น. (ก) หมู่เหล่าอันเป็นที่รวมกําลังไพร่พลของแผ่นดินตามลักษณะปกครองสมัยโบราณ เพื่อประโยชน์ในเวลาเกิดศึกสงคราม จะได้เรียกระดมคนได้ทันท่วงที บรรดาชายฉกรรจ์ต้องเข้าอยู่ในกรมหรือในหมู่เหล่าใดเหล่าหนึ่ง เรียกว่า สังกัดกรม มีหัวหน้าควบคุมเป็น เจ้ากรม ปลัดกรม ตามลําดับ ซึ่งเมื่อพระเจ้าแผ่นดินทรงตั้งให้เจ้านายครอบครองเป็นองค์ ๆ เรียกว่า ตั้งกรม แล้ว เจ้านายพระองค์นั้นก็ ทรงกรม เป็น เจ้าต่างกรม เพราะมีกรมขึ้นต่างออกไปเป็นกรมหนึ่ง มีพระอิสริยศักดิ์ตั้งเจ้ากรม ปลัดกรม เป็น หมื่น ขุน หลวง พระ พระยา ได้ และเรียกชื่อกรมนั้น ๆ ตามศักดิ์เจ้ากรมว่า กรมหมื่น กรมขุน กรมหลวง กรมพระ กรมสมเด็จพระ และ กรมพระยา หรือ กรมสมเด็จ เมื่อจะทรงกรมสูงขึ้นกว่าเดิม ก็โปรดให้ เลื่อนกรม ขึ้น โดยเจ้ากรมมีศักดิ์เลื่อนขึ้น เช่นจากหมื่นเป็นขุน, มาในปัจจุบันชื่อกรมเหล่านี้มีความหมายกลายเป็นพระอิสริยยศและพระนามเจ้านายเท่านั้น.(ข) แผนกใหญ่ในราชการ ตามลักษณะปกครองในสมัยโบราณ ซึ่งในปัจจุบัน เรียกว่า กระทรวง เช่น กรมพระกลาโหม คือ กรมฝ่ายทหาร เป็นกระทรวงกลาโหม, กรมมหาดไทย คือ กรมฝ่ายพลเรือน เป็น กระทรวงมหาดไทย, กรมเมือง หรือ กรมนครบาล รวมอยู่ในกระทรวงมหาดไทย, กรมวัง แยกเป็นกระทรวงวัง และกระทรวงยุติธรรม (ปัจจุบันกระทรวงวังไม่มีแล้ว), กรมพระคลัง แยกเป็นกระทรวงการคลัง และกระทรวงการต่างประเทศ, กรมนา เป็นกระทรวงเกษตราธิการ (ปัจจุบัน คือ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์).(ค) (กฎ) ส่วนราชการในราชการบริหารส่วนกลาง รองจากกระทรวงและทบวง.
กรม,กรม ๔ กรม ๔ [กฺรม] (โบ) ย่อมาจากคําว่า กรมธรรม์ เช่น จะคิดเอาดอกเบี้ยมิได้เลย เพราะเปนเงินนอกกรม. (สามดวง).
กรม,กรม ๕ กรม ๕ [กฺรม] (โบ; กลอน) ย่อมาจากคําว่า กรรม เช่น อวยสรรพเพียญชนพิธี-<2t>กรมเสร็จกํานนถวาย. (ดุษฎีสังเวย).
กรม,กรม ๖ กรม ๖ [กฺรม] ดู เหมือดโลด (๑).
กรมกรอม กรมกรอม ก. ระทมใจจนเหี่ยวแห้ง, ตรมตรอม ก็ว่า.
กรมการ กรมการ [กฺรมมะ-] (กฎ; โบ) น. ตำแหน่งพนักงานปกครองที่มีมาแต่สมัยโบราณ และได้กำหนดไว้ในข้อบังคับลักษณะการปกครองหัวเมือง ร.ศ. ๑๑๖ เรียกว่า กรมการเมือง ซึ่งแบ่งออกเป็น ๒ พวก คือ กรมการในทำเนียบ และกรมการนอกทำเนียบ. (ส. กรฺม + การ).
กรมการจังหวัด กรมการจังหวัด น. คณะกรมการจังหวัด; กรมการจังหวัดแต่ละคนที่เป็นองค์ประกอบของคณะกรมการจังหวัด. (ดู คณะกรมการจังหวัด).
กรมการนอกทำเนียบ กรมการนอกทำเนียบ (กฎ; โบ) น. กรมการเมืองพวกหนึ่ง เป็นตำแหน่งกิตติมศักดิ์ ทำหน้าที่ให้คำปรึกษาแก่ผู้ว่าราชการเมืองในการบริหารราชการในเมืองนั้น ๆ แต่งตั้งจากบุคคลผู้ทรงคุณวุฒิหรือคหบดีในเมืองนั้น ๆ โดยไม่จำกัดจำนวน และถือว่าเป็นกรมการชั้นผู้ใหญ่, กรมการพิเศษ ก็ว่า.
กรมการในทำเนียบ กรมการในทำเนียบ (กฎ; โบ) น. กรมการเมืองพวกหนึ่ง เป็นตำแหน่งข้าราชการที่มีเงินเดือน ซึ่งจัดเป็น ๒ พวก กรมการชั้นผู้ใหญ่ ประกอบด้วย ปลัด ยกกระบัตร และผู้ช่วยราชการ กับกรมการชั้นผู้น้อย ประกอบด้วย จ่าเมือง สัสดี แพ่ง ศุภมาตรา และสารเลข.
กรมการพิเศษ กรมการพิเศษ (กฎ; โบ) น. กรมการเมืองพวกหนึ่ง เป็นตำแหน่งกิตติมศักดิ์ ทำหน้าที่ให้คำปรึกษาแก่ผู้ว่าราชการเมืองในการบริหารราชการในเมืองนั้น ๆ แต่งตั้งจากบุคคลผู้ทรงคุณวุฒิหรือคหบดีในเมืองนั้น ๆ โดยไม่จำกัดจำนวน และถือว่าเป็นกรมการชั้นผู้ใหญ่, กรมการนอกทำเนียบ ก็ว่า.
กรมการอำเภอ กรมการอำเภอ (เลิก) น. คณะกรมการอำเภอ; กรมการอำเภอแต่ละคนที่เป็นองค์ประกอบของคณะกรมการอำเภอ.
กรมเกรียม กรมเกรียม ก. ระทมใจจนหม่นไหม้, ใช้ว่า เกรียมกรม ตรมเตรียม หรือ เตรียมตรม ก็มี เช่น จักขานความที่เกรียมกรม. (กฤษณา).
กรมท่า กรมท่า [กฺรมมะ-] (กฎ; โบ) น. ส่วนราชการในสมัยก่อนซึ่งอยู่ในสังกัดกรมพระคลัง มีหน้าที่เกี่ยวกับการต่างประเทศและปกครองเมืองท่า.<2t>ว. สีขาบ, สีนํ้าเงินแก่, เรียกว่า สีกรมท่า.
กรมท่าขวา กรมท่าขวา [กฺรมมะ-] (กฎ; โบ) น. ส่วนราชการที่มีหน้าที่เกี่ยวกับชนชาวแขก.
กรมท่าซ้าย กรมท่าซ้าย [กฺรมมะ-] (กฎ; โบ) น. ส่วนราชการที่มีหน้าที่เกี่ยวกับชนชาวจีน.
กรมธรรม์ กรมธรรม์ [กฺรมมะทัน] (กฎ; โบ) น. เอกสารซึ่งทาส ลูกหนี้ยินยอมให้กรมการอำเภอทำให้ไว้แก่เจ้าหนี้นายเงิน, คำนี้เรียกเต็มว่า สารกรมธรรม์ หรือย่อว่า สารกรม, บางทีเรียกเพียงคำเดียวว่า กรม ก็มี เช่น กู้หนี้ถือสีนกันเข้าชื่อในกรมหลายคน. (สามดวง); กรมธรรม์ประกันภัย. (ส. กรฺม + ธรฺม).
กรมธรรม์ประกันภัย กรมธรรม์ประกันภัย (กฎ) น. ตราสารที่มีลายมือชื่อของผู้รับประกันภัยและมีรายการแสดงวัตถุที่เอาประกันภัย จำนวนเงินเอาประกันภัย ชื่อผู้เอาประกันภัย ชื่อผู้รับประกันภัย วันที่สัญญาเริ่มต้นและสิ้นสุด และอื่น ๆ ตามที่กฎหมายบังคับ ตลอดจนเงื่อนไขเกี่ยวกับประโยชน์ สิทธิ และหน้าที่ของผู้เอาประกันภัย และผู้รับประกันภัย, มักเรียกสั้น ๆ ว่า กรมธรรม์. (อ. policy of insurance).
กรมนา กรมนา [กฺรมมะ-] ดู กรม ๓.
กรมวัง กรมวัง [กฺรมมะ-] น. แผนกราชการที่บริหารกิจการในพระราชสํานัก; ข้าราชการแผนกนี้ เช่น กรมวังรับสั่งใส่เกศี. (อิเหนา).
กรมศักดิ์ กรมศักดิ์ [กฺรมมะสัก] (กฎ; โบ) น. ชื่อกฎหมายลักษณะหนึ่ง ซึ่งกําหนดระวางโทษปรับตามศักดินา อายุ และความร้ายแรงหนักเบาของความผิดที่กระทํา. (สามดวง).
กรร,กรร ๑ กรร ๑ [กัน] (โบ) ก. จับ เช่น กรกรรนฤบดี. (สมุทรโฆษ). (ข. กาน่ ว่า ถือ).
กรร,กรร ๒ กรร ๒ [กัน] (เลิก) ก. กัน เช่น เรือกรร.
กรร,กรร- ๓ กรร- ๓ [กัน-] ใช้เป็นพยางค์หน้า (ซึ่งโบราณเขียนเป็น กนน หรือ กัน ก็มี) แทน กระ เช่น กรรชิง - กันชิง - กระชิง, กรรเช้า - กรนนเช้า - กระเช้า, กรรเชอ - กนนเชอ - กระเชอ, กรรโชก - กันโชก - กระโชก, กรรพุ่ม - กระพุ่ม, กรรลึง - กระลึง.
กรรกง กรรกง [กัน-] (เลิก) น. ที่ล้อมวง เช่น จําเนียรกรรกงรอบนั้น. (ม. คําหลวง นครกัณฑ์), ใช้เป็น กงกรร ก็มี เช่น แลสับสังกัดกงกรร. (สมุทรโฆษ).
กรรกฎ กรรกฎ [กันกด] (แบบ) น. ปู เช่น จริวจราวจรัลชลจรมกรกรรกฎกูรม์. (สมุทรโฆษ). (ส. กรฺกฏ; ป. กกฺกฏ).
กรรกศ กรรกศ [กันกด] (แบบ) ว. หยาบช้า, เขียนเป็น กรรกษก็มี เช่น อันว่าพระญาติท่ววไท้ บมิหวังไหว้พระตถาคต ใจแลไปกรรกษ บารนีฯ. (ม. คําหลวง ทศพร). (ส. กรฺกศ).
กรรเกด กรรเกด [กัน-] (กลอน) น. การะเกด เช่น จงกลกรรเกดแก้ว กรองมาลย์. (ทวาทศมาส).
กรรไกร กรรไกร [กันไกฺร] น. ตะไกร. (เลือนมาจาก กรรไตร). (ดู ตะไกร ๑).
กรรเจียก กรรเจียก [กัน-] น. เครื่องประดับหูมีรูปเป็นกระหนก เช่น กรรเจียกซ้อนจอนแก้วแพรวพราว. (อิเหนา). [ข. ตฺรเจียก ว่าหู].
กรรเจียกจอน กรรเจียกจอน น. เครื่องประดับหู, เขียนเป็น กรรเจียกจร ก็มี เช่น กรรเจียกจอนจําหลักลายซ้ายขวา. (สังข์ทอง).
กรรชิง กรรชิง [กัน-] น. เครื่องเข้ากระบวนแห่ในการพระราชพิธีบางอย่างเช่นรับช้างเผือกหรือแรกนาขวัญเป็นต้น รูปคล้ายกลด มีคันถือคล้ายร่ม, โบราณใช้เป็นร่มเครื่องยศ คู่กันกับคานหามตามบรรดาศักดิ์ มีชั้นตามที่หุ้มผ้าแดงหรือหุ้มผ้าขาวโรยทอง เรียกว่า พื้นกํามะลอ, ถ้ามีริ้วขาวและนํ้าเงินสลับกันที่ระบาย เรียกว่า กรรชิงเกล็ด, กระชิง กระฉิ่ง กะชิง กันฉิ่ง หรือ กันชิง ก็เรียก.
กรรชิด กรรชิด [กัน-] (โบ; กลอน) ก. กระชิด เช่น สองกรกลเกียดเกี้ยว กรรชิด. (ลอ).
กรรเชอ กรรเชอ [กัน-] (โบ) น. กระเชอ.
กรรเช้า กรรเช้า [กัน-] (โบ) น. กระเช้า.
กรรเชียง กรรเชียง [กัน-] น. เครื่องพุ้ยนํ้าให้เรือเดิน รูปคล้ายแจว มีหลักสําหรับพาด ใช้เหนี่ยว; อาการที่พุ้ยเช่นนั้น เรียกว่า ตีกรรเชียง, ใช้ว่า กระเชียง ก็มี.
กรรเชียงปู กรรเชียงปู [กัน-] น. เรียกขาคู่สุดท้ายของปูในวงศ์ Portunidae เช่น ปูม้า ปูทะเล ซึ่งปล้องปลายมีลักษณะแบนคล้ายใบพาย, กระเชียงปู ก็เรียก.
กรรโชก กรรโชก [กัน-] ก. ขู่เอาด้วยกิริยาหรือวาจาให้กลัว, เขียนเป็น กันโชก หรือ กําโชก ก็มี. (แผลงมาจาก กระโชก).<2t>(กฎ) น. ชื่อความผิดอาญาฐานข่มขืนใจผู้อื่นให้ยอมให้หรือยอมจะให้ตนหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน โดยใช้กําลังประทุษร้ายหรือโดยขู่เข็ญว่าจะทําอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกขู่เข็ญ หรือของบุคคลที่สาม จนผู้ถูกข่มขืนใจยอมเช่นว่านั้น เรียกว่า ความผิดฐานกรรโชก.
กรรซ้นน กรรซ้นน [กันซั้น] (โบ) ก. ทัน, กระชั้น, เช่น พราหมณ์จะมากรรซ้นน. (ม. คําหลวง กุมาร).
กรรแซง กรรแซง [กัน-] (เลิก) น. กองทําหน้าที่แซงในกระบวนพยุหยาตราเพื่อป้องกันจอมทัพ, คู่กันกับ กรรแทรก คือ กองทําหน้าที่แทรกเพื่อป้องกันจอมทัพ. (ดู กันแซง).
กรรฐ์,กรรฐา กรรฐ์, กรรฐา [กัน, กันถา] น. คอ. (เทียบ ข. กรฺฐ ว่า คอ). (เลือนมาจาก กัณฐ์).
กรรณ,กรรณ- กรรณ, กรรณ- [กัน, กันนะ-] น. หู, ใบหู, กลอน ใช้เป็น กรรณา ก็มี เช่น กรรณาคือกลีบกาญจ- นปัทม์. (สมุทรโฆษ), ราชาศัพท์ใช้ว่า พระกรรณ. (ส. กรฺณ).
กรรณยุคล กรรณยุคล [กันนะ-] น. หูทั้ง ๒ ข้าง เช่น ในพระกรรณยุคลท่านนั้น. (ม. คําหลวง มหาราช). (ป., ส. ยุคล ว่า คู่).
กรรณา กรรณา [กัน-] (กลอน) ดู กรรณ, กรรณ-.
กรรณิกา กรรณิกา [กัน-] (แบบ) น. ดอกไม้ เช่น ดุจบัวอันบานชู กชกรรณิกามาศ. (สมุทรโฆษ). (ส. กรฺณิกา ว่า ฝักบัว, ช่อฟ้า; ป. กณฺณิกา).
กรรณิการ์ กรรณิการ์ น. ชื่อไม้ต้นขนาดเล็กชนิด Nyctanthes arbortristis L. ในวงศ์ Oleaceae ใบคาย ดอกหอม กลีบขาว หลอดดอกสีแสด ใช้ย้อมผ้า, เขียนเป็น กณิการ์ หรือ กรณิการ์ ก็มี.
กรรดิ กรรดิ [กัด] ก. ยกย่อง, สรรเสริญ, เช่น ยาคนชี้เทพยผู้ ไกรกรรดิ ก็ดี. (ยวนพ่าย). (เลือนมาจาก ป. กตฺถติ ว่า ยกย่อง, สรรเสริญ).
กรรดิก,กรรดึก กรรดิก, กรรดึก [กัน-] (แบบ) น. เดือน ๑๒. (ดู กัตติกมาส).
กรรตุ,กรรตุ- กรรตุ, กรรตุ- [กัด, กัดตุ-] (ไว) น. ผู้ทํา. (ป. กตฺตุ; ส. กรฺตฺฤ).
กรรตุการก กรรตุการก [กัดตุ-] (ไว) น. ผู้ทําหรือผู้ใช้ให้ทำ เป็นส่วนสําคัญส่วนหนึ่งใน ๒ ส่วนของประโยคที่ไม่ต้องมีกรรมมารับ เช่น เด็กวิ่ง วิ่ง เป็น กรรตุการก หรือเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งใน ๓ ส่วนของประโยคที่กริยาต้องมีกรรมรับ เช่น ตํารวจยิงผู้ร้าย ตํารวจ เป็น กรรตุการก. (ป., ส. การก ว่า ผู้ทำ).
กรรตุวาจก กรรตุวาจก [กัดตุ-] (ไว) ก. กริยาที่บอกว่าประธานเป็นกรรตุการกคือผู้ทำหรือผู้ใช้ให้ทำ, กริยาของประโยคที่แสดงว่าประธานทําหน้าที่เป็นกรรตุการกคือเป็นผู้ทําหรือผู้ใช้ให้ทํา เช่น ครูเขียนหนังสือ (ประธานเป็นผู้ทํา) ครูให้นักเรียนเขียนหนังสือ (ประธานเป็นผู้ใช้ให้ทํา). (ป., ส. วาจก ว่า ผู้กล่าว).
กรรตุสัญญา กรรตุสัญญา [กัดตุ-] น. นามที่เป็นคําร้องเรียกชื่อลอย ๆ เช่น แล้วกล่าววาจาอันสุนทร ดูก่อนกุมภกรรณยักษี. (รามเกียรติ์ ร. ๑). (ป. สญฺา = นาม, ชื่อ).
กรรไตร กรรไตร [กันไตฺร] น. ตะไกร. (ข. กนฺไตฺร; ส. กรฺตริ).
กรรทบ กรรทบ [กัน-] (กลอน) ก. กระทบ เช่น ฟองฟัดซัดดล กรรทบนาวี. (สรรพสิทธิ์).
กรรแทก กรรแทก [กัน-] ก. กระแทก, เขียนเป็น กันแทก ก็มี เช่น หัวล้านชาวไร่ไล่ปาม เข้าขวิดติดตาม กันแทกก็หัวไถดินฯ. (สมุทรโฆษ).
กรรแทรก กรรแทรก [กันแซก] (เลิก) น. กองทําหน้าที่แทรกในกระบวนพยุหยาตราเพื่อป้องกันจอมทัพ, คู่กันกับ กรรแซง คือ กองทำหน้าที่แซงเพื่อป้องกันจอมทัพ. (ดู กันแทรก).
กรรบาสิก,กรรปาสิก กรรบาสิก, กรรปาสิก [กับบา-, กับปา-] (แบบ) ว. อันทอด้วยฝ้าย. (ส. การฺปาสิก; ป. กปฺปาสิก).
กรรบาสิกพัสตร์ กรรบาสิกพัสตร์ [กับบาสิกะ-] น. ผ้าอันทอด้วยฝ้าย คือ ผ้าฝ้าย. (ใน ม. ร่ายยาว นครกัณฑ์ ว่า มาแต่แคว้นกาสี). (ส. วสฺตฺร ว่า ผ้า).
กรรบิด กรรบิด [กัน-] น. มีด, ราชาศัพท์ว่า พระกรรบิด. (ข. กำบิต ว่า มีด).
กรรบูร กรรบูร [กันบูน] (แบบ) น. การบูร เช่น กฤษณากระวานการ- บูรกูรกระเหนียดกรร- บูรแกมกำคูนคันธ์ รสจวงกำจรมา. (สมุทรโฆษ).
กรรปุระ กรรปุระ [กัน-] (กลอน) น. ศอก. (ดู กโบร).
กรรพุม,กรรพุ่ม กรรพุม, กรรพุ่ม [กัน-] (โบ; แผลงมาจาก กระพุ่ม) น. มือที่ประนม เช่น ถวายกรกรรพุม. (ม. คําหลวง ทศพร); พุ่ม เช่น กรรพุมมาลย์ = พุ่มดอกไม้.
กรรภิรมย์ กรรภิรมย์ [กัน-] น. ฉัตร ๕ ชั้นสํารับหนึ่ง ทําด้วยผ้าขาวลงยันต์เส้นทอง ใช้ถุงปัศตูแดงสวม มี ๓ องค์ด้วยกัน คือ พระเสมาธิปัต พระฉัตรชัย พระเกาวพ่ายหรือพระเกาวพ่าห์ เป็นเครื่องสูง ใช้กางเชิญนําพระราชยานเวลาเสด็จพระราชดําเนินโดยกระบวนพยุหยาตรา และใช้เข้าพิธีคชกรรมเชิญนําช้างเผือกขึ้นจากแพเข้าสู่โรงสมโภช หรือใช้ผูกเสาพระแท่นมณฑลในพระราชพิธีใหญ่, เขียนเป็น กรรม์ภิรมย์ กันภิรมย์ หรือ กันพิรุณ ก็มี.
กรรม์ กรรม์ [กัน] (กลอน) น. กรรม.
กรรม,กรรม ๑,กรรม-,กรรม- ๑ กรรม ๑, กรรม- ๑ [กำ, กำมะ-] น. (๑) การ, การกระทำ, การงาน, กิจ, เช่น พลีกรรม ต่างกรรมต่างวาระ, เป็นการดีก็ได้ ชั่วก็ได้ เช่น กุศลกรรม อกุศลกรรม.<2t>(๒) การกระทำที่ส่งผลร้ายมายังปัจจุบัน หรือซึ่งจะส่งผลร้ายต่อไปในอนาคต เช่น บัดนี้กรรมตามทันแล้ว ระวังกรรมจะตามทันนะ.<2t>(๓) บาป, เคราะห์, เช่น คนมีกรรม กรรมของฉันแท้ ๆ.<2t>(๔) ความตาย ในคำว่า ถึงแก่กรรม.
กรรม,กรรม ๒,กรรม-,กรรม- ๒ กรรม ๒, กรรม- ๒ [กํา, กํามะ-] (ไว) น. ผู้ถูกกระทํา เช่น คนกินข้าว ข้าว เป็นกรรมของกริยา กิน.
กรรมกร กรรมกร [กำมะกอน] น. คนงาน, ลูกจ้างที่ใช้แรงงาน. (ส. กฺรม = การงาน + กร = ผู้ทำ; ป. กมฺม + กร).
กรรมกรณ์ กรรมกรณ์ [กำมะกอน] น. อาญา, เครื่องสำหรับลงอาญา.<2t>ก. ลงโทษ เช่น สามซ้ำควรกรรมกรณ์ นุกิจราชอาชญา. (กฤษณา). (ส. กรฺม + กรณ = การกระทำ; ป. กมฺม + กรณ).
กรรมการ,กรรมการ ๑ กรรมการ ๑ [กำมะกาน] น. บุคคลที่ได้รับเลือกหรือได้รับแต่งตั้งเข้าเป็นคณะร่วมกันทำงานหรือกระทำกิจการบางอย่างซึ่งได้รับมอบหมาย, เมื่อรวมกันเป็นคณะ เรียกว่า คณะกรรมการ เช่น คณะกรรมการกฤษฎีกา. (ส. กรฺม + การ; ป. กมฺม + การ).
กรรมการ,กรรมการ ๒ กรรมการ ๒ (โบ; กลอน)<2t>น. ผู้รับใช้ เช่น ข้าขอภักดีภูบาล เป็นทาสกรรมการ ไปกว่าจะสิ้นสุดสกนธ์. (เสือโค).
กรรมการก กรรมการก [กํามะ-] (ไว) น. ผู้ถูกทํา เป็นส่วนสําคัญส่วนหนึ่งใน ๓ ส่วนของประโยคที่กริยาต้องมีกรรมรับ เช่น ตํารวจยิงผู้ร้าย ผู้ร้าย เป็น กรรมการก ถ้าต้องการให้ผู้ถูกทําเด่น ก็เรียงเป็นภาคประธานของประโยค เช่น ผู้ร้ายถูกตํารวจยิง.
กรรมการิณี กรรมการิณี [กํามะ-] น. กรรมการซึ่งเป็นเพศหญิง. (ส. กรฺม + การิณี).
กรรมขัย กรรมขัย [กำมะไข] (โบ) น. การสิ้นอายุเพราะกรรม เช่น อันว่าอายุสม์ยังมิควรตาย แลมาตายดั่งนั้นชื่อว่ากรรมขัยแล. (ไตรภูมิ). (ส. กรฺม + ป. ขย).
กรรมคติ กรรมคติ [กํามะคะติ] น. ทางดําเนินแห่งกรรม. (ส. กรฺม + ส., ป. คติ ว่า ที่ไป).
กรรมชรูป กรรมชรูป [กํามะชะรูบ] น. รูปของคนและสัตว์. (ส.; ป. กมฺมชรูป ว่า รูปที่เกิดแต่กรรม).
กรรมชวาต กรรมชวาต [กำมะชะวาด] น. ลมเกิดแต่กรรม คือ ลมเกิดในครรภ์เวลาคลอดบุตร ได้แก่ ลมเบ่ง เช่น พอถึงพระหัตถ์พระราชเทวีก็ทรงจับเอากิ่งรัง พอเกิดลมกรรมชวาตหวั่นไหวประชวรพระครรภ์. (ปฐมสมโพธิกถา). (สฺ กรฺม + ช = เกิด + วาต = ลม).
กรรมฐาน กรรมฐาน [กำมะถาน] น. ที่ตั้งแห่งการงาน หมายเอาอุบายทางใจ มี ๒ ประการ คือ สมถกรรมฐาน เป็นอุบายสงบใจ และวิปัสสนากรรมฐาน เป็นอุบายเรืองปัญญา. (ส.; ป. กมฺมฏฺาน).
กรรมบถ กรรมบถ [กำมะบด] น. ทางแห่งกรรม มี ๒ อย่าง ตามลักษณะ คือ กุศลกรรมบถและอกุศลกรรมบถ. (ส. กรฺม + ปถ = ทาง; ป. กมฺมปถ).
กรรมพันธุ์ กรรมพันธุ์ [กำมะพัน] ว. มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ คือ เกี่ยวเนื่องด้วยกรรมของตนเอง.<2t>น. ลักษณะ นิสัย ตลอดจนโรคหรือความวิกลวิการบางอย่างที่ลูกหลานสืบมาจากบรรพบุรุษ ปู่ย่าตายาย หรือพ่อแม่, พันธุกรรม ก็ว่า. (ส. กรฺม + พนฺธุ; ป. กมฺมพนฺธุ = มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ เกี่ยวเนื่องด้วยกรรมของตนเอง).
กรรม์ภิรมย์ กรรม์ภิรมย์ ดู กรรภิรมย์.
กรรมวาจก กรรมวาจก [กํามะ-] (ไว) ก. กริยาที่บอกว่าประธานเป็นกรรมการกหรือผู้ถูกทํา, กริยาของประโยคที่แสดงว่าประธานทําหน้าที่เป็นกรรมการก คือ ผู้ถูกทํา, กริยาของประโยคกรรมวาจกต้องใช้สกรรมกริยา คือ กริยาที่ต้องมีกรรมรับ บางทีก็มีกริยานุเคราะห์ ถูก นำ และใช้หมายไปในทางไม่ดี เช่น เด็กถูกตี ผู้ทำความผิดถูกลงโทษ, แต่บางทีก็ไม่ปรากฏกริยานุเคราะห์ ถูก เช่น หนังสือเล่มนี้แต่งดีมาก.
กรรมวาจา กรรมวาจา [กำมะ-] น. คำประกาศกิจการในท่ามกลางสงฆ์. (ส. กรฺม + วาจา = คำ; ป. กมฺม + วาจา).
กรรมวาจาจารย์ กรรมวาจาจารย์ [กํามะวาจาจาน] น. อาจารย์ผู้ให้สําเร็จกรรมวาจา คือ คู่สวด. (ส. กรฺมวาจา + อาจารฺย = อาจารย์).
กรรมวิธี กรรมวิธี [กํามะวิที] น. ลักษณะอาการหรือวิธีการที่ผันแปรหรือเปลี่ยนแปลงไปตามธรรมชาติหรือที่มนุษย์ทําขึ้น อันดําเนินติดต่อกันเรื่อยไปเป็นลําดับ, กระบวนวิธีดําเนินการในประดิษฐกรรม.
กรรมวิบาก กรรมวิบาก [กํามะวิบาก] น. ผลของกรรม. (ส. กรฺม + วิปาก = ผล; ป. กมฺม + วิปาก).
กรรมเวร กรรมเวร [กําเวน] น. การกระทําที่สนองผลร้ายซึ่งทําไว้แต่ปางก่อน; คำแสดงความรู้สึกเดือดร้อนเพราะกรรมหรือชะตากรรมในอดีต เช่น อายุตั้ง ๗๐ ปีแล้วยังต้องมาหาบขนมขายอีก กรรมเวรแท้ ๆ, เวร หรือ เวรกรรม ก็ว่า.
กรรมศาลา กรรมศาลา [กํามะ-] น. โรงงาน. (ส. กรฺม + ศาลา = โรง).
กรรมสัมปาทิก กรรมสัมปาทิก [กํามะสําปาทิก] น. ผู้ยังการงานให้ถึงพร้อม; (กฎ; เลิก) บุคคลที่ได้รับเลือกหรือแต่งตั้งให้ทําหน้าที่กรรมการของสมาคม. (ส. กรฺม + สมฺปาทิก = ผู้ให้ถึงพร้อม).
กรรมสิทธิ์ กรรมสิทธิ์ [กํามะสิด] น. ความเป็นเจ้าของทรัพย์; (กฎ) สิทธิทั้งปวงที่ผู้เป็นเจ้าของมีอยู่เหนือทรัพย์สิน อันได้แก่ สิทธิใช้สอย จําหน่าย ได้ดอกผล กับทั้งสิทธิติดตามและเอาคืนซึ่งทรัพย์สินของตน และสิทธิขัดขวางมิให้ผู้อื่นสอดเข้าเกี่ยวข้องกับทรัพย์สินนั้นโดยมิชอบด้วยกฎหมาย. (ส. กรฺม + สิทฺธิ = ความสำเร็จ; ป. กมฺมสิทฺธิ).
กรรมสิทธิ์รวม กรรมสิทธิ์รวม (กฎ) น. กรรมสิทธิ์ของบุคคลหลายคนร่วมกันในทรัพย์สินอันใดอันหนึ่ง.
กรรมัชวาต กรรมัชวาต [กํามัดชะ-] ดู กรรมชวาต.
กรรมาชีพ กรรมาชีพ [กํา-] น. คําเรียกชนชั้นกรรมกรหรือลูกจ้างผู้หาเลี้ยงชีพด้วยค่าจ้างแรงงานว่า ชนกรรมาชีพ. (อ. proletariat).
กรรมาธิการ กรรมาธิการ [กํา-] น. บุคคลที่สภาผู้แทนราษฎรหรือวุฒิสภาเลือกและตั้งเป็นคณะกรรมาธิการ เพื่อกระทำกิจการ พิจารณาสอบสวน หรือศึกษาเรื่องใด ๆ อันอยู่ในอำนาจหน้าที่ของแต่ละสภา แล้วรายงานต่อสภาคณะกรรมาธิการมี ๒ ประเภท คือ คณะกรรมาธิการสามัญ และคณะกรรมาธิการวิสามัญ คณะกรรมาธิการสามัญประกอบด้วยบุคคลซึ่งเป็นสมาชิกของสภาล้วน ๆ คณะกรรมาธิการวิสามัญประกอบด้วยบุคคลผู้เป็นสมาชิกและบุคคลที่มิได้เป็นสมาชิกของสภารวมกัน หรือบุคคลที่มิได้เป็นสมาชิกของสภาทั้งหมดที่สภาเลือกและตั้งเป็นคณะกรรมาธิการวิสามัญ.
กรรมาร กรรมาร [กํามาน] (แบบ) น. ช่างทอง เช่น กรรมารบุตร. (ส. กรฺมาร; ป. กมฺมาร).
กรรลี กรรลี [กัน-] น. โทษ. (ส. กลี แผลงเป็น กระลี และแผลง กระลี เป็น กรรลี).
กรรลึง กรรลึง [กัน-] (กลอน; แผลงมาจาก กระลึง)<2t>ก. จับ.
กรรษก กรรษก [กัดสก] (แบบ) น. ชาวนา. (ส. กรฺษก; ป.กสฺสก).
กรรสะ กรรสะ [กัน-] (ราชา) ก. ไอ, ใช้ว่า ทรงพระกรรสะ. (ป. กาส; ส. กาศ).
กรรแสง,กรรแสง ๑ กรรแสง ๑ [กัน-] (กลอน; แผลงมาจาก กระแสง) ก. ส่งเสียงร้อง เช่น เทพฤๅษีสรรเสริญแชรง ชัยชัยรบแรง กรรแสงแลสาธุการา. (สมุทรโฆษ).
กรรแสง,กรรแสง ๒ กรรแสง ๒ [กัน-] (โบ) น. ผ้าสไบ เช่น กรรแสงสวมคอหิ้ว ตายบทันลัดนิ้ว หนึ่งดี. (ม. คําหลวง ทานกัณฑ์). (ดู กันแสง).
กรรหาย กรรหาย [กัน-] (โบ; กลอน) ก. อยากได้, หิวโหย, เช่น กามกรรหายยั่วข้าง. (ลอ), ให้หยุดพลพักร้อน กรรหายผ่อนเอาทับ. (นิ. พลเสพย์).
กรรเหิม กรรเหิม [กัน-] (โบ; กลอน) ก. เหิม เช่น กรรเหิมหายหว่นนหว่า. (ม. คําหลวง ฉกษัตริย์).
กรรโหย กรรโหย [กัน-] (โบ; กลอน) ก. โหย, คร่ำครวญ, เช่น มีกระเรียนร้องก้องกรรโหย. (สมุทรโฆษ).
กรรเอา กรรเอา [กัน-] (โบ; กลอน; แผลงมาจาก กระเอา) ว. กลมกล่อม เช่น ไพเราะรสหวาน บรรสานกรรเอาเอาใจ. (สมุทรโฆษ).
กรรุณา กรรุณา [กฺระ-] (โบ) น. กรุณา เช่น ถ้าทรงพระกรรุณา. (สามดวง).
กรลุมพาง กรลุมพาง [กระ-] (โบ) น. กระลุมพาง, กลองหน้าเดียว, เช่น ปี่จีนโสดสรในใดต่าง ทงงกรลุมพางพอฟงง. (ม. คำหลวง มหาราช).
กรวด,กรวด ๑ กรวด ๑ [กฺรวด] น. ก้อนหินเล็ก ๆ เขื่องกว่าเม็ดทราย. (ข. คฺรัวสฺ).
กรวด,กรวด ๒ กรวด ๒ [กฺรวด] น. ชื่อดอกไม้ไฟชนิดหนึ่ง ใช้ไม้อ้อบรรจุดินดำ มีหางยาว เมื่อจุดชนวนแล้วเหวี่ยงให้พุ่งขึ้นสูง, จรวด ก็เรียก.<2t>ว. สูงชัน เช่น หลังคากรวด, คู่กับ หลังคาดาด, ในคําประพันธ์ใช้ว่า จรวด หรือ ตรวด ก็มี เช่น เฒ่าก็วิ่งตรวดตรงขึ้นต้นไม้. (ม. ร่ายยาว ชูชก).
กรวด,กรวด ๓ กรวด ๓ [กฺรวด] ก. หลั่งนํ้า เช่น นํ้าพระเต้าสิโตทกธารามารดริน กรวดลงในมืออินทพฤฒาจารย์. (ม. กาพย์ สักบรรพ). (ข. จฺรวจ).
กรวดน้ำ กรวดน้ำ ก. แผ่ส่วนบุญด้วยวิธีหลั่งนํ้า; (ปาก) โดยปริยายหมายความว่า ตัดขาดไม่ขอเกี่ยวข้องด้วย, มักใช้ว่า กรวดนํ้าควํ่ากะลา หรือ กรวดนํ้าควํ่าขัน.
กรวน กรวน [กฺรวน] (ถิ่น-ภูเก็ต) น. กลอยทําเป็นชิ้นเล็ก ๆ. (วิทยาจารย์ ล. ๑๖ ต. ๒).
กรวบ,กร๊วบ กรวบ, กร๊วบ [กฺรวบ, กฺร๊วบ] ว. เสียงดังเช่นเคี้ยวถูกของแข็ง.
กรวม กรวม [กฺรวม] ก. สวม เช่น วงแหวนกรวมหัวเสา, ครอบ เช่น เอากรวยกรวมพนมดอกไม้, คร่อม เช่น ปลูกเรือนกรวมตอ ปลูกเรือนกรวมทาง; รวมความหมายหลายอย่าง เช่น กรวมความ; กํากวม เช่น พูดกรวมข้อ. (ปาเลกัว).
กร้วม กร้วม ว. เสียงเคี้ยวสิ่งของที่เปราะให้แตก หรือเสียงของแข็งกระทบกันอย่างแรง.
กรวย,กรวย ๑ กรวย ๑ น. ของมีรูปกลม กลวง ยาวเรียวแหลม, เรียกขนมชนิดหนึ่ง ทำด้วยแป้งข้าวเจ้า กะทิ น้ำตาลปีบ เป็นต้น หยอดในกรวยใบตองว่า ขนมกรวย, กระทงมีฝาเป็นกรวยครอบ ข้างในใส่หมากหรือเมี่ยงสําหรับถวายพระอุปัชฌาย์และคู่สวดในการบวชนาค เรียกว่า กรวยอุปัชฌาย์และกรวยคู่สวด; (วิทยา) รูปตันมีลักษณะฐานกลมและแหลมเรียวไปโดยลําดับ เรียกว่า รูปกรวย. (อ. cone).
กรวย,กรวย ๒ กรวย ๒ น. (๑) ชื่อไม้ต้นชนิด Horsfieldia irya (Gaertn.) Warb. ในวงศ์ Myristicaceae ขึ้นตามฝั่งนํ้าลําคลอง ใบเป็นมันคล้ายใบจําปี แต่เรียวและนิ่มกว่า ดอกสีเหลือง ผลกลมเป็นพวงคล้ายมะไฟ, กรวยบ้าน ก็เรียก.<2t>(๒) ชื่อไม้พุ่มชนิด Casearia grewiifolia Vent. ในวงศ์ Flacourtiaceae ใบคล้ายชนิดแรกแต่ปลายป้อม มีขนมาก ขอบใบมีจักเล็ก ๆ เชื่อกันว่าเป็นยาสูบแก้ริดสีดวงจมูก, กรวยป่า ก็เรียก.
กรวย,กรวย ๓ กรวย ๓ (โบ) ก. สักหรือแทงด้วยแหลน เช่น กรวยปลา.
กรวยเชิง กรวยเชิง น. ลายที่ทําเป็นรูปกรวย ใช้เป็นลายชายผ้าและปลายเสา เรียกชื่อต่าง ๆ กันแล้วแต่ลายอยู่ที่ไหน เช่น ถ้าอยู่ที่เชิงผ้า เรียกว่า กรวยเชิง, ถ้าอยู่ที่เชิงผ้าเกี้ยว เรียกว่า เชิงเกี้ยว, ถ้าอยู่ที่ด้ามหอก เรียกว่า เชิงหอก.
กรวยบ้าน กรวยบ้าน ดู กรวย ๒ (๑).
กรวยป่า กรวยป่า ดู กรวย ๒ (๒).
กรวิก,กรวิก ๑ กรวิก ๑ [กะระ-, กอระ-] (แบบ) น. นกการเวก. (ไตรภูมิ). (ป., ส. กรวีก).
กรวิก,กรวิก ๒ กรวิก ๒ [กะระ-, กอระ-] น. ชื่อภูเขาชั้นที่ ๓ ในหมู่เขาสัตบริภัณฑ์ที่ล้อมเป็นวงกลมรอบเขาพระสุเมรุ. (ป.; ส. กรวีก). (ดู สัตบริภัณฑ์, สัตภัณฑ์).
กรสานต์ กรสานต์ [กฺระ-] (โบ; กลอน) ว. กระสานติ์, สงบ, ราบคาบ, เช่น ดำรงกรษัตรให้กรสานต์. (ยวนพ่าย).
กรสาปน,กรสาปน์ กรสาปน, กรสาปน์ [กฺระสาบ] (แบบ) น. กระษาปณ์ เช่น แลพราหมณ์น้นนได้ทองร้อยกรสาปน เปนลาภด้วยเดอรขอทานทุกวันวารแก่มหาชนทงงหลายบมิขาดเลย. (ม. คําหลวง ชูชก). (ส. การฺษาปณ).
กรสุทธิ์ กรสุทธิ์ [กะระ-] น. การชําระมือให้หมดจด, พิธีอย่างหนึ่งของพราหมณ์ ก่อนที่จะประกอบพิธีใด ๆ จะต้องชำระมือให้สะอาดเสียก่อน, กระสูทธิ์ ก็ว่า. (ส. กรศุทฺธิ).
กรอ,กรอ ๑ กรอ ๑ ก. ม้วนด้ายเข้าหลอดด้วยไนหรือเครื่องจักร; ควง เช่น กรเกาะขอกรอธาร เงือดง้าง. (ลิลิตพยุหยาตรา).
กรอ,กรอ ๒ กรอ ๒ ก. แสดงกิริยาเลียบเคียงกันในเชิงชู้สาว มักเป็นอาการที่ผู้ชายหนุ่ม ๆ แต่งตัวแล้วชวนเพื่อนกันเที่ยวเกี้ยวผู้หญิง เช่น นักเลงหนุ่มหนุ่มนั้น เที่ยวกรอ. (พิธีทวาทศมาส), บางทีก็ใช้ว่า กรอผู้หญิง.<2t>ว. อาการที่ติดพันกันในเชิงชู้สาว เช่น หนุ่มคนนี้มีผู้หญิงติดกรอทีเดียว.
กรอ,กรอ ๓ กรอ ๓ ก. แต่งให้เรียบ เช่น กรอฟัน กรอไม้.
กรอ,กรอ ๔ กรอ ๔ ว. ยากจน, เข็ญใจ, ฝืดเคือง, ในคำว่า เบียดกรอ. (ข. กฺร ว่า ยาก, ลำบาก).
กร้อ กร้อ น. เครื่องสานยาชัน รูปคล้ายปุ้งกี๋ แต่เล็กกว่า ใช้วิดนํ้าเรือ เช่น ส่วนตัวมึงคือกร้อ แต่งไว้วิดเรือ. (โคลงกวี), สามัญเรียกว่า ตะกร้อ. (เทียบ ข. กฺรฬ ว่า ไห).
กรอก,กรอก ๑ กรอก ๑ [กฺรอก] ก. เทลงในช่องแคบ เช่น กรอกหม้อ กรอกขวด, หรือใช้โดยปริยายก็ได้ เช่น พูดกรอกหู; ลงข้อความหรือจํานวนเลข เช่น กรอกบัญชี.<2t>ว. แห้งจนคลอน, ใช้แก่หมากและฝักมะขาม ว่า หมากกรอกมะขามกรอก.
กรอก,กรอก ๒ กรอก ๒ น. ชื่อนกยางขนาดเล็กในวงศ์ Ardeidae ในประเทศไทยมี ๓ ชนิด คือ ยางกรอกพันธุ์จีน (Ardeola bacchus) หัวสีนํ้าตาลแดง หลังสีเทาอมดำ อกสีแดง ยางกรอกพันธุ์ชวา (A. speciosa) หัวและคอสีเหลือง หลังสีเทาอมดำ อกสีเหลือง และยางกรอกพันธุ์อินเดีย (A. grayii) หัวและคอสีเหลือง หลังสีแดงเข้ม อกสีน้ำตาลเหลือง กินปลา.
กร็อกกร๋อย กร็อกกร๋อย ว. ไม่ชุ่มชื่น, ไม่สมบูรณ์.
กรอกแกรก,กรอกแกรก ๑ กรอกแกรก ๑ [กฺรอกแกฺรก] ว. เสียงอย่างเสียงใบไม้แห้งกระทบกัน.
กรอกแกรก,กรอกแกรก ๒ กรอกแกรก ๒ [กฺรอกแกฺรก] (โบ) น. การเล่นพนันชนิดหนึ่ง. (ราชกิจจา. ล. ๑).
กรอกรุย กรอกรุย ก. ทําท่าเจ้าชู้ เช่น ห่มเพลาะกรูมกรอกรุยฉุยเฉิดฉัน. (มณีพิชัย).
กรอง,กรอง ๑ กรอง ๑ [กฺรอง] ก. ร้อย เช่น กรองมาลัย = ร้อยดอกไม้; ถัก, ทอ, เช่น กรองแฝก กรองคา.
กรอง,กรอง ๒ กรอง ๒ [กฺรอง] ก. เอาของละเอียดออกจากของหยาบ เช่น กรองทราย, เอาฝุ่นละอองหรือของสกปรกออก เช่น กรองน้ำมัน กรองอากาศ, ใช้เครื่องกรองมีผ้าเป็นต้น คัดเอาผงหรือกากออกจากนํ้าหรือสิ่งที่เป็นน้ำ เช่น กรองน้ำ กรองกะทิ.
กรอง,กรอง ๓ กรอง ๓ [กฺรอง] (กลอน) น. กําไล, โดยมากใช้ประกอบกับคําอื่น ๆ เช่น กรองเชิง = กําไลเท้า กรองได = กําไลมือ กรองศอ = สร้อยคอ, สร้อยนวม เช่น กรองศอซ้อนสลับทับอังศา. (อิเหนา). [ข. กง (กอง) ว่า กำไล, วงกลม].
กรอง,กรอง ๔ กรอง ๔ [กฺรอง] (ถิ่น-ปักษ์ใต้) น. กระชอน.
กรองกรอย กรองกรอย ว. ไม่ชุ่มชื่น, ไม่สมบูรณ์; ซอมซ่อ (มักใช้แก่การแต่งกาย), ตองตอย ก็ใช้; (กลอน; ถิ่น-ปักษ์ใต้) ตกอับ, แร้นแค้น, เช่น ผัวเมียสองคนจนกรองกรอย. (สังข์ทอง).
กรองทอง กรองทอง น. ผ้าโปร่งอันทอหรือถักด้วยเส้นลวดทองหรือไหมทอง.
กรอด,กรอด ๑ กรอด ๑ [กะหฺรอด] ดู ปรอด.
กรอด,กรอด ๒ กรอด ๒ [กฺรอด] ว. เซียวลง เช่น ผอมกรอด; เสียงดังอย่างเสียงกัดฟัน.
กร่อน กร่อน ก. หมดไปสิ้นไปทีละน้อย, ร่อยหรอ, สึกหรอ.
กรอบ,กรอบ ๑ กรอบ ๑ [กฺรอบ] น. สิ่งที่ประกอบตามริมวัตถุมีรูปภาพเป็นต้น, โดยปริยายหมายความว่า ขอบเขตกําหนด เช่น ทํางานอยู่ในกรอบ.
กรอบ,กรอบ ๒ กรอบ ๒ ว. แตกหักเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยได้ง่าย, เปราะ; (ปาก) แทบดํารงตนไปไม่รอด เช่น จนกรอบ.
กรอบเกรียบ กรอบเกรียบ (โบ) ว. มีเสียงดังอย่างเสียงเหยียบถูกของแห้งหรือกรอบ, เกรียบกรอบ ก็ว่า.
กรอบแกรบ กรอบแกรบ ว. เต็มที เช่น แห้งกรอบแกรบ จนกรอบแกรบ; มีเสียงดังอย่างเสียงเหยียบถูกของแห้งหรือกรอบ.
กรอบเช็ดหน้า กรอบเช็ดหน้า น. กรอบประตูหรือหน้าต่าง, เช็ดหน้า หรือ วงกบ ก็เรียก.
กรอบหน้า กรอบหน้า น. เครื่องประดับขอบหน้าผากเป็นรูปกระจังเป็นต้น.
กรอม,กรอม ๑ กรอม ๑ [กฺรอม] ว. ปกหรือคลุมยาวลงมาเกินควร เช่น นุ่งผ้าซิ่นกรอมส้น.
กรอม,กรอม ๒ กรอม ๒ [กฺรอม] ว. ระทม, เจ็บชํ้าอยู่ภายในเรื่อยไป, เช่น กรอมใจ.
กร่อม,กร่อม ๆ กร่อม, กร่อม ๆ (โบ) ว. ช้า ๆ เงื่อง ๆ แต่ทําเรื่อยไป (มักใช้แก่การเดิน พายเรือ หรือลุยนํ้า) เช่น เดินกร่อม ๆ กรําฝนฟ้า พายเรือกร่อม ๆ. (อักษรประโยค).
กร่อย กร่อย [กฺร่อย] ว. ไม่จืดสนิทหรือไม่หวานสนิท เพราะมีรสเค็มเจือ, โดยปริยายหมายความว่า หมดรสสนุกหรือหมดความครึกครื้น เช่น การแสดงที่ไม่สนุกทำให้คนดูรู้สึกกร่อย.
กระ,กระ ๑ กระ ๑ น. ชื่อเต่าทะเลชนิด Eretmochelys imbricata ในวงศ์ Cheloniidae หลังเป็นเกล็ดแผ่นโต ๆ ดูเหมือนซ้อนเหลื่อมกันอย่างกระเบื้องมุงหลังคาสีนํ้าตาลลายเหลือง ปากงุ้มคล้ายปากเหยี่ยว ขาแบนเป็นพาย มีไข่กลมเปลือกนิ่มเหนียว ไข่ตามหาดทรายครั้งละ ๑๕๐-๒๕๐ ฟอง. (ข. กราส่).
กระ,กระ ๒ กระ ๒ น. ชื่อไม้ต้นชนิด Elateriospermum tapos Blume ในวงศ์ Euphorbiaceae ผลกลมมี ๓ พู เปลือกแข็ง เมื่อแก่สีคลํ้าเกือบดํา เมล็ดรูปยาวรี เปลือกแข็งเป็นมันสีนํ้าตาลเข้ม ภายในมีเนื้อขาว ๒ กลีบประกบกัน เมื่อดิบมีพิษร้ายแรง ดองหรือคั่วแล้วกินได้ รสมัน เรียกว่า ลูกกระ, ปักษ์ใต้และมลายูเรียก ประ.
กระ,กระ ๓ กระ ๓ น. จุดดำ ๆ หรือจุดน้ำตาลขึ้นประปรายที่ผิวกายคน สัตว์ หรือสิ่งอื่น ๆ, ประ ก็ว่า.
กระ,กระ ๔ กระ ๔ ใช้เป็นพยางค์หน้า (๑) ซึ่งเดิมเป็น ก กํา กุ ข ต ส เช่น กบิล - กระบิล, กําแพง - กระแพง, กุฎี - กระฎี, ขจัด - กระจัด, ตวัด - กระหวัด, สะท้อน - กระท้อน.<2t>(๒) โบราณใช้แทน ตระ เช่น ตระกูล - กระกูล, ตระลาการ - กระลาการ. (อัยการเบ็ดเสร็จ).<2t>(๓) เติมหน้าคําโดยไม่มีความหมายก็มี เช่น ซุ้ม - กระซุ้ม, โดด - กระโดด, พุ่ม - กระพุ่ม, ยาจก - กระยาจก, เติมให้มีความหมายแน่นแฟ้นขึ้นก็มี เช่น ทํา - กระทํา, ทุ้ง - กระทุ้ง, เสือกสน - กระเสือกกระสน.<2t>(๔) ยํ้าหน้าคําอันขึ้นต้นด้วย ก ในบทกลอน คือ กระกรี๊ด กระกรุ่น กระกลับกลอก กระเกริ่น กระเกรียม กระเกรียว กระเกรี้ยว กระเกริก.<2t>(๕) นอกนี้เป็น กระ มาแต่เดิม เช่น กระทรวง กระบือ.
กระกร กระกร (กลอน) ก. ฉายรัศมี เช่น ทินกรกระกรจามี- กรกรรัศมี ดุรงครัตน์พรรณราย. (สมุทรโฆษ). (กระ + ส. กร = รัศมี).
กระกรับกระเกรียบ กระกรับกระเกรียบ (โบ; กลอน) ว. กระด้าง, หยาบ, เช่น หนงงหยาบสุรเสียงศัพท์ ดูก็กระกรับกระเกรียบ. (ม. คําหลวง กุมาร).
กระกรี๊ด กระกรี๊ด (กลอน) ว. เสียงกรีด ๆ ดั่งเสียงหญิงร้องด้วยความตกใจ เช่น แต่ร้องจนสุดสิ้นพระสุรเสียงสำเนียงกระกรี๊ดกรีด. (ม. ร่ายยาว กุมาร).
กระกรุ่น กระกรุ่น (กลอน) ว. กรุ่น ๆ เช่น ไฟฟุนกระกรุ่นเกรียม. (สรรพสิทธิ์).
กระกลับกลอก กระกลับกลอก (กลอน) ก. กลับกลอก เช่น มีตาดุจแก้วแสงสาย กระกลับกลอกพราย ชื่อรัตนจักษุมงคล. (ตําราช้างคําฉันท์).
กระกวด กระกวด (โบ; กลอน) ว. สูงชัน, กรวด, กรกวด ก็ว่า เช่น อยู่จอมด้วยกรกวด กิ่งก้านรวดรยงงามอยู่น้นน. (ม. คําหลวง มัทรี).
กระกอง,ตระกอง กระกอง, ตระกอง (แบบ) ก. กอด, เกี่ยวพัน, เช่น เกษแก้วกระกองกลม แลกทดกทันงาม. (เสือโค).
กระกัด กระกัด (โบ) ก. ใคร่, อยาก, ยินดี, เช่น ด้วยกระกัดศรัทธา. (มาลัยคําหลวง), ใช้ว่า ตระกัด ก็มี, เขียนเป็น กรกัติ หรือ กระกัติ ก็มี.
กระกัติ กระกัติ (โบ) ก. กระกัด, ใคร่, อยาก, ยินดี, เช่น อย่ายักษ์มลักกรีฑาดล ด้าวอำเภอพลลการกระกัติกามา. (สรรพสิทธิ์).
กระกี้ กระกี้ น. ต้นตะเคียน. (ข.).
กระกูล กระกูล (เลิก) น. ตระกูล. (อัยการเบ็ดเสร็จ).
กระเกรอก กระเกรอก [-เกฺริก] (กลอน) ว. กระเกริก, เสียงดังอึกทึก, เช่น กระเกรอกทงงท้องธรณี. (สมุทรโฆษ).
กระเกริก กระเกริก (กลอน) ว. เสียงดังอึกทึก เช่น กระเกริ่นกระเกริกกฤษฎา. (อุเทน).
กระเกริ่น กระเกริ่น (กลอน) ว. ระบือ เช่น กระเกริ่นกระเกริกกฤษฎา. (อุเทน).
กระเกรียบ,-กระเกรียบ -กระเกรียบ ใช้เข้าคู่กับคำ กระกรับ เป็น กระกรับกระเกรียบ.
กระเกรียม กระเกรียม (โบ; เลิก) ก. ตระเตรียม, จัดไว้ให้บริบูรณ์, เช่น กระเกรียมพร้อมเสร็จสําเร็จการ. (คาวี).
กระเกรียว กระเกรียว (โบ; กลอน) ว. เสียงดังเกรียว ๆ เช่น ก็ร้องกระเกรียวเฉียวฉาว. (สุธน).
กระเกรี้ยว กระเกรี้ยว (โบ; กลอน) ว. เสียงขบฟันเกรี้ยว ๆ เช่น คุกคามขบฟันกระเกรี้ยว. (ม. คําหลวง ฉกษัตริย์).
กระเกลือก กระเกลือก (โบ; กลอน) ก. เกลือกไปมา เช่น กลํ่าตากระเลือก กระเกลือกกลอกตากลม. (ลอ).
กระคน กระคน (กลอน) น. ประโคน คือ สายรัดจากใต้สัปคับไปที่อกช้างหลังขาหน้าแล้วลอดมาบรรจบกัน โยงใต้ท้องช้างและที่หน้าขาหน้าไปจากสายชนักที่คอช้าง.
กระคาย กระคาย (กลอน) ว. ระคาย เช่นบุกแฝกกระคายคา ละเลาะลัดลดาดอน. (ม. ฉันท์ มหาราช).
กระคุก กระคุก (โบ) ก. คุกคลาน เช่น ทั้งล้มทั้งลุกกระคุกหัวเข่า. (ไตรภูมิ).
กระงกกระงัน กระงกกระงัน (โบ) ว. งก ๆ งัน ๆ เช่น ถึงว่าจะกระงกกระงันงมเงื่อนเหงาหง่อยพี่ก็ไม่คิด. (ม. ร่ายยาว ชูชก).
กระงกกระเงิ่น กระงกกระเงิ่น ว. งก ๆ เงิ่น ๆ.
กระง่องกระแง่ง กระง่องกระแง่ง ว. อาการที่ร่างกายไม่แข็งแรง ทําให้เดินหรือเคลื่อนไหวไม่ถนัด, กระย่องกระแย่ง หรือ ง่องแง่ง ก็ว่า.
กระงอด,-กระงอด -กระงอด ใช้เข้าคู่กับคำ กระเง้า เป็น กระเง้ากระงอด.
กระง่อนกระแง่น กระง่อนกระแง่น ว. คลอนแคลน, ไม่แน่น, ไม่มั่นคง, ง่อนแง่น ก็ว่า.
กระเง้ากระงอด กระเง้ากระงอด ว. กะบึงกะบอน, โกรธอย่างแสนงอน, เง้างอด หรือ เง้า ๆ งอด ๆ ก็ว่า.
กระโงก กระโงก (กลอน) น. นกยูง, กุโงก ก็ว่า. (เทียบ ข. โกฺงก).
กระจก กระจก น. แก้วที่ทําเป็นแผ่น; โรคต้อชนิดหนึ่ง เรียกว่า ต้อกระจก. (ป., ส. กาจ = แก้ว, ดินที่ใช้ทำแก้ว).
กระจกเงา กระจกเงา น. แผ่นกระจกฉาบด้านหลังด้วยแผ่นบาง ๆ ของโลหะเงินหรือโลหะเจือปรอทแล้วทาสีทับ ใช้สําหรับส่องหน้าเป็นต้น, มักเรียกสั้น ๆ ว่า กระจก, ลักษณนามว่า บาน, ราชาศัพท์ว่า พระฉาย; (วิทยา) วัตถุที่มีผิวมันสามารถส่งภาพหรือแสงสะท้อนกลับได้.
กระจกตา กระจกตา น. ส่วนใสของตา มีรูปกลมแบน สีใส พื้นหน้านูนออกพื้นหลังหวำ หนาประมาณ ๑ มิลลิเมตร ประกอบอยู่เบื้องหน้าของดวงตา.
กระจกนูน กระจกนูน น. วัตถุที่มีผิวมัน ลักษณะกลีบบัวควํ่า สามารถสะท้อนแสงให้เกิดภาพเสมือนหัวตั้งมองเห็นได้ที่ผิวกระจกนั้น.
กระจกฝ้า กระจกฝ้า น. กระจกโปร่งแสงคือแสงลอดผ่านได้บ้าง แต่ตาไม่สามารถมองทะลุผ่านไปเห็นวัตถุอีกข้างหนึ่งได้.
กระจกเว้า กระจกเว้า น. วัตถุที่มีผิวมัน ลักษณะกลีบบัวหงาย สามารถสะท้อนแสงให้เกิดภาพจริงหัวกลับได้บนจอที่ขวางรับแสงสะท้อน.
กระจกหุง กระจกหุง น. กระจกสีชนิดบาง ลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมมีสีต่าง ๆ ใช้ประดับอาคาร วัตถุ หรือเครื่องใช้เป็นต้น.
กระจง กระจง น. ชื่อสัตว์เคี้ยวเอื้องในวงศ์ Tragulidae ที่เล็กที่สุด รูปร่างคล้ายกวาง แต่ไม่มีเขา ตัวผู้มีเขี้ยวแหลมคมงอกออกมาซึ่งมีผู้นิยมใช้เป็นเครื่องราง มี ๒ ชนิด คือ กระจงควาย (Tragulus napu) สูงราว ๓๕ เซนติเมตร และกระจงเล็ก (T. javanicus) สูงราว ๒๕ เซนติเมตร, พายัพเรียก ไก้. (มลายู กันจิล).
กระจร,กระจร ๑ กระจร ๑ (กลอน) น. ต้นสลิด เช่น กระทุ่มกระจรแล้ คชน้าวกาหลง. (พงศ. เหนือ). (แผลงมาจาก ขจร).
กระจร,กระจร ๒ กระจร ๒ (กลอน) ก. ฟุ้งไป เช่น ให้กระจรกิจจาในนุสนธิ์. (พาลีสอนน้อง). (แผลงมาจาก ขจร).
กระจอก,กระจอก ๑ กระจอก ๑ น. ชื่อนกขนาดเล็กในวงศ์ Passeridae ตัวลาย มี ๔ ชนิด ชนิดที่มีชุกชุมอาศัยตามชายคาบ้านเรือน เรียก กระจอกบ้าน (Passer montanus) อีก ๓ ชนิด คือ กระจอกตาล (P. flaveolus) กระจอกป่าท้องเหลือง (P. rutilans) และกระจอกใหญ่ (P. domesticus).
กระจอก,กระจอก ๒ กระจอก ๒ (โบ) น. เล็บ เช่น กระจอกสอกายใหญ่หน้า เล็กลาน หล็อนแฮ. (ตําราช้างคําโคลง). (ข. กฺรจก ว่า เล็บ).
กระจอก,กระจอก ๓ กระจอก ๓ ว. เขยก (ใช้แก่ขา). (ข. ขฺจก ว่า ขาพิการ); (ปาก) ไม่สำคัญ, เล็กน้อย, เช่น เรื่องกระจอก, ต่ำต้อย เช่น คนกระจอก.
กระจอก,กระจอก ๔ กระจอก ๔ น. ลักษณะแมวอย่างหนึ่ง สีตัวดําทั้งหมดมีขนสีเทาล้อมรอบปาก ตาสีเหลือง เรียกว่า แมวกระจอก. (โชค-โบราณ).
กระจอกงอกง่อย กระจอกงอกง่อย ว. ยากจนเข็ญใจ.
กระจอกชวา กระจอกชวา น. ชื่อนกขนาดเล็กชนิด Padda oryzivora ในวงศ์ Estrildidae มีถิ่นกําเนิดในเกาะชวาและเกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย เคยนํามาเลี้ยงใช้เสี่ยงทาย จึงเรียกว่า นกหมอดู.
กระจอกเทศ กระจอกเทศ น. ชื่อนกขนาดใหญ่ชนิด Struthio camelus ในวงศ์ Struthionidae ขาใหญ่แข็งแรง ตีนมี ๒ นิ้ว วิ่งเร็ว แต่บินไม่ได้ มีถิ่นกําเนิดในทวีปแอฟริกา.
กระจองงอง,กระจองงอง ๆ กระจองงอง, กระจองงอง ๆ ว. เสียงร้องเช่นนั้นพร้อมตีฆ้องป่าวประกาศว่า กระจองงอง ๆ เจ้าข้าเอ๊ย.
กระจองหง่อง,กระจ๋องหง่อง กระจองหง่อง, กระจ๋องหง่อง ว. อาการที่นั่งยอง ๆ จ้องดู.
กระจองอแง กระจองอแง ว. เสียงเด็กที่ร้องไห้ ก่อให้เกิดความรําคาญ, ใช้เรียกลูกเด็กเล็กแดงหรือที่ยังต้องอุ้มต้องจูงอยู่ว่า ลูกกระจองอแง.
กระจ้อน,กระจ้อน ๑ กระจ้อน ๑ น. ชื่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิด Menetes berdmorei ในวงศ์ Sciuridae เป็นสัตว์จำพวกกระรอก ตัวสีนํ้าตาล มีลายสีดําและนํ้าตาลอ่อนตามยาวข้าง ๆ ตัว หางเป็นพวง วิ่งหากินตามพื้นดิน.
กระจ้อน,กระจ้อน ๒ กระจ้อน ๒ ว. เล็ก, ไม่โต.
กระจอนหู กระจอนหู (ถิ่น) น. ตุ้มหู. (ลัทธิ. ภาค ๑๘ ตอน ๑).
กระจ้อย กระจ้อย ว. จ้อย, เล็กน้อย, เช่น เดินร่อยเรี่ยงามตรู<2t>กระจ้อย. (ประพาสธารทองแดง).
กระจ้อยร่อย กระจ้อยร่อย ว. จ้อย, น้อย ๆ, เล็กนิด.
กระจ๋อหวอ กระจ๋อหวอ (ปาก) ก. เปิด, โจ่งแจ้ง.
กระจะ กระจะ ว. แจ่มแจ้ง, ชัดเจน.
กระจัก กระจัก (กลอน) ก. เป็นจัก ๆ เช่น กระจักกระจังบัลลังก์บัวหงาย ธูปรองทองทราย สลับด้วยแก้วแกมนิล. (พากย์).
กระจัง,กระจัง ๑ กระจัง ๑ น. ชื่อลายอย่างหนึ่ง ใช้เป็นลวดลายสําหรับเครื่องประดับที่อยู่บนชั้นหรือตามขอบของสิ่งบางอย่าง เช่น ชั้นฐานธรรมาสน์ กระจังมีหลายแบบ เช่น กระจังตาอ้อย กระจังเจิม กระจังปฏิญาณ, เครื่องประดับที่มีลวดลายชนิดนี้ เรียกว่า ตัวกระจัง ใช้ประดับหลังเฟี้ยมลับแลและอื่น ๆ.
กระจัง,กระจัง ๒ กระจัง ๒ น. ชื่อปลานํ้ากร่อยชนิด Periophthalmodon schlosseri ในวงศ์ Periophthalmidae พบในบริเวณป่าชายเลน รูปร่าง การเคลื่อนไหวและความสามารถขึ้นมาพ้นนํ้าได้คล้ายปลาจุมพรวดซึ่งมีขนาดใหญ่กว่า มีครีบอกเป็นกล้ามเนื้อใช้ต่างตีน ช่วยครีบหาง ทํารูลึกอยู่ในเลน เคลื่อนไหวได้รวดเร็วบนผิวเลนและผิวนํ้า ปีนเกาะบนที่ชันและกระโจนเป็นห้วง ๆ ได้, เขียนเป็น กะจัง ก็มี.
กระจังหลังเบี้ย กระจังหลังเบี้ย น. ใบไม้เล็ก ๆ เป็นหยัก ๆ. (ปาเลกัว).
กระจัด,กระจัด ๑ กระจัด ๑ ก. ขับไล่; แยกย้ายออกไป เช่น ลูกหลานกระจัดพลัดพราย. (คาวี). (แผลงมาจาก ขจัด).
กระจัด,กระจัด ๒ กระจัด ๒ ว. กระจะ, จะจะ, ชัด, เช่น ฝ่ายล่ามบอกออกอรรถกระจัดแจ้ง. (อภัย).
กระจัดกระจาย กระจัดกระจาย ว. เรี่ยรายไป, แตกฉานซ่านเซ็นไป, ไม่รวมอยู่ในพวกเดียวกัน. (แผลงมาจาก ขจัดขจาย).
กระจัดพลัดพราย กระจัดพลัดพราย ก. แตกฉานซ่านเซ็นไป, ไม่รวมอยู่ในพวกเดียวกัน.
กระจับ,กระจับ ๑ กระจับ ๑ น. ชื่อไม้นํ้าชนิด Trapa bicornis Osbeck ในวงศ์ Trapaceae ขึ้นลอยอยู่ในนํ้าโดยอาศัยก้านใบเป็นทุ่น ฝักแก่สีดําแข็ง มี ๒ เขา คล้ายเขาควาย เนื้อในขาว รสหวานมัน; ชื่อขวากมีรูปคล้ายกระจับ; เรียกพานขนาดเล็ก ปากเป็นรูปวงรี ทําเป็นรูปกลีบบัวคลี่ออกคล้ายฝักกระจับ ว่า พานปากกระจับ; วัตถุที่มีรูปอย่างฝักกระจับสําหรับยันคางศพที่บรรจุโกศ; นวมหรือวัตถุรูปร่างคล้ายฝักกระจับใช้ใส่ป้องกันอวัยวะที่หว่างขาเวลาชกมวยไทย.
กระจับ,กระจับ ๒ กระจับ ๒ น. เครื่องสวมข้อตีนม้าสําหรับหัดให้เต้นสะบัดตีน ทําด้วยหวายหรือไม้ไผ่เหลาให้กลมขดรอบข้อตีนม้า ขัดเป็นเกลียวปล่อยชายทั้ง ๒ ข้างเสี้ยมแหลมยื่นออกจากวงราว ๒ นิ้ว เพื่อกันมิให้ตีนกระทบกันเอง.
กระจับบก กระจับบก น. ชื่อไม้เถาชนิดหนึ่งขึ้นในป่าตํ่าตามที่นํ้าท่วม มักขึ้นปะปนกับเถากรด ซึ่งดูผาด ๆ คล้ายคลึงกัน ใบคู่ ขอบใบตอนบนที่ใกล้หรือติดกับก้านมีต่อมข้างละต่อม ผลนัยว่าแบน ๆ รูปสามเหลี่ยม ไม้ใช้ทําฟืน. (พจน. ๒๔๙๓).
กระจับปิ้ง กระจับปิ้ง น. เครื่องปิดของลับของเด็กหญิง ทำด้วยเงิน ทอง หรือนากเป็นต้น, จะปิ้ง จับปิ้ง ตะปิ้ง หรือ ตับปิ้ง ก็เรียก. (ม. จะปิ้ง).
กระจับปี่ กระจับปี่ น. พิณ ๔ สาย. (ช. จาก ส. กจฺฉปี, อธิบายว่า มีรูปคล้ายเต่า).
กระจ่า กระจ่า น. เครื่องใช้ตักแกงหรือตักข้าว ทําด้วยกะลามะพร้าว มีด้ามถือ, จวัก จ่า หรือ ตวัก ก็ว่า.
กระจ่าง กระจ่าง ก. สว่าง, สุกใส, ชัดเจน, แจ่ม.
กระจาด กระจาด น. ภาชนะสาน รูปเตี้ย ๆ ปากกว้าง ก้นสอบ, โดยปริยายเรียกเครื่องสานที่ทําเป็นตาโต ๆ ขอบปากแบบพานปากกระจับ สําหรับใส่ของเครื่องกัณฑ์เทศน์มหาชาติ.
กระจาน กระจาน น. แผ่นตะกั่วหรือโลหะแผ่นเล็ก ๆ บาง ๆ ที่ติดอยู่เหนือเบ็ดสําหรับล่อปลา.
กระจาบ กระจาบ น. ชื่อนกขนาดเล็กในวงศ์ Ploceidae มี ๓ ชนิด คือ กระจาบธรรมดา หรือ กระจาบอกเรียบ (Ploceus philippinus) กระจาบอกลาย (P. manyar) ทำรังด้วยหญ้าห้อยอยู่กับกิ่งไม้หรือพืชน้ำ ปากรังอยู่ด้านล่าง และ กระจาบทอง (P. hypoxanthus) ทํารังด้วยหญ้าโอบหุ้มกิ่งไม้หรือใบพืชน้ำ ปากรังอยู่ด้านล่าง มักอยู่รวมกันเป็นหมู่ กินเมล็ดพืช.
กระจาม,-กระจาม -กระจาม ใช้เข้าคู่กับคำ กระโจม เป็น กระโจมกระจาม.
กระจาย กระจาย ก. ทําให้แพร่หรือแตกแยกออกจากกันไปในที่ต่าง ๆ, แพร่หรือแตกแยกออกจากกันไปในที่ต่าง ๆ; แผ่ซ่าน, จางออก, นิยมใช้เข้าคู่กับคํา กระจัด กระจุย เป็น กระจัดกระจาย กระจุยกระจาย. (แผลงมาจาก ขจาย).
กระจายนะมณฑล กระจายนะมณฑล (โบ) น. ชื่อกลบท วรรคต้นใช้อักษรสูงนําหน้า วรรคที่ ๒ ใช้อักษรกลาง วรรคที่ ๓ ใช้อักษรตํ่า ตัวอย่างว่า สมเด็จพระศิริวิบุลกิตติ์ กําจัดจากโศกวิโยคหา ค่อยตรึกตรองฉลองคุณพระชนมา. (ชุมนุมตํารากลอน)
กระจายเสียง กระจายเสียง ก. ส่งเสียงแพร่ไกลออกไป.
กระจายหางดอก กระจายหางดอก น. ชื่อว่านชนิดหนึ่ง ต้นและใบดังเถาผักบุ้งเทศ แต่ไม่มีหัว มีดอกและฝักอย่างผักบุ้งเทศ เชื่อกันว่าว่านชนิดนี้ใช้เมล็ดตําละลายกับเหล้าแก้พิษเสือ พิษจระเข้ และพิษสุนัขบ้า. (กบิลว่าน).
กระจาว กระจาว น. กระเจา. (ดู กระเชา).
กระจิก,-กระจิก -กระจิก ใช้เข้าคู่กับคํา กระจุก เป็น กระจุกกระจิก.
กระจิ๋ง,-กระจิ๋ง -กระจิ๋ง ใช้เข้าคู่กับคํา กระจุ๋ง เป็น กระจุ๋งกระจิ๋ง.
กระจิด กระจิด ว. เล็กน้อย เช่น ตัวกระจิดนิดกว่าแมว. (ประพาสธารทองแดง).
กระจิบ,-กระจิบ -กระจิบ ใช้เข้าคู่กับคํา กระจุบ เป็น กระจุบกระจิบ.
กระจิบ,กระจิบ ๑ กระจิบ ๑ น. ชื่อนกขนาดเล็กในวงศ์ Sylviidae ร้องเสียงจิบ ๆ มีหลายชนิด เช่น กระจิบธรรมดา (Orthotomus sutorius) กระจิบคอดํา (O. atrogularis) กระจิบหัวแดง (O. sepium) กินแมลง.
กระจิบ,กระจิบ ๒ กระจิบ ๒ น. ถ้วยขนาดเล็กที่สุดสําหรับจิบ.
กระจิ๋ม,-กระจิ๋ม -กระจิ๋ม ใช้เข้าคู่กับคํา กระจุ๋ม เป็น กระจุ๋มกระจิ๋ม.
กระจิริด กระจิริด [กฺระจิหฺริด] ว. เล็กนิด. (เทียบมลายู เกาะจิลฺ, เกะจิก = เล็ก).
กระจิ๋ว กระจิ๋ว ว. เล็ก ๆ, จิ๋ว.
กระจิ๋วหลิว กระจิ๋วหลิว (ปาก) ว. เล็กมาก.
กระจี้ กระจี้ (ถิ่น-โคราช) น. เมล็ดของต้นแสลงใจ.
กระจี๋,-กระจี๋ -กระจี๋ ใช้เข้าคู่กับคํา กระจู๋ เป็น กระจู๋กระจี๋.
กระจุก กระจุก น. สิ่งที่รวมกันอยู่เป็นกลุ่ม, ลักษณนามเรียกสิ่งที่มัดรวมกันเป็นกลุ่ม เช่น หอม ๒ กระจุก กระเทียม ๓ กระจุก.<2t>ก. รวมกันอยู่เป็นกลุ่ม เช่น ธุรกิจใหญ่ ๆ กระจุกกันอยู่ในตัวเมือง.
กระจุกกระจิก กระจุกกระจิก ว. เล็ก ๆ น้อย ๆ, เบ็ดเตล็ดคละกัน, เช่น ในกระเป๋าถือมีแต่ของกระจุกกระจิก, จุกจิก ก็ว่า.
กระจุกกระจุย กระจุกกระจุย ว. กระจายจากกันอย่างสับสนไม่เป็นระเบียบ.
กระจุ๋งกระจิ๋ง กระจุ๋งกระจิ๋ง ก. พูดกันเบา ๆ ทําเสียงเล็กเสียงน้อยน่าเอ็นดู, จุ๋งจิ๋ง ก็ว่า.<2t>ว. อาการที่พูดกันเบา ๆ ทำเสียงเล็กเสียงน้อยน่าเอ็นดู, จุ๋งจิ๋ง ก็ว่า.
กระจุบ,กระจุ๊บ กระจุบ, กระจุ๊บ น. ส่วนของโคมตรงที่สวมหลอด; ส่วนหนึ่งของตะเกียงที่ไส้ผ่านสําหรับจุดไฟ.
กระจุบกระจิบ กระจุบกระจิบ (โบ) ว. จุบจิบ.
กระจุ๋มกระจิ๋ม กระจุ๋มกระจิ๋ม ว. เล็ก ๆ น้อย ๆ น่าเอ็นดู, จุ๋มจิ๋ม ก็ว่า.
กระจุย กระจุย ว. กระจายออกยุ่งไม่เป็นระเบียบ, นิยมใช้เข้าคู่กับ กระจุก เป็น กระจุกกระจุย.
กระจุยกระจาย กระจุยกระจาย ว. กระจายยุ่งเหยิง.
กระจู้ กระจู้ น. เครื่องดักปลาไหลชนิดหนึ่ง สานด้วยไม้ไผ่ รูปคล้ายหม้อคอสูง มีงาแซงอยู่ริมก้น ห้อยเหยื่อไว้ภายใน, เรียกว่า อีจู้ หรือ จู้ ก็มี.
กระจู๋กระจี๋ กระจู๋กระจี๋ ก. พูดกันเบา ๆ ด้วยอาการสนิทสนม, จู๋จี๋ ก็ว่า.<2t>ว. อาการที่พูดกันเบา ๆ ด้วยความสนิทสนม,จู๋จี๋ ก็ว่า.
กระจูด กระจูด น. ชื่อไม้ล้มลุกชนิด Lepironia articulata (Retz.) Domin ในวงศ์ Cyperaceae ลําต้นกลม ภายในกลวง และมีเยื่ออ่อนหยุ่นคั่นเป็นข้อ ๆ ใช้สานเสื่อหรือกระสอบ. (เทียบมลายู kerchut).
กระเจอะกระเจิง,กระเจิดกระเจิง กระเจอะกระเจิง, กระเจิดกระเจิง ว. แตกหมู่เพ่นพ่านไป, เตลิดไป, เช่น เฒ่าก็เที่ยวสัญจรกระเจอะกระเจิง. (ม. ร่ายยาว ชูชก), กองทัพข้าศึกถูกตีแตกกระเจิดกระเจิงไป.
กระเจา กระเจา น. (๑) ชื่อไม้ล้มลุกหลายชนิดในสกุล Corchorus วงศ์ Tiliaceae ขึ้นอยู่ในที่ลุ่ม เปลือกต้นเหนียว เมื่อลอกออกแล้ว เรียกว่า ปอ เช่น ปอกระเจาฝักกลม (C. capsularis L.) ผลป้อม เปลือกย่นเป็นตุ่ม ๆ ใบใช้เป็นอาหารได้, พายัพเรียก เส้ง, และปอกระเจาฝักยาว (C. olitorius L.) ฝักยาวเรียวมีสันตามยาว, เมล็ดของปอทั้ง ๒ ชนิดนี้มีพิษ ปอใช้ทํากระสอบ.<2t>(๒) ชื่อไม้ต้นขนาดใหญ่ชนิดหนึ่ง. (ดู กระเชา).
กระเจ่า,กระเจ้า,กระเจ้า ๑ กระเจ่า, กระเจ้า ๑ (ถิ่น) น. นกยาง เช่น กระจาบกระเจ้าจับ ซ้องศัพทอึงอล.
กระเจ้า,กระเจ้า ๒ กระเจ้า ๒ (ถิ่น-พายัพ, ปักษ์ใต้) น. ต้นกระเชา. (ดู กระเชา).
กระเจาะ,กระเจาะ ๑ กระเจาะ ๑ ว. มีแผลเป็นที่ลูกตา เรียกว่า ตากระเจาะ.
กระเจาะ,กระเจาะ ๒ กระเจาะ ๒ น. เบี้ยเล็ก ๆ. (ปาเลกัว).
กระเจิง กระเจิง ว. เลยไป, หลงไป, แตกจากหมู่ไป, นิยมใช้เข้าคู่กับคํา กระเจอะ กระเจิด เป็น กระเจอะกระเจิง กระเจิดกระเจิง.
กระเจิดกระเจิง กระเจิดกระเจิง ว. แตกหมู่เพ่นพ่านไป, เตลิดไป, เช่น กองทัพข้าศึกถูกตีแตกกระเจิดกระเจิงไป. (ดู กระเจอะกระเจิง).
กระเจี้ยง กระเจี้ยง น. ชื่อกล้วยไม้อิงอาศัยชนิด Epigeneium amplum (Lindl.) Summerh. ในวงศ์ Orchidaceae ดอกใหญ่ ทั้งกลีบนอกและกลีบในสีเหลืองประแดง, เอื้องศรีเที่ยง ก็เรียก.
กระเจี๊ยบ กระเจี๊ยบ น. ชื่อไม้ล้มลุกชนิด Abelmoschus esculentus (L.) Moench ในวงศ์ Malvaceae ผลสีเขียว ยาวประมาณ ๑๒ เซนติเมตร ใช้เป็นผัก, กระเจี๊ยบมอญ มะเขือทวาย หรือ มะเขือมอญ ก็เรียก.
กระเจี๊ยบเปรี้ยว กระเจี๊ยบเปรี้ยว น. ชื่อไม้ล้มลุกชนิด Hibiscus sabdariffa L. ในวงศ์ Malvaceae เปลือกต้นมีปอเหนียวทนทาน ผลสีแดง ใช้ทําแยม, กระเจี๊ยบแดง ก็เรียก, พายัพเรียก เกงเขง หรือ เกงเคง.
กระเจียว กระเจียว น. ชื่อไม้ล้มลุกชนิด Curcuma sessilis Gage ในวงศ์ Zingiberaceae ลักษณะคล้ายต้นกระชาย มีหัวใต้ดิน ขณะออกดอกไม่มีใบ ช่อดอกเป็นช่อตั้ง ดอกสีขาว อยู่ระหว่างกาบสีขาวปลายสีม่วง ใช้ประกอบอาหารได้, พายัพเรียก อาวแดง.
กระเจี๊ยว กระเจี๊ยว (ปาก) น. อวัยวะสืบพันธุ์เด็กชายเล็ก ๆ, เจี๊ยว หรือ อ้ายเจี๊ยว ก็ว่า.
กระแจะ,กระแจะ ๑ กระแจะ ๑ น. ผงเครื่องหอมต่าง ๆ ที่ประสมกันสําหรับทาหรือเจิม โดยปรกติมีเครื่องประสม คือไม้จันทน์ แก่นไม้หอม ชะมดเชียง หญ้าฝรั่น.
กระแจะ,กระแจะ ๒ กระแจะ ๒ น. ชื่อไม้ต้นขนาดเล็กชนิด Naringi crenulata (Roxb.) Nicolson ในวงศ์ Rutaceae ขึ้นในป่าเบญจพรรณ ต้นและกิ่งมีหนามเปลือกขรุขระสีเทา ดอกเล็กสีขาวเป็นช่อสั้น ยาวประมาณ ๒ เซนติเมตร กลิ่นหอมอ่อน ท่อนไม้ฝนกับนํ้าใช้เป็นเครื่องประทิ่นผิว รากใช้ทํายา, กะแจะ ขะแจะ ตุมตัง หรือ พญายา ก็เรียก.
กระแจะ,กระแจะ ๓ กระแจะ ๓ น. ชื่อรูปปลอกเหล็กสําหรับจับช้างดุ ทางปลายสัณฐานปากเปิดอย่างคีมคีบเบ้าทองเหลือง มีกําลังหดตัวให้ปลายจดเข้าหากันได้ ที่ริมปากมีงาแซงทําด้วยเหล็กปลายแหลมข้างละอัน ที่โคนปลอกมีที่สําหรับสวมคันไม้ไผ่ที่ทะลวงให้กลวง ร้อยเชือกซึ่งผูกจากปลอกลอดออกมาจากคันไม้ ใช้สําหรับพุ่งเข้าไปเกาะขาช้างข้างใดข้างหนึ่งไว้ เมื่อเกาะได้แล้ว โรยปลายไปผูกกับขอนไม้ไว้เพื่อช้างจะได้ลาก ช้างกําลังดุก็ลากไป งาแซงก็จะฝังลึกเข้าไปทุกทีจนไม่สามารถจะก้าวขาได้ ก็เป็นอันจับได้; (ถิ่น-พายัพ) โซ่หรือกำไลเหล็กที่ทำเป็นปลอกสวมเท้าหน้าช้างทั้งคู่ให้ชิดกัน เพื่อมิให้ช้างเดินได้เร็วจนไกลถิ่นเกินควร ใช้เมื่อปล่อยช้างให้หากินในป่า.
กระโจน กระโจน ก. กระโดดพุ่งไปโดยเร็ว, เผ่นข้ามไป, โจน ก็ว่า.
กระโจม,กระโจม ๑ กระโจม ๑ น. สิ่งที่ตามปรกติมียอดเป็นลอมอย่างซุ้ม ใช้เป็นเครื่องกําบังแดดลมเป็นต้น, โดยปริยายหมายถึง (๑) สิ่งที่รวมกันเข้าเป็นลอม เช่น กระโจมปืน.<2t>(๒) สิ่งที่ผูกรวบยอดให้รวมกัน เช่น ปากผูกกระโจม.<2t>(๓) ผ้าที่ทําเป็นลอมเพื่อเข้าไปอยู่ให้เหงื่อออก เช่น เข้ากระโจม; กูบที่มีด้านเปิดโล่ง ๔ ด้าน, โจม ก็ว่า; (ถิ่น) เครื่องสวมศีรษะอย่างหนึ่ง เช่น กระจอนหูแปงประดับแก้วเครื่องเลิศอุดมกระโจมคำสุบเก้าเกษ. (ม. ภาคอีสาน นครกัณฑ์).
กระโจม,กระโจม ๒ กระโจม ๒ ก. โถมเข้าไป เช่น ไม่ได้ทีอย่ากระโจมเข้าโรมรัน. (รามเกียรติ์ ร. ๒); ข้ามลําดับไป ในความว่า กินข้าวต้มกระโจมกลาง.
กระโจมกระจาม กระโจมกระจาม ก.พรวดพราดอย่างลุกลน (เป็นคําใช้ในทางที่ติ).
กระโจมทอง กระโจมทอง น. เครื่องกันแดดและฝนเปิดโล่ง ๔ ด้าน อยู่บนสัปคับหลังช้างพระที่นั่ง เขียนลายปิดทองรดน้ำ.
กระโจมไฟ กระโจมไฟ น. หอสูงซึ่งตามไฟฉายแสงอย่างแรงไว้บนยอดเพื่อใช้บอกสัญญาณในการเดินเรือเป็นต้น, ประภาคาร หรือ เรือนตะเกียง ก็เรียก.
กระโจมอก กระโจมอก ก. นุ่งผ้าสูงปิดอก.<2t>ว. อาการที่นุ่งผ้าสูงปิดอก ในความว่า นุ่งผ้ากระโจมอก.
กระฉง กระฉง น. ชื่อแมลงประเภทมวนพวกหนึ่ง ดูดกินเมล็ดอ่อนบนรวงข้าว ทําให้ข้าวลีบ ลําตัวแคบยาวประมาณ ๑.๕ เซนติเมตร สีนํ้าตาล, ในสกุล Leptocorisa วงศ์ Alydidae มี ๕-๖ ชนิดด้วยกัน ที่สําคัญ ได้แก่ ชนิด L. varicornis และชนิด L. acuta, ฉง สิง หรือ สิงห์ ก็เรียก.
กระฉอก กระฉอก ก. อาการที่ของเหลวเช่นนํ้าเป็นต้นในภาชนะกระเพื่อมอย่างแรงเพราะความสั่นสะเทือน.<2t>ว. แหว่ง, เว้า, (ใช้กับลักษณะของผม), ฉอก ก็เรียก.
กระฉอกกระแฉก กระฉอกกระแฉก (ปาก) ก. กระฉอก, กระเพื่อมออกมา.
กระฉ่อน กระฉ่อน ว. อื้อฉาว, แพร่สนั่นไป, อึงไปทั่ว.
กระฉับกระเฉง กระฉับกระเฉง ว. คล่องแคล่ว, กระปรี้กระเปร่าเหมาะแก่การ, ตรงข้ามกับ เงื่องหงอย, เฉื่อยชา.
กระฉิ่ง กระฉิ่ง น. เครื่องเข้ากระบวนแห่ของหลวงชนิดหนึ่ง. (ดู กรรชิง).
กระฉีก กระฉีก น. ของหวานทําด้วยมะพร้าวทึนทึกขูด กวนกับนํ้าตาลปึกให้เข้ากัน อบด้วยควันเทียนให้หอม ใช้เป็นไส้หรือหน้าขนม เรียกว่า หน้ากระฉีก เช่น ขนมใส่ไส้ มีไส้เป็นหน้ากระฉีก ข้าวเหนียวหน้ากระฉีก.
กระฉูด กระฉูด ก. พุ่งออกโดยแรง (ใช้แก่ของเหลว) เช่น น้ำกระฉูด; ไสไปโดยแรง เช่น ช้างกระฉูดเท้า. (เทียบ ข. กญฺฌูส ว่า เตะดิน, ตะกุยดิน, เตะไสดินให้ฝุ่นฟุ้ง).
กระเฉก กระเฉก ว. เขยก. (ปาเลกัว).
กระเฉง,-กระเฉง -กระเฉง ใช้เข้าคู่กับคํา กระฉับ เป็น กระฉับกระเฉง.
กระเฉด กระเฉด น. ชื่อไม้นํ้าชนิด Neptunia oleracea Lour. ในวงศ์ Leguminosae ขึ้นลอยอยู่ในนํ้า ลําต้นอ่อนอุ้มน้ำ มีปลอกเป็นปุยขาว ๆ เป็นทุ่น เรียกว่านม ใบย่อยเล็กเมื่อถูกสัมผัสก็หุบราบไป ดอกเหลืองเล็กออกชิดกันเป็นก้อนกลม ลําต้นและใบใช้เป็นอาหารได้, คำสุภาพเรียกว่า ผักรู้นอน, พายัพเรียก ผักหนอง.
กระแฉก,-กระแฉก -กระแฉก ใช้เข้าคู่กับคํา กระฉอก เป็น กระฉอกกระแฉก.
กระแฉ่น กระแฉ่น (โบ) ก. ดังสนั่น เช่น ฟ้ากระแฉ่นเรือนผยองช่วยดู. (แช่งนํ้า).
กระโฉกกระเฉก กระโฉกกระเฉก ว. โขยกเขยก. (ปาเลกัว).
กระโฉม กระโฉม น. ชื่อไม้ล้มลุกชนิด Limnophila rugosa Merr. ในวงศ์ Scrophulariaceae ชอบขึ้นในที่ชื้นแฉะ ลําต้นและกิ่งอวบน้ำ สีม่วง ใบรูปไข่ ค่อนข้างหนา ด้านล่างมีขน ขอบหยักห่าง ๆ ก้านใบแบน ๆ โคนก้านโอบกิ่งหรือลําต้น ดอกเล็ก ๆ สีม่วงแกมชมพู กลางเหลือง ออกเป็นกระจุกที่ง่ามใบหรือปลายกิ่ง ทุกส่วนของไม้นี้มีกลิ่นหอม ใช้เป็นอาหาร และใช้ทํายาได้, ผักโฉม ก็เรียก เช่น ผักโฉมชื่อเพราะพร้อง เป็นโฉมน้องฤๅโฉมไหน. (เห่เรือ).
กระชง กระชง (โบ) ว. งง, ชะงัก, ประหม่า, เช่น นอนกระชงใจคราง ครั่นแค้น. (นิ. ตรัง), ภาษาถิ่นปักษ์ใต้ใช้ว่า ชง.
กระชดกระช้อย กระชดกระช้อย ว. ชดช้อย.
กระชวย,-กระชวย -กระชวย ใช้เข้าคู่กับคํา กระชุ่ม เป็น กระชุ่มกระชวย.
กระชอก กระชอก (โบ; กลอน) ก. กระฉอก เช่น กระชอกชอกชล กระมลมลมาลย์. (ประชุมหนังสือเก่า ภาค ๒). (ไทยเหนือ ซอก ว่า ตำ, กระทุ้ง).
กระชอน,กระชอน ๑ กระชอน ๑ น. เครื่องกรอง โดยปรกติสานด้วยผิวไม้ไผ่ ใช้กรองกะทิเป็นต้น.
กระชอน,กระชอน ๒ กระชอน ๒ น. ชื่อแมลงชนิด Gryllotalpa orientalis ในวงศ์ Gryllotalpidae ลําตัวยาว ขนาดย่อมกว่านิ้วก้อยเล็กน้อย สีนํ้าตาล ปีกสั้น บินได้ในระยะใกล้ ขาคู่หน้าสั้นแบน รูปร่างคล้ายอุ้งมือ ปลายมีหนามแข็ง ใช้ขุดดิน อาศัยอยู่ในดิน กินรากพืชและแมลงเล็ก ๆ.
กระชอม กระชอม (โบ) ว. มาก, ใหญ่, เช่น ผักกาดกองกระชอมก็มี. (ม. คําหลวง มหาพน).
กระชอมดอก กระชอมดอก น. ดอกไม้เพศผู้ของพรรณไม้เลื้อย เช่น ฟักทอง บวบ ซึ่งเรียกกันว่า ดอกถวายพระ.
กระช้อย กระช้อย ว. ชดช้อย เช่น ดูเราะรายเรียบร้อยกระช้อยชด. (นิ. เดือน), และใช้เข้าคู่กับคํา กระชด เป็น กระชดกระช้อย.
กระช้อยนางรำ กระช้อยนางรำ น. ชื่อไม้พุ่มชนิด Codariocalyx motorius Ohashi ในวงศ์ Leguminosae ใบเป็นใบประกอบ มีใบย่อย ๓ ใบ ใบคู่ล่างเล็กกว่าและกระดิกไหวไปมาได้, ช้อยนางรํา ช้อยช่างรํา หรือ นางรํา ก็เรียก.
กระชัง,กระชัง ๑ กระชัง ๑ น. บังสาดที่ปิดและเปิดได้. (เทียบ ช. กระรันชัง = กระจาด).
กระชัง,กระชัง ๒ กระชัง ๒ น. เครื่องสําหรับขังปลาชนิดหนึ่ง ใช้ไม้ไผ่ทําเป็นกง ๔ อัน แล้วผูกด้วยซี่ไม้ไผ่โดยรอบ รูปกลม หัวท้ายเรียว ตอนบนเจาะเป็นช่อง มีฝาปิด ใช้ไม้ขัดฝา ๒ ข้าง ใช้ไม้ไผ่กระหนาบเพื่อให้ลอยได้ ในขณะออกไปจับปลาตามกรํ่า เมื่อจับปลาหรือกุ้งได้ก็เอาใส่ไว้ในนั้นชั่วคราว, อีกชนิดหนึ่ง สานด้วยไม้ไผ่ มีปากเปิดกว้างคล้าย ๆ ตะกร้าหรือเข่งใส่ของ แต่ใหญ่กว่ากระชังชั่วคราวนั้นหลายเท่า เป็นที่สําหรับจับปลาขนาดใหญ่มาขังไว้หรือเลี้ยงลูกปลาให้โตตามที่ต้องการ เพื่อบริโภคหรือค้าขาย และเอากระชังนี้ผูกติดหลักแช่ลอยนํ้าไว้.
กระชัง,กระชัง ๓ กระชัง ๓ (โบ) น. นํ้าปัสสาวะแห่งทารก, นํ้าครํ่า, เขียนเป็น กะชัง ก็มี. (มิวเซียม).
กระชังหน้าใหญ่ กระชังหน้าใหญ่ (สํา) ว. จัดจ้าน, ออกหน้ารับเสียเอง, เช่น แม่กระชังหน้าใหญ่.
กระชั้น กระชั้น ว. ใกล้ชิด (เข้ามา) (ใช้แก่เวลาหรือเหตุการณ์) เช่น เวลากระชั้นเข้ามา ขี่ม้าขับกระชั้นมา, เร่งเข้า เช่น ไก่ขันกระชั้นเสียง, นิยมใช้เข้าคู่กับคํา กระโชก เป็น กระโชกกระชั้น.
กระชับ,กระชับ ๑ กระชับ ๑ น. ชื่อไม้ล้มลุกชนิด Xanthium strumarium L. ในวงศ์ Compositae มักขึ้นเป็นวัชพืชในทุ่งนาและริมนํ้า ลําต้นและใบคาย ใบมนเว้า ขอบจัก โคนใบแหลม ดอกเล็กรวมเป็นกระจุก ผลรี ยาวประมาณ ๑ เซนติเมตร มีหนามปลายงอทั่วทั้งผล รากหอมอ่อน ๆ ใช้อบผ้าได้ บางส่วนของไม้นี้ใช้เป็นยาได้ แต่ทั้งต้นเป็นพิษต่อปศุสัตว์, ขี้ครอก หรือ ขี้อ้น ก็เรียก.
กระชับ,กระชับ ๒ กระชับ ๒ ก. แน่น, แนบแน่น, แนบกันสนิท, พอเหมาะ, แต่มีความหมายบอกว่า มีลักษณะที่ยิ่งขึ้นหรือทีเดียว เช่น กระชับแน่น กระชับตัว กระชับความ กระชับมือ. (ข. ขฺชาบ่).
กระชาก กระชาก ก. ฉุดโดยแรง, กระตุกโดยแรง, ชักเข้ามาโดยเร็วและแรง, โดยปริยายหมายความว่า พูดกระตุกเสียงดังห้วน ๆ เช่น พูดกระชากเสียง, นิยมใช้เข้าคู่กับคํา กระโชก เป็น กระโชกกระชาก.
กระช่าง กระช่าง (โบ) ว. กระจ่าง เช่น เวหาเห็นกระช่าง. (ม. คําหลวง กุมาร), กระซ่าง ก็ว่า.
กระชาเดิม กระชาเดิม (โบ) น. ร้านหรือเรือที่ขายเครื่องหอมต่าง ๆ มีแป้งและนํ้าหอมเป็นต้น.
กระชาย กระชาย น. ชื่อไม้ล้มลุกชนิด Boesenbergia rotunda (L.) Mansf. ในวงศ์ Zingiberaceae สูงประมาณ ๖๐ เซนติเมตร มีลําต้นอยู่ใต้ดินเป็นหัวกลม ๆ มีรากสะสมอาหาร ซึ่งเรียวยาว อวบนํ้า ออกเป็นกระจุก ใช้เป็นผักและเป็นเครื่องปรุงประกอบอาหาร, พายัพเรียก กะแอน หรือ ละแอน.
กระชิง กระชิง น. เครื่องเข้ากระบวนแห่ของหลวงชนิดหนึ่ง เช่น กระชิงหุ้มผ้าแดงได้แต่หลานหลวงอยู่ในวัง อยู่นอกวังกระชิงหุ้มผ้าขาวเลว. (กฎมนเทียรบาล). (ดู กรรชิง).
กระชิด,กระชิด ๑ กระชิด ๑ ว. ชิดทีเดียว เช่น ว่องไวไล่กระชิดติดพัน. (รามเกียรติ์ ร. ๒).
กระชิด,กระชิด ๒ กระชิด ๒ (ถิ่น-ปักษ์ใต้) น. ต้นข่อยหนาม. (ดู ข่อยหนาม).
กระชุ,กระชุ ๑ กระชุ ๑ น. ภาชนะสานรูปกลมสูง สําหรับบรรจุของ เช่นนุ่นหรือถ่าน, กระชุก ก็ว่า.
กระชุ,กระชุ ๒ กระชุ ๒ น. ต้นกระทุ. (ดู กระทุ).
กระชุก,กระชุก ๑ กระชุก ๑ น. ภาชนะสานรูปกลมสูง สําหรับบรรจุของเช่นนุ่นหรือถ่าน, กระชุ ก็ว่า; อัตราตวงของโบราณ มีพิกัดเท่ากับ ๕ สัด, และ ๔ กระชุก เป็น ๑ ตะลอง.
กระชุก,กระชุก ๒ กระชุก ๒ น. ภาชนะสานรูปฟักผ่าตามยาว ใช้สอดลงในเกวียน สําหรับใส่ข้าวเปลือกเป็นต้น, สามชุก ก็เรียก.
กระชุน กระชุน ดู กระทุน.
กระชุ่มกระชวย กระชุ่มกระชวย ว. มีผิวพรรณสดใสหรือมีอาการกระปรี้กระเปร่า.
กระเชอ กระเชอ น. ภาชนะสานคล้ายกระจาดขนาดเล็ก แต่สูงกว่า ก้นสอบ ปากกว้าง ใช้กระเดียด; อัตราตวงของโบราณ มีพิกัดเท่ากับ ๕ ทะนาน, และ ๕ กระเชอ เป็น ๑ สัด, กันเชอ ก็เรียก. (เทียบ ข. กญฺเชิ).
กระเชอก้นรั่ว กระเชอก้นรั่ว (สํา) ว. สุรุ่ยสุร่าย, ไม่รู้จักเก็บหอมรอมริบ, ขาดการประหยัด.
กระเชา กระเชา น. ชื่อไม้ต้นผลัดใบขนาดใหญ่ชนิด Holoptelea integrifolia (Roxb.) Planch. ในวงศ์ Ulmaceae ขึ้นอยู่ทั่วไป ผลแบนบางเป็นปีกโดยรอบ เนื้อไม้สดสีเหลืองมะนาว เมื่อแห้งเป็นสีนวล แข็งพอประมาณ ใช้ในการก่อสร้างที่ไม่ต้องรับนํ้าหนักมากนัก ทําเครื่องเรือน แกนร่ม ก้านและกล่องไม้ขีดไฟ, บางทีเรียก กระเจา, พายัพและปักษ์ใต้เรียก กระเจ้า ขจาว หรือ ขเจา.
กระเช้า กระเช้า น. ภาชนะสานมีหูเป็นวงโค้งขึ้นไปสําหรับหิ้ว.
กระเช้าผีมด กระเช้าผีมด น. (๑) ชื่อไม้เถาชนิด Aristolochia tagala Cham. ในวงศ์ Aristolochiaceae ผลเมื่อแก่ตอนโคนแยกออกเป็น ๖ สาย คล้ายสาแหรก รากใช้ทํายาได้.<2t>(๒) ชื่อไม้พุ่มอิงอาศัยชนิด Hydnophytum formicarium Jack ในวงศ์ Rubiaceae ชอบเกาะไม้ต้นในป่าดิบชื้นใกล้ฝั่งทะเล ลําต้นทรงกลมอวบนํ้า มีรูพรุนภายในเป็นที่อาศัยของมด ส่วนที่เป็นรูพรุนใช้ทํายาได้, หัวร้อยรู ก็เรียก.
กระเช้าสวรรค์ กระเช้าสวรรค์ น. อุปกรณ์เพื่อความเพลิดเพลินชนิดหนึ่ง มักมีตามสวนสนุกและในงานเทศกาลต่าง ๆ ประกอบด้วยล้อโลหะขนาดใหญ่คู่ขนานกัน หมุนด้วยแรงกลในแนวตั้งรอบแกนที่ติดอยู่กับที่ มีที่นั่งในกระเช้าโลหะซึ่งห้อยติดอยู่เป็นช่วงระหว่างโครงของล้อทั้ง๒, ชิงช้าสวรรค์ ก็ว่า.
กระเช้าสีดา กระเช้าสีดา น. ชื่อไม้เถาชนิด Aristolochia indica L. ในวงศ์ Aristolochiaceae ผลคล้ายผลกระเช้าผีมด (๑) แต่ขนาดใหญ่กว่า รากใช้ทํายาได้.
กระเชียง กระเชียง น. เครื่องพุ้ยนํ้าให้เรือเดิน รูปคล้ายแจว มีหลักสําหรับพาด ใช้เหนี่ยว; อาการที่พุ้ยเช่นนั้น เรียกว่า ตีกระเชียง, กรรเชียง ก็ว่า.
กระเชียงปู กระเชียงปู ดู กรรเชียงปู.
กระแชง กระแชง น. เครื่องบังแดดฝน โดยนําใบเตยหรือใบจากเป็นต้นมาเย็บเป็นแผง, ลักษณนามว่า ผืน (เทียบมลายู กระชัง = แผงสำหรับคลุมเรือหรือรถ เย็บด้วยใบไม้); เชือกหนังสําหรับติดกับสายรัดประโคนของช้าง แต่มักติดเบื้องท้ายสันหลัง เพื่อควาญช้างจับในเวลาคับขัน; เชือกบาศสําหรับคล้องช้าง; ชื่อเรือบรรทุกชนิดหนึ่ง เล็กกว่าเรือเอี้ยมจุ๊น ท้องเรือกลมป้อม ใช้กระแชงทําเป็นประทุน เรียกว่า เรือกระแชง.
กระแชะ กระแชะ (กลอน) ก. กระแซะ เช่น แกล้งทำเลียมและกระแชะชิด สะบิ้งสะบัดดัดจริตกิริยา. (คาวี).
กระโชก กระโชก ว. กระแทกเสียง เช่น พูดกระโชก เห่ากระโชก; ทําให้กลัว, ทําให้ตกใจ, เช่น ขู่กระโชก, กระแทก เช่น ม้าก็กระโชกวิ่งหนักเข้า. (ประวัติ. จุล), ลมกระโชกแรง. (ประพาสมลายู).
กระโชกกระชั้น กระโชกกระชั้น ว. อาการพูดกระแทกเสียงถี่ ๆ.
กระโชกกระชาก กระโชกกระชาก ว. อาการพูดอย่างตวาดหรืออย่างกระแทกเสียง.
กระโชกโฮกฮาก กระโชกโฮกฮาก ว. อาการพูดกระชากเสียงหรือพูดกระแทกเสียงซึ่งไม่น่าฟัง, โฮกฮาก ก็ว่า.
กระซวย กระซวย (ถิ่น) น. กรวย เช่น กระซวยหมากพลู.
กระซวย,-กระซวย -กระซวย ใช้เข้าคู่กับคํา กระซิก เป็น กระซิกกระซวย.
กระซ้อ,-กระซ้อ -กระซ้อ ใช้เข้าคู่กับคํา กระซี้ เป็น กระซี้กระซ้อ.
กระซ่องกระแซ่ง กระซ่องกระแซ่ง ว. กระย่องกระแย่ง, ซ่องแซ่ง ก็ว่า.
กระซับ กระซับ น. ชื่อพนักงานพวกหนึ่งในเรือเดินทะเล มีหน้าที่รักษาพัสดุตลอดจนสินค้าทั่วไปในระวางเรือด้วย เรียกเต็มว่า กระซับปากเรือ.
กระซ่าง กระซ่าง (โบ) ว. กระจ่าง เช่น กระซ่างฟ้าเห็นกัน. (ม. คําหลวง สักบรรพ), กระช่าง ก็ว่า.
กระซาบ กระซาบ (กลอน) ก. พูดเบา ๆ เช่น ค่อยกระซาบคําเกลี้ยง. (ลอ), นิยมใช้เข้าคู่กับคํา กระซิบ เป็น กระซิบกระซาบ.
กระซิก,กระซิก ๑ กระซิก ๑ ก. ค่อยเบียดเข้าไป.
กระซิก,กระซิก ๒ กระซิก ๒ น. ชื่อไม้พุ่มรอเลื้อยชนิด Dalbergia parviflora Roxb. ในวงศ์ Leguminosae มีทางปักษ์ใต้ เนื้อไม้สีแดงคลํ้าคล้ายไม้ชิงชัน, ครี้ หรือ สรี้ ก็เรียก.
กระซิก ๆ กระซิก ๆ ว. อาการที่ร้องไห้ค่อย ๆ.
กระซิกกระซวย กระซิกกระซวย ก. ค่อยกระแซะเข้าไป เช่น เจ้าก็ระรี่ระริกกระซิกกระซวย. (ม. ร่ายยาว ชูชก).
กระซิกกระซี้ กระซิกกระซี้ ก. หัวเราะเย้าหยอกกัน, ระริก, ซิกซี้ ก็ว่า.
กระซิบ กระซิบ ก. พูดเสียงเบา ๆ เพื่อไม่ให้ผู้อื่นได้ยิน, นิยมใช้เข้าคู่กับคํา กระซุบ เป็น กระซุบกระซิบ.
กระซิบกระซาบ กระซิบกระซาบ ก. บอกความหรือคุยกันด้วยเสียงเบา ๆ เพื่อไม่ให้ผู้อื่นได้ยิน.
กระซี้,-กระซี้ -กระซี้ ใช้เข้าคู่กับคํา กระซิก และ กระเซ้า เป็น กระซิกกระซี้ และ กระเซ้ากระซี้.
กระซี้กระซ้อ กระซี้กระซ้อ ว. อาการที่พูดสนิทชิดเชื้อเพื่อความเสน่หา.
กระซุง กระซุง น. พนักงาน, ตําแหน่ง. (พจน). (เทียบ กระทรวง).
กระซุบกระซิบ กระซุบกระซิบ ก. พูดกันเบา ๆ.
กระซุ้ม กระซุ้ม น. ซุ้ม.
กระซู่ กระซู่ น. ชื่อแรดชนิด Dicerorhinus sumatrensis ในวงศ์ Rhinocerotidae มี ๒ นอ ขนดกกว่าแรดชนิดอื่น เป็นแรดขนาดเล็กที่สุด.
กระเซ,-กระเซ -กระเซ ใช้เข้าคู่กับคํา กระโซ เป็น กระโซกระเซ.
กระเซ็น กระเซ็น ก. อาการที่ของเหลวเช่นนํ้าเป็นต้นกระเด็นเป็นฝอย.
กระเซอ กระเซอ ว. เซ่อเซอะ, เร่อร่า, เช่น ผัวเขาจริง ๆ วิ่งกระเซอ. (รามเกียรติ์ พลเสพย์), นิยมใช้เข้าคู่กับคํา กระเซอะ เป็น กระเซอะกระเซอ.
กระเซอะกระเซอ กระเซอะกระเซอ ก. เซ่อเซอะ เช่น ชังนํ้าหน้าบ้าเคอะกระเซอะกระเซอ. (คาวี).
กระเซอะกระเซิง กระเซอะกระเซิง ว. อาการที่ซัดเซไปโดยไม่มีที่มุ่งหมายว่าจะไปแห่งไร.
กระเซ้า กระเซ้า ก. พูดรบเร้า, พูดเย้าแหย่.
กระเซ้ากระซี้ กระเซ้ากระซี้ ก. พูดรบเร้ารํ่าไรเพื่อให้ได้ตามที่ต้องการ, เซ้าซี้ ก็ว่า.
กระเซิง กระเซิง ว. ยุ่งเหยิง, รุงรัง, เช่น ผมเป็นกระเซิง, เซิง ก็ว่า.
กระเซิง,-กระเซิง -กระเซิง ใช้เข้าคู่กับคํา กระเซอะ เป็น กระเซอะกระเซิง.
กระแซ,กระแซ ๑ กระแซ ๑ น. คนเชื้อสายชาวอินเดียเมืองมณีปุระ (เมืองหนึ่งในแคว้นอัสสัม).
กระแซ,กระแซ ๒ กระแซ ๒ น. ชื่อเรือพายชนิดหนึ่งอยู่ในกระบวนเรือรบหลวง เรียกว่า เรือกระแซ.
กระแซง กระแซง น. เชือกหรือลวดหนังตีเป็นเกลียวหุ้มผ้าแดง ปลายสายทั้ง ๒ ข้างผูกกับสายสำอางคร่อมอยู่ทางท้ายสันหลังช้าง สำหรับควาญช้างจับเมื่อเวลาคับขัน, กระแอก หรือ ประแอก ก็เรียก.
กระแซะ กระแซะ ก. ขยับกระทบเข้าไป เช่น ขยับตัวกระแซะเข้าไป พูดเลียบเคียงกระแซะเข้าไป.
กระโซกระเซ กระโซกระเซ ว. โซ ๆ เซ ๆ.
กระฎี กระฎี น. เรือนหรือตึกสำหรับพระภิกษุสามเณรอยู่. (แผลงมาจาก กุฎี).
กระฎุมพี กระฎุมพี น. ชนชั้นตํ่า, นิยมใช้เข้าคู่กับคำ ไพร่ เป็น ไพร่กระฎุมพี. (ป. กุฎุมฺพิก ว่า คนมั่งมี).
กระดก,กระดก ๑ กระดก ๑ ก. ทําให้ปลายข้างหนึ่งยกสูงขึ้น, เผยอขึ้นข้างหนึ่ง.
กระดก,กระดก ๒ กระดก ๒ (โบ; กลอน) ก. ตระหนก, กลัว, เช่น ก็กระดกตกใจกลววแก่มรณภยานตราย. (ม. คําหลวง ชูชก).
กระดกกระดนโด่ กระดกกระดนโด่ (ปาก) ก. ตั้งอยู่อย่างไม่เรียบร้อย, ท่าทางเก้กังไม่เรียบร้อย.
กระด้ง กระด้ง น. ภาชนะรูปแบน ขอบกลม สําหรับฝัดข้าวเป็นต้น, ถ้าขนาดใหญ่ เรียกว่า กระด้งมอญ, ถ้ามีตาห่าง เรียกว่า ตะแกรง.
กระดนโด่,-กระดนโด่ -กระดนโด่ ใช้เข้าคู่กับคํา กระดก เป็น กระดกกระดนโด่.
กระดวง กระดวง (ปาก; เพี้ยนมาจาก กราดวง) น. ลูกมะพร้าวทุยที่ตัดครึ่งท่อน สําหรับถูพื้นบ้านหรือหวีด้ายทอหูก.
กระดวน กระดวน (ปาก; เพี้ยนมาจาก ประดวน) ก. ยอน, แยง.
กระด้วมกระเดี้ยม กระด้วมกระเดี้ยม ว. กระต้วมกระเตี้ยม.
กระดอ กระดอ น. อวัยวะสืบพันธุ์ของชายหรือสัตว์เพศผู้บางชนิด.
กระดอง กระดอง น. ส่วนแข็งที่หุ้มตัวสัตว์บางชนิดเช่น เต่า ปู หรือแมงดาทะเล. (ทางเหนือว่า ออง).
กระดองหาย กระดองหาย น. ไม้สําหรับสงฟางในเวลานวดข้าว เช่นด่าตีกันด้วยเคียวไม้กระตักและไม้กระดองหาย. (ลักษณะธรรมนูญ), ดอง ดองหาย ดองฉาย ขอฉาย หรือ คันฉาย ก็เรียก.
กระดอน กระดอน ก. สะท้อนขึ้น.
กระดอม กระดอม น. ชื่อไม้เถาเนื้ออ่อนชนิด Gymnopetalum cochinchinense (Lour.) Kurz ในวงศ์ Cucurbitaceae เถา ๕ เหลี่ยม มีมือจับ ผล ๑๐ เหลี่ยม สุกสีส้ม มีรสขม ใช้ทํายาได้, ขี้กาดง หรือ ขี้กาเหลี่ยม ก็เรียก.
กระดักกระเดี้ย กระดักกระเดี้ย ว. ไม่มีแรง, ขยับเขยื้อนไม่ใคร่ได้, เกือบจะหมดกําลังกาย, เช่น เพิ่งหายไข้ใหม่ ๆ จะลุกจะนั่งก็กระดักกระเดี้ย, ไม่ใคร่ไหว เช่น หากินกระดักกระเดี้ย.
กระดังงัว กระดังงัว ดู การเวก ๓.
กระดังงา กระดังงา น. ชื่อไม้ต้นชนิด Cananga odorata (Lam.) Hook.f. et Thomson ในวงศ์ Annonaceae ดอกหอม กลีบบาง มี ๖ กลีบ ดอกใช้กลั่นนํ้ามันหอมได้, กระดังงาใหญ่ สะบันงา หรือ สะบันงาต้น ก็เรียก. (เทียบมลายู canaga, kananga); พรรณไม้ชนิดนี้มีพันธุ์หนึ่งเป็นไม้พุ่ม ดอกมักมีกลีบมากกว่า ๖ กลีบ หอมอ่อน เรียกว่า กระดังงาสงขลา [Cananga odorata Hook.f. et Thomson var. fruticosa (Craib) J. Sinclair].
กระดังงาจีน กระดังงาจีน น. ชื่อไม้เถาเนื้อแข็งชนิด Artabotrys hexapetalus (L.f.) Bhandari ในวงศ์ Annonaceae ดอกหอมจัด กลีบหนา มี ๖ กลีบ ก้านดอกเป็นขอ, สะบันงาจีน ก็เรียก.
กระดังงาเถา กระดังงาเถา ดู การเวก ๓.
กระดังงาลนไฟ กระดังงาลนไฟ (สํา) น. หญิงที่เคยแต่งงานหรือผ่านผู้ชายมาแล้ว ย่อมรู้จักชั้นเชิงทางปรนนิบัติและเอาอกเอาใจผู้ชายได้ดีกว่าหญิงที่ยังไม่ได้แต่งงาน.
กระดาก,กระดาก ๑ กระดาก ๑ ก. รู้สึกขวยเขิน, วางหน้าไม่สนิท, ตะขิดตะขวงใจไม่กล้าพูดหรือไม่กล้าทําเพราะเกรงจะได้รับความอับอาย.
กระดาก,กระดาก ๒ กระดาก ๒ (กลอน) ก. กระเดาะ, กระดก, เช่น สิ้นทั้งพันปากกระดากลิ้น, สิบปากกระดากลิ้นเคี้ยวฟัน. (รามเกียรติ์ ร. ๑). (อะหม ตาก ว่า กระเดาะปาก).
กระดาก,กระดาก ๓ กระดาก ๓ น. ชื่อไม้ต้นชนิดหนึ่ง เช่น กระดากกระโดนดําดง. (ม. ฉันท์ มหาพน).
กระดากกระเดื่อง กระดากกระเดื่อง ก. สะทกสะเทิ้น, ขวยเขิน.
กระด้าง,กระด้าง ๑ กระด้าง ๑ น. (๑) ชื่อถั่วชนิด Vigna sinensis (L.) Savi ex Hassk. var. cylindrica (L.) Koern. ในวงศ์ Leguminosae เมล็ดคล้ายถั่วดํา แต่สีค่อนข้างแดง ใช้เป็นอาหารได้อย่างถั่วดํา, บางทีเรียก ถั่วนา.<2t>(๒) ชื่อไม้พุ่มชนิด Lasianthus hookeri C.B. Clarke ในวงศ์ Rubiaceae ต้นตรงเรียวและเป็นขนสาก ๆ ใบรูปหอก ปลายแหลม ดอกขาวเล็ก ๆ เป็นกระจุกติดกับลําต้นที่ง่ามใบ ตําราแพทย์แผนโบราณว่ารากใช้ทํายาได้, พายัพเรียก กะด้าง.<2t>(๓) ชื่อเห็ดหลายชนิดในวงศ์ Polyporaceae ขึ้นบนขอนไม้ เนื้อเหนียว กินไม่ได้ เช่น ชนิด Daedaleaopsis confragosa (Bolt. ex Fr.) Schroet. ดอกเห็ดรูปพัด สีน้ำตาลแดงสลับน้ำตาลอ่อน ผิวไม่เรียบ ด้านล่างมีรู เนื้อในเห็ดแข็ง.
กระด้าง,กระด้าง ๒ กระด้าง ๒ น. ชื่องูนํ้าชนิด Erpeton tentaculatum ในวงศ์ Colubridae ลําตัวสีนํ้าตาลและดํา มีหนวดสั้นหุ้มด้วยเกล็ดเล็ก ๆ ๒ เส้น อาศัยตามแหล่งนํ้าจืดทั่วไป มีพิษอ่อนมาก ไม่ปรากฏว่าเป็นอันตรายต่อมนุษย์ ชอบทําตัวแข็งทื่อ จึงเรียกว่า งูกระด้าง.
กระด้าง,กระด้าง ๓ กระด้าง ๓ ว. ค่อนข้างแข็ง หมายถึงสิ่งที่มีลักษณะไม่อ่อน, ไม่นิ่มนวล, เช่น ลิ้นกระด้าง ข้าวกระด้าง; ขัดแข็ง หมายถึง กิริยาวาจาไม่อ่อนตาม เช่น มีกิริยากระด้างขึ้น; เรียกนํ้าที่ฟอกสบู่ไม่เป็นฟองว่า นํ้ากระด้าง.
กระด้างกระเดื่อง กระด้างกระเดื่อง ก. แข็ง เช่น หนึ่งโสดฝุ่นทรายตรึงตรา นอนแนบหินผา กระด้างกระเดื่องทั้งตัว. (ดุษฎีสังเวย).<2t>ว. ไม่อ่อนน้อม, เอาใจออกหากไม่ยอมอ่อนน้อมอย่างเคย.
กระดางลาง กระดางลาง ว. มรรยาทหยาบ, สัปดน, เช่น อ้ายเฒ่าแก่กากกลีกระดางลาง ยังมันนี้ใครเขามีบ้างที่เมืองคน. (ม. ร่ายยาว ชูชก).
กระดาด,กระดาดขาว กระดาด, กระดาดขาว น. ชื่อไม้ล้มลุกชนิด Alocasia indica Schott ในวงศ์ Araceae มีหัวใต้ดิน ต้นคล้ายบอนหรือเผือกแต่ใบมีขนาดใหญ่กว่า ก้านใบตอนล่างเป็นกาบสีเขียว ทั้งต้นใช้ทํายา หัวทําให้สุกแล้วกินได้, เผือกกะลา หรือ เผือกโทป้าด ก็เรียก.
กระดาดดำ กระดาดดำ น. ชื่อไม้ล้มลุก ๒ ชนิดในสกุล Alocasia และ Xanthosoma วงศ์ Araceae คือ ชนิด Alocasia macrorrhizos (L.) G. Don ลักษณะคล้ายกระดาด ใบสีเขียวเข้มหรือม่วงดำ ใช้ทํายาได้, ปึมปื้อ หรือ เอาะลาย ก็เรียก; และชนิด Xanthosoma nigrum (Vell.) Mansf. ใบสีเขียวเข้มหรือม่วง โคนใบเว้าลึกคล้ายหัวลูกศร หัว ใบ และก้านกินได้.
กระดาดแดง กระดาดแดง น. ชื่อไม้ล้มลุกชนิด Alocasia indica Schott var. metallica Schott ในวงศ์ Araceae โคนใบเว้าลึกและห่างไม่มาก ก้านใบสีม่วงแดง กาบหุ้มช่อดอกด้านในสีเหลืองหรือม่วงแดง ใช้ทํายาได้.
กระดาน,กระดาน ๑ กระดาน ๑ น. ไม้ซุงที่เลื่อยออกเป็นแผ่น ๆ; ลักษณนามเรียกการแข่งขันที่เดินบนตากระดานซึ่งถึงที่สุดแล้ว เช่นว่าเล่นหมากรุกชนะ ๒ กระดาน; โดยปริยายหมายถึงสิ่งที่มีลักษณะอย่างกระดาน.
กระดาน,กระดาน ๒ กระดาน ๒ น. ชื่อกุ้งทะเลชนิด Thenus orientalis ในวงศ์ Scyllaridae หัวและลําตัวหุ้มด้วยเปลือกแข็งสีนํ้าตาล ส่วนหัวและหนวดคู่ที่ ๒ แบน แพนหางแผ่ราบได้กว้าง ปรกติงอพับอยู่ใต้ส่วนท้อง อาศัยอยู่ตามพื้นทะเล พบทั่วไปขนาดยาวได้ถึง ๒๐ เซนติเมตร มักเรียกกันทั่วไปว่า กั้งกระดาน.
กระดานชนวน กระดานชนวน น. กระดานทําด้วยแผ่นหินชนวนบ้าง ทำด้วยไม้ทาสมุกบ้าง สําหรับเขียนหนังสือ.
กระดานชัย กระดานชัย น. ชื่อการออกถั่วใหญ่ ๓ ครั้งแรก.
กระดานดำ กระดานดำ น. กระดานใหญ่ มักทาสีดำ ใช้เป็นอุปกรณ์การสอนการเรียน.
กระดานโต้คลื่น กระดานโต้คลื่น น. กระดานที่มีลักษณะแคบและยาว ใช้เล่นบนคลื่นโดยผู้เล่นยืนทรงตัวบนแผ่นกระดานแล้วให้คลื่นหนุนเคลื่อนไป. (อ. surfboard), เรียกการเล่นเช่นนั้นว่า การเล่นกระดานโต้คลื่น. (อ. surf-riding).
กระดานถีบ กระดานถีบ น. แผ่นกระดานที่ใช้ถีบไปบนเลนเพื่อเก็บหอยปู โดยมากใช้กันในจังหวัดชลบุรี.
กระดานพน กระดานพน ดู กระเบียน (๒).
กระดานพิง กระดานพิง น. แผ่นสําหรับรับหมอนพิงหลังเช่นใช้ที่ธรรมาสน์.
กระดานไฟ กระดานไฟ น. กระดานสําหรับนอนอยู่ไฟเมื่อคลอดบุตรแล้ว.
กระดานลื่น กระดานลื่น น. เรียกกระดานที่ตั้งสูงทอดตํ่าลงไปด้านหนึ่ง ให้เด็กเล่นโดยนั่งไถลตัวลง, ไม้ลื่น ก็เรียก.
กระดานเลียบ กระดานเลียบ น. ไม้กระดานแผ่นเดียวที่ปูไว้หน้าเรือน สําหรับนั่งหรือวางสิ่งของต่าง ๆ, กราบเรือส่วนที่เป็นไม้กระดานที่ติดตรงแคมเรือไปตามแนวนอนสำหรับเดิน.
กระดานหก กระดานหก น. เครื่องดักสัตว์อย่างหนึ่งทําด้วยไม้กระดาน หกได้; เครื่องเล่นสำหรับเด็กอย่างหนึ่ง เป็นแผ่นไม้กระดาน ระหว่างกึ่งกลางความยาวของไม้มีขาซึ่งตรึงติดกับแผ่นไม้ ผู้เล่นนั่งที่ปลายไม้ทั้ง ๒ ข้าง ผลัดกันกระดกไม้กระดานให้ขึ้นลง.
กระดาษ กระดาษ น. วัตถุเป็นแผ่นบาง ๆ โดยมากทําจากใยเปลือกไม้ ฟาง หญ้า หรือ เศษผ้า เป็นต้น ใช้เขียนหรือพิมพ์หนังสือหรือห่อของและอื่น ๆ.
กระดาษแก้ว กระดาษแก้ว น. กระดาษที่มีเนื้อใส.
กระดาษข่อย กระดาษข่อย น. กระดาษที่ทําจากเปลือกข่อย ใช้ทำสมุดไทย.
กระดาษไข กระดาษไข น. กระดาษอาบไขที่ใช้ในการทําแบบ ลวดลาย หรือพิมพ์อัดสําเนาแม่พิมพ์ในการพิมพ์โดยเครื่องอัดสําเนา.
กระดาษเงินกระดาษทอง กระดาษเงินกระดาษทอง น. กระดาษสีเงินสีทองด้านหนึ่งที่คนจีนใช้เผาไฟในพิธีไหว้เจ้าเป็นต้น.
กระดาษซับ กระดาษซับ น. กระดาษที่ทําเนื้อยุ่ย ๆ สําหรับซับหมึกหรือน้ำ.
กระดาษทราย กระดาษทราย น. กระดาษที่มีด้านหนึ่งเป็นเม็ด ๆ อย่างทราย ใช้สําหรับขัดไม้เป็นต้น.
กระดาษเทศ กระดาษเทศ (โบ) น. ตาดเทศ เช่น อันทําด้วยกระดาษเทศทอพราย. (ม. คําหลวง นครกัณฑ์).
กระดาษเพลา กระดาษเพลา [-เพฺลา] น. กระดาษสาชนิดบาง โบราณใช้ร่างหนังสือด้วยดินสอดำหรือใช้ประโยชน์อย่างอื่น เช่น ใช้ปิดหุ่นหัวโขนและหุ่นอื่น ๆ.
กระดาษฟาง กระดาษฟาง น. กระดาษที่ทําจากฟางข้าว เนื้อบางฟ่าม.
กระดาษว่าว กระดาษว่าว น. กระดาษที่ใช้ทําว่าว เป็นกระดาษที่เหนียวและไม่โปร่ง ลมรั่วไม่ได้ เดิมใช้กระดาษที่สั่งมาจากเมืองจีน ต่อมาใช้กระดาษจากญี่ปุ่น.
กระดาษสา กระดาษสา น. กระดาษที่ทําจากเปลือกต้นสา ใช้ทําร่มเป็นต้น.
กระดำกระด่าง กระดำกระด่าง ว. ดํา ๆ ด่าง ๆ, สีไม่เสมอกัน.
กระดิก กระดิก ก. ไหว, ทําปลายอวัยวะเช่นมือหรือเท้าให้ไหว.
กระดิกกระเดี้ย กระดิกกระเดี้ย ก. ไหวน้อย ๆ, พอไหวได้บ้าง.
กระดิ่ง กระดิ่ง น. เครื่องทําเสียงสัญญาณทําด้วยโลหะ มีรูปคล้ายระฆัง แต่ขนาดเล็กกว่า มีตุ้มเล็ก ๆ อยู่ข้างใน สําหรับทําให้เกิดเสียง, โดยปริยายหมายถึงสิ่งที่มีลักษณะคล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น กระดิ่งจักรยาน.
กระดิ้ง,-กระดิ้ง -กระดิ้ง ใช้เข้าคู่กับคํา กระดุ้ง เป็น กระดุ้งกระดิ้ง.
กระดิ่งทอง กระดิ่งทอง ดู ม่าเหมี่ยว ๑.
กระดิบ,กระดิบ ๆ กระดิบ, กระดิบ ๆ ก. อาการที่คืบไปทีละน้อย เช่น ค่อย ๆ กระดิบไป ว่ายนํ้ากระดิบ ๆ หนอนกระดิบ ๆ ไป, นิยมใช้เข้าคู่กับคํา กระดุบ เป็น กระดุบกระดิบ.
กระดี่,กระดี่ ๑ กระดี่ ๑ น. ชื่อปลานํ้าจืดในสกุล Trichogaster วงศ์ Anabantidae เช่นเดียวกับปลาสลิดแต่มีขนาดเล็กกว่า ครีบท้องยาวยื่นเป็นเส้น มี ๓ ชนิด คือ กระดี่หม้อ (T. trichopterus) ข้างตัวมีลายหลายเส้นพาดขวาง มีจุดดําที่กลางลําตัวและคอดหางแห่งละ ๑ จุด, สลาก หรือ สลาง ก็เรียก, กระดี่นาง (T. microlepis) สีขาวนวล และ กระดี่นางฟ้า หรือ กระดี่มุก (T. leeri) พบเลี้ยงกันเป็นปลาสวยงาม, บางท้องถิ่นในแถบอีสานเรียก กระเดิด.
กระดี่,กระดี่ ๒ กระดี่ ๒ น. ชื่อกบสําหรับไสไม้ทําเป็นร่อง เรียกว่า กบกระดี่.
กระดี่,กระดี่ ๓ กระดี่ ๓ น. ชื่อหม้อดินเผาขนาดใหญ่ ปากกว้าง มีขีดเป็นรอยโดยรอบ ใช้เป็นหม้อแกง เรียกว่า หม้อกระดี่.
กระดี้กระเดียม กระดี้กระเดียม ก. รู้สึกจักจี้.
กระดี่ได้น้ำ กระดี่ได้น้ำ (สำ) น. ใช้เปรียบเทียบคนที่แสดงอาการดีอกดีใจตื่นเต้นจนตัวสั่น เช่น เขาดีใจเหมือนกระดี่ได้น้ำ.
กระดึง กระดึง น. เครื่องโลหะหรือเครื่องไม้มักมีรูปคล้ายกระดิ่ง มีลูกกระทบแขวนอยู่ภายในหรือห้อยกระหนาบอยู่ภายนอก มักใช้แขวนคอสัตว์เช่นวัวควาย เพื่อให้เกิดเสียงดัง, โปง ก็ว่า.
กระดึงช้างเผือก กระดึงช้างเผือก ดู ขี้กาแดง.
กระดึงพระราม กระดึงพระราม ดู เขนงนายพราน.
กระดืบ กระดืบ ก. อาการที่ค่อย ๆ คืบไปอย่างหนอน.
กระดุ กระดุ น. การตีหม้อด้วยหินดุให้เข้ารูป.
กระดุกกระดิก กระดุกกระดิก ว. อาการที่ขยับไปขยับมาไม่อยู่นิ่ง ๆ, ยักไปยักมา, ดุกดิก ก็ว่า.
กระดุ้งกระดิ้ง กระดุ้งกระดิ้ง ว. อาการที่ทําท่าทางสะบัดสะบิ้งดีดดิ้น (โดยมากใช้แก่ผู้หญิง).
กระดุบ ๆ กระดุบ ๆ ว. อาการที่เต้นตุบ ๆ อย่างเนื้อเต้น, ดุบ ๆ ก็ว่า; อาการที่เคลื่อนที่ไปอย่างช้า ๆ เช่น เด็กคลานกระดุบ ๆ.
กระดุบกระดิบ กระดุบกระดิบ ว. อาการที่เคลื่อนไหวน้อย ๆ.
กระดุม กระดุม น. เครื่องกลัดส่วนต่าง ๆ ของเสื้อผ้าไม่ให้แยกออกจากกัน ทําเป็นรูปต่าง ๆ มักมีรังดุมสําหรับขัดหรือบางทีก็ติดเป็นเครื่องประดับ, ดุม ลูกดุม หรือ ลูกกระดุม ก็เรียก.
กระดูก,กระดูก ๑ กระดูก ๑ น. โครงร่างกายมีลักษณะแข็ง, ส่วนใดส่วนหนึ่งของโครงร่างกาย; เรียกผลไม้ที่มีเนื้อน้อยเช่น มะปรางว่า มะปรางกระดูก.
กระดูก,กระดูก ๒ กระดูก ๒ น. ชื่อโกฐชนิดหนึ่ง เรียกว่า โกฐกระดูก. (ดู โกฐกระดูก).
กระดูก,กระดูก ๓ กระดูก ๓ (ปาก) ว. ตระหนี่, ขี้เหนียว.
กระดูกกบ กระดูกกบ น. ชื่อไม้เถาพุ่มรอเลื้อยชนิด Hymenopyramis brachiata Wall. ในวงศ์ Labiatae กิ่งอ่อนสี่เหลี่ยม ใบออกตรงข้ามกัน ดอกเล็กสีขาวออกเป็นช่อตรงปลายกิ่ง ผลกลมมีกระเปาะหุ้ม, กระพัดแม่ม่าย ก็เรียก.
กระดูกไก่ดำ กระดูกไก่ดำ น. ชื่อไม้พุ่ม ๒ ชนิดในสกุล Justicia วงศ์ Acanthaceae ชนิด J. gendarussa Burm.f. ใบยาวรี ออกตรงข้ามกัน ลําต้น กิ่ง ก้านใบ และเส้นกลางใบสีม่วงดํา ใช้ทํายาได้, กระดูกดํา เฉียงพร้ามอญ หรือ สันพร้ามอญ ก็เรียก; และชนิด J. grossa C.B. Clarke ดอกสีขาวอมเขียว ฝักยาว เปลือกแข็งและมีขน ผลแก่แตกตามยาว.
กระดูกขัดมัน กระดูกขัดมัน (ปาก) ว. ตระหนี่มาก.
กระดูกเขียด กระดูกเขียด ดู กระดูกอึ่ง.
กระดูกแข็ง กระดูกแข็ง (สํา) ว. ไม่ตายง่าย ๆ.
กระดูกค่าง กระดูกค่าง น. ชื่อไม้ต้นชนิด Diospyros undulata Wall. ex G. Don var. cratericalyx (Craib) Bakh. ในวงศ์ Ebenaceae ขึ้นในป่าดิบ มีมากทางภาคใต้ สูงได้ถึง ๒๐ เมตร ไม่ผลัดใบ, จะเพลิง ชะเพลิง คําดีควาย ดูกค่าง ตะโกดํา พลับเขา ไหม้ หม้าย หรือ สะลาง ก็เรียก.
กระดูกงู กระดูกงู น. ตัวไม้หรือเหล็กที่ทอดตลอดลําเรือสําหรับตั้งกง.
กระดูกดำ กระดูกดำ ดู กระดูกไก่ดำ.
กระดูกร้องได้ กระดูกร้องได้ (สํา) น. ผลสะท้อนของฆาตกรรมที่ทําให้จับตัวผู้กระทําผิดมาลงโทษได้ คล้ายกับว่ากระดูกของผู้ตายร้องบอก.
กระดูกสันหลัง กระดูกสันหลัง น. กระดูกที่อยู่ในแนวกึ่งกลางทางด้านหลังของลําตัว เป็นแกนของร่างกาย มีลักษณะเป็นข้อ ๆ ต่อกันเป็นแนวตั้งแต่บริเวณคอต่อจนถึงบริเวณด้านหลังของทวารหนัก ทําหน้าที่ป้องกันอันตรายให้แก่ไขสันหลัง, โดยปริยายหมายถึงส่วนที่สําคัญ, ส่วนที่เป็นพลังคํ้าจุน, เช่น ชาวนาเป็นกระดูกสันหลังของชาติ.
กระดูกอ่อน กระดูกอ่อน (สำ) ว. ที่ยังไม่มีความจัดเจนในการต่อสู้ เช่น นักมวยคนนี้กระดูกอ่อน ขึ้นชกครั้งแรกก็แพ้เขาแล้ว.
กระดูกอึ่ง กระดูกอึ่ง น. ชื่อไม้พุ่ม ๓ ชนิดในสกุล Dendrolobium และ Dicerma วงศ์ Leguminosae คือ ชนิด Dendrolobium triangulare (Retz.) Schindl. มักขึ้นในที่โล่งตํ่าซึ่งชุ่มแฉะในฤดูฝน ฝักเล็กแบนคอดกิ่วเป็นข้อ ๆ ใช้ทํายาได้, ขมิ้นนาง ขมิ้นลิง ลูกประคําผี หน้านวล เหนียวหมา หรือ อีเหนียว ก็เรียก; ชนิด D. lanceolatum (Dunn) Schindl. ขึ้นตามป่าผลัดใบที่มีต้นไผ่ สูงประมาณ ๑ เมตร ใบรูปไข่กลับ โคนใบสอบ, กระดูกเขียด แกลบหนู แกลบหูหนู แปรงหูหนู หรือ อึ่งใหญ่ ก็เรียก; และชนิด Dicerma biarticulatum (L.) DC. ชอบขึ้นตามไหล่ทางที่ตัดผ่านทุ่งนา สูงประมาณ ๑ เมตร ใบเล็กคล้ายใบมะขาม ดอกสีม่วง.
กระเดก,-กระเดก -กระเดก ใช้เข้าคู่กับคํา กระโดก เป็น กระโดกกระเดก.
กระเด้ง กระเด้ง ก. ดีดหรือดันขึ้นเมื่อถูกกดหรือถูกบีบเป็นต้น, กระดอนขึ้น, เด้ง ก็ว่า.
กระเด็น กระเด็น ก. เคลื่อนจากที่เดิมหรือแตกแยกจากที่เดิมออกไปโดยเร็วเพราะกระทบสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยแรง.
กระเด้า กระเด้า ก. ทําก้นขึ้น ๆ ลง ๆ, เด้า ก็ว่า.
กระเด้าดิน กระเด้าดิน ดู เด้าดิน.
กระเด้าลม กระเด้าลม ดู เด้าลม.
กระเดาะ กระเดาะ ก. เดาะให้กระเด็นขึ้นเบา ๆ.
กระเดาะปาก กระเดาะปาก ก. ทําให้เกิดเสียงดังด้วยการใช้ลิ้นดันเพดานเป็นต้นแล้วสลัดลง.
กระเดิด,กระเดิด ๑ กระเดิด ๑ (ถิ่น-อีสาน) น. ปลากระดี่. (ดู กระดี่ ๑).
กระเดิด,กระเดิด ๒ กระเดิด ๒ ก. ลงกันไม่สนิท, กระดกสูงกว่าพื้น, เช่น กระดานกระเดิด.
กระเดี้ย,-กระเดี้ย -กระเดี้ย ใช้เข้าคู่กับคํา กระดัก และ กระดิก เป็นกระดักกระเดี้ย และ กระดิกกระเดี้ย.
กระเดียด,กระเดียด ๑ กระเดียด ๑ ก. เอาเข้าข้างสะเอว เช่น กระเดียดกระจาด. (ข. กณฺเฎียต).
กระเดียด,กระเดียด ๒ กระเดียด ๒ ว. ค่อนข้าง, หนักไปทาง, เช่น กระเดียดเปรี้ยว หน้าตากระเดียดไปทางแม่.
กระเดียม,-กระเดียม -กระเดียม ใช้เข้าคู่กับคํา กระดี้ เป็น กระดี้กระเดียม.
กระเดี้ยม,-กระเดี้ยม -กระเดี้ยม ใช้เข้าคู่กับคํา กระด้วม เป็น กระด้วมกระเดี้ยม.
กระเดือก,กระเดือก ๑ กระเดือก ๑ น. ส่วนของกล่องเสียง มีลักษณะโปนออกมากลางลำคอเหนือท่อลม เห็นได้ชัดในผู้ชายเรียกว่า ลูกกระเดือก.
กระเดือก,กระเดือก ๒ กระเดือก ๒ (ปาก) ก. กลืนอย่างลําบาก เช่น กระเดือกไม่ลงคอ เต็มกระเดือก.
กระเดือก ๆ กระเดือก ๆ ว. กระเสือกกระสนไปด้วยความลำบาก เช่น ว่ายน้ำกระเดือก ๆ.
กระเดื่อง,กระเดื่อง ๑ กระเดื่อง ๑ น. ส่วนหนึ่งของครกกระเดื่อง เป็นไม้ท่อนยาว ปลายด้านหัวมีสากสำหรับตำข้าวที่อยู่ในครก เมื่อเหยียบปลายข้างหางแล้วถีบลงหลุม หัวจะกระดกขึ้น เมื่อปล่อยเท้าหัวก็จะกระแทกลง; เรียกเครื่องจักรนาฬิกาชิ้นหนึ่ง มีลักษณะคล้ายคลึงเช่นนั้นว่า กระเดื่อง.
กระเดื่อง,กระเดื่อง ๒ กระเดื่อง ๒ ว. สูงขึ้น, โด่งดัง, ใช้ประกอบลักษณะของคุณงามความดี เช่น ชื่อเสียงกระเดื่อง; แข็ง, กระด้าง, เช่น ยามเมื่อเจ้าเยื้องยุรยาตร ก็มิได้ย่างลงเหยียบดินกระเดื่องใด. (ม. ร่ายยาว กุมาร), นิยมใช้เข้าคู่กับคํา กระด้าง เป็น กระด้างกระเดื่อง.
กระเดื่อง,กระเดื่อง ๓ กระเดื่อง ๓ ก. แหนง, หมาง, เช่น จะกระเดื่องใจเมื่อไปถึง. (ขุนช้างขุนแผน); กระดาก เช่น ไป่กระเดื่องสะดุ้ง ฟูมฟาย. (นิทราชาคริต), นิยมใช้เข้าคู่กันเป็น กระดากกระเดื่อง.
กระแด็ก ๆ กระแด็ก ๆ ว. อาการที่ดิ้นอยู่กับที่ เช่น ดิ้นกระแด็ก ๆ ชักกระแด็ก ๆ ติดกระแด็ก ๆ, แด็ก ๆ ก็ว่า.
กระแด้ง กระแด้ง (ถิ่น-อีสาน) น. เรียกชายหรือหญิงที่เป็นหมันว่า พ่อกระแด้ง แม่กระแด้ง.<2t>ว. คดไปมา. (ปาเลกัว).
กระแด้แร่ กระแด้แร่ ว. กระแดะ, ดัดจริต, เช่น อย่าทําดื้อกระแด้แร่เลยแม่เอ๋ย. (มณีพิชัย).
กระแด่ว ๆ กระแด่ว ๆ ว. อาการที่ดิ้นอยู่กับที่ ในคําว่า ดิ้นกระแด่ว ๆ, แด่ว ๆ ก็ว่า.
กระแดะ กระแดะ (ปาก) ก. ดัดจริต, ทำในสิ่งที่ไม่น่าทำ.
กระแดะกระแด๋ กระแดะกระแด๋ (ปาก) ก. ดัดจริตดีดดิ้น, แดะแด๋ ก็ว่า.
กระโดก กระโดก ว. โอนไปโอนมา, ยกขึ้นยกลง.
กระโดกกระเดก กระโดกกระเดก ว. มีกิริยามารยาทไม่เรียบร้อย; โยกเยก, โอนไปโอนมา, โดกเดก ก็ว่า.
กระโดง,กระโดง ๑ กระโดง ๑ น. ใบเรือ เช่น เสากระโดง คือ เสาใบเรือ; ส่วนที่อยู่บนหลังปลาบางชนิด เช่น ปลากัด ปลาฉลาม มีลักษณะเป็นแผ่นตั้งคล้ายใบเรือ. (ข. โกฺฎง ว่า ใบเรือ).
กระโดง,กระโดง ๒ กระโดง ๒ น. กิ่งไม้ที่แตกออกตรงขึ้นไปจากกิ่งใหญ่; ลำน้ำขนาดเล็กที่ขุดจากลำน้ำขนาดใหญ่เพื่อชักน้ำเข้านาเข้าสวน เรียกว่า ลํากระโดง, ลำประโดง ก็ว่า.
กระโดงคาง กระโดงคาง น. ปลายคาง.
กระโดงแดง กระโดงแดง น. (๑) ชื่อไม้ต้นขนาดใหญ่ชนิด Bhesa robusta (Roxb.) Ding Hou ในวงศ์ Celastraceae ลําต้นแดงคลํ้า ใบยาวปลายแหลม เลื่อมเป็นมัน, ประดงแดง กระบกคาย ชมัน ละโมก หรือ พรมคด ก็เรียก.<2t>(๒) ชื่อไม้ต้นขนาดกลางชนิด Chionanthus microstigma (Gagnep.) Kiew ในวงศ์ Oleaceae ใบยาวรี หนาแข็ง ปลายใบแหลม ออกตรงข้ามกัน เมื่อแห้งหมาดใช้มวนบุหรี่ได้ มีกลิ่นหอมฉุน, ประดงแดง หรือ ฝิ่นต้น ก็เรียก; และชนิด C. sangda (Gagnep.) Kiew ลักษณะทั่วไปคล้ายชนิดแรก แต่ต้นมีขนาดย่อมกว่า ค่อนไปทางไม้พุ่ม.
กระโดด กระโดด ก. ใช้กําลังเท้าถีบพื้นให้ตัวลอยสูงขึ้น, โดด ก็ว่า, โดยปริยายหมายถึงอาการที่คล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น ปลากระโดด ตัวพิมพ์กระโดด.
กระโดดร่ม กระโดดร่ม ก. กระโดดออกจากอากาศยานในขณะอยู่ในอากาศเพื่อลงสู่พื้นดินโดยอาศัยร่มชูชีพ, โดดร่ม ก็ว่า.
กระโดดโลดเต้น กระโดดโลดเต้น ก. อาการที่กระโดดขึ้นลงหลายครั้งหลายหนเพราะความดีอกดีใจเป็นต้น.
กระโดน กระโดน น. ชื่อไม้ต้นชนิด Careya sphaerica Roxb. ในวงศ์ Lecythidaceae ชอบขึ้นในป่าเบญจพรรณที่ชุ่มชื้น ดอกมีเกสรเพศผู้จํานวนมากเป็นพู่คล้ายดอกชมพู่ ขาว หอม ดอกบานเต็มที่กว้าง ๕-๘ เซนติเมตร ผลค่อนข้างกลม เปลือกใช้เบื่อปลาหรือทุบเป็นแผ่นปูหลังช้าง, โดน จิก ปุย ปุยกระโดน ปุยขาว หรือ ผ้าฮาด ก็เรียก.
กระโดนดิน กระโดนดิน น. ชื่อไม้พุ่มเตี้ยชนิด Careya herbacea Roxb. ในวงศ์ Lecythidaceae ชอบขึ้นตามที่ลุ่มดินทราย ลักษณะทั่วไปคล้ายกระโดน สูงไม่เกิน ๑ เมตร ผลมีขนาดย่อมกว่า, กระโดนเบี้ย ก็เรียก.
กระใด กระใด (โบ) ว. กระไร, อะไร, ทําไม, เช่น ผู้แกล้วกระใดรณภู. (สมุทรโฆษ).
กระได กระได น. สิ่งที่ทําเป็นขั้น ๆ สําหรับก้าวขึ้นลง, บันได ก็ว่า.
กระไดแก้ว กระไดแก้ว น. ชั้นสําหรับวางพาดสิ่งของเช่นใบลานหรืออาวุธเป็นต้น.
กระไดลิง,กระไดลิง ๑ กระไดลิง ๑ น. บันไดเชือกที่ตรึงติดเฉพาะส่วนบน ใช้ไต่ขึ้นที่สูง หรือไต่ลงที่ตํ่า, บันไดลิง ก็ว่า.
กระไดลิง,กระไดลิง ๒ กระไดลิง ๒ น. ชื่อไม้เถาเนื้อแข็งชนิด Bauhinia scandens L. var. horsfieldii (Miq.) K. et S.S. Larsen ในวงศ์ Leguminosae ขึ้นในป่าดิบแล้ง ป่าเบญจพรรณที่ชุ่มชื้นทั่วไป และตามริมแม่นํ้าลําคลอง เถาแบนยาว งอกลับไปกลับมาคล้ายขั้นบันได ดอกเล็ก สีขาว ออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง เปลือกเหนียวใช้แทนเชือก เถาใช้ทํายาได้, กระไดวอก มะลืมดํา บันไดลิง หรือ ลางลิง ก็เรียก.
กระตรกกระตรำ กระตรกกระตรำ (โบ; กลอน) ก. ตรากตรํา เช่น หาเลี้ยงและโดยสฤษฎิตน กระตรกกระตรำก็นําพา. (กล่อมพญาช้าง).
กระตร้อ กระตร้อ (โบ) น. เครื่องดับไฟสานเป็นรูปตะกร้อพันผ้าชุบนํ้า มีด้ามยาว สําหรับดับและคลึงลูกไฟที่มาติดหลังคา ผู้ดับนั่งบนอกไก่หลังคา เช่น ให้ตรวจเอาพร้าขอกระตร้อนํ้า จงทุกที่พนักงานให้สรัพไว้. (สามดวง), ตะกร้อ ก็เรียก.
กระตรับ กระตรับ ดู หมอช้างเหยียบ.
กระตราก กระตราก ก. ล่ามโซ่, ทุกข์ทรมานในคุก. (ปาเลกัว).
กระตรำ,-กระตรำ -กระตรำ ใช้เข้าคู่กับคํา กระตรก เป็น กระตรกกระตรํา.
กระตรุด กระตรุด น. ตะกรุด, กะตรุด หรือ กะตุด ก็ว่า.
กระตรุม กระตรุม (กลอน) น. นกตะกรุม เช่น เขาคุ่มกระตรุมกระไตร ตระไนนี่สนั่นเสียง. (สรรพสิทธิ์).
กระต้วมกระเตี้ยม กระต้วมกระเตี้ยม ว. อาการที่ค่อย ๆ เคลื่อนไหวหรือเคลื่อนไหวอย่างช้า ๆ (ใช้แก่กิริยาเดินหรือคลาน), ต้วมเตี้ยม ก็ว่า, ใช้ว่า กระด้วมกระเดี้ยม ก็มี.
กระต้อ กระต้อ น. ชื่อนกชนิดหนึ่ง เช่น กระต้อพลอดกิ่งพลับ. (เพชรมงกุฎ).
กระต่องกระแต่ง กระต่องกระแต่ง ว. อาการที่แขวนหรือห้อยแกว่งไปแกว่งมา, ต่องแต่ง ก็ว่า.
กระต๊อบ กระต๊อบ น. กระท่อมเล็ก ๆ. (พายัพและอุดรว่า ตูบ).
กระต้อยตีวิด กระต้อยตีวิด ดู ต้อยตีวิด.
กระตัก กระตัก (โบ; เลิก) น. ประตัก คือ ไม้ที่ฝังเหล็กแหลมข้างปลาย ใช้แทงสัตว์พาหนะเช่นวัว เช่น ด่าตีกันด้วยเคียวไม้กระตัก. (ลักษณะธรรมนูญ).
กระตั้ว กระตั้ว น. ชื่อนกปากงุ้มเป็นขอจําพวกหนึ่ง มีหลายชนิด หลายสกุล และหลายวงศ์ ลักษณะคล้ายนกแก้วแต่ตัวโตกว่า พบในทวีปออสเตรเลียและบริเวณใกล้เคียง เช่น กระตั้วหงอนเหลือง (Cacatua galerita) กระตั้วดํา (Probosciger aterrimus).
กระตาก,-กระตาก -กระตาก ใช้เข้าคู่กับคํา กระโตก เป็น กระโตกกระตาก.
กระต่าย,กระต่าย ๑ กระต่าย ๑ น. ชื่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็กในวงศ์ Leporidae ขนปุย หูยาว ที่พบอาศัยตามป่าทั่วไปในประเทศไทยมีชนิดเดียว คือ กระต่ายป่า (Lepus peguensis) ซึ่งมีขนสีนํ้าตาล ใต้หางสีขาว อาศัยในโพรงดิน ส่วนที่นํามาเลี้ยงตามบ้านมีหลายชนิดและหลายสี เช่น ชนิด Oryctolagus cuniculus.
กระต่าย,กระต่าย ๒ กระต่าย ๒ น. เครื่องมือสําหรับขูดมะพร้าวที่ยังไม่ได้กะเทาะกะลาออก.
กระต่ายขูด กระต่ายขูด ดู สีกรุด.
กระต่ายจันทร์ กระต่ายจันทร์ ดู กระต่ายจาม (๑).
กระต่ายจาม กระต่ายจาม น. (๑) ชื่อไม้ล้มลุกชนิด Centipeda minima (L.) A. Br. et Aschers ในวงศ์ Compositae ขึ้นตามพื้นที่ลุ่มตํ่า แฉะ ต้นเตี้ยติดดินคล้ายต้นผักเบี้ย ใบเล็กเว้าข้างทั้ง ๒ ด้าน ปลายใบแหลมคล้ายสามง่าม ใบมีกลิ่นเหม็น ใช้ทํายาได้ แต่เป็นพิษต่อปศุสัตว์, กระต่ายจันทร์ สาบแร้ง หญ้ากระจาม หญ้าจาม หรือ เหมือดโลด ก็เรียก.<2t>(๒) ดู การบูรป่า.
กระต่ายจีน กระต่ายจีน น. เครื่องมือขูดมะพร้าว ใช้ลวดตอกเป็นฟันถี่ ๆ บนหน้ากระดานสำหรับขูดมะพร้าวที่กะเทาะกะลาออกแล้ว.
กระต่ายชมจันทร์ กระต่ายชมจันทร์ น. ท่ารําละครท่าหนึ่ง. (ฟ้อน); เพลงเสภา ๒ ชั้น ของเก่าพวกเพลงเกร็ด.
กระต่ายต้องแร้ว กระต่ายต้องแร้ว น. ท่ารําละครท่าหนึ่ง. (ฟ้อน).
กระต่ายตื่นตูม กระต่ายตื่นตูม (สํา) น. ใช้เปรียบเทียบคนที่แสดงอาการตื่นตกใจง่ายโดยไม่ทันสํารวจให้ถ่องแท้ก่อน.
กระต่ายเต้น กระต่ายเต้น น. เพลงไทยของเก่าสําหรับทําเพลงเร็ว, ถ้ารับร้องเป็นเพลง ๒ ชั้น.
กระต่ายสามขา กระต่ายสามขา (สํา) ว. ยืนกรานไม่ยอมรับ, กระต่ายขาเดียว ก็ว่า.
กระต่ายหมายจันทร์ กระต่ายหมายจันทร์ (สํา) น. ผู้ชายหมายปองผู้หญิงที่มีฐานะดีกว่า.
กระติก กระติก น. ภาชนะสําหรับใส่นํ้าติดตัวในเวลาเดินทาง เช่น กระติกของทหารหรือลูกเสือ, ภาชนะสำหรับใส่น้ำเพื่อเก็บความร้อนหรือรักษาความเย็นเป็นต้น, ถ้าใช้ใส่น้ำร้อน เรียกว่า กระติกน้ำร้อน, ถ้าใช้ใส่น้ำแข็ง เรียกว่า กระติกน้ำแข็ง.
กระติก,-กระติก -กระติก ใช้เข้าคู่กับคํา กระตุก เป็น กระตุกกระติก.
กระติ้ง,-กระติ้ง -กระติ้ง ใช้เข้าคู่กับคํา กระตุ้ง เป็น กระตุ้งกระติ้ง.
กระติ๊ด,กระติ๊ด ๑ กระติ๊ด ๑ น. ชื่อนกขนาดเล็กในวงศ์ Estrildidae ใช้หญ้าทํารังเป็นรูปกลมอยู่บนต้นไม้ ปากรังอยู่ด้านล่าง มีหลายชนิด เช่น กระติ๊ดเขียว หรือ ไผ่ (Erythrura prasina) กระติ๊ดแดง หรือ สีชมพูดง (Amandava amandava) กระติ๊ดท้องขาว (Lonchura leucogastra) กินเมล็ดพืช, กะทิ ก็เรียก.
กระติ๊ด,กระติ๊ด ๒,กระติ๊ดเดียว,กระติ๊ดหนึ่ง กระติ๊ด ๒, กระติ๊ดเดียว, กระติ๊ดหนึ่ง (ปาก) ว. เล็กน้อย, เล็กนิดเดียว, เช่น เสื้อตัวนี้ติดกระดุมเม็ดกระติ๊ดเดียว ขอเกลือสักกระติ๊ดหนึ่ง, ติ๊ดเดียว หรือ ติ๊ดหนึ่ง ก็ว่า.
กระติ๊ดขี้หมู กระติ๊ดขี้หมู น. ชื่อนกขนาดเล็กชนิด Lonchura punctulata ในวงศ์ Estrildidae สีนํ้าตาลกระขาว อกขาวมีลายสีนํ้าตาลคล้ายเกล็ดปลา ปากดําอาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูงเล็ก ๆ กินเมล็ดพืช.
กระติบ กระติบ (ถิ่น-อีสาน) น. ภาชนะสานรูปกลม มีฝาครอบ สําหรับบรรจุข้าวเหนียวนึ่ง.
กระตือรือร้น กระตือรือร้น ก. รีบร้อน, เร่งรีบ, ขมีขมัน, มีใจฝักใฝ่เร่งร้อน.
กระตุก กระตุก ก. ชักเข้ามาโดยเร็วทันที, งอเข้ามาโดยเร็ว, เช่น ขากระตุก, อาการที่กล้ามเนื้อหดและยืดตัวขึ้นมาเองทันที.
กระตุกกระติก กระตุกกระติก ว. ตุก ๆ ติก ๆ, อาการที่ห้อยแกว่งไปมา.
กระตุ้งกระติ้ง กระตุ้งกระติ้ง ว. มีกิริยาท่าทางกระชดกระช้อย, ตุ้งติ้ง หรือ ดุ้งดิ้ง ก็ว่า.
กระตุ่น กระตุ่น น. ตัวตุ่น เช่น กระต่ายเต้นกระตุ่นขุด. (บุณโณวาท).
กระตุ้น กระตุ้น ก. ใช้มือหรือสิ่งใด ๆ กระแทกเบา ๆ ให้รู้ตัว, โดยปริยายหมายความว่า เตือนหรือหนุน เช่น กระตุ้นให้รีบทํางาน, ช่วยเร่ง เช่น ใช้กระแสไฟฟ้ากระตุ้นหัวใจที่หยุดเต้นให้เต้นต่อไป.
กระตูบ กระตูบ น. กระท่อม, กระต๊อบ, ตูบ ก็ว่า. (ดู ตูบ ๑).
กระเตง กระเตง ก. อาการที่อุ้มเด็กเข้าสะเอวหรือสะพายของโตงเตงไป.
กระเต็น กระเต็น น. ชื่อนกชนิดหนึ่งในวงศ์ Alcedinidae หัวโต คอสั้น ปากแหลมยาวตรงและแข็งแรง ส่วนใหญ่มีสีสวยสดสะดุดตา หากินโดยวิธีพุ่งตัวลงจับปลาในนํ้า มีหลายชนิด เช่น กระเต็นปักหลัก หรือ ปักหลัก (Ceryle rudis) กระเต็นน้อยธรรมดา (Alcedo atthis) กระเต็นอกขาว (Halcyon smyrnensis).
กระเต็นปักหลัก กระเต็นปักหลัก ดู ปักหลัก ๒ (๑).
กระเตอะ กระเตอะ ว. จวนแก่ (ใช้แก่หมาก) ในคําว่า หมากกระเตอะ หรือ หมากหน้ากระเตอะ.
กระเตาะ,กระเตาะ ๑ กระเตาะ ๑ ดู กุ้งดีด, กุ้งดีดขัน.
กระเตาะ,กระเตาะ ๒ กระเตาะ ๒ ว. แรกรุ่น, เพิ่งแตกเนื้อสาว.
กระเตาะกระแตะ กระเตาะกระแตะ ว. อาการที่เด็กเริ่มสอนเดิน เรียกว่า เดินกระเตาะกระแตะ, เตาะแตะ หรือ เตาะ ๆ แตะ ๆ ก็ว่า; ป้อแป้, ไม่แข็งแรง, มักใช้แก่คนสูงอายุ เช่น คุณทวดเดินกระเตาะกระแตะ.
กระเตี้ยม,-กระเตี้ยม -กระเตี้ยม ใช้เข้าคู่กับคํา กระต้วม เป็น กระต้วมกระเตี้ยม.
กระเตื้อง กระเตื้อง ก. เบาขึ้น, ทุเลาขึ้น, เช่น อาการไข้กระเตื้องขึ้น, เจริญขึ้น เช่น เดี๋ยวนี้ฐานะเขาค่อยกระเตื้องขึ้น; (โบ) พยุงยกให้เผยอขึ้น.
กระแต,กระแต ๑ กระแต ๑ น. ชื่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในวงศ์ Tupaiidae รูปร่างคล้ายกระรอก แต่อยู่ต่างวงศ์กันและมีขนาดเล็กกว่า ปากแหลม ไม่มีฟันแทะ กินทั้งสัตว์และผลไม้ มีหลายสกุลและหลายชนิด เช่น กระแตธรรมดา (Tupaia glis) กระแตเล็ก (T. minor) กระแตหางขนนก (Ptilocercus lowi) เชื่อกันทางวิชาการว่า เป็นสัตว์กลุ่มต้นกําเนิดสายวิวัฒนาการของลิงและมนุษย์; ดอกไม้ประดิษฐ์เป็นรูปกระแตเกาะติดกับช่อใบแก้ว ทำด้วยดอกพุทธชาดเป็นต้น ใช้เป็นของชำร่วย.
กระแต,กระแต ๒ กระแต ๒ น. ชื่อฆ้องขนาดเล็ก ใช้บรรเลงในวงปี่พาทย์มอญ โดยทำร้านฆ้องโค้งงอขึ้นเหมือนฆ้องมอญแต่ปลายสั้นกว่า วงหนึ่งมีลูกฆ้อง ๑๑ ลูก หรือใช้แขวนกับไม้ สำหรับถือตีเป็นสัญญาณในการอยู่เวรยามหรือแจ้งข่าวสารต่าง ๆ เรียกว่า ฆ้องกระแต.
กระแต,กระแต ๓ กระแต ๓ น. ชื่อเพลงร้อง เดิมเป็นของไทยทางเหนือเรียกว่า กระแตเล็ก, ถ้าทําโหมโรงสําหรับเสภา เรียกว่า กระแตใหญ่.
กระแต่ง,-กระแต่ง -กระแต่ง ใช้เข้าคู่กับคํา กระต่อง เป็น กระต่องกระแต่ง.
กระแตแต้แว้ด,กระแตแต้แว้ด ๑ กระแตแต้แว้ด ๑ ดู ต้อยตีวิด.
กระแตแต้แว้ด,กระแตแต้แว้ด ๒ กระแตแต้แว้ด ๒ น. ใช้เปรียบผู้หญิงที่ชอบจุ้นจ้านเจ้ากี้เจ้าการ.
กระแตไต่ไม้,กระแตไต่ไม้ ๑ กระแตไต่ไม้ ๑ น. ชื่อกลบท ตัวอย่างว่า หมายหมองมาดสวาทน้องมาดหมองหมาย; ชื่อเพลง เดิมเป็นของชาวเหนือพวกกะเหรี่ยง บัดนี้ใช้เป็นเพลงโหมโรงหรือเพลงเสภา ทําตอนรื่นเริง.
กระแตไต่ไม้,กระแตไต่ไม้ ๒ กระแตไต่ไม้ ๒ น. ชื่อเฟินอิงอาศัยชนิด Drynaria quercifolia (L.) J. Smith ในวงศ์ Polypodiaceae ขึ้นเกาะตามต้นไม้ใหญ่ในป่าที่ชุ่มชื้น เหง้ามีขนเป็นปุยสีนํ้าตาลแก่คล้ายกระแต ใบมี ๒ ชนิด คือ ใบสร้างอับสปอร์ ยาวประมาณ ๑ เมตร เว้าเป็นแฉกลึกเกือบถึงเส้นกลางใบ และมีอับสปอร์เป็นจุด ๆ สีนํ้าตาลเข้มใต้ใบ ใบไม่สร้างอับสปอร์ ขนาดประมาณฝ่ามือ ขอบจักหยาบ ๆ สีนํ้าตาล แข็งติดอยู่กับเหง้าจนผุ ไม่หล่นเหมือนใบสร้างอับสปอร์ ทําหน้าที่กักปุ๋ย, กระปรอกว่าว ใบหูช้าง สไบนาง สะโมง หรือ หัวว่าว ก็เรียก.
กระแตวับ กระแตวับ (วรรณ) ก. หน้าเป็น เช่น แต่ล้วนตัวตอแหลกระแตวับ. (อภัย).
กระแตเวียน กระแตเวียน น. อุปกรณ์สำหรับช่วยให้เด็กหัดเดิน ทำด้วยกระบอกไม้ไผ่ให้มีข้อติดอยู่ข้างหนึ่ง แล้วสวมลงกับหลักไม้ เหนือข้อตอนบนสอดไม้ขวางให้ยาวพอสมควรสำหรับให้เด็กเกาะเดิน.
กระแตะ,-กระแตะ -กระแตะ ใช้เข้าคู่กับคํา กระเตาะ เป็น กระเตาะกระแตะ.
กระโตกกระตาก กระโตกกระตาก ก. ส่งเสียงให้เขารู้อย่างไก่กำลังออกไข่, โดยปริยายหมายความว่า เปิดเผยข้อความที่ต้องการปิดบัง.
กระโตน กระโตน ก. กระโจน เช่น นํ้าเชี่ยวเกลียวโยน กระโตนฉ่า ๆ. (สุบิน).
กระไตร กระไตร (โบ; กลอน) น. ชื่อเหยี่ยวชนิดหนึ่ง เรียกว่า เหยี่ยวกระไตร เช่น กระไตรตระไนตรู. (เสือโค), เขาคุ่มกระตรุมกระไตร. (สรรพสิทธิ์), ตะไกร ก็เรียก.
กระถด กระถด ก. ถดถอย, กระเถิบ, ขยับ.
กระถอบ กระถอบ น. แผ่นทองคําฉลุลายเป็นกิ่งต้นเครือวัลย์กระหนก สําหรับเสียบห้อยที่ชายพกลงมาในระหว่างช่องหน้าขาทั้ง ๒ สามัญเรียกว่า ช่อทับชาย เช่น ที่ประดับเทวรูปทรงเครื่องทั่วไป เรียกกันว่า สุวรรณกระถอบ หรือ สุวรรณกัญจน์ถอบ.
กระถั่ว กระถั่ว น. นกอีเพา. (พจน. ๒๔๙๓).
กระถาง กระถาง น. ภาชนะปากกว้าง มีรูปต่าง ๆ สําหรับปลูกต้นไม้ หรือใส่นํ้าและอื่น ๆ.
กระถิก,กระถึก กระถิก, กระถึก น. ชื่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในวงศ์ Sciuridae รูปร่างคล้ายกระรอกซึ่งอยู่ในวงศ์เดียวกัน ลําตัวสีนํ้าตาล มีลายสีขาวดําพาดขนานตามยาวของลําตัวตั้งแต่จมูกถึงโคนหาง ชอบอยู่ตามต้นไม้สูง ๆ กินแมลงและผลไม้ ในประเทศไทยมี ๒ ชนิด คือ กระถิกขนปลายหูยาว (Tamiops rodolphei) และกระถิกขนปลายหูสั้น (T. macclellandi), กระเล็น ก็เรียก.
กระถิน กระถิน น. ชื่อไม้พุ่มหรือไม้ต้นไม่มีหนามชนิด Leucaena leucocephala (Lam.) de Wit ในวงศ์ Leguminosae ช่อดอกกลม สีนวล ฝักแบน ใบอ่อนและฝักอ่อนใช้เป็นอาหาร, กระถินไทย กระถินบ้าน กระถินยักษ์ หรือ สะตอเบา ก็เรียก, ปักษ์ใต้เรียก ตอเบา; ชื่อพรรณไม้หลายชนิดในสกุล Acacia วงศ์ Leguminosae เช่น กระถินพิมาน (A. tomentosa Willd.).
กระถินหอม กระถินหอม ดู คําใต้.
กระเถิบ กระเถิบ ก. เขยิบไปจากที่เดิม.
กระโถน กระโถน น. ภาชนะสําหรับบ้วนหรือทิ้งของต่าง ๆ ที่ไม่ต้องการ. (เทียบ ข. กนฺโถรฺ).
กระโถนท้องพระโรง กระโถนท้องพระโรง น. กระโถนใหญ่ที่ตั้งไว้ที่ท้องพระโรงในศาลาลูกขุนใน สำหรับที่ใคร ๆ บ้วนน้ำหมากหรือทิ้งชานหมากได้; (สํา) ผู้ที่ใคร ๆ ก็ใช้ได้หรือผู้ที่ใคร ๆ ก็รุมใช้อยู่คนเดียว.
กระโถนปากแตร กระโถนปากแตร น. กระโถนทรงกลมมีปากผายออกคล้ายแตร.
กระโถนฤๅษี กระโถนฤๅษี น. ชื่อพืชเบียนชนิด Sapria himalayana Griff. ในวงศ์ Rafflesiaceae เกิดตามป่าดิบ เกาะเบียนที่รากเครือเขานํ้า (Tetrastigma lanceolarium Planch.) ดอกรูปกระโถนปากแตร กลิ่นเหม็น กลีบดอกสีนํ้าตาลแดงประเหลือง ใช้ทํายาได้.
กระทก กระทก ก. กระตุก เช่น เงื่อนกระทก, กระตุกเร็ว ๆ เช่น กระทกข้าว คือ เอาข้าวใส่กระด้งร่อนพลางกระตุกพลาง เพื่อให้กากข้าวแยกจากข้าวสาร.
กระทง,กระทง ๑ กระทง ๑ น. ภาชนะเย็บด้วยใบตองหรือใบไม้เป็นต้น ยกขอบสูงสําหรับใส่ของ, ถ้าเสริมขอบปากเป็นรูปกรวยเล็ก ๆ โดยรอบ เรียกว่า กระทงเจิม, ภาชนะที่ทําขึ้นสําหรับลอยนํ้าในประเพณีลอยกระทง; ตอนหนึ่ง ๆของนาซึ่งมีคันกั้น เรียกว่า กระทงนา, อันนา ก็เรียก; ผ้าท่อนหนึ่ง ๆ ของจีวร มีลักษณะเหมือนกระทงนา ซึ่งมีรูปสี่เหลี่ยม; ไม้กระดานที่ยึดกราบเรือหรือพาดแคมเรือทั้ง ๒ ข้างเป็นตอน ๆ (เทียบมลายู กุดง); ตอนหนึ่ง ๆ ของข้อความ; (กฎ) ลักษณนามของความผิดอาญาแต่ละกรรมหรือแต่ละครั้ง การกระทําความผิดแต่ละกรรมหรือแต่ละครั้งนั้น ถือว่าเป็นกระทงความผิดกระทงหนึ่ง เช่น การกระทําความผิดฐานลักทรัพย์หลายครั้ง การลักทรัพย์แต่ละครั้งเป็นกระทงความผิดกระทงหนึ่ง ๆ; (เลิก) ฐานปรับตามกรมศักดิในกฎหมายเก่า.
กระทง,กระทง ๒ กระทง ๒ ว. ใช้ควบกับคํา รุ่น ว่า รุ่นกระทง, เรียกไก่อ่อนอายุประมาณ ๓ เดือนว่า ไก่กระทง, ใช้สําหรับเรียกไก่ตัวผู้ที่สอนขันว่า ไก่รุ่นกระทง, โดยปริยายใช้เรียกชายกําลังแตกเนื้อหนุ่มเป็นเชิงเปรียบเปรยว่า หนุ่มรุ่นกระทง.
กระทงแถลง กระทงแถลง (กฎ; เลิก) น. ส่วนสําคัญในสํานวนความที่เป็นประเด็นและที่เกี่ยวกับประเด็นอันพึงเสนอวินิจฉัย.
กระทงน้อย กระทงน้อย ดู กระทงลอย.
กระทงป่า กระทงป่า น. ไม้พาดปากมาดเรือโกลนชั่วคราว.
กระทงเพชร กระทงเพชร น. ไม้ติดขวางรองแคร่เกวียนเพื่อยึดไม่ให้แคร่แยกออกไป.
กระทงลอย กระทงลอย น. เพลงไทย ๒ ชั้นของเก่า ใช้เครื่องรับมโหรี ทําตอนเสี่ยง เช่น ตอนไกรทองเสกกระทงเสี่ยงลอยไปในพิธีจับชาละวัน, กระทงน้อย หรือ บ้าบ่น ก็เรียก.
กระทงลาย กระทงลาย น. ชื่อไม้เถาเนื้อแข็งชนิด Celastrus paniculatus Willd. ในวงศ์ Celastraceae ใบรูปไข่ปลายแหลม ขอบจักถี่ ดอกเล็กขาว ๆ เหลือง ๆออกเป็นช่ออยู่ปลายกิ่ง ผลเท่าเมล็ดถั่วลันเตา เมื่อแก่แตกเป็น ๓ กลีบ นํ้ามันจากเมล็ดใช้ทํายา ตามไฟ หรือเคลือบกระดาษกันนํ้าซึม, กระทุงลาย หรือ มะแตก ก็เรียก.
กระทงเหิน กระทงเหิน น. ไม้ขวางเรืออันที่สุดของหัวเรือหรือท้ายเรือ, หูกระต่าย ก็เรียก; ขื่อกระดูกเชิงกราน.
กระทด กระทด (โบ) ว. คด, ไม่ตรง, เช่น คอกระทดคดคอดหยัก รวดท้าย. (ตําราช้างคําโคลง), ไม้กระทดกระทําทอน ทุกที่ กงนา. (โลกนิติ).
กระทดกระทวย กระทดกระทวย ว. ไหวน้อย ๆ แต่พองาม, กิริยาย่างกรายอย่างนวยนาด.
กระทดกระทัน กระทดกระทัน (โบ) ว. คด ๆ ค้อม ๆ เช่น ที่เตี้ยค่อมค้อมคดกระทดกระทันนั้นก็มีอยู่มากหลาย. (ม. ร่ายยาว มหาพน).
กระทบ กระทบ ก. โดน, ถูกต้อง, ปะทะ, พูดหรือทําให้กระเทือนไปถึงผู้อื่น เช่น พูดกระทบเขา ตีวัวกระทบคราด, ในบทกลอนใช้ว่า ทบ ก็มี เช่น ของ้าวทบปะทะกัน. (ตะเลงพ่าย), หรือว่า ประทบ ก็มี เช่น ประทบประทะอลวน. (ตะเลงพ่าย).
กระทบกระทั่ง กระทบกระทั่ง ก. แตะต้อง, ทําให้กระเทือนถึง, ทําให้กระเทือนใจ.
กระทบกระเทียบ กระทบกระเทียบ ว. เปรียบเปรยให้กระทบถึง.
กระทบกระเทือน กระทบกระเทือน ก. กระเทือนไปถึง, พาดพิงไปถึงให้รู้สึกสะเทือนใจ.
กระทบกระแทก กระทบกระแทก ว. อาการที่กล่าวเปรย ๆ ให้กระทบไปถึงผู้ใดผู้หนึ่งอย่างแรง.
กระทรวง,กระทรวง ๑ กระทรวง ๑ [-ซวง] น. หมู่, พวก, เช่น ทุกหมวดทุกกระทรวงทรง ฤทธิเรื้อง. (ยอพระเกียรติกรุงธน), ชนิด, อย่าง, เช่น อนึ่งนั้นอุเบกขาว่าเพ่งเฉย คือแหวกเลยสุขทุกข์อาลัยห่วง ไม่มีทุกข์ไม่มีสุขสิ้นทั้งปวง สามกระทรวงนี้เป็นชื่อเวทนา. (ปกีรณําพจนาดถ์), แบบ, อย่าง, กระบวน, เช่น ส่วนองค์พระอัยกาก็ทรงพาหนะหัสดินทร กรินทรราชเป็นทัพหลวงตามกระทรวงพยุหยาตรา. (ม. ร่ายยาว มหาราช), โดยสมควรแก่กระทรวงแล้วส่งไป. (สามดวง), ผจญคนกลิ้งกลอกกลับหลอกลวง เอากระทรวงสัตย์ซื่อให้เสื่อมเท็จ. (สุ. สอนเด็ก). (ดู กระซุง).
กระทรวง,กระทรวง ๒ กระทรวง ๒ [-ซวง] (กฎ) น. ส่วนราชการหนึ่งในราชการบริหารส่วนกลาง ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเป็นหัวหน้า; (โบ) ส่วนราชการที่พอเทียบได้กับกรมหรือกระทรวงในปัจจุบัน เช่น ถ้าเป็นกระทรวงแพ่ง แลฝ่ายจำเลยนั้นเป็นกรม ฝ่ายนอกให้ส่งไปแพ่งกระเสมพิจารณา, ถ้ามีผู้ร้ายลักช้างม้าผู้คนโคกระบือทรัพยสิ่งใด ๆ เปนกระทรวงนครบาลได้ว่า. (สามดวง). (เทียบ ข. กรฺสวง; ไทยเหนือ ส่วง ว่า ข้าง, ฝ่าย).
กระทวย กระทวย น. ทวย คือ ไม้เท้าแขนที่รับเต้า บางทีทำเป็นรูปนาค เช่น กระทวยธวัชกลงวง คชินทรจ้วงจับลม. (เพชรมงกุฎ).
กระทวย,-กระทวย -กระทวย ใช้เข้าคู่กับคำ กระทด เป็น กระทดกระทวย หรือใช้เข้าคู่กับคำ กระทิก เป็น กระทิกกระทวย.
กระทอก กระทอก ก. กระแทกขึ้นกระแทกลง, กําแน่นแล้วรูดขึ้นรูดลง, ทำให้ทะลัก เช่น กระทอกเลือดกระแทกล้มกระดิกดิ้น. (ขุนช้างขุนแผน). (เทียบมลายู กระตอก ว่า ตอก).
กระท้อน,กระท้อน ๑ กระท้อน ๑ น. ชื่อไม้ต้นขนาดใหญ่ชนิด Sandoricum koetjape (Burm.f.) Merr. ในวงศ์ Meliaceae ผลค่อนข้างกลม เปลือกนุ่ม สีเหลือง เนื้อกินได้, สะท้อน ก็เรียก, พายัพเรียก มะต้อง หรือ มะตื๋น.
กระท้อน,กระท้อน ๒ กระท้อน ๒ ก. กระเด็นกลับ, กระดอนขึ้น, สะท้อน ก็ว่า.
กระท่อนกระแท่น กระท่อนกระแท่น ว. ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน, ไม่ครบถ้วน.
กระท่อม,กระท่อม ๑ กระท่อม ๑ น. เรือนเล็ก ๆ ทําพออยู่ได้. (เทียบ ข. ขฺทม).
กระท่อม,กระท่อม ๒ กระท่อม ๒ น. ชื่อไม้ต้นขนาดกลางชนิด Mitragyna speciosa (Korth.) Havil. ในวงศ์ Rubiaceae ชอบขึ้นริมนํ้าทั่วไป ใบเดี่ยว ออกตรงข้ามกัน ยอด ใบอ่อน และก้านใบสีแดงเรื่อ ๆ ช่อดอกกลมสีเหลืองออกเดี่ยว ๆ ตามง่ามใบ ใบมีรสขม กินแล้วเมา เป็นยาเสพติด, อีถ่าง ก็เรียก.
กระท้อมกระแท้ม กระท้อมกระแท้ม ว. เล็ก ๆ น้อย ๆ, ไม่ใหญ่โต, เช่น หากินกระท้อมกระแท้มไปวันหนึ่ง ๆ.
กระท่อมขี้หมู กระท่อมขี้หมู น. ชื่อไม้ต้นขนาดกลาง ๒ ชนิดในสกุล Mitragyna วงศ์ Rubiaceae ใบเดี่ยว ออกตรงข้ามกัน ชนิด M. diversifolia (Wall. ex G. Don) Havil. ใบยาวรีเล็ก, กระทุ่มนา หรือ ตุ้มแซะ ก็เรียก; ชนิด M. rotundifolia (Roxb.) Kuntze ใบกลม โคนใบเว้า ขนาดใหญ่กว่าชนิดแรก, กระทุ่มขี้หมู กระทุ่มหมู หรือ ตุ้มกว้าว ก็เรียก.
กระท่อมเลือด กระท่อมเลือด น. ตํารากบิลว่าน ว่าชื่อว่าน มี ๒ ชนิด; ชนิดหนึ่งก้านใบแดง ยางเป็นเลือด หัวคล้ายมันแกว ซึ่งในกรุงเทพฯ เรียกว่า สบู่เลือด ใช้อยู่คงชั่วเบา, อีกชนิดหนึ่งขาว เกิดตามเขา ลักษณะเช่นเดียวกับอย่างแดง แต่อย่างขาวหัวใหญ่ อย่างโตขนาดกระด้ง ทั้ง๒ ชนิดนี้ ชาวป่าใช้เป็นยาต้มแก้กระษัย หรือระดูขัด. (พจน. ๒๔๙๓).
กระทะ,กระทะ ๑ กระทะ ๑ น. ภาชนะก้นตื้นปากผาย ใช้สําหรับหุงต้มเป็นต้น.
กระทะ,กระทะ ๒ กระทะ ๒ ดู ตะกรับ ๓ (๑).
กระทะใบบัว กระทะใบบัว น. กระทะขนาดใหญ่.
กระทั่ง กระทั่ง ก. ตี, กระแทก, เช่น เสียงโครมครื้นคลื่นกระทั่งฝั่งชลา. (นิ. เพชร); ทําให้มีเสียง เช่น กระทั่งแตรกระทั่งมโหระทึก; ให้เสียงสัญญาณ เช่น ตามช่องฉากบังกระทั่งไอ. (คาวี), นิยมใช้เข้าคู่กับคํา กระทบ เป็น กระทบกระทั่ง.<2t>บ. จดถึง, จนถึง, เช่น กระทั่งบัดนี้เขาก็ยังไม่มา; แม้, แม้แต่, เช่น กระทั่งพ่อสั่งเขาก็ยังไม่ทำ กระทั่งแม่ของเขาเองเขาก็ยังไม่เว้น.
กระทั่งติด กระทั่งติด ดู มวก.
กระทัน,-กระทัน -กระทัน ใช้เข้าคู่กับคํา กระทด เป็น กระทดกระทัน.
กระทั้น,-กระทั้น -กระทั้น ใช้เข้าคู่กับคํา กระแทก เป็น กระแทกกระทั้น.
กระทา กระทา น. ชื่อนกขนาดเล็กในวงศ์ Phasianidae ซึ่งเป็นวงศ์เดียวกับไก่ฟ้า ตัวกลม ขนลายเป็นจุดกระ ๆ ปีกและหางสั้น วิ่งหากินเมล็ดพืชและแมลงอยู่ตามพื้นดิน บินได้ในระยะทางสั้น ๆ มีหลายชนิด เช่น กระทาทุ่ง (Francolinus pintadeanus) กระทาดงแข้งเขียว (Arborophila chloropus).
กระทาชาย กระทาชาย (โบ) น. คนผู้ชาย, กระไทชาย ก็ว่า.
กระทาย กระทาย น. กระบุงเล็ก ปากผาย; เครื่องตวงครึ่งกระบุง ใช้ตวงข้าวสมัยโบราณ.<2t>ก. กระทกของเอากากออก.
กระทายเหิน กระทายเหิน ดู มหาหงส์.
กระทาสี กระทาสี (กลอน) น. ทาส เช่น เหมือนไพร่ชาติชั่วช้ากระทาสี. (นิ. สุรสีห).
กระทาหอง กระทาหอง ดู จงโคร่ง, โจงโคร่ง.
กระทำ,กระทำ ๑ กระทำ ๑ ก. ทํา, จัดแจง, ปรุงขึ้น, สร้างขึ้น; (กฎ) ทําการใด ๆ ที่เกิดผลในทางกฎหมาย และหมายรวมถึงละเว้นการที่กฎหมายบังคับให้กระทํา หรืองดเว้นการที่จักต้องกระทําเพื่อป้องกันผลนั้นด้วย.
กระทำ,กระทำ ๒ กระทำ ๒ ก. ใช้เวทมนตร์ทําให้ผู้ใดผู้หนึ่งเป็นไปตามต้องการของตน มีให้รักหรือให้ป่วยเจ็บเป็นต้น เช่นว่า กระทํายําเยีย, การถูกเวทมนตร์เช่นนี้เรียกว่า ถูกกระทํา.
กระทำโดยเจตนา กระทำโดยเจตนา (กฎ) ก. กระทำโดยรู้สำนึกในการที่กระทำและในขณะเดียวกันผู้กระทำประสงค์ต่อผล หรือย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำนั้น.
กระทำโดยประมาท กระทำโดยประมาท (กฎ) ก. กระทำความผิดมิใช่โดยเจตนา แต่กระทำโดยปราศจากความระมัดระวังซึ่งบุคคลในภาวะเช่นนั้นจักต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์ และผู้กระทำอาจใช้ความระมัดระวังเช่นว่านั้นได้ แต่หาได้ใช้ให้เพียงพอไม่.
กระทิกกระทวย กระทิกกระทวย ว. ระริกระรี่, ซิกซี้, เช่น เจ้าก็ระรี่ระริกกระทิกกระทวยรวยระรื่นจนสิ้นตัว. (ม. ร่ายยาว ชูชก).
กระทิง,กระทิง ๑ กระทิง ๑ น. ชื่อวัวป่าที่ใหญ่ที่สุดชนิด Bos gaurus ในวงศ์ Bovidae ขนลำตัวสีเทาหรือเทาอมดำ ยกเว้นขนบริเวณหน้าผากเป็นสีเทา ครึ่งล่างของขาทั้ง ๔ เป็นขนสีเทาอมเหลือง เนื่องจากเหงื่อที่เป็นน้ำมันที่ขับออกมา.
กระทิง,กระทิง ๒ กระทิง ๒ น. ชื่อไม้ต้นชนิด Calophyllum inophyllum L. ในวงศ์ Guttiferae ใบและผลคล้ายสารภี แต่ใบขึ้นสันมากและผลกลมกว่า เปลือกเมล็ดแข็ง ใช้ทําลูกฉลากหรือกระบวยของเล่น, สารภีทะเล กากะทิง หรือ กระทึง ก็เรียก.
กระทิง,กระทิง ๓ กระทิง ๓ น. ชื่อปลานํ้าจืดในสกุล Mastacembelus วงศ์ Mastacembelidae ลําตัวยาว แบนข้างเล็กน้อย ปลายจะงอยปากบนเรียวแหลมคล้ายปลาหลด แต่มีครีบหลังและครีบก้นยาวต่อเนื่องกับครีบหาง สีสดสวยกว่าและมีขนาดใหญ่กว่า อาศัยอยู่ในแม่นํ้าลําคลองและที่ลุ่ม มีหลายชนิดในประเทศไทย ที่พบทั่วไป ได้แก่ ชนิด M. armatus, M. favus และกระทิงไฟ (M. erythrotaenia) ซึ่งมีขนาดยาวได้ถึง ๘๐ เซนติเมตร.
กระทิงโทน กระทิงโทน น. กระทิงที่ชอบแยกออกจากฝูงโดยสมัครใจหรือถูกตัวผู้อื่นไล่ออกจากฝูงให้อยู่โดดเดี่ยว.
กระทึง กระทึง น. (๑) (โบ; กลอน) ชื่อไม้ต้นชนิดหนึ่ง ใบคล้ายพลวง รากมียางเมือก เชื่อกันว่าใช้เป็นยาดูดพิษฝีได้ เช่น กระทุทุมกระทึงทอง. (สุธน).<2t>(๒) ดู กระทิง ๒.
กระทืบ กระทืบ ก. ยกเท้ากระแทกลงไป.
กระทืบธรณี กระทืบธรณี น. อาการที่เดินห่มตัว ถือกันว่าเป็นลักษณะไม่ดี เข้าในพวกว่า ยักหล่มถ่มร้าย กระทืบธรณี.
กระทืบยอบ กระทืบยอบ น. ชื่อไม้ล้มลุก ๓ ชนิด คือ Biophytum adiantoides Wight ex Edgew. et Hook.f., B. petersianum Klotzsch และ B. sensitivum (L.) DC. ในวงศ์ Oxalidaceae ต้นเล็ก ๆ ใบคล้ายใบผักกระเฉด เมื่อถูกกระเทือนหุบได้ ดอกสีเหลือง, กระทืบยอด ก็เรียก.
กระทุ กระทุ น. ชื่อไม้พุ่มชนิด Rhodomyrtus tomentosa Wight ในวงศ์ Myrtaceae ขึ้นชุมตามป่าโปร่งทางปักษ์ใต้ ใบหนา สีเขียวแก่ ออกเป็นคู่ ๆ ตามกิ่ง บางทีออกเป็น ๓ ใบจากข้อเดียวกัน ด้านล่างของใบมีขนทึบสั้น ๆ ดอกสีชมพู สัณฐานคล้ายกุหลาบลาขนาดเล็ก ๆ ออกตามง่ามใบ ดอกเดี่ยวหรือเป็นช่อ ๒-๓ ดอกก็มี ผลกลม เมื่อสุกสีม่วงดํา กินได้ มีรสหอมหวาน, ทุ พรวด พลวดใหญ่ หรือ พลวดกินลูก ก็เรียก.
กระทุง กระทุง น. ชื่อนกนํ้าขนาดใหญ่ในวงศ์ Pelecanidae ขนสีขาวหรือสีเทา ๆ ตัวขนาดห่าน ปากยาวใหญ่ ปากล่างมีลักษณะเป็นถุงขนาดใหญ่สําหรับจับปลาทีละมาก ๆ อาศัยอยู่ตามแม่นํ้าลําคลองและชายทะเล ในประเทศไทยมีเพียงชนิดเดียวคือ ชนิด Pelecanus philippensis.
กระทุ้ง กระทุ้ง ก. เอาสิ่งที่มีลักษณะยาวกระแทกให้แน่นหรือให้ออก, โดยปริยายหมายความว่า หนุนให้กระทําหรือกล่าวแสดงออกมา เช่น กระทุ้งให้ร้องเพลง, ทุ้ง ก็ว่า เช่น ชอบแต่ทุบถองทุ้งให้กุ้งกิน. (มณีพิชัย).
กระทุงลาย กระทุงลาย ดู กระทงลาย.
กระทุ้งเส้า กระทุ้งเส้า ก. เอาไม้เส้ากระทุ้งเพื่อให้จังหวะฝีพาย.
กระทุงหมาบ้า กระทุงหมาบ้า น. ชื่อไม้เถาชนิด Dregea volubilis (L.f.) Benth. ex Hook.f. ในวงศ์ Asclepiadaceae มียางขาวเป็นพิษ ใบมนหรือรูปไข่ ปลายแหลม โคนใบเว้าหรือป้าน ออกเป็นคู่ตรงข้ามกันตามลําต้น ดอกสีเขียวอ่อนเป็นพวงกลม ใช้ทํายา, ฮ้วนหมู ก็เรียก.
กระทุงเหว กระทุงเหว น. ชื่อปลาผิวนํ้าทุกชนิดในวงศ์ Belonidae และ Hemirhamphidae ลําตัวกลมยาวคล้ายปลาเข็ม กระดูกปากทั้งตอนบนและล่างหรือเฉพาะตอนล่างยื่นยาวแหลม หางเป็นแฉก บ้างก็ตัดเฉียงลงมากน้อยหรือกลมแล้วแต่ชนิดหรือสกุล บางชนิดพบอาศัยอยู่ในนํ้าจืด เช่น กระทุงเหวเมือง (Xenentodon cancila) ส่วนใหญ่พบในเขตนํ้ากร่อยหรือชายทะเล เช่น ชนิดในสกุล Hemirhamphus, Hyporhamphus, Rhynchorhamphus, Tylosurus, Strongylura และ Zenarchopterus ชนิดที่พบในทะเลห่างฝั่งและบริเวณรอบเกาะ คือ กระทุงเหวบั้ง (Ablennes hians) ซึ่งมีชุกชุมที่สุด, เข็ม ก็เรียก.
กระทุน กระทุน ดู กะทุน.
กระทุ่ม,กระทุ่ม ๑ กระทุ่ม ๑ น. ชื่อไม้ต้นขนาดกลางและขนาดใหญ่ชนิด Anthocephalus chinensis (Lam.) A. Rich. ex Walp. ในวงศ์ Rubiaceae ใบออกเป็นคู่ตรงข้ามกัน ตามลํากิ่งและในระหว่างใบมีหูใบรูปสามเหลี่ยมปลายแหลมติดกับกิ่งทั้ง ๒ ด้าน ดอกเป็นช่อกลมสีเหลืองอ่อน หอม เนื้อไม้เหลืองหรือขาว ใช้ทําเสากระดาน และเยื่อกระดาษชนิดเลวได้, กระทุ่มบก ตะกู หรือ ตะโกส้ม ก็เรียก. (เทียบ ป. กทมฺพ).
กระทุ่ม,กระทุ่ม ๒ กระทุ่ม ๒ ก. เอาเท้าตีนํ้าเมื่อเวลาว่ายนํ้า; ตี เช่น กรกระทุ่มทรวงครวญ รํ่าร้อง. (เพชรมงกุฎ); (โบ; กลอน) โดยปริยายหมายความว่า ผ่า เช่น ฟ้ากระทุ่มทับลง. (แช่งน้ำ).
กระทุ่มขี้หมู,กระทุ่มนา,กระทุ่มหมู กระทุ่มขี้หมู, กระทุ่มนา, กระทุ่มหมู ดู กระท่อมขี้หมู.
กระทู้,กระทู้ ๑ กระทู้ ๑ น. ซอไม้ไผ่ที่เอามาปักเป็นเสารั้ว; หลัก เช่น ช้างพังพลายเป็นสัตว์มีคุณแล้วก็เป็นกระทู้ราชการสําหรับแผ่นดินสืบมา. (ท้องตราโบราณ วชิรญาณรายเดือน เล่ม ๗), เป็นกระทู้การสงคราม. (ประชุมพงศ. ๒); (ไว) ในฉันทลักษณ์ หมายเอาข้อความอันเป็นเค้าเงื่อนนําหน้าบทกลอน เช่น โคลงที่แต่งตามเค้าเงื่อนนั้น เรียกว่า โคลงกระทู้.
กระทู้,กระทู้ ๒ กระทู้ ๒ น. หัวข้อหรือข้อความที่ตั้งให้อธิบาย เช่น กระทู้ธรรม กระทู้ถาม.
กระทู้,กระทู้ ๓ กระทู้ ๓ น. ชื่อหนอนของแมลงกลุ่มหนึ่งในวงศ์ Noctuidae หรือ Phalaenidae ลําตัวอ่อนนุ่ม ผิวเป็นมัน มีขนตามลําตัวน้อย ส่วนใหญ่สีคลํ้า ทางด้านท้องสีอ่อนกว่า มักมีแถบหรือเส้นสีต่าง ๆ เช่น สีส้มอมนํ้าตาล เหลืองอมขาว พาดตามยาวที่สันหลังและข้างลําตัว มีขาจริง ๓ คู่ ขาเทียม ๕ คู่ กินพืช โดยมักจะกัดต้นพืชให้ขาดออกจากกัน ทําให้เหลือแต่ตอโผล่เหนือพื้นดิน มองคล้ายกระทู้หรือซอไม้ไผ่ที่ปักเป็นหลัก ชนิดที่รู้จักกันทั่วไป เช่น หนอนกระทู้ควายพระอินทร์ หรือหนอนกระทู้คอรวง (Mythimna separata) ที่ทําลายต้นข้าว.
กระทู้ถาม กระทู้ถาม (กฎ) น. คําถามในข้อเท็จจริงหรือนโยบายที่สมาชิกสภานิติบัญญัติหรือสมาชิกสภาขององค์การบริหารส่วนท้องถิ่นตั้งถามฝ่ายบริหารให้ตอบในที่ประชุมแห่งสภานั้น ๆ หรือตอบเป็นหนังสือ. (อ. question).
กระเท่ กระเท่ ว. เท่, เอียง.
กระเท่เร่ กระเท่เร่ ว. เอียงทื่ออยู่, เอียงไปมาก, มักพูดเข้าคู่กับ เอียง เป็น เอียงกระเท่เร่, โดยปริยายหมายความว่า ลําเอียงมาก.
กระเทียบ,-กระเทียบ -กระเทียบ ใช้เข้าคู่กับคํา กระทบ เป็น กระทบกระเทียบ.
กระเทียม กระเทียม น. ชื่อไม้ล้มลุกชนิด Allium sativum L. ในวงศ์ Alliaceae คล้ายต้นหอม หัวเป็นกลีบ ๆ เมื่อแห้งสีขาว กลิ่นฉุน รสเผ็ดร้อน ใช้ปรุงอาหาร, พายัพเรียก หอมเตียม, อีสานเรียก หอมขาว, ปักษ์ใต้เรียก เทียม.
กระเทียมหอม กระเทียมหอม น. ต้นหอม เช่น กระเทียมหอมรําแย้ ก็มี. (ม. คําหลวง มหาพน).
กระเทือน กระเทือน ก. มีอาการเหมือนไหวหรือสั่นเพราะถูกกระทบกระทั่ง เช่น นั่งรถที่แล่นไปตามทางขรุขระก็รู้สึกกระเทือน เสียงระเบิดทำให้บ้านกระเทือน, โดยปริยายหมายความว่า รู้สึกหวั่นไหว เช่น เขาว่าลูกก็กระเทือนไปถึงแม่ ใครจะว่าอย่างไร ๆ ก็ไม่กระเทือน, บางทีก็ใช้เข้าคู่กับคํา กระทบ เป็น กระทบกระเทือน, สะเทือน ก็ว่า.
กระเทือนใจ กระเทือนใจ ก. มีจิตใจหวั่นไหวอย่างแรงเพราะมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากระทบ (มักใช้ในทางที่ไม่ดี),สะเทือนใจ ก็ว่า.
กระเทือนซาง กระเทือนซาง (ปาก) ก. มีจิตใจหวั่นไหวอย่างรุนแรงเพราะมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากระทบใจ เช่น ว่าเท่าไร ๆ ก็ไม่กระเทือนซาง ถูกตำหนิอย่างแรงทำให้รู้สึกกระเทือนซาง.
กระเทื้อม กระเทื้อม ก. กระเทือน เช่น เสียงดังโครมใหญ่ไม่กระเทื้อม. (อภัย).
กระแทก กระแทก ก. กระทบโดยแรง, กระทุ้ง; พูดกระชากเสียงให้ดังผิดปรกติแสดงว่าไม่พอใจหรือโกรธ เช่น กระแทกเสียง, บางทีใช้เข้าคู่กับคํา กระทบ เป็น กระทบกระแทก.
กระแทกกระทั้น กระแทกกระทั้น ว. กระแทกเสียงหรือกระแทกสิ่งของให้รู้ว่าไม่พอใจหรือโกรธ.
กระแท่น กระแท่น ก. แทบถึง, ถึงทีเดียว, กระทั่ง, คําใช้ในบทร้องของเด็ก ในความว่า พายเรืออกแอ่นกระแท่นต้นกุ่ม, นิยมใช้เข้าคู่กับคำ กระท่อน เป็น กระท่อนกระแท่น.
กระแท้ม,-กระแท้ม -กระแท้ม ใช้เข้าคู่กับคํา กระท้อม เป็น กระท้อมกระแท้ม.
กระแทะ กระแทะ น. ยานชนิดลากขนาดเล็ก มี ๒ ล้อ ใช้วัวเทียม ตัวเรือนราบไม่ยกสูงอย่างเรือนเกวียน มีทั้งชนิดโถงและประกอบหลังคา, ระแทะ หรือ รันแทะ ก็ว่า. (ข. รเทะ).
กระไทชาย กระไทชาย (โบ; มาจาก กระทาชาย) น. คนผู้ชาย เช่น อันว่ากระไทชายผู้หนึ่ง. (ม. คําหลวง กุมาร; มหาราช), กระทาชาย ก็ว่า.
กระนก กระนก [-หฺนก] (โบ; แผลงมาจาก กนก) น. ทองคํา. (ไตรภูมิ). (ดู กนก).
กระน่อง กระน่อง (ถิ่น-อีสาน) น. อวัยวะส่วนหลังของลำแข้ง ตั้งแต่ขาพับลงไปถึงส้นเท้า, กระหน่อง ขะน่อง หรือ ขาน่อง ก็เรียก.
กระนั้น กระนั้น ว. นั้น, ดังนั้น, อย่างนั้น.
กระนี้ กระนี้ ว. นี้, ดังนี้, อย่างนี้.
กระแนะกระแหน กระแนะกระแหน [-แหฺน] ก. พูดกระทบหรือพูดเป็นเชิงเสียดสี, กระแหนะกระแหน ก็ว่า.
กระโน้น กระโน้น ว. โน้น, เช่นโน้น, อย่างโน้น.
กระไน กระไน น. ชื่อนกชนิดหนึ่ง, ตระไน ก็ว่า เช่น เขาคุ่มกระตรุมกระไตร ตระไนนี่สนั่นเสียง. (สรรพสิทธิ์).
กระบก กระบก น. ชื่อไม้ต้นขนาดใหญ่ชนิด Irvingia malayana Oliv. ex A. Benn. ในวงศ์ Irvingiaceae ใบรูปไข่ ผลเท่ามะกอกหรือมะปรางขนาดเขื่อง เมล็ดแข็ง เนื้อในขาว มีรสมัน กินได้, ตระบก มะมื่น หรือ มะลื่น ก็เรียก.
กระบกคาย กระบกคาย ดู กระโดงแดง (๑).
กระบถ กระบถ [-บด] (โบ; เพี้ยนมาจาก กบฏ) น. การประทุษร้ายต่อทางอาณาจักร, ความทรยศ, ขบถ.
กระบม กระบม (ถิ่น-อีสาน) น. ภาชนะชนิดหนึ่งทําด้วยไม้ขุดรูปวงกลมมีขอบ ด้ามสั้น สำหรับสงข้าวเหนียวที่นึ่งสุกใหม่ ๆ หรือคนข้าวเหนียวนึ่งให้ลดความร้อนก่อนนำไปใส่ในกล่องข้าว หรือใช้เป็นภาชนะรองถ้วยชามอย่างสำรับ, กระโบม ก็เรียก.
กระบวน กระบวน น. ขบวน, แบบแผน เช่น กระบวนหนังสือไทย, ชั้นเชิง เช่น ทํากระบวน งามกระบวนเนตรเงาเสน่ห์งํา; ลําดับ เช่น แลขุนหมื่นชาวสานทังปวงเฝ้าตามกระบวน. (สามดวง); วิธีการ เช่น จัดกระบวนพิจารณาอรรถคดีในโรงศาล, นิยมใช้เข้าคู่กับคํา กระบิด เป็น กระบิดกระบวน.
กระบวนกระบิด กระบวนกระบิด (กลอน) น. ชั้นเชิง เช่น ทั้งกระบวนกระบิดติดปั้นปึ่ง. (ไกรทอง), กระบิดกระบวน ก็ว่า.
กระบวนการ กระบวนการ น. ปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงอย่างมีระเบียบ ไปสู่ผลอย่างหนึ่ง เช่น กระบวนการเจริญเติบโตของเด็ก, กรรมวิธีหรือลําดับการกระทําซึ่งดําเนินต่อเนื่องกันไปจนสําเร็จลง ณ ระดับหนึ่ง เช่น กระบวนการเคมีเพื่อผลิตสิ่งใดสิ่งหนึ่ง. (อ. process).
กระบวนการยุติธรรม กระบวนการยุติธรรม (กฎ) น. วิธีดําเนินการให้ความคุ้มครองสิทธิ เสรีภาพ และให้ความเป็นธรรมในทางกฎหมายแก่บุคคล โดยบุคลากรและองค์กร หรือสถาบันต่าง ๆ ซึ่งมีหน้าที่บริหารงานยุติธรรม ได้แก่ พนักงานฝ่ายปกครองหรือตํารวจ พนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ ทนายความ ศาล กระทรวงยุติธรรม และกรมราชทัณฑ์.
กระบวนความ กระบวนความ น. แบบแผนของเนื้อความหรือเรื่องราว เช่น ครบถ้วนกระบวนความ.
กระบวนจีน กระบวนจีน น. วิธีการที่นำแบบอย่างศิลปะของจีนมาดัดแปลงหรือประกอบในงานจิตรกรรม ประติมากรรม สถาปัตยกรรม และ มัณฑนศิลป์ของไทย, เรียกลวดลายผ้าแพร โดยมากเป็นรูปประแจ กะแปะ มังกร ว่า ลายกระบวนจีน.
กระบวย กระบวย น. ภาชนะสําหรับตักนํ้า เดิมทําด้วยกะลามะพร้าว มีด้ามถือ, พายัพว่า น้ำโบย.
กระบวร กระบวร [-บวน] ก. ประดับ, แต่ง.<2t>ว. วิจิตร. (แผลงมาจาก กบูร).
กระบอก,กระบอก ๑ กระบอก ๑ น. ไม้ไผ่ที่ตัดเป็นท่อน, ของอื่น ๆ ที่มีรูปคล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น กระบอกปืน กระบอกตา; ลักษณนามบอกสัณฐาน สําหรับใช้กับของกลมยาวแต่กลวง เช่น ข้าวหลาม ๓ กระบอก; เสื้อชนิดหนึ่งในสมัยรัชกาลที่ ๔ แขนยาว ช่วงตัวสั้นเสมอบั้นเอว แขนรัด ตัวรัด คอสูง เรียกว่า เสื้อกระบอก; หุ่นชนิดหนึ่งมีแต่ส่วนหัวและมือ ๒ ข้าง ลำตัวทำด้วยไม้กระบอก มีผ้าเย็บเป็นถุงคลุม เวลาเชิดใช้มือสอดเข้าไปจับไม้กระบอกนั้นเชิด เรียกว่า หุ่นกระบอก; (เรขา) รูปตันที่กําเนิดขึ้นจากการเขียนรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า โดยใช้ด้านใดด้านหนึ่งเป็นแกนแล้วหมุนโดยรอบฐาน ปลายทั้ง ๒ ข้างมีหน้าเป็นวงกลม เรียกว่า รูปทรงกระบอก หรือ รูปกระบอก, ลักษณะได้แก่รูปที่มีสัณฐานกลมยาวและตรงซึ่งมีส่วนสัดกลมเท่ากันตั้งแต่ต้นจนปลาย. (อ. cylinder).
กระบอก,กระบอก ๒ กระบอก ๒ น. ชื่อปลานํ้ากร่อยและทะเลในสกุล Liza, Valamugil, Oedalechilus และ Mugil วงศ์ Mugilidae ลําตัวค่อนข้างกลม ปากเล็ก มีครีบหลัง ๒ ตอน เกล็ดใหญ่สีเงิน มีหลายชนิด มีชื่อเรียกแตกต่างกัน เช่น กระบอกท่อนไต้ (L. vaigiensis) กระบอกดํา (L. parsia) กระบอกขาว (V. seheli), กระเมาะ หรือ ละเมาะ ก็เรียก สําหรับปลาขนาดเล็ก, ปักษ์ใต้เรียก ยมก หรือ มก.
กระบอก,กระบอก ๓ กระบอก ๓ น. ดอกไม้, กลีบดอกไม้, เช่น กระบอกทิพย์ผกากวน กาเมศ กูเอย. (นิ. นรินทร์), กว่ากลิ่นกระบอกบง- กชเกศเอาใจ. (เสือโค), ใช้ว่า ตระบอก ก็มี. (เทียบอะหม บฺลอก; ไทยใหญ่ หมอก; ไทยขาว และ ไทยนุง บอก; เขมร ตฺรบก).
กระบอก,กระบอก ๔ กระบอก ๔ น. ชื่อเพลงไทยทำนองเก่าสมัยอยุธยา ใช้กับบทที่ต้องการรีบด่วน ไปเร็วมาเร็วหรือต้องการให้จบเร็ว เช่นตอนท้าวเสนากุฎต้อนรับแปดกษัตริย์ ในเรื่องสังข์ศิลป์ชัย. (ดึกดําบรรพ์).
กระบอกเพลา กระบอกเพลา น. ไม้แข็งเช่นเต็งรังทําเป็นปลอกตอกอัดไว้ในรูดุมเกวียน สําหรับสอดเพลาเข้าในรูนั้นป้องกันมิให้รูดุมคราก.
กระบอกสูบ กระบอกสูบ น. ส่วนของเครื่องจักรเครื่องยนต์ ลักษณะเป็นโพรงรูปกระบอกอยู่ในเสื้อสูบ เป็นช่องสําหรับบังคับให้ลูกสูบเคลื่อนไปมา.
กระบอกเสียง กระบอกเสียง (ปาก) น. ผู้เป็นปากเป็นเสียงแทน.
กระบอกหัว กระบอกหัว (โบ) น. กะโหลกหัว เช่น อีกกระบอกหววมึงกูจะผ่า. (ม. คําหลวง ชูชก), ปักษ์ใต้ว่า บอกหัว.
กระบอง กระบอง น. ไม้สั้นสําหรับใช้ตี มีรูปกลมบ้าง เหลี่ยมบ้าง คล้ายพลองแต่สั้นกว่า, ใช้ว่า ตระบอง ก็มี. (ข. ฏํบง; ปักษ์ใต้ บอง).
กระบองกลึง กระบองกลึง น. ไม้กลึงเป็นรูปกระบองอย่างยาวสําหรับถือเข้าขบวนแห่ช้างสําคัญ.
กระบองกัน กระบองกัน ดู ตะบองกัน.
กระบองเพชร,กระบองเพชร ๑ กระบองเพชร ๑ น. ใบตาลที่ขมวดปลายลงอักขระสําหรับใช้ในพิธีตรุษและโกนจุก, ตะบองเพชร ก็เรียก.
กระบองเพชร,กระบองเพชร ๒ กระบองเพชร ๒ น. ชื่อไม้พุ่มชนิด Cereus hexagonus (L.) Miller ในวงศ์ Cactaceae ลําต้นสูง ๓-๕ เมตร ลําต้นและกิ่งกลม หยักเป็นร่องโดยรอบ มีหนามละเอียด ดอกใหญ่ สีขาว กลิ่นหอม บานกลางคืน มักปลูกเป็นรั้วบ้าน, ตะบองเพชร ก็เรียก, พายัพ เรียก เขียะ หรือ หนามเขียะ.
กระบองราหู กระบองราหู น. ชื่อโรคตามตําราแพทย์แผนโบราณว่าเป็นโรคซางชนิดหนึ่ง ที่ขึ้นเป็นเม็ดที่เด็กอ่อน, ละบองราหู ก็เรียก.
กระบะ กระบะ น. ภาชนะไม้ก้นแบนมีขอบ ใช้อย่างถาด, ใช้ว่า ตระบะ ก็มี; ชื่อรถชนิดหนึ่งใช้บรรทุกสิ่งของ ทําตัวถังเป็นรูปอย่างกระบะ เรียกว่า รถกระบะ.
กระบัด,กระบัด ๑ กระบัด ๑ (กลอน) ว. บัดใจ, ทันใด, เช่น อาวุธกับศรก็ตกกระบัดเหอรหาย. (สมุทรโฆษ), ตระบัด ก็ใช้.
กระบัด,กระบัด ๒ กระบัด ๒ (โบ) ก. ฉ้อโกง เช่น กระบัดสิน, ตระบัด ประบัด หรือ สะบัด ก็ใช้.
กระบั้วกระเบี้ย กระบั้วกระเบี้ย ว. กระปั้วกระเปี้ย, กะปลกกะเปลี้ย, เดินไม่คล่องแคล่ว (อย่างผู้รื้อไข้).
กระบ่า,กระบ้า กระบ่า, กระบ้า ดู ตบยุง.
กระบาก กระบาก น. ชื่อไม้ต้นขนาดใหญ่หลายชนิดในสกุล Anisoptera ในวงศ์ Dipterocarpaceae ขึ้นในป่าดิบทั่วไป ลําต้นตรง สูง ๓๐-๔๐ เมตร เนื้อไม้ใช้ในการก่อสร้างที่ไม่ต้องรับนํ้าหนัก โดยมากใช้เป็นไม้แบบหล่อคอนกรีต.
กระบาย กระบาย น. ภาชนะสานรูปคล้ายกระบุงแต่มีขนาดเล็กกว่า ปากกลม ก้นสี่เหลี่ยม.
กระบาล กระบาล [-บาน] น. ส่วนกลางของกะโหลกศีรษะ, หัว, (คำไม่สุภาพ) เช่น ตีกระบาล เขกกระบาล, (โบ) เขียนเป็น กระบาน ก็มี เช่น เพิกหนังทังผมนั้นออกเสียแล้วเอากรวดทรายขัดกระบานศีศะชำระให้ขาวเหมือนพรรณศรีสังข์. (สามดวง); แผ่นกระเบื้อง; ลานกลางหมู่บ้าน เรียกว่า กระบาลบ้าน. (แผลงมาจาก กบาล).
กระบิ,กระบิ ๑ กระบิ ๑ น. แท่ง แผ่น ชิ้น.
กระบิ,กระบิ ๒ กระบิ ๒ น. หญ้าที่ซับซ้อนกันอยู่ในที่ลุ่มหรือในหนอง เช่น ตัดกระบิในหนองเป็นสองหน. (ไกรทอง).
กระบิ้ง กระบิ้ง น. นาที่เป็นกระทงเล็ก ๆ, ตะบิ้ง ก็เรียก.
กระบิด กระบิด ก. บิดเชือกหรือตอกให้เขม็งจนขอดเป็นปม.
กระบิดกระบวน กระบิดกระบวน น. ชั้นเชิง เช่น ทําจริตกระบิดกระบวนสะบิ้งสะบัด. (ม. ร่ายยาว ชูชก), กระเบ็ดกระบวน ก็ใช้.<2t>ก. แกล้งทำชั้นเชิงเหมือนไม่เต็มใจ เช่น อย่ากระบิดกระบวนนักเลย.
กระบิล กระบิล น. ระเบียบ, หมู่. (แผลงมาจาก กบิล).
กระบี่,กระบี่ ๑ กระบี่ ๑ (กลอน) น. ลิง เช่น ขุนกระบี่มีกำลังโดดโลดโผน กระโจมโจนจับยักษ์หักแขนขา. (รามเกียรติ์ ร. ๒). (ป., ส. กปิ).
กระบี่,กระบี่ ๒ กระบี่ ๒ น. อาวุธชนิดหนึ่ง ใบแบนยาว ปลายแหลม มีคมข้างหนึ่งหรือทั้ง ๒ ข้าง ด้ามสั้น ที่ด้ามถืออาจมีโกร่งหรือไม่มีก็ได้ มีฝัก.
กระบี่กระบอง กระบี่กระบอง น. ชื่อการเล่นชนิดหนึ่ง ต่อสู้กันด้วยกระบี่และกระบองเป็นต้น.
กระบี่ธุช กระบี่ธุช น. ชื่อธงมีลักษณะเป็นธงสามชาย ๓ ผืน ผืนธงทำด้วยผ้าปักไหมทองเป็นลวดลายเครือกระหนก สอดร่วมอยู่ในคันธงเดียวกันซึ่งเป็นเหล็ก และทำเป็นกิ่งแยกจากคันกลางทางด้านซ้ายและด้านขวา ปลายคันธงเป็นรูปใบหอก ที่โคนคันธงบริเวณที่สวมต่อคันธงท่อนล่างติดรูปพระกระบี่ คือหนุมานในท่ายืนยกขาหน้าและขาหลังข้างขวาเตรียมเหาะ เรียกเต็มว่า ธงชัยราชกระบี่ธุช หรือ ธงชัยราชกระบี่ธุชใหญ่ ใช้เชิญนำหน้าพระราชยานในกระบวนพยุหยาตรา และอัญเชิญประดิษฐานในพิธีมณฑลในการพระราชพิธีต่าง ๆ เข้าคู่กับธงพระครุฑพ่าห์ โดยธงกระบี่ธุชอยู่ทางด้านซ้าย และธงพระครุฑพ่าห์อยู่ทางด้านขวา.
กระบี่ลีลา กระบี่ลีลา น. ชื่อเพลงกลองแขก เดิมเป็นเพลงของมลายู ทํานองห่าง ๆ เช่นเพลงกระบี่กระบอง, แล้วแปลงมาใช้เป็นเพลงร้องรํา ๒ ชั้น ทํานองให้ถี่เข้าประสมเล่นรวมมโหรีและกลองแขก สมัยปลายรัชกาลที่ ๔ หรือต้นรัชกาลที่ ๕ เช่นตอนโหรทูลท้าวเสนากุฎในเรื่องสังข์ศิลป์ชัย. (ดึกดําบรรพ์).
กระบือ กระบือ น. ควาย (มักใช้เป็นทางการ) เช่น รูปพรรณโคกระบือ. (ข. กรฺบี; มลายู เกรฺเบา).
กระบือเจ็ดตัว กระบือเจ็ดตัว น. ชื่อไม้พุ่มชนิด Excoecaria cochinchinensis Lour. ในวงศ์ Euphorbiaceae สูง ๑-๒ เมตร ใบด้านบนสีเขียว ด้านล่างสีแดงเลือดหมู ใช้ทํายาได้, ลิ้นกระบือ ก็เรียก, จันทบุรีเรียก ใบท้องแดง.
กระบุง กระบุง น. ภาชนะสานทึบรูปกลมสูง พื้นก้นเป็นสี่เหลี่ยม.
กระบุงโกย กระบุงโกย (ปาก) ว. มากมาย เช่น มีข้าวของเป็นกระบุงโกย ถูกบ่นตั้งกระบุงโกย.
กระบุ่มกระบ่าม กระบุ่มกระบ่าม ว. บุ่ม ๆ บ่าม ๆ, ซุ่มซ่าม.
กระบู้กระบี้ กระบู้กระบี้ ว. บู้ ๆ บี้ ๆ, บุบ, บุบแฟบ.
กระบูน กระบูน น. ตะบูนขาว. (ดู ตะบูน).
กระบูนเลือด กระบูนเลือด น. ชื่อว่านชนิดหนึ่ง หัวและต้นดั่งขมิ้นอ้อย ต้นและใบเขียว หัวขนาดหัวเผือก กลมเกลี้ยงเป็นมัน มีปล้องห่าง ๆ เนื้อขาว ฉุนร้อน ถ้าเคี้ยวจะทําให้ฟันโยก เชื่อกันว่าใช้ฝนกับนํ้าปูนใสหรือต้มเสียก่อนก็ได้ กินแก้ดานเลือด ดานลม และกระชับมดลูกให้แห้งสนิท. (กบิลว่าน).
กระบูร กระบูร [-บูน] ก. ประดับ, แต่ง. (แผลงมาจาก กบูร).
กระเบง กระเบง (กลอน) ก. เบ่ง เช่น ระด่าวตึงกระเบงแขน. (อนิรุทธ์); ตะเบ็ง, กระเบญ ก็ใช้.
กระเบญ กระเบญ (กลอน) ก. กระเบง เช่น กุมกระบอง กระเบญหาญ. (สมุทรโฆษ).
กระเบ็ดกระบวน กระเบ็ดกระบวน น. กระบิดกระบวน, ชั้นเชิง.
กระเบน กระเบน น. ชื่อปลากระดูกอ่อนพวกหนึ่ง มีหลายชนิด หลายสกุล และหลายวงศ์ ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ลําตัวแบนลงมาก ครีบอกแผ่ออกด้านข้าง บางชนิดแผ่ออกไปจดด้านหน้าและด้านท้ายเกือบเป็นวงกลมดูคล้ายจานหรือว่าว บางชนิดแผ่ยื่นด้านข้างออกไปเป็นปีกคล้ายนกหรือผีเสื้อ และบางชนิดครีบอกแผ่ไปไม่ถึงส่วนหน้า ทำให้หัวแยกจากลำตัวและส่วนยื่นของหัวเป็นลอน มีเหงือก ๕ คู่ อยู่ด้านล่างของส่วนหัว บริเวณถัดจากส่วนท้ายของนัยน์ตามีรูเปิดข้างละช่อง ซึ่งด้านในติดต่อกับโพรงเหงือกและปาก หางส่วนมากเรียว สั้นบ้างยาวบ้าง มักมีผิวหยาบหรือขรุขระ บางพวกมีเงี่ยงอยู่บนหางตอนใกล้ลำตัว และมีต่อมน้ำพิษอยู่บริเวณโคนเงี่ยง เมื่อใช้เงี่ยงแทงจะปล่อยน้ำพิษออกมาด้วย ทำให้คนหรือสัตว์ที่ถูกแทงรู้สึกปวด; เรียกชายผ้านุ่งที่ม้วนแล้วสอดไปใต้หว่างขา ดึงขึ้นไปเหน็บขอบผ้านุ่งด้านหลังระดับบั้นเอว ว่า ชายกระเบน หรือ หางกระเบน; โคนหางช้าง เช่น ผูกกระเบนสักหลาดถกล สัปทนแดงกางกั้ง. (กฐินพยุห).
กระเบนเนื้อดำ กระเบนเนื้อดำ ดู ยี่สน.
กระเบนเหน็บ กระเบนเหน็บ น. ส่วนของร่างกายด้านหลังระดับบั้นเอว ตรงที่เหน็บชายกระเบน.
กระเบา,กระเบา ๑ กระเบา ๑ น. ชื่อไม้ต้นขนาดย่อมถึงขนาดใหญ่หลายชนิดในสกุล Hydnocarpus วงศ์ Flacourtiaceae เช่น กระเบาใหญ่ หรือ กระเบานํ้า (H. anthelminthica Pierre ex Laness.) เป็นไม้ต้นขนาดใหญ่ ผลกลม เปลือกแข็ง มีขนสีนํ้าตาล ขนาดเท่าผลส้มโอขนาดย่อม เนื้อในเป็นแป้งสีเหลืองอ่อน ๆ กินได้ เมล็ดมีนํ้ามัน เคยใช้เป็นยาแก้โรคเรื้อน ต้นที่มีแต่ดอกเพศผู้ เรียกว่า แก้วกาหลง, กระเบากลัก หรือ กระเบียน (H. ilicifolia King) เป็นไม้ต้นขนาดกลาง ผลกลม เปลือกแข็ง มีขนสีดํา ขนาดเท่าผลส้มเกลี้ยง.
กระเบา,กระเบา ๒ กระเบา ๒ น. กระบี่ชนิดหนึ่ง ปลายแหลมเรียวอย่างหางกระเบน เรียกว่า กระเบาหางกระเบน.
กระเบิก กระเบิก (กลอน) ก. เบิก เช่น ปรดิพหุลดุลยปรดิมุข หุลดุลยอุกกลุก ก็เกริกกระเบิกหาวหบ. (อนิรุทธ์).
กระเบี้ย,-กระเบี้ย -กระเบี้ย ใช้เข้าคู่กับคํา กระบั้ว เป็น กระบั้วกระเบี้ย.
กระเบียด กระเบียด น. มาตราวัดตามวิธีประเพณี ๑ กระเบียด เท่ากับ ๑ ใน ๔ ส่วนของนิ้ว.
กระเบียดกระตัก กระเบียดกระตัก ก. เกี่ยงให้ตัวได้มาก.
กระเบียดกระเสียร กระเบียดกระเสียร ก. พยายามใช้จ่ายอย่างจํากัดจําเขี่ย.
กระเบียน กระเบียน น. (๑) กระเบากลัก. (ดู กระเบา ๑).<2t>(๒) ชื่อไม้ต้นผลัดใบขนาดเล็กชนิด Gardenia turgida Roxb. ในวงศ์ Rubiaceae ขึ้นในป่าเต็งรังและป่าเบญจพรรณ ต้นมีหนามห่าง ๆ เปลือกเรียบ ดอกเมื่อแรกบานสีขาว แล้วเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอ่อน ผลคล้ายละมุดฝรั่ง แต่สุกแล้วแข็ง, กระดานพน มะกอกพราน หมุยขาว หรือ หัวโล้น ก็เรียก.
กระเบื้อง กระเบื้อง น. เครื่องมุงหลังคาหรือปูพื้นเป็นต้น ทําด้วยดิน หรือวัสดุอย่างอื่น โดยปรกติเป็นแผ่น, เครื่องถ้วยชามที่ปั้นด้วยดินประสมอย่างดี เนื้อมีลักษณะแข็งและขาว เคลือบผิวเป็นมัน มีพื้นหรือลวดลายเป็นสีต่าง ๆ เรียกรวมว่า เครื่องกระเบื้อง, ชิ้นของเครื่องกระเบื้องที่แตกออก, กระทะแบน ๆ สําหรับละเลงขนมเบื้องเป็นต้น เดิมทําด้วยดินเผา แต่ปัจจุบันทําด้วยโลหะ; ลักษณนามเรียกจํานวนข้าวเม่าเป็นต้นที่คั่วครั้งหนึ่ง ๆ เช่น ข้าวเม่ากระเบื้องหนึ่ง งา ๒ กระเบื้อง.
กระเบื้องกาบกล้วย กระเบื้องกาบกล้วย น. กระเบื้องมุงหลังคาชนิดหนึ่ง มีลักษณะเป็นกระเบื้อง ๒ แผ่นวางคร่อมกัน แผ่นคว่ำมีรูปร่างเหมือนกาบกล้วย ข้างใต้ตอนบนมีงวงหรือขอสำหรับยึดกับระแนง ส่วนแผ่นหงายที่อยู่ข้างล่างนั้นเป็นแผ่นแบน งอริมขึ้นทั้ง ๒ ข้าง มีขออยู่ตอนบนเพื่อเกี่ยวกับระแนง ปัจจุบันนิยมทำให้กระเบื้องแผ่นคว่ำและแผ่นหงายติดเป็นแผ่นเดียวกันเพื่อให้มีความคงทนมากขึ้น, กาบู ก็เรียก.
กระเบื้องเกล็ดเต่า กระเบื้องเกล็ดเต่า น. กระเบื้องดินเผาปลายตัดเป็นมุมแหลม ผิวด้าน มีสีแดงตามเนื้อดิน ใช้มุงหลังคาโบสถ์วิหารเป็นต้น.
กระเบื้องขนมเปียกปูน กระเบื้องขนมเปียกปูน น. กระเบื้องสำหรับมุงหลังคารูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน ทำด้วยปูนซีเมนต์ ทราย และน้ำ, กระเบื้องว่าว หรือ กระเบื้องหน้าวัว ก็เรียก.
กระเบื้องถ้วย กระเบื้องถ้วย (ถิ่น-ปักษ์ใต้) น. ต้นกะอวม. (ดู กะอวม).
กระเบื้องถ้วยกะลาแตก กระเบื้องถ้วยกะลาแตก น. เศษภาชนะดินเผาที่แตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย, โดยปริยายหมายถึงของเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่เป็นชิ้นเป็นอันที่ชํารุดหรือขาดชุดหมดราคา.
กระเบื้องปรุ,กระเบื้องรู กระเบื้องปรุ, กระเบื้องรู น. กระเบื้องเคลือบจีน มีลายโปร่งสําหรับกรุตามผนังหรือกําแพงให้มีช่องลม.
กระเบื้องว่าว กระเบื้องว่าว น. กระเบื้องสำหรับมุงหลังคารูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน ทำด้วยปูนซีเมนต์ ทราย และน้ำ, กระเบื้องขนมเปียกปูน หรือ กระเบื้องหน้าวัว ก็เรียก.
กระเบื้องหน้างัว กระเบื้องหน้างัว ดู กระเบื้องหน้าวัว.
กระเบื้องหน้าวัว กระเบื้องหน้าวัว น. กระเบื้องปูพื้นรูปสี่เหลี่ยมทําด้วยดินเผา; กระเบื้องสำหรับมุงหลังคารูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน ทำด้วยปูนซีเมนต์ ทราย และน้ำ, กระเบื้องว่าว หรือ กระเบื้องขนมเปียกปูน ก็เรียก.
กระแบ่ กระแบ่ (โบ) น. กระบิ, ชิ้น, ส่วน, เช่น เราจะให้บั่นให้แล่ ทุกกระแบ่จงหนําใจ. (ลอ), ทุกกระแบ่เนื้อเห็นเปล่าเลย. (ม. คําหลวง กุมาร), กระแบะ ก็ว่า.
กระแบก กระแบก น. ต้นตะแบก เช่น หูกวางพรรค์กระแบก. (ม. คําหลวง จุลพน), ตระแบก ก็ว่า.
กระแบกงา กระแบกงา ก. แตกเป็นไรงา เช่น พลุกกระแบกงาแต่ต้น จนปลาย. (ตําราช้างคําโคลง).
กระแบะ,กระแบะ ๑ กระแบะ ๑ น. แผ่น, ชิ้น, ส่วน, กระแบ่ ก็ว่า.
กระแบะ,กระแบะ ๒,กระแบะมือ กระแบะ ๒, กระแบะมือ น. ขนาดเท่าฝ่ามือ.
กระโบม,กระโบม ๑ กระโบม ๑ ก. ตระโบม, โลมเล้า, กอด, เช่น ยักษ์ผยองโพยมแลกระโบมถนอมพนิดไคล. (สรรพสิทธิ์).
กระโบม,กระโบม ๒ กระโบม ๒ (ถิ่น-อีสาน) น. ภาชนะชนิดหนึ่ง ทำด้วยไม้ขุดรูปวงกลมมีขอบ ด้ามสั้น สำหรับสงข้าวเหนียวที่นึ่งสุกใหม่ ๆ หรือคนข้าวเหนียวนึ่งให้ลดความร้อนก่อนนำไปใส่ในกล่องข้าว หรือใช้เป็นภาชนะรองถ้วยชามอย่างสำรับ, กระบม ก็เรียก.
กระปมกระปำ,กระปมกระเปา กระปมกระปำ, กระปมกระเปา ว. ปุ่มป่ำ, ปมเปา, เป็นปมเป็นก้อน.
กระปรอก,กระปรอก ๑,กระปอก,กระปอก ๑ กระปรอก ๑, กระปอก ๑ น. ชื่อไต้ชนิดหนึ่ง ห่อด้วยใบพลวงหลายชั้น ลูกยาวใหญ่เหมือนไต้หาง แต่ไม่มีหาง ชาวทะเลและชาวชนบทชอบใช้สําหรับหาหอย กุ้ง ปลา เพราะดวงไฟใหญ่ไม่ใคร่ดับ.
กระปรอก,กระปรอก ๒,กระปอก,กระปอก ๒ กระปรอก ๒, กระปอก ๒ น. นุ่น. (เทียบมลายู กระป๊อก ว่า ต้นนุ่น).
กระปรอก,กระปรอก ๓ กระปรอก ๓ (ถิ่น-ตะวันออก, ปักษ์ใต้) น. ชื่อเรียกเฟินอิงอาศัยหลายชนิดในสกุล Drynaria และ Platycerium วงศ์ Polypodiaceae.
กระปรอกว่าว กระปรอกว่าว ดู กระแตไต่ไม้ ๒.
กระปรี้กระเปร่า กระปรี้กระเปร่า ว. แคล่วคล่องว่องไว เพราะมีกําลังวังชา, กระฉับกระเฉง, ไม่เนิบนาบ.
กระป้อกระแป้ กระป้อกระแป้ ว. ป้อแป้มาก, กําลังน้อย.
กระป่อง กระป่อง (กลอน) ว. ป่อง เช่น สักหน่อยหนึ่งมึงจะท้องกระป่องเหยาะ. (อภัย).
กระป๋อง กระป๋อง น. ภาชนะทําด้วยเหล็กวิลาดหรือสังกะสีเป็นต้น มักมีรูปเป็นทรงกระบอก สําหรับบรรจุของต่าง ๆ, ลักษณนามว่า ใบ, ลูก.
กระปอดกระแปด กระปอดกระแปด ว. อาการที่บ่นปอดแปด, อาการที่บ่นรํ่าไร.
กระป๋อหลอ กระป๋อหลอ ว. เหลอ (ใช้แก่หน้า) เช่น ก็หยุดยั้งนั่งหน้ากระป๋อหลอ. (มณีพิชัย).
กระปั้วกระเปี้ย กระปั้วกระเปี้ย ว. กระบั้วกระเบี้ย, กะปลกกะเปลี้ย, ไม่คล่องแคล่ว, ไม่แข็งแรง.
กระปำ,-กระปำ -กระปำ ใช้เข้าคู่กับคํา กระปม เป็น กระปมกระปำ.
กระป่ำ,กระป่ำ ๑ กระป่ำ ๑ ว. เป็นปุ่มป่ำ เช่น บนเขากระป่ำ. (ม. คําหลวง กุมาร), มักใช้เข้าคู่กับคํา กระปุ่ม เป็น กระปุ่มกระป่ำ.
กระป่ำ,กระป่ำ ๒ กระป่ำ ๒ ว. อร่อย เช่น อนี้ต้นหว้าหวานกระป่ำ. (ม. คําหลวง กุมาร; มัทรี).
กระปิ่ม,-กระปิ่ม -กระปิ่ม ใช้เข้าคู่กับคํา กระปุ่ม เป็น กระปุ่มกระปิ่ม.
กระปุก กระปุก น. ภาชนะเครื่องปั้นดินเผาหรือแก้วเป็นต้น รูปป้อม ๆ เตี้ย ๆ ขนาดเล็ก โดยมากปากแคบ ก้นสอบ, ลักษณนามเรียกทะลายของผลระกําหรือผลจาก เช่น ผลระกํากระปุกหนึ่ง ผลจาก ๒ กระปุก.
กระปุกหลุก,กระปุ๊กลุก กระปุกหลุก, กระปุ๊กลุก ว. อ้วนกลมน่าเอ็นดู.
กระปุ่ม กระปุ่ม (ถิ่น-อีสาน) น. เครื่องสานชนิดหนึ่ง ส่วนล่างใหญ่ ส่วนบนเล็ก รูปกลม มีฝาสวมลงลึก สําหรับใส่สิ่งของ พ่อค้าหาบเร่มักใช้.
กระปุ่มกระป่ำ,กระปุ่มกระปิ่ม กระปุ่มกระป่ำ, กระปุ่มกระปิ่ม ว. มีปุ่มป่ำมาก เช่น ดูกระปุ่มกระปิ่มตุ่มติ่มเต็ม. (นิ. เพชร).
กระเปา,-กระเปา -กระเปา ใช้เข้าคู่กับคํา กระปม เป็น กระปมกระเปา.
กระเป๋า,กระเป๋า ๑ กระเป๋า ๑ น. เครื่องใช้รูปคล้ายถุงหรือกระเพาะ ทําด้วยหนังบ้าง ผ้าบ้าง สําหรับใส่เงินหรือของต่าง ๆ ใช้คาดเอวก็มี ติดอยู่ในตัวเสื้อหรือกางเกงก็มี ใช้หิ้วก็มี; กลีบดอกกล้วยไม้คล้ายรูปกรวยหรือหลอดที่อยู่ตรงกลางเป็นที่อยู่ของเกสร, ปาก ก็เรียก; (ปาก) เรียกถุงหน้าท้องสำหรับใส่ลูกของสัตว์บางชนิดเช่นจิงโจ้ ม้าน้ำ.
กระเป๋า,กระเป๋า ๒ กระเป๋า ๒ (ปาก) น. พนักงานเก็บค่าโดยสารรถหรือเรือประจำทาง.
กระเป๋าฉีก กระเป๋าฉีก (ปาก) ว. หมดเงินในกระเป๋าเพราะใช้จ่ายมาก เช่น วันนี้จ่ายเงินเสียกระเป๋าฉีกเลย.
กระเป๋าตุง กระเป๋าตุง (ปาก) ว. มีเงินในกระเป๋ามาก เช่น ไปทำอะไรจึงกระเป๋าตุงกลับมา.
กระเป๋าเบา กระเป๋าเบา (ปาก) ว. มีเงินในกระเป๋าน้อยลง เช่น ไปเที่ยวเสียกระเป๋าเบาเลย.
กระเป๋าแฟบ กระเป๋าแฟบ (ปาก) ว. มีเงินในกระเป๋าลดน้อยลงมาก เช่น ไปจ่ายของเสียกระเป๋าแฟบเลย.
กระเป๋าหนัก กระเป๋าหนัก (ปาก) ว. มีเงินมาก, ร่ำรวย, เช่น วันนี้ยอมเป็นเจ้ามือเลี้ยงข้าว สงสัยจะกระเป๋าหนัก.
กระเป๋าแห้ง กระเป๋าแห้ง (ปาก) ว. ไม่มีเงินติดกระเป๋าเลย เช่น วันนี้เขากระเป๋าแห้ง.
กระเปาะ กระเปาะ น. รูปนูนกลม, เรียกสิ่งที่มีสัณฐานคล้ายคลึงเช่นนั้นว่า กระเปาะ เช่น กระเปาะไข่ กระเปาะดอกไม้; ฐานที่ฝังเพชรพลอยเป็นหัวแหวนหรือตุ้มหู; เก็จ (ดู เก็จ ๒); (วิทยา) ส่วนของหลอดแก้วที่พองออก จะกลมหรือรีก็ตาม.
กระเปาะเหลาะ กระเปาะเหลาะ ว. มีสัณฐานกลมป้อม, เปาะเหลาะ ก็ว่า.
กระเปี้ย,-กระเปี้ย -กระเปี้ย ใช้เข้าคู่กับคํา กระปั้ว เป็น กระปั้วกระเปี้ย.
กระแป้,-กระแป้ -กระแป้ ใช้เข้าคู่กับคํา กระป้อ เป็น กระป้อกระแป้.
กระแปด,-กระแปด -กระแปด ใช้เข้าคู่กับคํา กระปอด เป็น กระปอดกระแปด.
กระโปก,กระโปก ๑ กระโปก ๑ น. ส่วนหนึ่งของอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกของชายหรือสัตว์ตัวผู้.
กระโปก,กระโปก ๒ กระโปก ๒ น. เครื่องเกวียนสําหรับยึดเพลา ติดอยู่กับตัวทูบ.
กระโปรง กระโปรง [-โปฺรง] น. ผ้านุ่งผู้หญิงแบบสากล; ฝาครอบเครื่องรถยนต์หรือฝาครอบที่เก็บของข้างหน้าและข้างหลังรถยนต์; กระบุงรูปกลมสูง ปากผายมาก พื้นก้นเป็นสี่เหลี่ยมเล็กสอบลง ลักษณะคล้ายกระโปรงบาน สำหรับขนข้าวเปลือกหรือมะพร้าวเป็นต้น; ภาชนะเย็บด้วยกาบหมากหรือใบไม้ สําหรับใส่ของต่าง ๆ เช่น ราชปุโรหิตก็ให้เอานางนกไส้ใส่กระโปรงขังไว้จนเพลารุ่งเช้า. (นพมาศ); กะโปรง ก็ใช้.
กระโปรงทอง กระโปรงทอง ดู กะทกรก (๒).
กระผม กระผม ส. คําใช้แทนตัวผู้พูด เพศชาย พูดกับผู้ใหญ่, เป็นสรรพนามบุรุษที่ ๑.
กระผลาม,-กระผลาม -กระผลาม [-ผฺลาม] ใช้เข้าคู่กับคํา กระผลี เป็น กระผลีกระผลาม.
กระผลีกระผลาม กระผลีกระผลาม [-ผฺลี-ผฺลาม] ว. รีบร้อนเกินไปโดยไม่ระมัดระวังหรือไม่ถูกกาลเทศะ.
กระผาน กระผาน น. ตะโพก. (ปาเลกัว).
กระผีก กระผีก น. มาตราตวง มีพิกัดเท่ากับ ๑ ภาค (คือ ๑ ใน ๔) ของกระเพาะ.<2t>ว. เล็กน้อย.
กระผีกริ้น กระผีกริ้น (ปาก) ว. นิดหน่อย, น้อยมาก, เล็กน้อย.
กระพรวน กระพรวน [-พฺรวน] น. โลหะทําเป็นรูปกลมกลวง มีลูกกลิ้งเล็ก ๆ อยู่ข้างในเพื่อให้เกิดเสียง ใช้ผูกคอสัตว์หรือข้อเท้าเป็นต้น, พรวน ลูกพรวน หรือ ลูกกระพรวน ก็ว่า; (ถิ่น-พายัพ, อีสาน) มะหิ่ง หรือ หมากหิ่ง.
กระพริ้ม กระพริ้ม (กลอน) ว. พริ้มพราย, แฉล้ม, เช่น ดูกระพริ้มริมแดงดังแสงโสม. (นิ. เดือน).
กระพอก,กระพอก ๑ กระพอก ๑ น. กล่องสานมีฝาครอบสําหรับใส่อาหาร; หม้อ (มงคลทีปนีแปลร้อย กุมภชาดก); กระบะสําหรับใส่กับข้าว เช่น ร่วมกระพอกจอกจานร้านเรือนเดียว. (สุ. สอนเด็ก); การเลี้ยงกัน, ที่เลี้ยงกัน. (อะหม พอก ว่า เลี้ยงกัน).
กระพอก,กระพอก ๒ กระพอก ๒ ก. พรอก, พูด, เช่น ฟังเสียงกากระพอก บอกข่าวท้าวเสด็จดล. (ลอ).
กระพอกวัว กระพอกวัว น. ชื่อนกชนิดหนึ่ง. (พจน. ๒๔๙๓).
กระพอง,กระพอง ๑ กระพอง ๑ น. ส่วนที่นูนเป็นปุ่ม ๒ ข้างศีรษะช้าง, ตระพอง ตะพอง หรือ กะพอง ก็ว่า.
กระพอง,กระพอง ๒ กระพอง ๒ น. ชื่อตัวไม้อันบนที่เป็นราวลูกกรงเรือนหรือเกวียน, กําพอง ก็เรียก.
กระพ้อม กระพ้อม น. ภาชนะสานขนาดใหญ่สำหรับบรรจุข้าวเปลือกเป็นต้น, พ้อม ก็เรียก; (ถิ่น-อีสาน) เครื่องสานชนิดหนึ่ง รูปเหมือนกระบุง แต่เล็กกว่าราวครึ่งหนึ่ง.
กระพัก กระพัก น. โขดหินหรือไหล่เขาที่เป็นขั้น ๆ พอพักได้ เช่น บ้างก็เป็นกระพักกระเพิงกระพังพุ. (ม. ร่ายยาว กุมาร), ตะพัก ก็ว่า.
กระพัง,กระพัง ๑ กระพัง ๑ น. แอ่ง, บ่อ, หนอง, ตระพัง ตะพัง หรือ สะพัง ก็เรียก. (เทียบ ข. ตฺรพําง ว่า บ่อที่เกิดเอง).
กระพัง,กระพัง ๒ กระพัง ๒ น. ภาชนะชนิดหนึ่ง สําหรับใส่นํ้าทําพิธีต่าง ๆ ตามลัทธิไสยศาสตร์ เรียกว่า กระพังนํ้า ซึ่งน่าจะมีรูปคล้ายกับหม้อนํ้ามนตร์ของเรา.
กระพังเหิร กระพังเหิร น. ชื่อการฟันด้วยขอช้างอย่างหนึ่ง คือฟันให้หยุดอย่างชะงัก. (ตําราขี่ช้าง).
กระพังโหม กระพังโหม น. ชื่อไม้เถาชนิด Oxystelma secamone (L.) Karst. ในวงศ์ Asclepiadaceae ทั้งต้นมียางขาว ใบแคบเรียวแหลม ออกเป็นคู่ตรงข้ามกัน มีนวล ดอกสีม่วงแกมชมพู ใช้ทํายาได้ ใบและเถาใช้เป็นอาหาร, จมูกปลาหลด จมูกปลาไหล หรือ ผักไหม ก็เรียก.
กระพัด กระพัด น. เชือกหรือลวดหนังตีเป็นเกลียวหุ้มผ้าแดง ปรกติคล้องผูกอยู่รอบคอช้าง เมื่อตั้งสัปคับหรือกูบอย่างใดอย่างหนึ่ง ใช้ปลายทั้ง ๒ ข้างผูกสัปคับหรือกูบเพื่อรั้งมิให้เลื่อนไปทางท้ายช้างขณะเดินขึ้นที่ชัน, เขียนเป็น กระพัตร ก็มี เช่น และกระพัตรรัตคนควร. (ดุษฎีสังเวย).<2t>ก. ผูก, คาด, ล้อม, เช่น เหตุกระพัดรัดตาด้วยไฟราค. (ม. ร่ายยาว ชูชก).
กระพัดแม่ม่าย กระพัดแม่ม่าย ดู กระดูกกบ.
กระพัตร กระพัตร [-พัด] น. เชือกหรือลวดหนังตีเป็นเกลียวหุ้มผ้าแดง ปรกติคล้องผูกอยู่รอบคอช้าง เมื่อตั้งสัปคับ หรือกูบอย่างใดอย่างหนึ่ง ใช้ปลายทั้ง ๒ ข้างผูกสัปคับหรือกูบเพื่อรั้งมิให้เลื่อนไปทางท้ายช้างขณะเดินขึ้นที่ชัน เช่น และกระพัตรรัตคนควร. (ดุษฎีสังเวย), กระพัด ก็ว่า.
กระพัน กระพัน ว. ทนทานต่อศัสตราวุธ, มักใช้ควบกับ ชาตรี เป็น คงกระพันชาตรี. (เทียบมลายู กะบัล).
กระพั่น กระพั่น (ถิ่น-อีสาน) น. เครื่องไม้ในจําพวกเครื่องทอผ้า สําหรับม้วนผ้า.
กระพา กระพา (ถิ่น-อีสาน) น. เครื่องสานชนิดหนึ่ง สําหรับใส่สิ่งของบรรทุกไว้ที่หลังคน มีสายรัดไขว้หน้าอก ใช้อย่างต่างใส่วัว แต่มีอันเดียว.
กระพาก กระพาก น. ปลาตะพาก. (ประพาสไทรโยค). (ดู ตะพาก).
กระพี้ กระพี้ น. ส่วนของเนื้อไม้ที่หุ้มแก่น, เนื้อไม้ที่อยู่ระหว่างเปลือกกับแก่น มีลักษณะอ่อนและยุ่ยง่าย.<2t>ว. โดยปริยายหมายความว่า ไม่เป็นแก่นสาร.
กระพี้เขาควาย กระพี้เขาควาย น. ชื่อไม้ต้นขนาดกลางถึงใหญ่ชนิด Dalbergia cultrata Grah. ex Benth. ในวงศ์ Leguminosae ขึ้นตามป่าเบญจพรรณและป่าทุ่งทั่วไป เว้นแต่ปักษ์ใต้ แก่นสีดําแข็งและหนักมาก ใช้ทําเครื่องเรือน เพลาเกวียน และด้ามเครื่องมือต่าง ๆ.
กระพี้นางนวล กระพี้นางนวล น. ชื่อไม้ต้นชนิด Dalbergia cana Grah. ex Kurz ในวงศ์ Leguminosae ใบเป็นใบประกอบ ใบย่อยรูปไข่ ปลายเรียวแหลม ดอกรูปดอกถั่ว กลีบเลี้ยงสีม่วงดำ กลีบดอกสีขาวอมเหลือง ฝักแบน มีขน มี ๒ เมล็ด, จักจั่น ก็เรียก.
กระพือ กระพือ ก. เอาสิ่งที่เป็นผืนแผ่นบาง ๆ โบกขึ้นลง, พัดหรือโบกด้วยอาการเช่นนั้น, โดยปริยายหมายถึง แพร่กระจาย เช่น ข่าวนี้กระพือไปอย่างรวดเร็ว.
กระพุ้ง กระพุ้ง น. ส่วนที่ป่องออก เช่น กระพุ้งแก้ม กระพุ้งก้น.
กระพุ่ม กระพุ่ม น. ลักษณะของสิ่งที่เป็นพุ่มยอดแหลมอย่างดอกบัวตูม, (กลอน) พุ่ม เช่น ดอกพวงเผล็ดช่อ กระพุ่มห่อเกสร สลอนบุษบาบาน. (ลอ), สองถันกระพุ่มกาญ- จนแมนมาเลขา. (อนิรุทธ์).
กระพุ่มมือ กระพุ่มมือ ก. พนมมือ.<2t>น. มือที่พนม.
กระเพลิด กระเพลิด [-เพฺลิด] (โบ) ก. ตะเพิด. (ปรัดเล).
กระเพลิศ กระเพลิศ [-เพฺลิด] (กลอน) ว. ตะพืด เช่น พลพายกระเพลิศพ้าง พายพัด. (เฉลิมพระเกียรติ ร. ๒).
กระเพาะ กระเพาะ น. อวัยวะภายในของคนและสัตว์ รูปเป็นถุง คือ กระเพาะอาหารและกระเพาะปัสสาวะ. (เทียบ ข. กฺรพะ); ภาชนะสานสําหรับตวงข้าว มีอัตราจุ ๔ กระผีก.
กระเพาะปลา กระเพาะปลา น. ชื่ออาหารคาวแบบจีนชนิดหนึ่ง ประกอบด้วยถุงลมปลา เนื้อไก่ เลือดหมู เป็นต้น.
กระเพิง กระเพิง น. เพิง, สิ่งที่ยื่นเป็นเพิง, เช่น บ้างก็เป็นกระพักกระเพิงกระพังพุ. (ม. ร่ายยาว กุมาร).
กระเพื่อม กระเพื่อม ก. อาการของสิ่งเหลวหรือนุ่มที่ไหวขึ้น ๆ ลง ๆ เช่น นํ้ากระเพื่อม.
กระแพง กระแพง (โบ; กลอน) น. กําแพง เช่น ทิศออกกระแพงแก้วกั้น. (จารึกวัดโพธิ์).
กระแพ้ง กระแพ้ง น. ไม้ไผ่ที่ปล้องข้างในเป็นโรค มีสีดํา ๆ กลิ่นเหม็น, กําแพ้ง ก็ว่า.
กระฟัดกระเฟียด กระฟัดกระเฟียด ว. อาการที่โกรธหรือแสร้งทําโกรธ.
กระฟาย,-กระฟาย -กระฟาย ใช้เข้าคู่กับคํา กระฟูม เป็น กระฟูมกระฟาย.
กระฟูมกระฟาย กระฟูมกระฟาย ก. ฟูมฟาย.
กระเฟียด,-กระเฟียด -กระเฟียด ใช้เข้าคู่กับคํา กระฟัด เป็น กระฟัดกระเฟียด.
กระมล กระมล [-มน] (กลอน; แผลงมาจาก กมล) น. ดอกบัว, หัวใจ.
กระมอบ กระมอบ น. ชื่อไม้ต้นขนาดย่อมชนิด Gardenia obtusifolia Roxb. ในวงศ์ Rubiaceae คล้ายกระเบียน (๒) ซึ่งอยู่ในวงศ์เดียวกัน แต่ใบคายและเล็กกว่า ปลายใบป้าน ยอดอ่อนมียางเหนียว ผลย่อมกว่า เนื้อไม้ขาวละเอียด ใช้แกะสลักได้.
กระมอมกระแมม กระมอมกระแมม ว. มอมแมมมาก, เลอะเทอะเปรอะเปื้อน.
กระมัง,กระมัง ๑ กระมัง ๑ ว. คําแสดงความไม่แน่ใจ, คําแสดงความคาดคะเน, (ใช้ไว้ท้ายประโยค) เช่น เป็นเช่นนี้กระมัง, ในบทกลอนใช้ว่า กระหมั่ง ก็มี.
กระมัง,กระมัง ๒ กระมัง ๒ น. ชื่อปลานํ้าจืดชนิด Puntioplites proctozysron ในวงศ์ Cyprinidae รูปร่างคล้ายปลาตะเพียน มีกระดูกครีบก้นแข็งแรงและเป็นหยัก ครีบหลังมีขนาดใหญ่ พื้นลําตัวเป็นสีขาว, เหลี่ยม ก็เรียก.
กระมัน กระมัน ดู กระโห้.
กระมิดกระเมี้ยน กระมิดกระเมี้ยน ก. แสดงอาการซ่อนอายลับ ๆ ล่อ ๆ, มิดเมี้ยน ก็ว่า.
กระมึน กระมึน (โบ) ว. สูงคํ้าฟ้า, สูงเด่น, เช่น กายาศีรษะพลัดพราย หัวขาดเด็ดตาย จรลู่กระมึนเหมือนเขา. (เสือโค, บางฉบับเป็น ตระหมื้น), ตระมึน ก็ใช้, โดยมากเป็น ทะมื่น.
กระมุท กระมุท น. บัว, กมุท ก็ว่า. (แผลงมาจาก กุมุท).
กระเมาะ กระเมาะ น. ชื่อปลากระบอกขนาดเล็ก. (ดู กระบอก ๒).
กระเมี้ยน,-กระเมี้ยน -กระเมี้ยน ใช้เข้าคู่กับคํา กระมิด เป็น กระมิดกระเมี้ยน.
กระแมม,-กระแมม -กระแมม ใช้เข้าคู่กับคํา กระมอม เป็น กระมอมกระแมม.
กระย่อง กระย่อง (ถิ่น-อีสาน) น. เครื่องสานชนิดหนึ่ง รูปกลมคล้ายโตก, ถ้าใหญ่ใช้เป็นสํารับ ถ้าเล็กใช้เป็นเครื่องใส่ข้าวตอกดอกไม้บูชาตามวัด.
กระย่อง,-กระย่อง -กระย่อง ใช้เข้าคู่กับคํา กระยิ้ม เป็น กระยิ้มกระย่อง.
กระย่องกระแย่ง กระย่องกระแย่ง ว. อาการที่ร่างกายไม่เข็งแรง ทำให้เดินหรือเคลื่อนไหวไม่ถนัด, กระง่องกระแง่ง หรือ ง่องแง่ง ก็ว่า.
กระย่อน กระย่อน ก. ขย้อน คือ อาการขยับขึ้นขยับลง, กระหย่อน ก็ใช้; ยวบยาบ, แกว่ง เช่น ลมไกวกิ่งกลฟ้อน ก็กระย่อนอยู่ยานโยน. (สมุทรโฆษ); ขยับ เช่น ยกค้อนกระย่อนดูบริพาร. (สมุทรโฆษ).
กระย่อม กระย่อม ดู ระย่อม.
กระยา กระยา น. เครื่อง, สิ่งของ, เครื่องกิน, เช่น เทียนธูปแลประทีปชวาลา เครื่องโภชนกระยา สังเวยประดับทุกพรรณ. (ดุษฎีสังเวยกล่อมช้างของเก่า ครั้งกรุงเก่า), เขียนเป็น กรยา ก็มี เช่น พระไพรดมานโฉม นุบพิตรแลงผอง มนตรอัญสดุดิยฮอง กรยานุถกลทาบ. (ดุษฎีสังเวยกล่อมช้างของเก่า ขุนเทพกะวีแต่ง).
กระยาคชวาง กระยาคชวาง [-คดชะวาง] น. ข้าวสําหรับบําบวงเชือกบาศ เป็นพิธีของพระหมอเฒ่าในการรับช้างเผือก.
กระยาง,กระยาง ๑ กระยาง ๑ น. ขาหยั่ง เช่น อ้ายเหล่าเที่ยววิด พบหนองป้องปิด ทำเปนเชิงราง เอาไม้สามอัน ปักไว้เปนกระยาง แขวนโพงตรงกลาง สาดนํ้าเอาปลา. (คำพากย์เรื่องสุบิน), เขียนเป็น กระหยาง ก็มี เช่น ปักไว้เปนกระหยาง. (สุบินคำพากย์).
กระยาง,กระยาง ๒ กระยาง ๒ น. นกยาง. (ดู ยาง ๑).
กระยาจก กระยาจก (ปาก) น. ยาจก, คนขอทาน, เช่น ตัวอ้ายพราหมณ์เถ้ากระยาจก. (มโนห์รา). (กระ + ป. ยาจก).
กระยาด,-กระยาด -กระยาด ใช้เข้าคู่กับคํา กระยืด เป็น กระยืดกระยาด.
กระยาดอก,กระยาดอกเบี้ย กระยาดอก, กระยาดอกเบี้ย (โบ) น. สิ่งที่ส่งชําระแทนดอกเบี้ย เช่น กู้เงินเขามาแล้ว มอบที่นาให้ทําหรือมอบบุตรภริยาให้รับใช้การงาน.
กระยาทาน กระยาทาน น. เครื่องบริจาค. (จารึกสยาม).
กระยาทิพย์ กระยาทิพย์ น. ชื่อขนมอย่างหนึ่ง ปรุงด้วยเครื่องกวนมีนํ้าผึ้ง นํ้าอ้อย นํ้านม ถั่ว งา เป็นต้น นิยมใช้หญิงพรหมจารีเป็นผู้กวน มักทําในพิธีสารท เรียกว่า ข้าวกระยาทิพย์, ข้าวทิพย์ ก็เรียก.
กระยาบวช กระยาบวช น. เครื่องกินที่ไม่มีของสดคาว.
กระยาเบี้ย กระยาเบี้ย (โบ) น. เบี้ยเงินค่าตัวทาส และเงินกู้.
กระยารงค์ กระยารงค์ น. สีสําหรับวาดเขียน.
กระยาเลย กระยาเลย ว. ต่าง ๆ, ปะปนกัน, (ใช้แก่ต้นไม้มีแก่น แต่ไม่รวมไม้สัก).
กระยาสนาน กระยาสนาน (ราชา) น. เครื่องสรง.
กระยาสังเวย กระยาสังเวย น. เครื่องเซ่น.
กระยาสังแวง กระยาสังแวง น. ข้าวเภาในพิธีรับช้างเผือก.
กระยาสารท กระยาสารท [-สาด] น. ขนมทําด้วยถั่วงาและข้าวเม่าข้าวตอกกวนกับนํ้าตาล แต่เดิมนิยมทําเฉพาะในเทศกาลสารท.
กระยาเสวย กระยาเสวย (ราชา) น. เครื่องเสวย.
กระยาหงัน กระยาหงัน น. วิมาน, สวรรค์ชั้นฟ้า, เช่น อวยชัยให้พรแล้วเทวัญ กลับคืนกระยาหงันชั้นฟ้า. (อิเหนา). (ม. กะยางัน ว่า สวรรค์, ที่อยู่ของเทวดา).
กระยาหาร กระยาหาร น. เครื่องกินมีข้าวเป็นต้น.
กระยิก กระยิก ก. ขะยิก.
กระยิ้มกระย่อง กระยิ้มกระย่อง ก. แสดงอาการดีใจหรืออิ่มใจ, ยิ้มย่อง ก็ว่า.
กระยึกกระยัก กระยึกกระยัก ว. อาการที่ลังเลไม่กล้าตัดสินใจ, ยึกยัก ก็ว่า.
กระยึกกระยือ กระยึกกระยือ ว. หยิกไปหยิกมา, ไม่ตรง, ไม่เป็นระเบียบ, ยึกยือ ก็ว่า.
กระยืดกระยาด กระยืดกระยาด ว. ยืดยาดมาก, เนิบนาบ, ช้า, ไม่ฉับไว.
กระเย้อกระแหย่ง กระเย้อกระแหย่ง [-แหฺย่ง] ก. เขย่งแล้วเขย่งอีก, โดยปริยายหมายความว่า พยายามจะให้ได้สิ่งที่สุดเอื้อม, ขะเย้อแขย่ง ก็ว่า.
กระแย่ง,-กระแย่ง -กระแย่ง ใช้เข้าคู่กับคํา กระย่อง เป็น กระย่องกระแย่ง.
กระรอก กระรอก น. ชื่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในวงศ์ Sciuridae มีฟันแทะ ส่วนใหญ่ตาโตและหูใหญ่ หางยาวเป็นพวง กินผลไม้ มีหลายสกุลและหลายชนิด เช่น กระรอกหลากสี (Callosciurus finlaysoni) พญากระรอกดํา (Ratufa bicolor).
กระรอกน้ำข้าว กระรอกน้ำข้าว ดู เขยตาย.
กระเรียน,กระเรียน ๑ กระเรียน ๑ น. ชื่อนกขนาดใหญ่ชนิด Grus antigone ในวงศ์ Gruidae คอยาว ขายาว ปีกกว้าง หางกว้างและสั้น หากินตามที่ราบลุ่ม กินพืช แมลง และสัตว์ขนาดเล็ก ไม่ชอบกินปลา, กาเรียน ก็เรียก.
กระเรียน,กระเรียน ๒ กระเรียน ๒ น. ชื่อเพลงไทยของเก่าสําหรับทําเพลงช้า เรียกว่า กระเรียนร้อง, ถ้ารับร้องบทละครเป็นเพลง ๒ ชั้น ท่อนต้นเรียกว่า กระเรียนร้องตัวผู้ ท่อนหลังเรียกว่า กระเรียนร้องตัวเมีย ต่อจากนี้ทําเพลงกระเรียนทอง แล้วถึงกระเรียนร่อน เป็นเพลงเสภาร้องรับมโหรี.
กระโรกน้ำข้าว กระโรกน้ำข้าว ดู เขยตาย.
กระโรกใหญ่ กระโรกใหญ่ ดู ชิงชี่.
กระไร กระไร ว. อะไร เช่น เขาไม่ว่ากระไร, อย่างไร เช่น จะทำกระไรดี, เท่าไร เช่น ถูกปรับเพียง ๑๐๐ บาทก็ไม่กระไรนัก, ทำไม, ไฉน, เช่น ข้าแต่นเรศูรสมเด็จพระบิดาเจ้าข้าเอ่ย กระไรเลยไม่ปรานี. (ม. ร่ายยาว กุมาร).
กระลด กระลด [-หฺลด] (กลอน; แผลงมาจาก กลด) น. ร่ม เช่น เทียวทองธงชัย และแซงกระลดชุมสาย. (สมุทรโฆษ).
กระลบ กระลบ [-หฺลบ] (กลอน; แผลงมาจาก กลบ) ก. ตระหลบ.<2t>ว. ฟุ้ง เช่น ก็หอมกระลบอบองค์. (ม. คําหลวง จุลพน).
กระลอก กระลอก [-หฺลอก] (กลอน) แผลงมาจาก กลอก เช่น พื้นบรรพตเลื่อมล้วนมณีผา กระลอกรุ่งพรุ่งพรายถึงเมฆา. (สมบัติอมรินทร์), ใช้เข้าคู่กับคํา กระลับ หรือ กระลาย เป็น กระลับกระลอก หรือ กระลายกระลอก.
กระลอม กระลอม (ถิ่น-อีสาน) น. เครื่องสานชนิดหนึ่ง สานด้วยตอกเป็นต้น ตาห่าง ๆ สำหรับใส่สิ่งของ, ชะลอม ก็ว่า.
กระละหล่ำ กระละหล่ำ ก. กลํ้า, เกือบ, เช่น กระละหลํ่าจกกเป็น แต่กี้. (ทวาทศมาส).
กระลัด กระลัด [-หฺลัด] (กลอน; แผลงมาจาก กลัด) ว. เข้มแข็ง เช่น กระลัดในกลางสงคราม. (สมุทรโฆษ).
กระลับ กระลับ [-หฺลับ] (กลอน) แผลงมาจาก กลับ เช่น ก็กระลับกระลอกแทง. (อนิรุทธ์).
กระลับกระเลือก กระลับกระเลือก [-เหฺลือก] ว. กลอกขึ้นกลอกลง (ใช้แก่ตา), (โบ) กลับเกลือก.
กระลัมพร กระลัมพร น. โทษใหญ่, ความฉิบหาย, เช่น ก็ทํากระลัมพรกาล. (สมุทรโฆษ), (แผลงมาจาก กลัมพร), เขียนเป็น กระลําพร ก็มี.
กระลา,กระลา ๑ กระลา ๑ (โบ) น. ท่วงที. (อนันตวิภาค); ที่, กอง, เช่น กระลาบังคลคนผจง. (ดุษฎีสังเวย). (เทียบ ข. กฺรฬา).
กระลา,กระลา ๒ กระลา ๒ น. องค์ของการบูชา เช่น กระลาพิธีกรกุณฑ์. (เสือโค). (แผลงมาจาก กลา). (ส. กลา มีองค์ ๓ คือ มนตร์ สัมภาระ และ ศรัทธา).
กระลาการ กระลาการ (โบ) น. ตุลาการ เช่น แลผู้พิพากษากระลาการไต่ไปโดยคลองธรรมดั่งกล่าวมานี้. (สามดวง).
กระลาพิม กระลาพิม น. ผู้หญิง เช่น รฦกกระลาพิม พระมาศ กูเออย. (กำสรวล).
กระลายกระลอก กระลายกระลอก [-หฺลอก] (โบ; กลอน; แผลงมาจาก กลายกลอก) ก. สับสน เช่น เสือสีห์หมีควาย กระลายกระลอกซอกซอน. (สมุทรโฆษ).
กระลาศรี กระลาศรี น. ผู้หญิง เช่น รฦกกระลาศรี เสาวภาคย กูเออย. (กำสรวล).
กระลำ กระลำ (กลอน; ย่อมาจาก กระลําพร) น. โทษใหญ่, ความฉิบหาย, เช่น จะเกิดกระลีกระลําแต่ล้วนร้อนใจ. (โชค-โบราณ). (ดู กลัมพร).
กระลำพร กระลำพร (โบ) น. กระลัมพร, โทษใหญ่, ความฉิบหาย. (ดู กลัมพร).
กระลำพัก กระลำพัก น. ส่วนของเนื้อไม้ซึ่งมีสีดํา ๆ เกิดในต้นสลัดไดป่า (Euphorbia antiquorum L.) และต้นตาตุ่มทะเล (Excoecaria agallocha L.) ในวงศ์ Euphorbiaceae กลิ่นหอมอ่อน รสขม ใช้ทํายาได้.
กระลำพุก กระลำพุก ดู ตะลุมพุก ๓.
กระลิง กระลิง (กลอน) ก. จับ, ถือ, โดยมากใช้เป็น กระลึง.
กระลี กระลี น. สิ่งร้าย, โทษ.<2t>ว. ร้าย เช่น กระลีชาติ กระลียุค.
กระลึง กระลึง (โบ) ก. จับ, ถือ, เช่น ชดกรกระลึงกุมแสง. (ลอ).
กระลุมพาง กระลุมพาง น. กลองหน้าเดียว, โบราณเขียนเป็น กรลุมพาง ก็มี.
กระลุมพุก,กระลุมพุก ๑ กระลุมพุก ๑ (ปาก) น. ไม้ตะลุมพุก.
กระลุมพุก,กระลุมพุก ๒ กระลุมพุก ๒ (กลอน) น. ปลาตะลุมพุก เช่น ค้าวอ้าวอุกกระลุมพุกสีเสียดสุกรสิง. (สรรพสิทธิ์). (ดู ตะลุมพุก ๒).
กระลุมพุก,กระลุมพุก ๓ กระลุมพุก ๓ ดู ตะลุมพุก ๓.
กระลุมพู กระลุมพู น. นกลุมพู เช่น เหล่ากระลิงโกกิลา กระลุมพูก็โผผิน. (ม. ร่ายยาว มหาพน). (ดู ลุมพู).
กระลูน กระลูน (กลอน) น. ความเศร้าโศก.<2t>ว. น่ากรุณา, น่าสงสาร, เช่น อ่อนจิตสวามีอันพูนกระลูนนุกูลภรรยายิ่งยอดกว่าอันภิปราย. (สรรพสิทธิ์). (ป. กลูน).
กระลู่น์ กระลู่น์ ว. น่าสงสาร เช่น กระลู่น์แลดูดาลแสยง. (สุธน).
กระเล็น กระเล็น ดู กระถิก, กระถึก.
กระเลียด กระเลียด [-เหฺลียด] (กลอน) แผลงมาจาก เกลียด เช่น ไยเยาวเคียดและกระเลียด ฤเหลือบพระพักตร์ผิน. (สรรพสิทธิ์).
กระเลือก กระเลือก [-เหฺลือก] (กลอน; แผลงมาจาก เกลือก) ก. เหลือก, ใช้เข้าคู่กับคํา กระลับ เป็น กระลับกระเลือก.
กระโลง กระโลง (ถิ่น-อีสาน) น. เครื่องสานด้วยใบลานชนิดหนึ่ง ใช้อย่างกระสอบ สําหรับใส่ข้าวเปลือกหรือข้าวสาร.
กระวน กระวน (กลอน) ก. วนเวียน, วุ่น, หวน, เช่น กระเวนกระวนกาม กวนอก พี่นา. (นิ. นรินทร์).
กระวนกระวาย กระวนกระวาย ก. วุ่นวายใจ, แสดงอาการวุ่นวายไม่เป็นสุข.
กระวัด กระวัด [-หฺวัด] (กลอน) แผลงมาจาก กวัด เช่น เฉวียงหัตถ์กระวัดวรธนู. (สรรพสิทธิ์).
กระว่า กระว่า (โบ; กลอน) น. ชื่อนกชนิดหนึ่ง เช่น เสียงนกกระว่ามาตีลาน นกกรงหงส์ห่านร้องขานคู่. (มโนห์รา).
กระวาด,-กระวาด -กระวาด ใช้เข้าคู่กับคํา กระวี และ กระวูด เป็น กระวีกระวาด และ กระวูดกระวาด.
กระวาน,กระวาน ๑ กระวาน ๑ น. (๑) ชื่อไม้ล้มลุกชนิด Amomum krervanh Pierre ในวงศ์ Zingiberaceae ชอบขึ้นในป่าดิบชื้นตามภูมิประเทศที่เป็นเขาทางจันทบุรีและตราด ผลมีกลิ่นหอมฉุน ใช้ปรุงอาหารและทํายา; อีกชนิดหนึ่ง คือ Elettaria cardamomum (L.) Maton ในวงศ์เดียวกัน เรียกว่า กระวานเทศ มาจากประเทศอินเดียตอนใต้, เอลา ลูกเอ็ล หรือ ลูกเอ็น ก็เรียก. (๒) ชื่อเรียกใบของไม้ต้นชนิด Laurus nobilis L. ในวงศ์ Lauraceae กลิ่นคล้ายกระวาน ใช้เป็นเครื่องเทศและแต่งกลิ่นยา.
กระวาน,กระวาน ๒ กระวาน ๒ น. ชื่อนกชนิดหนึ่ง เช่น กระวานกระแวนแกลนกลัว. (สมุทรโฆษ).
กระวาย กระวาย (กลอน) ว. ส่าย, ดิ้น, เช่น ทอดตนตีทรวงกระวาย. (อุเทน), และใช้เข้าคู่กับคํา กระเวย และ กระโวย เป็น กระเวยกระวาย และ กระโวยกระวาย.
กระวายกระวน กระวายกระวน ก. กระวนกระวาย, ดิ้นรน, เร่าร้อน, กระสับกระส่าย, เช่น เมื่อเราอยู่ที่นี้จะต้องกระวายกระวนด้วยเหลือบยุงริ้นร่าน. (ม. ร่ายยาว สักบรรพ).
กระวิน,กระวิน ๑ กระวิน ๑ น. ห่วงที่เกี่ยวกันสําหรับโยงสัปคับช้าง, ห่วงติดกับบังเหียนเหล็กผ่าปากม้า, ประวิน ก็ใช้. (ประวัติ. จุล), เครื่องร้อยสายรัดเอวพระภิกษุ (รัดประคด) ทําด้วยกระดูกสัตว์เป็นต้น มีรูกลาง เรียกว่า ลูกกระวิน.
กระวิน,กระวิน ๒ กระวิน ๒ (โบ) ว. สีนํ้าตาล เช่น โคกระวิน. (ทมิฬ = กระวิล แผลงมาจาก ป. กปิล).
กระวี,กระวี ๑ กระวี ๑ น. นักปราชญ์ในการแต่งบทกลอน เช่น เสดจ์ยังสาระพินิจฉัยพร้อมด้วยหมู่มุกขมนตรีกระวีราชปโรหิตาโหราจารย์อยู่ในศีลสัจ. (สามดวง). (แผลงมาจาก กวี).
กระวี,กระวี ๒ กระวี ๒ (โบ) ก. แกว่ง. (เพี้ยนมาจาก คระวี).
กระวีกระวาด กระวีกระวาด ว. รีบเร่งอย่างไม่นอนใจ.
กระวีชาติ กระวีชาติ น. หมู่กวี, พวกกวี, เช่น เสดจ์ในพระที่นั่งพลับพลาทองโดยอุตราภิมุขพร้อมด้วยหมู่มาตยามนตรีกระวีชาติราชปะโรหิตาจารย์เฝ้าพระบาท. (สามดวง), เขียนเป็น กระวีชาต หรือ กระวิชาติ ก็มี เช่น พระองค์ทรงพระกรุณาเพื่อจะมิให้มุกขมนตรีกระวีชาตแลราษฎรล่วงเกินพระราชอาญา, พร้อมด้วยหมู่มุกขมาตยามนตรีกระวิชาติราชสุริยวงษพงษพฤฒาโหราจารยเฝ้าเบื้องบาทบงกชมาศ. (สามดวง).
กระวูดกระวาด กระวูดกระวาด ว. กระวีกระวาด, ทําโดยเร็วอย่างลมพัดวูดวาด.
กระเวน,กระเวน ๑ กระเวน ๑ (กลอน) ก. ตระเวน, เที่ยวไป. (เทียบ ข. กฺรแวล ว่า คอยดู, กองตระเวน).
กระเวน,กระเวน ๒ กระเวน ๒ (กลอน) ก. วนเวียน เช่น กระเวนกระวนกาม กวนอก พี่นา. (นิ. นรินทร์).
กระเวน,กระเวน ๓ กระเวน ๓ น. ชื่อนกชนิดหนึ่ง เช่น กระเวนวังนัวกระเวนดง ช่างทองลงจับทองยั้ว. (ลอ).
กระเวนกระวน กระเวนกระวน (กลอน) ก. วนเวียน เช่น กระเวนกระวนกาม กวนอก พี่นา. (นิ. นรินทร์), หวนตลบ เช่น หอมกระเวนกระวน, เขียนเป็น กรเวนกรวล ก็มี เช่น ชื่อจลาจรเรนทร์ หอมกรเวนกรวล อาจจิญจญจวนใจ. (ม. คำหลวง มหาราช).
กระเวยกระวาย กระเวยกระวาย ว. เสียงร้องขอความช่วยเหลืออย่างเอ็ดอึง.
กระแวน กระแวน น. นกกาแวน เช่น คับคาคาบคาร่อน กระแวนว่อนบินบน. (ตะเลงพ่าย). (ดู กาแวน).
กระโวยกระวาย กระโวยกระวาย ว. อาการที่ส่งเสียงเอะอะเป็นการประท้วงหรือแสดงความไม่พอใจเป็นต้น, โวยวาย ก็ว่า.
กระศก กระศก [-สก] (โบ) ก. ข้อน. (จินดามณี).
กระศัย กระศัย (เลิก) น. กระษัย.
กระษัตริย์ กระษัตริย์ [-สัด] (โบ) น. กษัตริย์.
กระษัตรี กระษัตรี [-สัดตฺรี] (โบ) น. ผู้หญิง.
กระษัย กระษัย [-ไส] น. ชื่อโรคตามตําราแพทย์แผนโบราณว่า ทําให้ร่างกายทรุดโทรม มีอาการผอมแห้งตัวเหลืองเท้าเย็น, กษัย ก็ว่า. (ส. กฺษย ว่า โรคซูบผอม).
กระษัยกล่อน กระษัยกล่อน [-ไสกฺล่อน] น. ชื่อโรคตามตําราแพทย์แผนโบราณ ทําให้ร่างกายผอมแห้ง เกิดจากโรคกล่อน.
กระษาปณ์ กระษาปณ์ [-สาบ] น. เงินตราที่ทําด้วยโลหะ เช่น เหรียญกระษาปณ์ โรงกระษาปณ์, กษาปณ์ ก็ใช้. (ส. การฺษาปณ; ป. กหาปณ).
กระษิร กระษิร [-สิน, -สิระ] (โบ; แผลงมาจาก ส. กฺษิร) น. นํ้านม เช่น มาจากวารินกระษิรสมุทร. (รามเกียรติ์ ร. ๒), กระษิรสินธุสาคร. (สรรพสิทธิ์).
กระเษม กระเษม (โบ) น. เกษม.
กระเษมสานต์ กระเษมสานต์ น. เกษมสันต์. (ส. เกฺษม + ศานฺต; ส. เกฺษม + ป. สนฺต).
กระเษียร กระเษียร (โบ; กลอน; แผลงมาจาก เกษียร) น. นํ้านม เช่น เนาในกระเษียรนิทรบันดาล. (สรรพสิทธิ์).
กระสง กระสง น. ชื่อปลานํ้าจืดชนิด Channa lucius ในวงศ์ Channidae รูปร่างคล้ายปลาช่อนซึ่งอยู่ในวงศ์เดียวกัน แต่หัวแหลมกว่าและแอ่นงอนขึ้นเล็กน้อย มีลายพาดขวางลําตัวข้างละ ๗-๑๒ แถบ ทุกครีบมีจุดประหรือริ้วสีดํา.
กระสน,-กระสน -กระสน ใช้เข้าคู่กับคํา กระเสือก เป็น กระเสือกกระสน.
กระสบ กระสบ น. ชื่อโรคลมชนิดหนึ่ง ในตําราแพทย์แผนโบราณว่า มักขึ้นในไส้ ให้เวียนหัว ให้ราก จุก สมุฏฐานเกิดจากธาตุไฟหย่อน.
กระสม กระสม น. ไม้ที่อยู่ในเครื่องทอผ้า สําหรับบิดม้วนผ้าที่ทอแล้ว เรียกว่า ไม้กระสม. (ปาเลกัว).
กระสรวล กระสรวล [-สวน] (กลอน) ก. ยินดี, ร่าเริง, เช่น นางนกกระสรวลสันต์ สมเสพ. (นิ. นรินทร์).
กระสร้อย กระสร้อย น. ปลาสร้อย. (ดู สร้อย ๒).
กระสวน กระสวน น. แบบ เช่น อย่าคบพวกหญิงพาลสันดานชั่ว ที่แต่งตัวไว้จริตผิดกระสวน. (สุภาษิตสุนทรภู่); แบบตัวอย่างสําหรับสร้างหรือทําของจริง เช่น กระสวนเรือน กระสวนเสื้อ.
กระสวย กระสวย น. เครื่องบรรจุด้ายสําหรับทอผ้าหรือเย็บผ้า.
กระสอบ กระสอบ น. เครื่องสานหรือทอด้วยต้นกระจูดหรือป่านปอเป็นต้น สําหรับบรรจุข้าวและของอื่น ๆ.
กระสอบทราย กระสอบทราย น. ถุงผ้าใบหรือหนัง ลักษณะคล้ายหมอนข้างขนาดใหญ่ เดิมบรรจุทราย ปัจจุบันบรรจุด้วยขี้เลื่อย เศษผ้า หรือฟองน้ำ อัดแน่น เป็นอุปกรณ์อย่างหนึ่งในการฝึกซ้อมของนักมวยเพื่อฝึกการชก เตะ ขึ้นเข่า เป็นต้น, (ปาก) ผู้ที่ถูกทำร้ายร่างกายอย่างบอบช้ำ โดยที่ไม่มีทางหรือไม่กล้าต่อสู้ เช่น นักมวยฝ่ายน้ำเงินถูกนักมวยฝ่ายแดงถลุงเป็นกระสอบทราย.
กระสะ กระสะ น. ดินหรือหินหรือทรายเป็นต้นที่อยู่ในบ่อแร่ ซึ่งให้ผลเป็นสินค้าแก่ผู้ทําแร่, ขี้ผงของแร่.
กระสัง,กระสัง ๑ กระสัง ๑ น. ชื่อไม้ล้มลุกชนิด Peperomia pellucida Korth. ในวงศ์ Peperomiaceae ขึ้นอยู่ทั่วไปตามที่ชื้น ลําต้นอวบนํ้า.
กระสัง,กระสัง ๒ กระสัง ๒ น. ชื่อนกชนิดหนึ่ง, สันนิษฐานว่าในสมัยโบราณบางถิ่นอาจใช้เรียกนกชนิดหนึ่ง แต่ปัจจุบันไม่ปรากฏว่ามีใช้, เช่น กระสังกระสาสาว กระสันจับกระลับดู. (เสือโค).
กระสัน กระสัน ก. คะนึง, คิดผูกพันอยู่, มีใจจดจ่ออยู่, เช่น ปู่กระสันถึงไก่ในไพรพฤกษ์. (ลอ); กระวนกระวายในกาม เช่น เดี๋ยวนี้นะพระองค์ทรงธรรม์ แสนกระสันจันทร์สุดาดวงสมร. (คาวี); ผูกให้แน่น เช่น กระสันเข้าไว้กับหลัก, ผูกพันพระพี่น้องสองกระสันเข้าให้มั่นกับมือ. (ม. คำหลวง กุมาร), รัด เช่น สายกระสัน; ต่อเนื่อง เช่น มุขกระสัน; (ปาก) อยากมาก เช่น กระสันจะเป็นรัฐมนตรี.<2t>ว. แน่น เช่น พระขรรค์เหน็บกระสันอยู่เป็นนิจ.
กระสับกระส่าย กระสับกระส่าย ว. เร่าร้อนใจทนนิ่งเป็นปรกติไม่ได้, กระวนกระวาย, ทุรนทุราย.
กระสา,กระสา ๑ กระสา ๑ น. ชื่อนกในวงศ์ Ciconiidae ขนาดใหญ่เกือบเท่านกกระเรียน ปากหนายาวปลายแหลมตรง คอและขายาว เวลาบินคอจะยืดตรงเหมือนนกกระเรียน ทํารังด้วยกิ่งไม้อยู่บนยอดไม้สูง ๆ กินปลาและสัตว์นํ้าขนาดเล็ก ในประเทศไทยมีหลายชนิด เช่น กระสาขาว (Ciconia ciconia) กระสาคอดํา (Ephippiorhynchus asiaticus).
กระสา,กระสา ๒ กระสา ๒ น. ชื่องูชนิดหนึ่ง เช่น งูไซงูกระสา. (ไตรภูมิ).
กระสา,กระสา ๓ กระสา ๓ น. ชื่อไม้ต้นขนาดกลางชนิด Broussonetia papyrifera Vent. ในวงศ์ Moraceae ชอบขึ้นในที่ชื้นแฉะ ตามริมแม่นํ้าลําคลอง ใบใหญ่เท่าฝ่ามือหรือกว่านั้นบ้าง รูปไข่ปลายแหลม ขอบใบเป็นจัก ๆ หรือเว้าเป็น ๓ แฉก มีขนทั้ง ๒ ด้าน เปลือกใช้ทํากระดาษได้ เรียก กระดาษสา, พายัพเรียก สา.
กระสานติ์ กระสานติ์ (กลอน) ว. สงบ, ราบคาบ, เขียนเป็น กรสานต์ ก็มี เช่น ดำรงกรษัตรให้กรสานต์. (ยวนพ่าย). (กระ + ป. สนฺติ; ส. ศานฺติ).
กระสาบ,กระสาบ ๑ กระสาบ ๑ น. หนังที่เย็บเหมือนกระสอบ. (ปาเลกัว).
กระสาบ,กระสาบ ๒ กระสาบ ๒ (ถิ่น-อีสาน) น. เถานางนูน. (ไทยเหนือว่า ผักสาบ). (พจน. ๒๔๙๓).
กระสาย กระสาย น. เครื่องแทรกยา เช่น นํ้าเหล้า. (ส. กษาย ว่า ยาที่เคี่ยวเอาแต่ ๑ ใน ๔ ส่วน; ในทมิฬใช้ในความหมายว่า เป็นเครื่องแทรกยาทุกชนิด ตามปรกติเป็นน้ำ).<2t>ว. ใช้เข้าคู่กับคำ กระเส็น เป็น กระเส็นกระสาย.
กระส่าย,-กระส่าย -กระส่าย ใช้เข้าคู่กับคํา กระสับ เป็น กระสับกระส่าย.
กระสินธุ กระสินธุ (โบ; กลอน) น. แม่นํ้า เช่น กระแสกระสินธุสงสาร. (อุเทน). (กระ + ป., ส. สินฺธุ).
กระสือ,กระสือ ๑ กระสือ ๑ น. ผีชนิดหนึ่งที่ถือว่าเข้าสิงในตัวผู้หญิง ชอบกินของโสโครก, คู่กับ กระหัง ซึ่งเข้าสิงในตัวผู้ชาย; ในทางวิทยาศาสตร์ คือ แก๊สมีเทน (methane) ที่เกิดจากการเน่าเปื่อยผุพังของสารอินทรีย์แล้วติดไฟในอากาศ เป็นแสงวอบแวบในที่มืด; โคมชนิดหนึ่ง มีที่เปิดปิดไฟ มีแว่นฉายแสงไปได้ไกล, โคมตาวัว ก็ว่า.
กระสือ,กระสือ ๒ กระสือ ๒ น. (๑) ชื่อเรียกเห็ดหลายชนิดหลายสกุลและหลายวงศ์ที่เรืองแสงได้ในเวลากลางคืน อาจเรืองแสงเฉพาะบางส่วนหรือทุกส่วน มีสีแตกต่างกันแล้วแต่ชนิด เช่น ชนิด chlorosplenium aeruginascens (Nyl.) Karst. เรืองแสงสีเขียวในระยะเกิดสปอร์.<2t>(๒) ชื่อว่านชนิดหนึ่ง ต้นและหัวคล้ายขมิ้นอ้อย สีขาว ฉุนร้อน ตามตํารากบิลว่านว่า เมื่อหัวแก่มีธาตุปรอทลงกิน มีพรายเป็นแสงแมงคาเรืองในเวลากลางคืน ถือกันว่ามีสรรพคุณอยู่คง แต่เป็นกายสิทธิ์ ชอบไปเที่ยวหากินของโสโครก และเข้าสิงกินคนดั่งกระสือหรือปอบ แล้วบอกชื่อเจ้าของว่านที่ปลูกนั้นว่า เป็นตัวกระสือหรือผีปอบ ทําให้ขายหน้าจึงไม่ค่อยมีใครกล้าปลูก.
กระสือ,กระสือ ๓ กระสือ ๓ น. ชื่อตัวอ่อนและตัวเต็มวัยของหิ่งห้อยตัวเมียหลายชนิดในวงศ์ Lampyridae เช่น ชนิด Lamprophorus tardus ไม่มีปีก ต้องคลานไปตามพื้นดิน สามารถทําแสงสีเขียวอมเหลืองอ่อนและกะพริบเป็นจังหวะได้ เรียกว่า หนอนกระสือ. (ดู หิงห้อย, หิ่งห้อย ประกอบ).
กระสือดูด กระสือดูด น. เรียกผลกล้วยที่แกร็นทั้งเครือ.<2t>(ปาก) ว. เรียกคนที่ซูบซีด.
กระสุงกระสิง กระสุงกระสิง ก. สุงสิง, ยุ่ง, ข้องแวะ. (ปาเลกัว).
กระสุน กระสุน น. เครื่องยิงมีคัน ใช้สายโก่งยิงด้วยลูกดินปั้นกลมซึ่งเรียกว่า ลูกกระสุน; ลูกปืน.
กระสุนปืน กระสุนปืน น. ลูกปืน, บางทีก็เรียก กระสุน หรือ ลูกกระสุน.
กระสุนวิถี กระสุนวิถี น. ทางแห่งกระสุน, วิถีกระสุน ก็ว่า.
กระสูทธิ์ กระสูทธิ์ น. กรสุทธิ์. (ดู กรสุทธิ์).
กระสูบ กระสูบ น. ชื่อปลานํ้าจืด ๒ ชนิด ในวงศ์ Cyprinidae รูปร่างคล้ายปลาแก้มชํ้า แต่ลําตัวเพรียวและโตกว่าชนิดแรกคือ กระสูบขาว (Hampala macrolepidota) มักมีลายดําพาดขวางที่บริเวณลําตัวใต้ครีบหลัง พื้นหางสีแดงขอบบนและล่างสีดํา ขนาดยาวถึงประมาณ ๗๐ เซนติเมตร อีกชนิดหนึ่งคือ กระสูบจุด (H. dispar) ลําตัวมีจุดดําอยู่ตอนกลาง ปลายครีบหางมนกว่า และไม่มีแถบสีดํา ตัวยาวเต็มที่ไม่เกิน ๒๐ เซนติเมตร, สูด หรือ สูบ ก็เรียก.
กระเสด กระเสด น. หาดทรายที่ขึ้นสูงพ้นนํ้า.
กระเส็นกระสาย กระเส็นกระสาย น. เศษเล็กเศษน้อย.<2t>ว. นิดหน่อย.
กระเส่า,กระเส่า ๆ กระเส่า, กระเส่า ๆ ว. สั่นเครือและเบา (ใช้แก่เสียง).
กระเสาะกระแสะ กระเสาะกระแสะ ว. อาการที่ป่วยอยู่บ่อย ๆ, เสาะแสะ ก็ว่า.
กระเสียน กระเสียน ว. ชิด, สนิท, แนบเนียน, เช่น ชฎากลีบจีบเวียนกระเสียนพระศก. (อภัย), เขาเข้าไม้ปะที่ตรงนี้ดีนัก พอดีกระเสียนกันทีเดียว; (โบ) อาการที่ของสิ่งใดสิ่งหนึ่งสอดเสียดลงไปในช่องในรูไม่คับไม่หลวมพอครือ ๆ กัน. (ปรัดเล).
กระเสียน,-กระเสียน -กระเสียน (โบ) ว. ใช้เข้าคู่กับคำ กระเบียด เป็น กระเบียดกระเสียน หมายความว่า อาการที่คนพูดจาเสียดสีด้วยถ้อยคำต่าง ๆ หรือกดขี่เบียดเบียน. (ปรัดเล).
กระเสียร กระเสียร [-เสียน] ว. คับแคบ, ลําบาก, ฝืดเคือง, ใช้เข้าคู่กับคํา กระเบียด เป็น กระเบียดกระเสียร. (ป. กสิร).
กระเสือกกระสน กระเสือกกระสน ว. ดิ้นรนเพื่อให้พ้นความทุกข์ยากเป็นต้น.
กระแส กระแส น. นํ้าหรือลมเป็นต้นที่ไหลหรือพัดเรื่อยเป็นแนวเป็นทางไปไม่ขาดสาย เช่น กระแสนํ้า กระแสลม, โดยปริยายหมายถึงอาการเช่นนั้น; เส้น, สาย, แนว, ทาง, เช่น กระแสความ กระแสความคิด; เส้นวัดที่ดินทำด้วยหวายหรือเหล็กเป็นต้น เรียกว่า เส้นกระแส. (เทียบ ข. แขฺส = เชือก).
กระแสการเงิน กระแสการเงิน น. การหมุนเวียนของเงินตรา.
กระแสความ กระแสความ น. แนวความ, ข้อความที่ต่อเนื่องกัน.
กระแสง,กระแสง ๑ กระแสง ๑ น. เสียง, เสียงแจ่มจ้า เช่น จึ่งตั้งนโม ซุ่มเสียงใหญ่โต กระแสงแจ่มใส. (ประถม ก กา).
กระแสง,กระแสง ๒ กระแสง ๒ น. แสง, รัศมี; สี.
กระแสจิต กระแสจิต น. กระแสความนึกคิดหรือกระบวนความนึกคิดที่เกิดดับต่อเนื่องกันไป, เรียกอาการที่ส่งความนึกคิดติดต่อกันระหว่างจิตของคนหนึ่งกับอีกคนหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างกันโดยไม่ต้องอาศัยประสาทสัมผัสทั้ง ๕ อย่างใดอย่างหนึ่งว่า การส่งกระแสจิต.
กระแสตรง กระแสตรง น. กระแสไฟฟ้าซึ่งเคลื่อนที่ตามแนวทิศเดียวกันอยู่ตลอดเวลา. (อ. direct current เขียนย่อว่า D.C.).
กระแสนํ้า กระแสนํ้า น. สายนํ้า.
กระแสพระราชดำรัส กระแสพระราชดำรัส [-ราดชะ-] (ราชา) น. ข้อความที่พระเจ้าแผ่นดินตรัส.
กระแสรับสั่ง กระแสรับสั่ง (ราชา) น. คําพูด.
กระแสลม กระแสลม น. สายลมพัด.
กระแสสลับ กระแสสลับ [-สะหฺลับ] น. กระแสไฟฟ้าซึ่งเคลื่อนที่โดยสลับแนวทิศอยู่ตลอดเวลา. (อ. alternating current เขียนย่อว่า A.C.).
กระแสเสียง กระแสเสียง น. เสียงที่แล่นไป, นํ้าเสียง.
กระแสะ กระแสะ ว. เพลีย, โผเผ, ไม่มีกําลัง, เช่นพูดว่า ข้ามันให้อ่อนหิวกระแสะ ๆ ไป. (ดิกชนารีไทย), และใช้เข้าคู่กับคํา กระเสาะ เป็น กระเสาะกระแสะ.
กระโสง กระโสง (กลอน) น. ปลากระสง เช่น กระโสงสังควาดหว้าย ชลา. (สรรพสิทธิ์).
กระไส กระไส น. ทราย เช่น สีคงคาขุ่นเป็นเปือกเทือกกระไส. (ม. กาพย์ วนปเวสน์), ประทับทอดจอดอ่าวเข้าไม่ได้ โขดกระไสติดช่องร่องวิถี. (นิ. เกาะแก้วกัลกตา).
กระหง่อง,กระหน่อง,กระหน่อง ๑ กระหง่อง, กระหน่อง ๑ (โบ; กลอน) ก. จ้อง, คอยดู, เช่น ตากตากระหง่องเตรียม คอยแม่ มาฤๅ. (นิ. ตรัง), ตระหง่อง หรือ ตระหน่อง ก็ใช้.
กระหน กระหน (โบ) ก. ดิ้นรน, เดือดร้อน, กระวนกระวาย. (ข. กฺรหล่).
กระหนก,กระหนก ๑ กระหนก ๑ น. ชื่อแบบลายไทยประเภทหนึ่ง ใช้ผูกเขียนเป็นลวดลาย มีทั้งระบายสี ปิดทองรดนํ้า ปั้น หรือแกะสลักเป็นต้น มีหลายชนิด เช่น กระหนกเปลว กระหนกก้านขด กระหนกเครือ, เดิมเขียนเป็น กนก ก็มี.
กระหนก,กระหนก ๒ กระหนก ๒ (โบ) ก. ตระหนก, ตกใจ, สะดุ้ง, หวาด.
กระหนกกินรี,กระหนกนฤมิต กระหนกกินรี, กระหนกนฤมิต ดู กระหนกนารี.
กระหนกนารี กระหนกนารี น. ชื่อไม้ล้มลุกชนิด Rhektophyllum mirabile N.E. Br. ในวงศ์ Araceae ต้นมีไหลเลื้อยเหนือพื้นดินแยกออกไปเป็นต้นใหม่ได้ ใบคล้ายใบบอนสี มีลายขาวตามเส้นใบ, กระหนกกินรี กระหนกนฤมิต บอนลายกระหนก หรือ แม้นเขียน ก็เรียก.
กระหน่อง,กระหน่อง ๒ กระหน่อง ๒ (ถิ่น-อีสาน) น. อวัยวะส่วนหลังของลำแข้ง ตั้งแต่ขาพับลงไปถึงส้นเท้า เช่น ตัวหนึ่งกัดเอ็นกระหน่อง. (ม. ภาคอีสาน ชูชก), กระน่อง ขะน่อง หรือ ขาน่อง ก็เรียก.
กระหนาก กระหนาก (แผลงมาจาก ขนาก) ดู ขนาก.
กระหนาบ กระหนาบ ก. ประชิดเข้าไปทั้ง ๒ ข้าง เช่น กองทัพตีกระหนาบ; อาการที่อยู่ทั้ง ๒ ข้าง เช่น กระหนกกระหนาบภาพหาญ, กระหนกกระหนาบคาบเครือสร้อยสน. (พากย์); ดุดันเอา. (แผลงมาจาก ขนาบ).
กระหนาบคาบเกี่ยว กระหนาบคาบเกี่ยว ว. ประชิดเหลื่อมลํ้ากัน.
กระหน่ำ กระหน่ำ ว. ซํ้า ๆ ลงอย่างหนัก.
กระหมวด,กระหมวด ๑ กระหมวด ๑ ก. ขอดให้เป็นปม, มุ่น, บิดม้วนให้เป็นปม. (แผลงมาจาก ขมวด).
กระหมวด,กระหมวด ๒ กระหมวด ๒ น. จอมประสาทศีรษะช้าง เป็นอวัยวะสําคัญที่เกิดขนช้างฐาน ๑ ใน ๕ ฐาน คือ ขนที่หู หาง บรรทัดหลัง กระหมวดหรือโขมด ราวชัก (คือ สีข้างช้าง แต่โดยนิยมถือเอาเฉพาะแนวที่สายประโคนรัด ซึ่งถัดจากขาหน้าไปหน่อยหนึ่ง), ในการดูลักษณะช้างเผือก ใช้ตรวจขนทั้ง ๕ ฐานนี้ เป็นทางประกอบการพิจารณา.
กระหมอบ กระหมอบ (กลอน) ว. แขม่ว ๆ เช่น หายใจกระหมอบหอบเต็มที. (คาวี).
กระหม่อม กระหม่อม น. ส่วนของกะโหลกอยู่ตรงแนวศีรษะแต่ตํ่ากว่าส่วนสูงสุดลงมาใกล้หน้าผาก ในเด็กแรกเกิดจนถึง ๒ ขวบส่วนนี้จะมีเนื้อเยื่ออ่อนปิดรอยประสานกะโหลกที่ยังเปิดอยู่ หลังจากนั้นเนื้อเยื่ออ่อนนี้จะกลายเป็นกระดูก, โดยปริยายหมายรวม ๆ ว่า หัว เช่น เป่ากระหม่อม ลงกระหม่อม, ขม่อม ก็ว่า; คําสําหรับใช้ควบกับคําที่ขึ้นต้น ว่า เกล้า เช่น ทราบเกล้าทราบกระหม่อม ทูลเกล้าทูลกระหม่อม ในการเขียนหนังสือใช้ไปยาลน้อยแทน เช่น ทราบเกล้าฯ ทูลเกล้าฯ.<2t>ส. คําใช้แทนตัวผู้พูด เพศชาย เพ็ดทูลเจ้านายชั้นหม่อมเจ้า และพระวรวงศ์เธอที่มิได้ทรงกรม, เป็นสรรพนามบุรุษที่ ๑. (ราชา) ว. คำรับหรือคำลงท้ายที่ผู้ชายใช้เพ็ดทูลเจ้านายชั้นหม่อมเจ้า. (ย่อมาจาก ขอรับกระหม่อม). (แผลงมาจาก ขม่อม).
กระหม่อมบาง กระหม่อมบาง (สํา) ว. เจ็บป่วยง่าย เช่น เขาเป็นคนกระหม่อมบาง ถูกนํ้าค้างหน่อยก็เป็นหวัด, ขม่อมบาง ก็ว่า.
กระหมั่ง กระหมั่ง (กลอน) ว. กระมัง เช่น เครื่องค้าเหลือผู้ซื้อ กระหมั่ง. (ลอ).
กระหม่า กระหม่า (โบ) ก. ประหม่า, สะทกสะท้าน, พรั่นใจ, เช่น กระมลบ้ากระหม่ามะเมอ. (สมุทรโฆษ).
กระหมิด,-กระหมิด -กระหมิด ใช้เข้าคู่กับคํา กระหมุด เป็น กระหมุดกระหมิด.
กระหมิบ กระหมิบ ก. ทําปากหรือช่องทวารหนักทวารเบาให้เม้มอยู่; อาการที่กล้ามเนื้อขอบปากทวารรัดตัวเข้ามา. (แผลงมาจาก ขมิบ).<2t>ว. บางทีก็ใช้เข้าคู่กับคํา กระหมุบ เป็น กระหมุบกระหมิบ.
กระหมุดกระหมิด กระหมุดกระหมิด ว. ขมวดให้แน่น เช่น สักกระสันเป็นสามรวดรัดกระหวัดกระหมุดกระหมิดฉุดชิด ชักชายน้อยห้อยหูกระต่าย. (ม. ร่ายยาว ชูชก).
กระหมุ่น กระหมุ่น (โบ) ว. มุ่น; ขุ่น เช่น นํ้าใช้และนํ้าฉัน นานหลายวันเป็นกระหมุ่น. (ขมุ่น หรือ ขนุ่น ทางเหนือว่า ขี้ตะกอน, ทางใต้ใช้ว่า หมวน).
กระหมุบ กระหมุบ ก. เต้นตุบ ๆ. (แผลงมาจาก ขมุบ).
กระหมุบกระหมิบ กระหมุบกระหมิบ ก. หมุบหมิบ, อาการที่ริมฝีปากเผยอขึ้นและหุบลงโดยเร็ว, อาการของปากที่พูดอย่างไม่ออกเสียง, เช่น ทำปากกระหมุบกระหมิบ สวดมนต์กระหมุบกระหมิบ. (แผลงมาจาก ขมุบขมิบ).
กระหย่ง,กระหย่ง ๑ กระหย่ง ๑ ก. ทําให้สูงขึ้น เช่น กระหย่งตัว, ทำสิ่งที่รวมตัวกันให้โปร่งหรือขยายตัวให้หลวมขึ้น เช่น กระหย่งฟาง, กระโหย่ง หย่ง หรือ โหย่ง ก็ว่า.
กระหย่ง,กระหย่ง ๒ กระหย่ง ๒ ว. อาการที่เดินหรือวิ่งไม่เต็มเท้า คือ จดแต่ปลายเท้า เพื่อทําให้ตนสูงขึ้น หรือเพื่อไม่ให้เกิดเสียงดัง เช่น เดินกระหย่ง วิ่งกระหย่ง, เรียกรอยเท้าที่ไม่เต็มเห็นแต่ปลายเท้าและส้นเท้าว่า รอยเท้ากระหย่ง, อาการที่นั่งเอาปลายเท้าตั้งลงที่พื้น ส้นเท้าทั้ง ๒ รับก้น เรียกว่า นั่งกระหย่ง, กระโหย่ง หย่ง หย่ง ๆ โหย่ง หรือ โหย่ง ๆ ก็ว่า.
กระหยด กระหยด (โบ; แผลงมาจาก ขยด) ก. ถด, ถอย, เขยิบ, เช่น กระหยดเข้า นางเจ้าแม่ทรงศาสตราชัย. (มโนห์รา).
กระหยบ กระหยบ (โบ) ก. หมอบ เช่น ฟุบกบกระหยบเงียบมิเกรียบไว้. (มโนห์รา); (ถิ่น-ปักษ์ใต้) แอบ, ซ่อน, ซุก.
กระหย่อน กระหย่อน (โบ) ก. ขย้อน คือ อาการขยับขึ้นขยับลง เช่น พระยานั่งอยู่แลกระหย่อนองค์โลดขึ้นทั้งนั้นก็ดี ขึ้นสูงได้ ๑๘ ศอก. (ไตรภูมิ; สรรพสิทธิ์; พงศ. เหนือ), กระย่อน ก็ว่า.
กระหย่อม กระหย่อม น. หย่อม คือ หมู่เล็ก ๆ, กองเล็ก ๆ.
กระหยะ กระหยะ น. ขยะ เช่น หนึ่งนิทไทรในราษตรี บมิหลับดั่งมี กระหยะแลผงเลือดไร. (อภิไธยโพธิบาทว์). (แผลงมาจาก ขยะ).
กระหยัง กระหยัง (ถิ่น-อีสาน) น. สมุกใส่เครื่องนุ่งห่ม. (ลัทธิ. ภาค ๑๘ ตอน ๑); ภาชนะชนิดหนึ่งคล้ายตะกร้าสําหรับใส่ของ.
กระหยับ กระหยับ (กลอน) ก. ขยับ เช่น มือถือธนูกระหยับลั่น. (รามเกียรติ์ ร. ๑; ไกรทอง; สรรพสิทธิ์). (แผลงมาจาก ขยับ).
กระหยาง กระหยาง ดู กระยาง ๑.
กระหยิ่ม กระหยิ่ม ก. กริ่ม คือ ครึ้มใจ, ภูมิใจ, อิ่มใจ, มักใช้เข้าคู่กับคำ ยิ้มย่อง เป็น กระหยิ่มยิ้มย่อง. (แผลงมาจาก ขยิ่ม).
กระหรอด กระหรอด [-หฺรอด] น. นกกรอด. (ดู ปรอด).
กระหริ่ง กระหริ่ง น. บ่วงหวายสําหรับดักสัตว์ที่กระโดดเช่นเนื้อและกวาง เช่น จับกระหริ่งบ่วงข่ายถือ แบกหอกปืนลงจากเรือน. (สุบิน), กะริง ก็ว่า.
กระหวน กระหวน (กลอน) ก. หวนถึง เช่น และกระหวนกระโหยหา. (ดุษฎีสังเวย).
กระหวัด กระหวัด ก. ตวัด, วัดเข้ามาโดยเร็ว, รัดรึง; ย้อน เช่น เจ้าหวนคิดกระหวัดวน. (พากย์นางลอย).
กระหวัดเกล้า กระหวัดเกล้า น. วิธีรําละครท่าหนึ่ง. (ฟ้อน).
กระหว่า กระหว่า (โบ; กลอน) ว. ราวกับว่า เช่น หน้าตาหัวอกรกเป็นขน ดูสง่ากระหว่าคนหรือนนทรี. (มโนห์รา).
กระหอง กระหอง ดู จงโคร่ง, โจงโคร่ง.
กระหัง กระหัง น. ผีชนิดหนึ่งที่ถือว่าเข้าสิงในตัวผู้ชาย เชื่อกันว่าเดิมเป็นผู้ชายที่เรียนวิชาอาคมแก่กล้าเข้าก็มีปีกมีหาง จะไปไหนก็ใช้กระด้งต่างปีก สากตําข้าวต่างขา สากกะเบือต่างหาง ชอบกินของโสโครก, คู่กับ กระสือ ซึ่งเป็นผีผู้หญิง, ใช้ว่า กระหาง ก็มี เช่น ถ้าเปนสัจว่าเปนกระสือกระหางจะกละจริงไซร้. (สามดวง).
กระหัด กระหัด (ปาก) น. คฤหัสถ์.
กระหาง กระหาง น. กระหัง.
กระหาย กระหาย ก. รู้สึกคอแห้งด้วยอยากดื่มน้ำเพราะมีอาการร้อนในเป็นต้น; อยากเป็นกําลัง.
กระหายเลือด กระหายเลือด ว. เหี้ยมโหดทำทารุณจนถึงเลือดตกยางออก.
กระหึม,กระหึ่ม กระหึม, กระหึ่ม ว. เสียงดังหึ่มอย่างน่ากลัว เช่น พายุพัดกระหึ่ม, เสียงก้องกังวาน เช่น เสียงดนตรีดังกระหึ่ม.
กระหืดกระหอบ กระหืดกระหอบ ว. มีอาการรีบร้อนอย่างเหนื่อยหอบ เช่น วิ่งกระหืดกระหอบ.
กระเห็น กระเห็น น. อีเห็น เช่น กระเห็นเห็นกันแล้ววิ่งมา. (รามเกียรติ์ ร. ๑).
กระเหน็จ กระเหน็จ (โบ) น. วิธี, อย่าง, อุบาย, เช่น กลกระเหน็จต่าง ๆ. (ม. คําหลวง นครกัณฑ์).
กระเหน็จกระแหน่ กระเหน็จกระแหน่ (โบ) น. เชิงชั้น, เล่ห์กล, เช่น กระเหน็จกระแหน่รณรงค์. (สมุทรโฆษ).
กระเหนียด,กระเหนียด ๑ กระเหนียด ๑ [-เหฺนียด] ก. เสียด.
กระเหนียด,กระเหนียด ๒ กระเหนียด ๒ [-เหฺนียด] ดู เสนียด ๑.
กระเหม็ดกระเหมียด กระเหม็ดกระเหมียด [-เหฺม็ด-เหฺมียด] ก. ประหยัด. (ปาเลกัว).
กระเหม็ดกระแหม่ กระเหม็ดกระแหม่ [-แหฺม่] ก. เขม็ดแขม่, ใช้จ่ายอย่างระมัดระวังเพราะเกรงว่าจะไม่พอใช้.
กระเหม่น กระเหม่น [-เหฺม่น] ก. เขม่น คือ อาการที่กล้ามเนื้อกระตุกเต้นเบา ๆ ขึ้นเอง ตามความเชื่อโบราณถือว่าเป็นนิมิตบอกเหตุร้ายหรือดีได้ เช่น กระเหม่นตา; เขม้น เช่น กระเหม่นตรับตัว. (เสือโค). (แผลงมาจาก เขม่น).
กระเหม่า กระเหม่า [-เหฺม่า] น. เขม่า, ละอองขึ้นที่ลิ้นเด็กอ่อน โบราณเรียกว่า กระเหม่าซาง. (แผลงมาจาก เขม่า).
กระเหลียก กระเหลียก [-เหฺลียก] (โบ) ก. แลดู, เขียนเป็น กรลยก ก็มี เช่น สูวนนเจดีรสสมีกรลยกงามหนกกหนา. (จารึกสยาม หลัก ๒), เหลือบแล เช่น ครั้นเช้าไก่ขันเรียก ไก่กระเหลียกตาดู. (ลอ). (ข. กฺรเฬก ว่า เหลือบดู).
กระเหว่า กระเหว่า [-เหฺว่า] น. นกดุเหว่า เช่น กระเหว่าเสียงเพราะแท้ แก่ตัว. (โลกนิติ), กาเหว่า ก็ว่า. (ดู ดุเหว่า).
กระเห่อ กระเห่อ ก. เห่อ เช่น คนห่ามกระเห่อทํา อวดรู้. (พระนลคําหลวง อารัมภกถา).
กระเหิม กระเหิม ว. เหิม, กําเริบ, คะนอง.
กระเหี้ยนกระหือรือ กระเหี้ยนกระหือรือ ก. แสดงความกระตือรือล้นเอาจริงเอาจังอย่างออกนอกหน้า.
กระแห,กระแหทอง กระแห, กระแหทอง น. ชื่อปลานํ้าจืดชนิด Puntius schwanenfeldii ในวงศ์ Cyprinidae รูปร่างป้อมคล้ายปลาตะเพียนทอง มักมีสีแดงอ่อนบนครีบ เฉพาะส่วนปลายของครีบหลังและขอบบนล่างของครีบหางมีสีดํา, ตะเพียนหางแดง หรือ เลียนไฟ ก็เรียก, ปักษ์ใต้เรียก ลำปำ.
กระแหน,-กระแหน -กระแหน [-แหฺน] ใช้เข้าคู่กับคํา กระหนอ และ กระแหนะ เป็น กระหนอกระแหน และ กระแหนะกระแหน.
กระแหน่ กระแหน่ (โบ; กลอน) น. เล่ห์กล, แง่งอน, ท่วงที, เช่น ข้ากระไดกระแหน่ แต่งแง่แผ่ตนท่า. (ลอ).
กระแหนบ กระแหนบ [-แหฺนบ] (กลอน) ก. แหนบ, ถอน, เช่น แนบนิทรลวดแลบ ก็กระแหนบที่หนวดเครา. (บุณโณวาท).
กระแหนะ กระแหนะ [-แหฺนะ] น. ลายปูนปิดทอง.<2t>ก. แตะ, เติม; ว่าเปรียบเปรย; กรรมวิธีในการสร้างงานประติมากรรมตกแต่ง หรือวิธีการช่างจุลศิลป์ประเภทหนึ่ง โดยใช้สมุกปั้นเป็นลวดลายหรือรูปภาพติดเข้ากับพื้นไม้หรือพื้นกระดาษ เช่น ปั้นหน้ายักษ์หน้าลิงติดลงบนกะโหลกปิดกระดาษทำเป็นหัวโขน, แขนะ ก็ว่า.
กระแหนะกระแหน กระแหนะกระแหน [-แหฺน] ก. พูดกระทบหรือพูดเป็นเชิงเสียดสี, กระแนะกระแหน ก็ว่า.
กระแหม็บ,กระแหม็บ ๆ กระแหม็บ, กระแหม็บ ๆ [-แหฺม็บ] ว. แขม็บ, หายใจแผ่ว ๆ แสดงว่าจวนจะหมดกําลัง, (โบ) เขียนเป็น กระแหมบ ก็มี เช่น กระแหมบกระเหม่นทรวง. (อนิรุทธ์). (แผลงมาจาก แขม็บ).
กระแหม่ว กระแหม่ว [-แหฺม่ว] ก. แขม่ว, ผ่อนลมหายใจให้ท้องยุบลง, บังคับกล้ามเนื้อท้องให้ท้องยุบลง. (แผลงมาจาก แขม่ว).
กระแหย่ง กระแหย่ง [-แหฺย่ง] ว. อาการปีนขึ้นอย่างพลั้ง ๆ พลาด ๆ.<2t>ก. คะยั้นคะยอ เช่น มาหยักเหยาเซ้าซี้กระแหย่งชาย. (รามเกียรติ์ ร. ๑).
กระแหร่ม กระแหร่ม [-แหฺร่ม] ก. กระแอม คือ ทําเสียงขึ้นมาจากคอ เช่นเพื่อมิให้นํ้ามูกลงคอเมื่อเป็นหวัด หรือเพื่อให้หายเสลดติดคอ.
กระแหล่ง กระแหล่ง [-แหฺล่ง] น. วัตถุคล้ายกระดิ่ง แต่เป็นรูปสี่เหลี่ยมแบน ทําด้วยเหล็ก ใช้แขวนคอม้า โค กระบือ.
กระโห้ กระโห้ น. ชื่อปลานํ้าจืดชนิด Catlocarpio siamensis ในวงศ์ Cyprinidae หัวโต เกล็ดใหญ่ ลําตัวด้านหลังสีเทาดํา หางและครีบสีแดงคลํ้าหรือส้ม พบในแม่นํ้าใหญ่หลายสายของประเทศไทย เคยพบขนาดยาวได้ถึง ๓ เมตร นับเป็นปลานํ้าจืดชนิดหนึ่งที่มีขนาดใหญ่มากในจําพวกปลามีเกล็ดด้วยกัน, กระมัน หรือ หัวมัน ก็เรียก.
กระโหนด กระโหนด [-โหฺนด] น. ตาล เช่น ย่านป่าขายพัดกระโหนดคันกลมคันแบนใหญ่น้อย. (อธิบายแผนที่กรุงศรีอยุธยา). (แผลงมาจาก โตนด).
กระโหม กระโหม [-โหมฺ] (กลอน) ก. โหม เช่น ศัพท์ส้าวกระโหมโครม. (บุณโณวาท).
กระโหย กระโหย [-โหยฺ] (กลอน) ก. โหย คือ ร้องไห้, ครํ่าครวญ.
กระโหย่ง,กระโหย่ง ๑ กระโหย่ง ๑ [-โหฺย่ง] ก. ทําให้สูงขึ้น เช่น กระโหย่งตัว, ทำสิ่งที่รวมตัวกันให้โปร่งหรือขยายตัวให้หลวมขึ้น เช่น กระโหย่งฟาง, กระหย่ง หย่ง หรือ โหย่ง ก็ว่า.
กระโหย่ง,กระโหย่ง ๒ กระโหย่ง ๒ [-โหฺย่ง] ว. อาการที่เดินหรือวิ่งไม่เต็มเท้า คือ จดแต่ปลายเท้า เพื่อทําให้ตนสูงขึ้น หรือเพื่อไม่ให้เกิดเสียงดัง เช่น เดินกระโหย่ง วิ่งกระโหย่ง, เรียกรอยเท้าที่ไม่เต็ม เห็นแต่ปลายเท้าและส้นเท้าว่า รอยเท้ากระโหย่ง, อาการที่นั่งเอาปลายเท้าตั้งลงที่พื้น ส้นเท้าทั้ง ๒ รับก้น เรียกว่า นั่งกระโหย่ง, กระหย่ง หย่ง หย่ง ๆ โหย่ง หรือ โหย่ง ๆ ก็ว่า.
กระอ่วน,-กระอ่วน -กระอ่วน ใช้เข้าคู่กับคํา กระอัก เป็น กระอักกระอ่วน.
กระอวล กระอวล (กลอน) ว. อวล, หอมตลบ.
กระอ้อกระแอ้ กระอ้อกระแอ้ ว. อ้อแอ้, อาการออกเสียงของเด็กที่เริ่มหัดพูด, อาการที่พูดไม่ชัดอย่างคนเมา.
กระออดกระแอด กระออดกระแอด ว. ออดแอด, อาการที่บ่นไม่รู้จักจบ, อาการที่ป่วยอยู่บ่อย ๆ.
กระออบ กระออบ ว. มีกลิ่นหอม. (ข. กฺรอูบ).
กระออม,กระออม ๑ กระออม ๑ ดู โคกกระออม.
กระออม,กระออม ๒ กระออม ๒ (กลอน) น. ภาชนะสานด้วยไม้ไผ่ ยาชัน รูปคล้ายกระบุง ไม่มีคอ ใช้ใส่น้ำ เช่น สรงสนานนํ้าทิพย์สิบกระออม. (คาวี), กะออม กัลออม หรือ กะละออม ก็ว่า.
กระอ้อมกระแอ้ม กระอ้อมกระแอ้ม ว. อ้อมแอ้ม, ไม่ฉะฉาน, ไม่ชัดเจน, ไม่เต็มปาก, (ใช้แก่กริยาพูด).
กระอัก กระอัก ก. ทะลักออกมาจากคอ เช่น กระอักเลือด.
กระอักกระอ่วน กระอักกระอ่วน ว. ป่วน, พิพักพิพ่วน, ลังเลใจ, ตกลงใจไม่ได้, อักอ่วน ก็ว่า.
กระอักกระไอ กระอักกระไอ ว. อิดเอื้อน, ไม่กล้าพูด, ทําเสียงไออุบอับอยู่ในคอ, เช่น พูดจากุกกักกระอักกระไอ. (ไกรทอง).
กระอั้วแทงควาย กระอั้วแทงควาย น. ชื่อการเล่นชนิดหนึ่งในการสมโภชของหลวง, บางทีเรียก กระอั้ว ว่า นางอั้ว เช่น นางอั้วเพ่งผัวเอน ควายเสี่ยว.
กระอ้า กระอ้า น. โรคพืชชนิดหนึ่งเกิดแก่ใบยาสูบ ทําให้ใบเฉาเหี่ยวแห้งหรือตายนึ่ง.
กระอาน กระอาน (ถิ่น-ปักษ์ใต้) น. ชื่อเต่านํ้ากร่อยชนิด Batagur baska ในวงศ์ Emydidae สามารถปรับตัวอยู่ในนํ้าจืดได้ พบเฉพาะทางภาคใต้, กะอาน ก็เรียก.
กระอิด กระอิด (กลอน) ว. อิดโรย เช่น อกกระอิดกว่าชื่นแล. (ม. คำหลวง กุมาร).
กระอิดกระเอื้อน กระอิดกระเอื้อน ก. อิดเอื้อน, ไม่กล้าที่จะพูด, กล่าวไม่เต็มปาก; แสดงอาการไม่สู้เต็มใจ.
กระอึก กระอึก (กลอน) ก. อึกทึก, อึง, เช่น ตระคอกคึกกระอึกอึง. (กลบท ๒; ม. คําหลวง จุลพน).
กระอึกกระอัก กระอึกกระอัก ว. อาการที่พูดไม่ออก ติดกึกกักอยู่ในคอเพราะกลัวหรือประหม่าเป็นต้น, อึกอัก หรือ อึก ๆ อัก ๆ ก็ว่า.
กระอึด กระอึด (โบ; กลอน) ก. อึดอัด, สะอึก, เช่น กระอึดอกเซนเซน ช่วยเหน้า. (กําสรวล).
กระอืด กระอืด ก. ร้องไห้รํ่าไร, รํ่าไห้, เช่น เกรงอาตม์กระอืดโอย. (สรรพสิทธิ์), จำนองกระอืดโอย ทุกขทรวงละลวงกาม. (อนิรุทธ์).
กระอุ กระอุ (กลอน) ก. ระอุ; ร้อนรน เช่น กระอุอุระประปราณ. (สมุทรโฆษ; สรรพสิทธิ์), หนึ่งรัศมีพระสุริยเย็น รัศมีพระจันทร์เป็น กระอุแลกลับร้อนรน. (อภิไธยโพธิบาทว์), ใช้เป็น กระอุก หรือ ประอุก ก็มี.
กระอุก กระอุก (กลอน) ก. ระอุ; ร้อนรน เช่น กระอุกกระลับร้อน, ใช้เป็น กระอุ หรือ ประอุก ก็มี.
กระเอบ กระเอบ (กลอน) ว. อร่อย, หอมหวาน, เช่น ลิ้มไล้โอชกระเอบหวาน. (ม. คําหลวง จุลพน).
กระเอา กระเอา (กลอน) ว. กลมกล่อม.
กระเอิก กระเอิก (กลอน) ว. เอิกเกริก เช่น พลเกรอกกระเออกอึง. (สรรพสิทธิ์).
กระเอิบ กระเอิบ (กลอน) ก. เอิบ, อิ่ม, เช่น เถ้ากระเอิบเรอสมออกแล. (ม. คําหลวง กุมาร).
กระแอ้,-กระแอ้ -กระแอ้ ใช้เข้าคู่กับคํา กระอ้อ เป็น กระอ้อกระแอ้.
กระแอก,กระแอก ๑ กระแอก ๑ น. เชือกหรือลวดหนังตีเป็นเกลียวหุ้มผ้าแดง ปลายสายทั้ง ๒ ข้างผูกกับสายสําอางคร่อมอยู่ทางท้ายสันหลังช้าง สำหรับควาญช้างจับเมื่อเวลาคับขัน, กระแซง หรือ ประแอก ก็เรียก.
กระแอก,กระแอก ๒ กระแอก ๒ น. อีกา. (ข. แกฺอก).
กระแอด,-กระแอด -กระแอด ใช้เข้าคู่กับคํา กระออด เป็น กระออดกระแอด.
กระแอบ กระแอบ ดู ตะขาบ ๑. (ข. แกฺอบ).
กระแอม,กระแอม ๑ กระแอม ๑ ก. ทําเสียงแอมในคอคล้ายไอ เพื่อให้โปร่งคอ ให้เสียงหายเครือ เพื่อให้เขารู้ หรือระวัง เป็นต้น, นิยมใช้เข้าคู่กับคํา กระไอ เป็น กระแอมกระไอ.
กระแอม,กระแอม ๒ กระแอม ๒ น. ลายที่ผูกเป็นตัวลอย ๆ ลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนคล้ายลายกระหนกหางโต ใช้สําหรับอุดหรือปิดช่องไฟระหว่างลายกระหนกเครือวัลย์ เรียกว่า ลูกกระแอม, ตัวที่บอกให้รู้ว่าได้ทําอะไรแปลกไปจากการประดิษฐ์ แสดงเป็นตัวลูกไม้เพิ่มขึ้น เรียกว่า ตัวกระแอม.
กระแอ้ม,-กระแอ้ม -กระแอ้ม ใช้เข้าคู่กับคํา กระอ้อม เป็น กระอ้อมกระแอ้ม.
กระไอ,กระไอ ๑ กระไอ ๑ น. กลิ่น (ใช้เฉพาะกลิ่นของสิ่งที่จวนจะบูด) เช่น แกงมีกระไอจวนจะบูดแล้ว, สะไอ ก็ว่า.<2t>ว. มีกลิ่นเหม็นแสดงว่าจวนจะบูด เช่น ข้าวเหม็นกระไอ, สะไอ ก็ว่า.
กระไอ,กระไอ ๒ กระไอ ๒ ก. ไอ, ใช้เข้าคู่กับคํา กระอัก หรือ กระแอม เป็น กระอักกระไอ กระแอมกระไอ หรือ กระไอกระแอม.
กระไอกระแอม กระไอกระแอม ก. ทําเสียงไอเสียงแอม เช่น ถ้ามันจะเกริ่นกรายกระไอกระแอมแอบเข้ามา. (ม. ร่ายยาว ชูชก).
กรัก กรัก [กฺรัก] น. แก่นขนุนใช้ย้อมผ้า; (โบ) โรงกรัก คือ โรงที่ต้มกรักในวัด. (ตะเลง ว่า แก่นไม้; ข. กราก่ ว่า แก่นขนุน).
กรักขี กรักขี [กฺรัก-] ดู สักขี ๒.
กรัง,กรัง ๑ กรัง ๑ [กฺรัง] ก. แห้ง เช่น เสบียงกรัง, แห้งติดแน่นอยู่ เช่น ขี้มูกขี้ตากรัง.
กรัง,กรัง ๒ กรัง ๒ [กฺรัง] น. เนิน เช่น กึกก้องไพรกรัง. (อนิรุทธ์), อเนกทั่วไพรกรัง. (ดุษฎีสังเวย).
กรัชกาย กรัชกาย [กะรัดชะ-, กะหฺรัดชะ-, กฺรัดชะ-] (แบบ) น. ร่างกาย เช่น เจ้างามยามประจงจัดกรัชกาย. (กลบทบัวบานกลีบขยาย). [ป. ก (น้ำ) + รช (ธุลี) + กาย = กายที่เกิดจากธุลีในน้ำ (น้ำ หมายถึง น้ำกาม น้ำอสุจิ, ธุลีในน้ำ คือ ตัวสเปิร์มที่อยู่ในน้ำอสุจิ), ก (สรีระ) + รช (ธุลี) + กาย = กายที่เกิดจากธุลีในสรีระ, กายอันบังเกิดด้วยดีด้วยธุลีเป็นไปในสรีระ (บาฬีลิปิกรม), ก (กุจฺฉิต = น่ารังเกียจ) + รช (ธุลี) + กาย = กายที่เกิดจากธุลีที่น่ารังเกียจ, กร (การกระทำ) + ช (เกิด) + กาย = กายที่เกิดด้วยสันถวะ (ความเชยชิด) อันมารดาบิดากระทำแล้ว].
กรัณฑ,กรัณฑ-,กรัณฑ์ กรัณฑ-, กรัณฑ์ [กะรันทะ-, กะรัน] (แบบ) น. ตลับ, หีบ, หม้อ, เช่น รัตนกรัณฑ์ = ตลับเพชร. (สังโยคพิธาน), กรัณฑรัตน. (ยวนพ่าย), กรัณฑขลังขังนํ้าทิพ มุรธา ภิเษกท่าน. (ราชาภิเษก ร. ๗). (ดู กรณฑ์ ๑).
กรัณฑก กรัณฑก ดู กรณฑ์ ๑.
กรัณย์ กรัณย์ [กะรัน] น. กิจ.<2t>ว. อันพึงทํา เช่น ราชกรัณย์. (ป. กรณีย).
กรัน,กรัน ๑ กรัน ๑ [กฺรัน] ว. เล็ก, แคระ, เช่น กรวดกรันขราราย. (สุธน).
กรัน,กรัน ๒ กรัน ๒ [กฺรัน] น. ชื่อกล้วยพันธุ์หนึ่งของชนิด Musa sapientum L. ผลสั้นป้อม มีเมล็ดมาก, กล้วยเต่า ก็เรียก.
กรับ,กรับ ๑ กรับ ๑ [กฺรับ] น. ไม้สําหรับตีให้อาณัติสัญญาณหรือขยับเป็นจังหวะ ทำด้วยไม้ไผ่ซีกหรือไม้แก่น ๒ อัน รูปร่างแบนยาวประมาณ ๔๐ เซนติเมตร กว้าง ๓-๔ เซนติเมตร หนาประมาณ ๑.๕ เซนติเมตร เมื่อตีหรือขยับให้ไม้ทั้ง ๒ อันนั้นกระทบกันจะได้ยินเสียงเป็น กรับ ๆ เช่น รัวกรับ ขยับกรับ.
กรับ,กรับ ๒ กรับ ๒ [กฺรับ] (โบ) ก. แห้งติดอยู่เหมือนกาวติดชาม ว่า กรับแห้ง. (ปรัดเล).
กรับขยับ กรับขยับ น. กรับเสภา.
กรับคู่ กรับคู่ น. กรับชนิดหนึ่ง ทำด้วยไม้ไผ่ซีกหรือไม้แก่นเป็นคู่ สำหรับตีเป็นจังหวะในการฟ้อนรำขับร้อง.
กรับพวง กรับพวง น. กรับชนิดหนึ่ง ทำด้วยไม้แผ่นบาง ๆ หรือแผ่นทองเหลืองหรือแผ่นงาช้างหลาย ๆ อัน และมีไม้แก่นหรืองาประกับ ๒ ข้างอย่างด้ามพัด ตอนหัวข้างหนึ่งเจาะรูร้อยเชือก เวลาตีใช้มือข้างหนึ่งจับตรงหัวทางเชือกร้อย แล้วฟาดข้างหนึ่งลงบนฝ่ามืออีกข้างหนึ่ง สำหรับตีเป็นจังหวะประกอบการฟ้อนรำและขับร้อง หรือใช้ตีรัวเป็นอาณัติสัญญาณ.
กรับเสภา กรับเสภา น. กรับชนิดหนึ่ง ทำด้วยไม้แก่นเช่นไม้ชิงชัน เป็นรูปสี่เหลี่ยม ยาวประมาณ ๒๐ เซนติเมตร หนาประมาณ ๕ เซนติเมตร ลบเหลี่ยมเล็กน้อยเพื่อมิให้บาดมือและให้สามารถกลิ้งตัวกระทบกันได้สะดวก ใช้ประกอบในการขับเสภา โดยผู้ขับเสภาจะต้องใช้กรับ ๒ คู่ ถือไว้ข้างละคู่ ขณะที่ขับเสภาก็ขยับกรับแต่ละคู่ให้กระทบกันเข้าจังหวะกับเสียงขับ, กรับขยับ ก็เรียก.
กรัม กรัม [กฺรํา] น. หน่วยมาตราชั่งนํ้าหนัก ตามมาตราเมตริก มีอัตรา = ๑๐๐ เซนติกรัม หรือ ๑ ใน ๑,๐๐๐ แห่งกิโลกรัม, ตามมาตราประเพณี อัตรา ๖๐๐ กรัม = ๑ ชั่งหลวง, อักษรย่อว่า ก. (ฝ. gramme).
กราก กราก [กฺราก] ก. ตรงเข้าไปโดยเร็ว เช่น กรากเข้าไป.<2t>ว. รวดเร็ว เช่น นํ้าไหลเชี่ยวกราก; เรียกสิ่งที่หุงหรือนึ่งสวยมากเกินไปว่า สวยกราก เช่น ข้าวสวยกราก ถั่วสวยกราก, แข็งอย่างผ้าลายที่ยังไม่ได้ซักหรือผ้าที่ลงแป้งจนแข็ง; เสียงอย่างเสียงลากกิ่งไม้.
กราง,กราง ๑ กราง ๑ [กฺราง] ก. ถูไปถูมาด้วยบุ้ง ตะไบ หรือหนังกระเบน.
กราง,กราง ๒ กราง ๒ [กฺราง] (โบ; กลอน) ว. เสียงอย่างเสียงใบตาลแห้งที่ถูกลมพัดกระทบกัน เช่น ด่งงไม้รงงรจิตร อันอยู่ชชิดทางเทา ร่มเย็นเอาใจโลกย์ ลําโล้โบกใบกราง. (ม. คําหลวง ชูชก).
กร่าง กร่าง [กฺร่าง] น. ชื่อไม้ต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ชนิด Ficus altissima Blume ในวงศ์ Moraceae เปลือกเรียบสีเทา ใบกว้างหนารูปไข่ ปลายมน ไม่มีขน ผลกลม เมื่อสุกสีส้มออกแดง, ลุง ฮ่างหลวง หรือ ไทรทอง ก็เรียก.<2t>(ปาก) ว. อาการที่ทำท่าทางหรือพูดจาวางโต เช่น เขาชอบทำกร่างอยู่เรื่อย.
กรางเกรียง กรางเกรียง ว. เสียงอย่างเดียวกับกราง เช่น ก้องกงรถก้องกรางเกรียง. (พากย์; สุธน).
กราด,-กราด -กราด ใช้เข้าคู่กับคํา กรีด เป็น กรีดกราด.
กราด,กราด ๑ กราด ๑ [กฺราด] น. ไม้กวาดที่ทําเป็นซี่ยาว ๆ ห่าง ๆ มีด้ามยาวสําหรับใช้กวาดที่ลานวัดเป็นต้น. (ข. จฺราศ).<2t>ก. กวาดด้วยกราด.
กราด,กราด ๒ กราด ๒ [กฺราด] น. เครื่องขูดไคลม้าทําด้วยเหล็ก มีฟันคล้ายกระต่ายขูดมะพร้าว; เครื่องจีมไม้ให้แน่น.
กราด,กราด ๓ กราด ๓ [กฺราด] น. เครื่องมือจับสัตว์นํ้าชนิดหนึ่ง ใช้ประกอบกับเรือ, บางถิ่นเรียกว่า กรีด หรือ เรือกรีด, เวลาจับสัตว์นํ้าใช้แจวไปตามฝั่งคลองหรือแม่นํ้า โดยให้ไม้สําหรับกรีดนั้นระไปในนํ้า.
กราด,กราด ๔ กราด ๔ [กฺราด] น. ชื่อไม้ต้นขนาดใหญ่ชนิด Dipterocarpus intricatus Dyer ในวงศ์ Dipterocarpaceae ขึ้นในป่าเต็งรัง ต้นมียางเหนียว เจาะเอานํ้ามันยางได้, ยางกราด เหียงกราด ตะแบง หรือ สะแบง ก็เรียก.
กราด,กราด ๕ กราด ๕ [กฺราด] ก. กวดให้แน่น เช่น กราดลิ่ม, กวดให้อยู่ในบังคับ เช่น กราดควาย กราดเด็ก; พ่นนํ้านกและไก่แล้วเอาออกผึ่งแดด; ตากอยู่กลางแดดกลางลม.<2t>ว. ซัดส่ายไปโดยไม่เจาะจง เช่น ยิงกราด, สาดไป เช่น ด่ากราด.
กราด,กราด ๖ กราด ๖ [กฺราด] (ถิ่น-ปักษ์ใต้) ว. เล็ก, แคระ, แกร็น.
กราดเกรี้ยว กราดเกรี้ยว ก. แสดงกิริยาท่าทางพร้อมทั้งดุด่าว่ากล่าวเป็นต้นอย่างรุนแรงด้วยความโกรธ, เกรี้ยวกราด ก็ใช้.
กราดวง กราดวง [กฺรา-] น. ลูกมะพร้าวทุยที่ตัดครึ่งท่อน สําหรับถูพื้นบ้านหรือหวีด้ายทอหูก, เสียงที่พูดกันเป็นกระดวง.
กราน,กราน ๑ กราน ๑ [กฺราน] (โบ) น. ไฟ เช่น เชิงกราน, ธุมาก็ปรากฏแก่กราน. (กฤษณา).
กราน,กราน ๒ กราน ๒ [กฺราน] ใช้เข้าคู่กับคําอื่น หมายความว่า ทอดตัว หรือ ล้มตัวลงราบ เช่น ก้มกราน หมอบกราน, หมายความว่า คํ้า, ยัน, เช่น ยันกราน ยืนกราน, ในบทกลอนใช้โดยลําพังก็มี เช่น ก็กรานในกลางรณภู. (สมุทรโฆษ), พระรามตัดตีนสินมือเสีย กรานคอไปไว้ที่นอกเมือง. (มโนห์รา), โบราณเขียนเป็น กราล ก็มี.
กร้าน กร้าน [กฺร้าน] ว. มีผิวด้าน, มีผิวไม่สดใส; กระด้าง, แข็ง, หยาบ.
กรานกฐิน กรานกฐิน [-กะถิน] ก. ขึงไม้สะดึง คือ เอาผ้าที่จะเย็บเป็นจีวรเข้าขึงที่ไม้สะดึง เย็บเสร็จแล้วบอกแก่ภิกษุทั้งหลายผู้ร่วมใจกันยกผ้าให้ในนามของสงฆ์เพื่ออนุโมทนา, ภิกษุผู้เย็บจีวรเช่นนั้น เรียกว่า ผู้กราน, พิธีทําบัดนี้ คือ สงฆ์ยกผ้าอันไม่พอแจกกันให้ภิกษุรูปหนึ่ง ภิกษุรูปนั้นทําตั้งแต่ซัก กะ ตัด เย็บ ย้อม เสร็จในวันนั้น ทําพินทุกัปปะอธิษฐานเป็นจีวรครอง เป็นจีวรกฐิน เรียกว่า กรานกฐิน. (อุปสมบทวิธี). (ดู กฐิน). (ข. กราล ว่า ปู, ลาด).
กราบ,กราบ ๑ กราบ ๑ [กฺราบ] น. ไม้เสริมแคมเรือให้สูงขึ้น, ส่วนของเรือตอนที่มีไม้เสริม, ไม้กระดานที่ติดตรงแคมเรือไปตามแนวนอนสําหรับเดิน, เรียกส่วนด้านข้างของเรือรบว่า กราบ.
กราบ,กราบ ๒ กราบ ๒ [กฺราบ] ก. แสดงความเคารพด้วยวิธีนั่งประนมมือขึ้นเสมอหน้าผาก แล้วน้อมศีรษะลงจดพื้น, ถ้าหมอบแล้วน้อมศีรษะลงจดมือที่ประนมอยู่กับพื้น เรียกว่า หมอบกราบ, ประนมมือเสมอหน้าผาก แล้วน้อมศีรษะลงจดมือที่วางอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่ง ก็อนุโลมถือว่าเป็นกราบ เช่น กราบลงบนตัก, เรียกกราบไหว้ด้วยตั้งอวัยวะทั้ง ๕ ลงกับพื้น คือ กราบเอาเข่าทั้ง ๒ จดพื้น ฝ่ามือทั้ง ๒ วางราบติดพื้น และหน้าผากจดพื้นว่า กราบโดยเบญจางคประดิษฐ์ เป็นอาการแสดงความเคารพอย่างสูงสุด, โดยปริยายใช้เป็นคําแสดงอาการเคารพเหมือนอย่างกราบ เช่น กราบทูล กราบเรียน.
กราบ,กราบ ๓ กราบ ๓ [กฺราบ] (โบ) ก. นอน เช่น เถ้าก็กราบกรนอึงอยู่นั้น. (ม. คําหลวง กุมาร).
กราบ,กราบ ๔ กราบ ๔ [กฺราบ] (โบ) ว. ตราบ เช่น กราบเท่ากัลปาวสาน. (พงศ. อยุธยา).
กราบพระ กราบพระ (โบ)<2t>น. ผ้ากราบ.
กราฟ กราฟ น. แผนภูมิที่ใช้เส้น จุด หรือภาพเป็นต้น เพื่อแสดงความเปลี่ยนแปลงค่าของตัวแปรตัวหนึ่งเทียบกับความเปลี่ยนแปลงค่าของตัวแปรตัวอื่น; (คณิต) เซตของจุดที่เรียงกันอย่างมีระเบียบตามที่กําหนดขึ้นด้วยสมการหรืออสมการ. (อ. graph).
กราม กราม [กฺราม] น. ฟันที่ใช้บดเคี้ยวอาหาร.
กรามช้าง,กรามช้าง ๑ กรามช้าง ๑ น. ตําราแพทย์แผนโบราณว่าเป็นโรคมะเร็งชนิดหนึ่งขึ้นที่แถวกราม มีอาการเป็นเนื้อร้ายงอกขึ้นที่ต่อมแถวก้านคาง ทําให้ขากรรไกรพองโตใหญ่ออกมา เรียกว่า มะเร็งกรามช้าง.
กรามช้าง,กรามช้าง ๒ กรามช้าง ๒ น. ชื่อกล้วยชนิดหนึ่ง เรียกว่า กล้วยกรามช้าง. (ตําราปลูกไม้ผล).
กรามพลู กรามพลู [กฺรามพฺลู] (โบ) น. กานพลู เช่น แห้วหมูพิชกรามพลูก็มี. (ม. คําหลวง มหาพน). (เทียบทมิฬ กฺรามปู).
กราย,กราย ๑ กราย ๑ [กฺราย] น. ชื่อปลานํ้าจืดชนิด Notopterus chitala ในวงศ์ Notopteridae หัวและลําตัวแบนข้างมาก สันหัวแอ่นลง ท้องเป็นสันคม ครีบท้องมีขนาดเล็ก ครีบก้นยาวต่อเนื่องกับครีบหางซึ่งเล็กและมีขอบกลม บริเวณเหนือครีบก้นมีจุดสีดํา ๕-๑๐ จุดเรียงเป็นแถวตามยาว ขนาดยาวได้ถึง ๑ เมตร, ตองกราย หรือ หางแพน ก็เรียก.
กราย,กราย ๒ กราย ๒ [กฺราย] น. โรคซางจรชนิดหนึ่ง มีอาการตัวร้อน ลงราก กระหายนํ้า. (แพทย์).
กราย,กราย ๓ กราย ๓ [กฺราย] ก. เคลื่อนไหวอย่างมีท่าทาง, เดินอย่างมีท่าที, เช่น ห่มเสื้อกรายดาบง่า. (ลอ), ลอยชายกรายแขนเข้าในห้อง. (คาวี); เดินเฉียดเข้าไปใกล้ ๆ, เดินเฉียดใกล้เข้าไปอย่างไม่มีคารวะ, เช่น เดินกรายศีรษะ, ใช้เข้าคู่กับคํา กรีด กรุย และ กล้ำ เป็น กรีดกราย กรุยกราย และ กล้ำกราย.
กราย,กราย ๔ กราย ๔ [กฺราย] น. ชื่อไม้ต้นขนาดกลางชนิด Xylopia malayana Hook.f. et Thomson ในวงศ์ Annonaceae เนื้อไม้ผ่าง่าย ใช้ทําฟืนและกระเบื้องไม้มุงหลังคา.
กร่าย กร่าย [กฺร่าย] น. ผ้าคาดที่ถักเป็นตาข่าย เช่น คาดกร่ายชายทองวาง ร่วงรุ้ง. (กาพย์ห่อโคลง).
กราล กราล [กฺราน] (โบ) ดู กราน ๒.
กราว,กราว ๑ กราว ๑ [กฺราว] (โบ; คําเดียวกับ จราว) น. ตะพาบนํ้า เช่น ตัวกราวมีกริวพ่นชลสินธุ์. (ดู ตะพาบ, ตะพาบนํ้า).
กราว,กราว ๒ กราว ๒ [กฺราว] ว. เสียงดังคล้ายเช่นนั้น เช่น เสียงของแข็งจํานวนมาก ๆ ร่วงลงกระทบพื้นหรือหลังคาพร้อม ๆ กัน หรือเสียงที่คนจํานวนมากตบมือพร้อม ๆ กัน.
กราว,กราว ๓ กราว ๓ [กฺราว] น. ชื่อเพลงหน้าพาทย์ ใช้ในเวลายกทัพหรือแสดงอาการร่าเริง, ครั้นมีเพลงกราวอื่น ๆ ด้วย เพลงนี้เรียกว่า กราวใน, ต่อนี้ทําบทเชิด, ถ้ามีการพากย์ เช่น พากย์รถก่อนยกทัพออก ทําเพลงกราวในหยุด หมายความว่าสุดเจรจาแล้วใช้กราวในพอหยุดป้องหน้าแล้วจึงพากย์, สําหรับบทของมนุษย์ ลิง หรือเทวดา เปลี่ยนเป็น กราวนอก ใช้เป็นเพลงประจํากัณฑ์มหาราช ในเวลามีเทศน์มหาชาติ และเรียกว่า กราวเขน ก็ได้ เพราะเมื่อยกกองทัพ พวกเขนออกก่อน, ถ้าเกี่ยวกับการรําเยาะเย้ยใช้เพลง กราวรำ, อาณัติสัญญาณลาโรงก็ใช้เพลงนี้, เมื่อประสมลูกฆ้องมอญเป็น กราวรำมอญ, นอกนี้ถ้าประสมลูกฆ้องใน ๑๒ ภาษา ก็มีชื่อตามภาษานั้น ๆ คือ กราวกระแซ เจือไปข้างเพลงลาว ๆ, กราวเขมร มีเนื้อร้องเป็นเพลงเขมร, กราวจีน ทําในเวลาเข้าเฝ้าหรือเดินเล่นหรือเล่นสนุกกัน ทํานองเป็นเพลงจีน ๒ ชั้น.
กร้าว กร้าว [กฺร้าว] ว. แข็งกระด้าง, แข็งมากหรือแข็งเกินพอดีซึ่งอาจแตกบิ่นได้ง่าย, ไม่นุ่มนวล.
กราวด่าง กราวด่าง ดู ม่านลาย.
กราวรูด กราวรูด [กฺราว-] (ปาก) ว. ตลอดหมด, ไม่เว้น, เช่น จับกราวรูด.
กราสิก กราสิก [กฺรา-] (โบ; กลอน) น. ผ้าด้ายแกมไหม เช่น พัสตรากราสิกศรี. (ม. คําหลวง ทานกัณฑ์). (ป. กาสิก; ส. กาศิก).
กรำ กรำ [กฺรํา] ว. ตรํา, ฝ่า, ทนลําบาก, เช่น กรําแดด กรําฝน, เคี่ยวเข็ญเย็นคํ่ากรําไป. (พระราชนิพนธ์ ร. ๖).
กร่ำ,กร่ำ ๑ กร่ำ ๑ [กฺรํ่า] น. ที่ล่อปลาให้เข้าไปอยู่ ใช้ไม้ปักตามชายฝั่งลําแม่นํ้า เป็นรูปกลมบ้าง รีบ้าง ภายในสุมด้วยกิ่งไม้เพื่อล่อให้ปลาเข้าอาศัย เมื่อเวลาจะจับก็เอาเฝือกหรืออวนล้อม แล้วเอาไม้ที่สุมนั้นออก, เขียนเป็น กลํ่า ก็มี.
กร่ำ,กร่ำ ๒ กร่ำ ๒ [กฺรํ่า] ก. เอาพร้าหวดตัดตอหญ้าที่เหลืออยู่ให้เตียน.
กร่ำ,กร่ำ ๓ กร่ำ ๓ [กฺรํ่า] (โบ) น. ไม้ปักที่หมายร่องนํ้าที่ทะเล. (ปรัดเล).
กร่ำ,กร่ำ ๔ กร่ำ ๔ [กฺรํ่า] (ปาก) ว. ใช้ประกอบกับอาการเมา เช่นเมาเหล้า ว่า เมากรํ่า หมายความว่า เมาเรื่อยไป.
กร่ำกรุ่น กร่ำกรุ่น [กฺรํ่ากฺรุ่น] ว. สีมัว ๆ ไม่ชัด เช่น สีกรํ่ากรุ่นเป็นอย่างไรฉันไม่เคย.
กริก,กริ๊ก กริก, กริ๊ก [กฺริก, กฺริ๊ก] ว. เสียงของแข็ง เช่น แก้ว โลหะ กระทบกัน.
กริกกริว กริกกริว [กฺริกกฺริว] ว. ขี้ริ้ว, เลว, เช่น โฉมใช่โฉมคนค้า หน้าใช่หน้ากริกกริว. (ลอ).
กริกกรี กริกกรี [กฺริกกฺรี] (ถิ่น-ปักษ์ใต้) ว. มีทีท่าเจ้าชู้.
กริ่ง,กริ่ง ๑ กริ่ง ๑ [กฺริ่ง] น. เครื่องบอกสัญญาณมีเสียงดังเช่นนั้น; เรียกพระเครื่องที่ทําด้วยโลหะ ข้างในกลวง มีก้อนโลหะคลอนเขย่าดังกริ่ง ๆ ว่า พระกริ่ง.
กริ่ง,กริ่ง ๒ กริ่ง ๒ [กฺริ่ง] ก. นึกแคลง, นึกระแวง, นึกสงสัย.
กริ๊ง กริ๊ง [กฺริ๊ง] ว. เสียงแหลมเบาอย่างเสียงของแข็งเช่นแท่งโลหะกระทบกัน.
กริงกริว กริงกริว [กฺริงกฺริว] ว. เล็ก เช่น มนุษย์น้อยกริงกริวผิวเนื้อเหลือง.
กริ้งกริ้ว กริ้งกริ้ว [กฺริ้งกฺริ้ว] (ถิ่น-ปักษ์ใต้)<2t>ว. เล็ก, ผอม, เช่น รูปร่างกริ้งกริ้ว คือ รูปร่างเล็ก.
กริ่งเกรง กริ่งเกรง ก. ระแวงกลัวไป.
กริ่งใจ กริ่งใจ ก. นึกแคลงใจ.
กริช กริช [กฺริด] น. อาวุธชนิดหนึ่ง คล้ายมีด ๒ คม ปลายแหลม ใบมีดตรงก็มีคดก็มี เป็นของชาวมลายู.
กริณี,กรินี กริณี, กรินี [กะ-] (แบบ) น. ช้างพัง, ใช้ว่า กิริณี หรือ กิรินี ก็มี. (ส. กริณี; ป. กรินี).
กริตย,กริตย- กริตย- [กฺริดตะยะ-] (โบ; กลอน) ก. ทํา เช่น พระบาทสญไชยก็ชําระกริตยภิษิตสรรพางค์. (ม. คําหลวง มหาราช). (ส. กฺฤตฺย).
กริน กริน [กะ-] (แบบ) น. ช้าง, ช้างพลาย, เช่น กรินไกรอาสนอัศวาชี. (ม. คําหลวง ฉกษัตริย์). (ส.).
กรินทร์ กรินทร์ น. พญาช้าง, ช้างที่ควรยกย่อง, เช่น เบื้องนั้นบรรลุผู้เผือกกรินทร์ หนึ่งฤๅ. (ลิลิตพยุหยาตรา), ใช้เป็น กเรนทร์ ก็มี. (ส. กรินฺ + อินฺทฺร = กรินทร์ = ช้างใหญ่, ช้างศึก, ช้างพระอินทร์).
กรินทร์ กรินทร์ ดู กริน.
กรินี กรินี [กะ-] ดู กริณี.
กริบ กริบ [กฺริบ] ก. ขริบ, ตัดให้พลันขาดด้วยกรรไกรโดยไม่มีเสียงหรือมีเสียงเช่นนั้น เช่น กริบผม กริบชายผ้า, ตัดขาดโดยฉับไวและแนบเนียนด้วยความคม.<2t>ว. มาก เช่น คมกริบ; โดยปริยายหมายความว่า เงียบไม่มีเสียงดัง เช่น เงียบกริบ ย่องกริบ.
กริม กริม [กฺริม] น. ชื่อปลานํ้าจืดขนาดเล็กในสกุล Trichopsis วงศ์ Anabantidae พบทั่วไป รูปร่างคล้ายปลากัด ซึ่งอยู่ในวงศ์เดียวกัน แต่หัวแหลมกว่าและสีไม่สดสวย มักมีแถบสีเข้มพาดตลอดข้างตัว ๒-๓ แถบ ที่พบมากได้แก่ กริมข้างลาย (T. vittatus), กัดป่า ก็เรียก.
กริ่ม กริ่ม [กฺริ่ม] ก. กระหยิ่ม, ครึ้มใจ, อิ่มใจ.<2t>ว. อาการที่เมาเหล้าอย่างใจดี เรียกว่า เมากริ่ม.
กริยา กริยา [กฺริยา, กะริยา] (ไว) น. คําที่แสดงอาการของนามหรือสรรพนาม. (ส. กฺริยา; ป. กิริยา).
กริยานุเคราะห์ กริยานุเคราะห์ (ไว) น. กริยาที่ใช้ช่วยกริยาอื่น เช่น คง จะ ถูก น่า, กริยาช่วย ก็ว่า.
กริยาวิเศษณ์ กริยาวิเศษณ์ (ไว) น. คําวิเศษณ์ใช้ประกอบคํากริยาหรือคําวิเศษณ์ด้วยกันให้มีความแปลกออกไป.
กริยาวิเศษณ์วลี กริยาวิเศษณ์วลี (ไว) น. ท่อนความที่มีคํากริยาวิเศษณ์ที่พ่วงบุรพบทเข้าขยายกริยา เช่น ม้าวิ่งไปข้างโน้น<2t>ความที่ขีดสัญประกาศนั้นเป็นกริยาวิเศษณ์วลี.
กริยาวิเศษณานุประโยค กริยาวิเศษณานุประโยค [-วิเสสะนานุปฺระโหฺยก] (ไว) น. อนุประโยคที่ประกอบกริยาหรือวิเศษณ์ในสังกรประโยค, ประโยควิเศษณ์ ก็ว่า.
กริว,กริว ๑ กริว ๑ [กฺริว] น. เต่า เช่น เขียนกริวขึ้นขี่ที่ต้นคอ. (ขุนช้างขุนแผน), จริว หรือ ตริว ก็ว่า. (ดู ตะพาบ, ตะพาบน้ำ).
กริว,กริว ๒ กริว ๒ [กฺริว] ว. เกรียว เช่น บางหมู่ก็กริวเกริ่น. (ม. ฉันท์ มหาพน).
กริ้ว กริ้ว [กฺริ้ว] (ราชา) ก. โกรธ, เคือง, ในบทกลอนโบราณใช้ในที่สามัญก็มี เช่น ฝูงมหาชนท้งงหลายกริ้วโกรธ. (ม. คําหลวง ชูชก).
กริวกราว กริวกราว ว. เสียงโห่, เสียงเอ็ดอึงพร้อมกันหลาย ๆ เสียง, เช่น บ้างโบกธงธุชพรายพราวโลดเต้นกริวกราว.
กริวลาย กริวลาย ดู ม่านลาย.
กรี,กรี ๑ กรี ๑ [กะรี] (แบบ) น. ช้าง เช่น ถัดนั้นพลนิกรพวกกรี. (ม. คําหลวง มหาราช).
กรี,กรี ๒ กรี ๒ [กฺรี] (กลอน) ย่อมาจาก กรีธา เช่น ให้เรานี้กรีพลออกเดินไพร. (อิเหนา).
กรี,กรี ๓ กรี ๓ [กฺรี] น. โครงแข็งแหลมที่หัวกุ้ง.
กรีฑา กรีฑา [กฺรีทา] น. กีฬาประเภทหนึ่ง แบ่งออกเป็นประเภทลู่และประเภทลาน; การเล่นสนุก เช่น กรีฑาร่าเริงรื่น; การเล่นสมพาส เช่น ในกามกรีฑากล. (กฤษณา); การประลองยุทธ์. (ส.).
กรีฑากร กรีฑากร ก. ทํากรีฑา เช่น ปางกรีฑากร อนงค์ในแท่นทอง. (สมุทรโฆษ).
กรีฑาภิรมย์ กรีฑาภิรมย์ ว. น่ารื่นรมย์ยิ่งในกรีฑา, (โบ) ใช้ว่า กรีธา ก็มี เช่น แห่งอรอาตมชายา อันกรีธาภิรมย์. (ม. คําหลวง ทศพร).
กรีฑารมย์ กรีฑารมย์ ว. เป็นที่ยินดีในกรีฑา เช่น สองท้าวเสมอกัน และควรที่กรีฑารมย์. (สมุทรโฆษ).
กรีฑาสถาน กรีฑาสถาน น. สถานที่เล่นกีฬา.
กรีด,กรีด ๑ กรีด ๑ [กฺรีด] (ถิ่น) น. เครื่องจับสัตว์นํ้าชนิดหนึ่ง. (ดู กราด ๓).
กรีด,กรีด ๒ กรีด ๒ [กฺรีด] ก. มีท่วงท่าที่มีลีลางดงามอย่างละครรำ.
กรีด,กรีด ๓ กรีด ๓ [กฺรีด] ก. ขีดให้เป็นรอยหรือให้ขาด เช่น เอากากเพชรกรีดกระจก เอามีดกรีดใบตองเย็บกระทง; ระไป, ครูดไป, เช่น เอาหลังเล็บกรีดลูกทุเรียนเพื่อให้รู้ว่ากินได้หรือยัง; เอาคมมีดสะบัดบนของแข็งเพื่อให้คม เช่น เอามีดกรีดหินเพื่อให้คม กรีดมีดบนปากชาม.
กรีด,กรีด ๔ กรีด ๔ [กฺรีด] ว. อาการที่ร้องเสียงแหลม.<2t>ก. ร้องเสียงแหลม เช่น กรีดร้อง กรีดเสียง.
กรี๊ด กรี๊ด ว. อาการที่เปล่งเสียงร้องดังเช่นนั้นด้วยความตกใจหรือโกรธเป็นต้น.
กรีดกราด กรีดกราด [-กฺราด] ว. อาการที่ร้องอุทานเพื่อเรียกร้องความสนใจเป็นต้น.
กรี๊ดกร๊าด กรี๊ดกร๊าด ว. อาการที่เปล่งเสียงร้องอุทานแสดงความพอใจเป็นต้น.
กรีดกราย กรีดกราย ว. เยื้องกราย, เดินทอดแขน, มีท่าทางหยิบหย่ง, ทำอะไรไม่เต็มกำลัง.
กรีดน้ำตา กรีดน้ำตา ว. เช็ดน้ำตาด้วยนิ้วอย่างละครรำ, โดยปริยายเป็นคำแสดงความหมั่นไส้ว่าแสร้งร้องไห้ทำให้ดูน่าสงสาร เช่น เรื่องแค่นี้มานั่งกรีดน้ำตาอยู่ได้.
กรีดนิ้ว กรีดนิ้ว ก. กรายนิ้ว, ใช้นิ้วมือหยิบอย่างมีท่าทีหยิบหย่ง.
กรีดไพ่ กรีดไพ่ ก. สับไพ่ป๊อกโดยวิธีแยกไพ่ออกเป็น ๒ ส่วน ใช้มือแต่ละข้างจับไพ่แต่ละส่วนไว้ แล้วใช้ที่หัวแม่มือระไพ่แต่ละใบให้ล้มทับสลับกันจนหมดแล้วผลักรวมเข้าด้วยกัน.
กรีดเล็บ กรีดเล็บ ก. อาการที่ใช้เล็บเก็บสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างมีท่างาม เช่น กรีดเล็บเก็บพวงสุมาลี นารีขับเพลงวังเวงใจ. (เงาะป่า).
กรีธา กรีธา [กฺรีทา] ก. เคลื่อน, ยก, เดินทางเป็นหมู่เป็นกระบวน, (ใช้ในการยกทัพ).
กรีธาทัพ กรีธาทัพ ก. ยกกระบวนทัพ, เดินกองทัพ.
กรีธาพล กรีธาพล ก. รวมพลเข้าเป็นกระบวน.
กรีษ กรีษ [กะหฺรีด] (แบบ) น. คูถ, อุจจาระ, ขี้. (ส.; ป. กรีส).
กรีส กรีส [กะหฺรีด] น. อาหารเก่า, คูถ, อุจจาระ, ขี้, เช่น หนึ่งน้ำมูตรกรีส ฤๅเกียจฤๅกีด คำคนติฉิน. (สรรพสิทธิ์). (ป.; ส. กรีษ); (แบบ) มาตราวัดความยาวเท่ากับ ๑ เส้น ๑๑ วา ๑ ศอก หรือ ๑๒๕ ศอก, ความจุเท่ากับ ๔ อัมพณะ คือ ประมาณ ๔๔ ทะนาน. (ลิปิ). (ป. กรีส; ส. กรฺษ).
กรึกถอง กรึกถอง [กรึกฺถองฺ] (โบ) ว. มากมาย, ตรึกถอง ก็ใช้.
กรึง กรึง [กฺรึง] (โบ) ก. ตรึง, ปักแน่น, ทําให้อยู่กับที่, เช่น ต้องศรพรหมาสตร์ฤทธิรณ กรึงแน่นทรวงบน ตลอดจนยอดปฤษฎางค์. (พากย์).
กรึ๊บ กรึ๊บ [กฺรึ๊บ] ว. เสียงเกิดจากการกลืนของเหลวเช่นเหล้าอย่างรวดเร็ว, ลักษณนามเรียกการดื่มเหล้าอึกหนึ่ง ๆ ด้วยอาการอย่างนั้น เช่น ดื่มเหล้ากรึ๊บหนึ่ง ดื่มเหล้า ๒ กรึ๊บ.<2t>(ปาก) ก. ดื่ม (มักใช้แก่เหล้า).
กรึ่ม กรึ่ม [กฺรึ่ม] ว. อาการที่เมาเหล้าตลอดทั้งวัน เรียกว่า เมากรึ่ม.
กรุ,กรุ ๑ กรุ ๑ [กฺรุ] น. ห้องที่ทําไว้ใต้ดิน ใต้พระเจดีย์ เป็นต้นสำหรับเก็บพระพุทธรูปและสิ่งอื่น ๆ, โดยปริยายหมายถึงกระทรวง ทบวง กรม ที่ข้าราชการในสังกัดถูกเรียกตัวเข้ามาอยู่ประจำ โดยมิได้มีตำแหน่งหน้าที่ใด ๆ เพื่อเป็นการลงโทษหรือก่อนเกษียณอายุราชการ ในความว่า เรียกเก็บเข้ากรุ.
กรุ,กรุ ๒ กรุ ๒ [กฺรุ] ก. ปิดกันช่องโหว่หรือที่ว่าง เช่น กรุฝา, รองไว้ข้างล่าง เช่น กรุก้นชะลอม, ปิดกั้น เช่น กรุบ่อ, กรองกรุฉลุกรเม็ด ช่อช้อย. (เพชรมงกุฎ).<2t>น. เรียกบ่อซึ่งมีสิ่งรองไว้ที่ก้นว่า บ่อกรุ หรือ กรุ.
กรุก กรุก [กฺรุก] ก. ขลุก, ขลุกขลุ่ย, ง่วนอยู่, เช่น พรรษาหนึ่งสองพรรษาไม่ผาสุก เข้าบ้านกรุกเลยลาสิกขาบท. (นิ. เดือน).<2t>ว. เสียงดังกุก เช่น ได้ยินเสียงกรุกลุกขึ้นมอง. (คาวี).
กรุกกรัก กรุกกรัก ก. ขลุกขลัก เช่น กรุกกรักประดักประเดิดเปิดฝาลุ้ง. (คาวี).<2t>ว. เสียงดังกุกกัก เช่น ได้ยินเสียงกรุกกรักก็ทักถาม. (ม. ร่ายยาว ชูชก).
กรุกกรู๊ กรุกกรู๊ [กรุกฺ-] ว. เสียงนกเขาขันคู, จุ๊กกรู๊ ก็ว่า.
กรุง กรุง [กฺรุง] น. เมืองหลวง, เมืองซึ่งเป็นที่ตั้งรัฐบาลกลาง, แต่ก่อนหมายถึงประเทศก็ได้ เช่น กรุงสยาม กรุงจีน; (โบ) กษัตริย์ เช่น จึ่งกรุงสุทโธทนเห็นอัศจรรย์ก็ทูลพลันด่งงนี้ฯ. (ม. คำหลวง ทศพร).
กรุ้งกริ่ง กรุ้งกริ่ง [กฺรุ้งกฺริ่ง] ก. แสดงสีหน้า แววตา และท่าทางเจ้าชู้, กรุ้มกริ่ม ก็ว่า.
กรุงเขมา กรุงเขมา [กฺรุงขะเหฺมา] น. ชื่อไม้เถาชนิด Cissampelos pareira L. var. hirsuta (Buch. ex DC.) Forman ในวงศ์ Menispermaceae ใบรูปสามเหลี่ยมปลายมน ผลกลม เมื่อสุกสีแดง.
กรุงพาลี กรุงพาลี [กฺรุง-] น. ภาชนะทำด้วยกาบกล้วย เป็นรูปกระบะสี่เหลี่ยม สำหรับวางเครื่องเซ่นสังเวย เรียกว่า บัตรกรุงพาลี หรือ บัตรพระภูมิ, เรียกสั้น ๆ ว่า บัตรพลี. (มาจากชื่อท้าวพลี). (รามเกียรติ์ ร. ๖).
กรุณ กรุณ [กะรุน] (กลอน) น. กรุณา.
กรุณา กรุณา [กะรุนา] น. ความสงสารคิดจะช่วยให้พ้นทุกข์ เป็น ๑ ในพรหมวิหาร ๔ คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา; ใช้ประกอบหน้ากริยาแสดงความขอร้องอย่างสุภาพ เช่น กรุณาส่ง; ใช้ร่วมกับคำ พระ เป็นสรรพนามสําหรับพระเจ้าแผ่นดิน เช่น กราบบังคมทูลพระกรุณา. (ป.).
กรุณาทฤคุณ กรุณาทฤคุณ [-ทฺรึคุน] (โบ; แบบ) น. กรุณาธิคุณ, คุณอันยิ่งใหญ่ คือ กรุณา.
กรุณาธิคุณ กรุณาธิคุณ น. คุณอันยิ่งใหญ่ คือ กรุณา. (ป. กรุณา + อธิ + คุณ).
กรุน กรุน [กฺรุน] ก. ตัด, ทําลาย, เช่น จะกรุนจะกราดสงคราม. (ม. ฉันท์ มหาราช). (ถิ่น-พายัพ กุน ว่า ตัด, ทําลาย, ใช้คู่กับ กาด ว่า ทําให้ราบลง).
กรุ่น กรุ่น [กฺรุ่น] ว. อาการของไฟที่ยังไม่ดับแต่ไม่ถึงกับลุกโพลง เช่น ไฟติดกรุ่นอยู่, โดยปริยายหมายความว่า ยังเหลืออยู่บ้าง, มีเรื่อย ๆ อยู่, เช่น ควันกรุ่น หอมกรุ่น; ยังไม่ดับสนิท, ร้อนรุ่มอยู่ภายใน, เช่น โกรธกรุ่น.
กรุบ กรุบ [กฺรุบ] ว. เสียงดังเช่นนั้นเมื่อเคี้ยวของแข็งที่แตกง่าย.<2t>น. ขนมปั้นก้อนชนิดหนึ่ง เรียกว่า ขนมกรุบ; เรียกกะลาอ่อนของมะพร้าวว่า กรุบมะพร้าว.
กรุบกริบ กรุบกริบ ว. เสียงกุกกิก.
กรุ่ม กรุ่ม [กฺรุ่ม] ก. ขันบ่อย ๆ (ปรกติใช้แก่นกเขา แต่ใช้แก่นกอื่นก็มีบ้าง) เช่น บางพวกจับเป็นคู่คูขันกันโดยธรรมดา เวลากรุ่มกําลังที่ตั้งขึ้นตามฤดู. (ม. ร. ๔ วนปเวสน์); โดยปริยายหมายความว่า สบายเรื่อย ๆ ไป เช่น มีเงินตรากินกรุ่มเป็นภูมิฐาน. (นิ. เดือน); รุ่มร้อน, ระอุ, เช่น นรกเท่ากรุ่ม เปลวร้อนเหมือนไฟ. (สุบิน).
กรุ้มกริ่ม กรุ้มกริ่ม [กฺรุ้มกฺริ่ม] ก. แสดงสีหน้า แววตา และท่าทางเจ้าชู้ เช่น เห็นผู้หญิงเดินผ่านมาก็ทำกรุ้มกริ่มขึ้นมาทันที, กรุ้งกริ่ง ก็ว่า.
กรุย,กรุย ๑ กรุย ๑ [กฺรุย] น. หลักที่ปักรายไว้เป็นเครื่องหมาย เช่น ปักกรุย.<2t>ก. ปักหลักหรือถางเป็นแนวไว้ เช่น กรุยทาง. (ข. ตฺรุย).
กรุย,กรุย ๒ กรุย ๒ [กฺรุย] ว. ทําทีท่าเจ้าชู้ เช่น ห่มเพลาะกรูมกรอกรุยฉุยเฉิดฉัน. (มณีพิชัย).
กรุยกราย กรุยกราย ว. เดินทําทีท่าเจ้าชู้; มีท่าทางหยิบหย่ง, ในบทกลอนใช้ว่า กรายกรุย ก็มี เช่น อย่านุ่งลายกรายกรุยทําฉุยไป. (สุภาษิตสุนทรภู่).
กรุยเกรียว กรุยเกรียว [กฺรุย-] (กลอน) ว. เกรียวกราว เช่น แสรกเสียงกรุยเกรียว. (ดุษฎีสังเวย).
กรู,กรู ๑ กรู ๑ [กฺรู] ว. อาการที่ไปพร้อม ๆ กันโดยเร็ว เช่น วิ่งกรูกันไป.
กรู,กรู ๒ กรู ๒ [กฺรู] น. ข้าวชนิดที่ทําเพื่ออุทิศให้เปรตประเภทหนึ่งในพิธีสารท เรียกว่า ข้าวกรู.
กรูด,กรูด ๑ กรูด ๑ [กฺรูด] (โบ) น. มะกรูด เช่น งั่วนาวทรนาวเนกกรูดฉุรเฉกจรุงธาร. (ม. คําหลวง จุลพน); (ถิ่น-ปักษ์ใต้) มะกรูด.
กรูด,กรูด ๒ กรูด ๒ [กฺรูด] ว. เสียงอย่างเสียงที่ลากของหนักถูไปกับพื้น; อาการที่ถอยอย่างรวดเร็วไม่มีระเบียบหรืออย่างตั้งตัวไม่ติด ในคําว่า ถอยกรูด.
กรูด,กรูด ๓ กรูด ๓ [กฺรูด] น. โรคหูด.
กรูม กรูม [กฺรูม] ว. กรอม, คลุม, เช่น ห่มเพลาะกรูมกรอกรุยฉุยเฉิดฉัน. (มณีพิชัย).
กเรณุ กเรณุ [กะเรนุ] (แบบ) น. ช้าง เช่น ไร้เกวียนกาญจนยานสินธพแลสี- พิกากเรณุหัสดี ดำรง. (สรรพสิทธิ์). (ป.).
กเรณุกา กเรณุกา (แบบ) น. ช้างพัง. (ป.).
กเรนทร,กเรนทร์ กเรนทร, กเรนทร์ (กลอน; แผลงมาจาก กรินทร์) น. ช้าง เช่น พลคชคณหาญหัก กเรนทรปรปักษ์ ปราบประลัย. (สมุทรโฆษ).
กฤช กฤช [กฺริด] (โบ) น. กริช.
กฤด,กฤด- กฤด- [กฺริดะ-] (แบบ) ว. อันกระทําแล้ว (ใช้ประกอบเป็นส่วนหน้าของสมาส), ในบทกลอนแผลงเป็น กฤษฎา ก็มี. (ส. กฺฤต; ป. กต).
กฤดยาเกียรณ กฤดยาเกียรณ [กฺริดดะยาเกียน] (แบบ) ว. พร้อมด้วยเกียรติยศ เช่น ความชอบกอปรกฤดยากยรณ. (ม. คําหลวง ทานกัณฑ์). (ส. กีรฺติ + อากีรฺณ).
กฤดา,กฤดาการ กฤดา, กฤดาการ [กฺริดา, กฺริดากาน] (โบ; กลอน) น. บารมีอันยิ่งที่ทำไว้ (กร่อนมาจาก กฤดาธิการ) เช่น ทรงพระกฤดาเดชานุภาพยิ่งทวีขึ้น. (พงศ. อยุธยา), ผู้ใดมีบุญญากฤดาการ. (เสภาสุนทรภู่).
กฤดาญชลี กฤดาญชลี [กฺริดานชะลี] ก. ยกมือไหว้. (ส.; ป. กตญฺชลี = มีกระพุ่มมืออันทําแล้ว), ในบทกลอนใช้แผลงเป็นรูปต่าง ๆ คือ กฤดาอัญชลี กฤษฎา กฤษฎาญ กฤษฎาญชลี กฤษฎาญชุลี กฤษฎาญชลิต กฤษฎาญชวลิตวา กฤษฎาญชวลิศ กฤษฎาญชวเลศ.
กฤดาธิการ กฤดาธิการ [กฺริดาทิกาน] น. บารมีอันยิ่งใหญ่ที่ทําไว้.<2t>ว. มีบารมีอันยิ่งใหญ่ที่ทําไว้. (ส.; ป. กตาธิการ), ในบทกลอนใช้เป็น กฤดา หรือ กฤดาการ ก็มี.
กฤดาภินิหาร กฤดาภินิหาร [กฺริดาพินิหาน] น. อภินิหาร (บุญอันยิ่ง) ที่ทําไว้.<2t>ว. มีอภินิหารที่ทําไว้, (ส.; ป. กตาภินิหาร), ในบทกลอนใช้แผลงเป็น กฤษฎา หรือ กฤษฎาภินิหาร ก็มี.
กฤดายุค กฤดายุค [กฺริดา-] น. ชื่อยุคแรกของจตุรยุคตามคติของพราหมณ์ ในยุคนี้มนุษย์มีธรรมะสูงสุด คือ เต็ม ๔ ใน ๔ ส่วน และมีอายุยืนยาวที่สุด. (ส. กฺฤตยุค). (ดู จตุรยุค).
กฤดาอัญชลี กฤดาอัญชลี [กฺริ-] (โบ; กลอน) แยกคําจาก กฤดาญชลี เช่น ขอถวายกฤดาอัญ- ชลีโอนศิโรจร. (ตําราช้างคําฉันท์).
กฤดิ กฤดิ [กฺริดดิ] (โบ; กลอน) น. เกียรติ เช่น วรกฤดิโอฬาร. (ชุมนุมตํารากลอน). (ส. กีรฺติ; ป. กิตฺติ).
กฤดีกา,กฤตยฎีกา กฤดีกา, กฤตยฎีกา [กฺริ-, กฺริดตะยะ-] แผลงมาจาก กติกา เช่น อันว่าความกฤดีกา แต่สองราแรกทรงพรต. (ม. คําหลวง กุมาร), ชําระกฤตยฎีกา. (ไวพจน์พิจารณ์).
กฤตติกา กฤตติกา [กฺริดติ-] น. ดาวฤกษ์ที่ ๓ มี ๘ ดวง เห็นเป็นรูปธงสามเหลี่ยม มีหางเรียวยาว, ดาวธงสามเหลี่ยม หรือ ดาวลูกไก่ ก็เรียก, (โบ) เขียนเป็น กฤติกา ก็มี. (ส. กฺฤตฺติกา; ป. กตฺติกา).
กฤตย,กฤตย- กฤตย- [กฺริดตะยะ-] (โบ; กลอน) ก. ทํา. (ส.).
กฤตยา,กฤตยา ๑ กฤตยา ๑ [กฺริดตะ-] (โบ; กลอน) น. เกียรติ เช่น เสื่อมกฤตยาสยามยศ. (ตะเลงพ่าย).
กฤตยา,กฤตยา ๒,กฤติยา กฤตยา ๒, กฤติยา [กฺริดตะ-, กฺริดติ-] น. การใช้เวทมนตร์, เสน่ห์, อาถรรพณ์, เช่น มนตร์กฤตยานั้นซั้น เสื่อมสิ้นทุกอัน. (โลกนิติ), หาแม่มดถ้วนหน้า หมู่แก้ กฤติยา. (ลอ).
กฤติกา กฤติกา [กฺริดติ-] (โบ) น. ดาวฤกษ์ที่ ๓ มี ๘ ดวงเห็นเป็นรูปธงสามเหลี่ยม มีหางเรียวยาว เช่น หมู่สามสมมุติ์กุกกุฏโบ- ดกกฤติกาขาน. (สรรพสิทธิ์), ดาวธงสามเหลี่ยม หรือ ดาวลูกไก่ ก็เรียก. (ส. กฺฤตฺติกา; ป. กตฺติกา).
กฤษฎา,กฤษฎา ๑ กฤษฎา ๑ [กฺริดสะดา] (โบ; กลอน; แผลงมาจาก กฤด) ว. ที่ทําแล้ว เช่น เพื่อพระราชกฤษฎา แต่กี้ (ราชกิจที่ทรงทํามาแล้ว). (ตะเลงพ่าย).
กฤษฎา,กฤษฎา ๒,กฤษฎาภินิหาร กฤษฎา ๒, กฤษฎาภินิหาร [กฺริดสะ-] (โบ; กลอน) แผลงมาจาก กฤดาภินิหาร เช่น เชิญชมชื่นกฤษฎา. (ม. คําหลวง ฉกษัตริย์).
กฤษฎา,กฤษฎา ๓,กฤษฎาญ,กฤษฎาญชลิต,กฤษฎาญชลี,กฤษฎาญชวลิตวา,กฤษฎาญชวลิศ,กฤษฎาญชวเลศ,กฤษฎาญชุลี กฤษฎา ๓, กฤษฎาญ, กฤษฎาญชลิต, กฤษฎาญชลี, กฤษฎาญชวลิตวา, กฤษฎาญชวลิศ, กฤษฎาญชวเลศ, กฤษฎาญชุลี [กฺริดสะดา, -ดาน, -ดานชะลิด, -ดานชะลี, -ดานชะวะลิดตะวา, -ดานชะวะลิด, -ดานชะวะเลด, -ดานชุลี] (โบ; กลอน) แผลงมาจาก กฤดาญชลี เช่น ถวายอภิวันทกฤษฎาญกฤษฎาการกราบเกล้า. (ม. คําหลวง มัทรี; ฉกษัตริย์), กฤษฎาญชลิตไหว้. (มาลัยคําหลวง), กฤษฎาญชลียะยุ่งแล. (ม. คําหลวง ทศพร), อันว่ากฤษฎาญชวลิตวา. (มาลัยคำหลวง), อนนว่าเจ้าสากลกฤษฎาญชวลิศท่านธแล้ว. (ม. คําหลวง ทานกัณฑ์), ถวายกฤษฎาญชวเลศ ทูลแถลงเหตุนุสนธ์. (เพชรมงกุฎ), กฤษฎาญชุลีน้อม. (ฉันทลักษณ์).
กฤษฎาธาร กฤษฎาธาร [กฺริดสะดาทาน] น. พระที่นั่งที่ทําขึ้นสําหรับเกียรติยศ (?) เช่น พระมหาพิชัยราชรถกฤษฎาธาร. (เรื่องพระบรมศพ).
กฤษฎี กฤษฎี [กฺริดสะดี] (แบบ; กลอน) น. รูป เช่น พระอินทราธิราชแปรกฤษฎี. (สมุทรโฆษ). (ส. อากฺฤติ = รูป).
กฤษฎีกา กฤษฎีกา [กฺริดสะ-] น. แผลงมาจาก กติกา เช่น ก็รับพระกฤษฎีกากําหนดแห่งพระดาบสว่าสาธุแล. (ม. คําหลวง วนปเวสน์); (กฎ) บทกฎหมายซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงตราขึ้น เพื่อใช้ในการบริหาร เรียกว่า พระราชกฤษฎีกา; ชื่อคณะกรรมการประกอบด้วยกรรมการร่างกฎหมายและกรรมการวินิจฉัยร้องทุกข์ รวมเรียกว่า คณะกรรมการกฤษฎีกา; (กฎ; โบ) พระราชโองการที่มีลักษณะเป็นกฎหมาย.
กฤษณา กฤษณา [กฺริดสะหฺนา] น. ส่วนของเนื้อไม้ซึ่งมีสีดํา เกิดเมื่อต้นไม้มีบาดแผล พบเฉพาะในต้นไม้ชนิด Aquilaria crassna Pierre ex H. Lec. และ A. malaccensis Lam. ในวงศ์ Thymelaeaceae กลิ่นหอม ใช้ทํายาได้.
กล,กล- กล, กล- [กน, กนละ-] น. การลวงหรือล่อลวงให้หลงหรือให้เข้าใจผิดเพื่อให้ฉงนหรือเสียเปรียบ เช่น เล่ห์กล, เล่ห์เหลี่ยม เช่น กลโกง; เรียกการเล่นที่ลวงตาให้เห็นเป็นจริงว่า เล่นกล; เครื่องกลไก, เครื่องจักร, เครื่องยนต์, เช่น ช่างกล.<2t>ว. เช่น, อย่าง, เหมือน, เช่น เหตุผลกลใด; เคลือบแฝง เช่น ถ้าจําเลยให้การเป็นกลความ. (กฎหมาย).
กลไก กลไก [กน-] น. ตัวจักรต่าง ๆ, โดยปริยายหมายความว่าบุคคลผู้เป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในระดับต่าง ๆ, ระบบหรือองค์การที่บุคคลผู้เป็นเจ้าหน้าที่ในระดับต่าง ๆ ปฏิบัติงานร่วมกันดุจเครื่องจักร, ระบบที่จะให้งานสําเร็จตามประสงค์, เช่น กลไกการปกครอง; (วิทยา) กระบวนการต่อเนื่องที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยา เช่น กลไกการย่อยอาหาร กลไกของการสร้างอาหารของพืชโดยการสังเคราะห์ด้วยแสง. (อ. mechanism).
กลฉ้อฉล กลฉ้อฉล [กน-] (กฎ) น. การใช้อุบายหลอกลวงด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือการจงใจปิดบังซ่อนเร้นข้อความจริงเพื่อให้ผู้อื่นหลงผิดแสดงเจตนาทำนิติกรรม การแสดงเจตนาเพราะถูกกลฉ้อฉลเป็นโมฆียะ. (อ. fraud).
กลด,กลด ๑ กลด ๑ [กฺลด] น. ร่มขนาดใหญ่ชนิดหนึ่ง ขอบร่มมีระบาย คันยาวกว่าก้านร่ม ใช้ถือกั้นเจ้านาย หรือพระภิกษุที่ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์, ราชาศัพท์ว่า พระกลด, เรียกร่มขนาดใหญ่มีด้าม สำหรับพระธุดงค์โดยเฉพาะ, เรียกดวงอาทิตย์หรือดวงจันทร์ที่มีแสงสีรุ้งเป็นวงกลมล้อมรอบว่า ดวงอาทิตย์ทรงกลด ดวงจันทร์ทรงกลด. (ข. กฺลส).
กลด,กลด ๒ กลด ๒ [กฺลด] (โบ) น. ภาชนะใส่นํ้าเทพมนตร์ของพราหมณ์. (ดู กลศ).
กลดกำมะลอ กลดกำมะลอ น. ร่มชนิดหนึ่ง พื้นขาวโรยทองเป็นเครื่องยศ.
กลดพระสุเมรุ กลดพระสุเมรุ น. ท่ารําละครท่าหนึ่ง อยู่ในอันดับว่า สารถีชักรถ กลดพระสุเมรุ ตระเวนเวหา. (ฟ้อน).
กล่น กล่น [กฺล่น] ก. เกลื่อนกลาด, ดื่นดาษ, เรี่ยรายอยู่.
กลบ กลบ [กฺลบ] ก. กิริยาที่เอาสิ่งซึ่งเป็นผงโรยทับข้างบนเพื่อปิดบัง, เอาดินหรือสิ่งอื่น ๆ ใส่ลงไปในที่เป็นหลุมเป็นบ่อ หรือเป็นแอ่งเพื่อให้เต็มหรือไม่ให้เห็นร่องรอย, โดยปริยายหมายความว่า ปิดบัง เช่น กลบความ, ใช้เนื้อ, ทดแทน, เช่น ให้เอาสินไหมมากลบทรัพย์นั้นเสีย. (กฎ. ราชบุรี), กลบลบ ก็ว่า เช่น หักกลบลบหนี้.
กลบเกลี่ย กลบเกลี่ย ก. ปิดให้เรียบสนิท.
กลบเกลื่อน กลบเกลื่อน ก. ทําให้เรื่องเลือนหายไป.
กลบท กลบท [กนละบด] น. คําประพันธ์ที่บัญญัติให้ใช้คําหรือสัมผัสเป็นชั้นเชิงยิ่งกว่าธรรมดา เช่น อมรแมนแม่นแม้นเจ้างามโฉม. (กลบทตรีประดับ).
กลบบัตรสุมเพลิง กลบบัตรสุมเพลิง น. ชื่อพิธีพราหมณ์อย่างหนึ่ง ทําแก้เสนียด.
กลพยาน กลพยาน [กน-] น. พยานที่ถูกวานให้ไปถามเป็นคํานับ. (สามดวง).
กลไฟ กลไฟ [กน-] น. เรียกเรือโดยสารหรือบรรทุกสินค้าที่ใช้ฟืนเป็นต้นเป็นเชื้อเพลิง มีขนาดใหญ่กว่าเรือไฟ นิยมใช้แล่นในท้องทะเลหรือมหาสมุทร ว่า เรือกลไฟ.
กลม,กลม ๑ กลม ๑ [กฺลม] น. ชื่อเพลงไทยของเก่าที่ใช้เครื่องปี่พาทย์ทําตอนตัวละครรำออกจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งโดยตัวคนเดียว จะเหาะหรือเดินก็ได้, และใช้เป็นเพลงประจํากัณฑ์สักบรรพในเวลามีเทศน์มหาชาติ.
กลม,กลม ๒ กลม ๒ [กฺลม] ดู เหมือดโลด (๑).
กลม,กลม ๓ กลม ๓ [กฺลม] ลักษณนามเรียกจํานวนเหล้าบางประเภทที่บรรจุในภาชนะกลม ส่วนมากเป็นขวด เช่น เหล้ากลมหนึ่ง เหล้า ๒ กลม.<2t>ว. มีสัณฐานโดยรอบไม่เป็นเหลี่ยม, ถ้าเหมือนลูกหิน เรียกว่า ลูกกลม, ถ้าเหมือนเส้นที่ลากเป็นวงมาจดกัน โดยมีเส้นรัศมียาวเท่ากัน เรียกว่า วงกลม, ถ้าเหมือนสตางค์ เรียกว่า กลมแบน, ถ้าเหมือนกระบอกไม้ไผ่ เรียกว่า กลมยาว, ถ้าเหมือนลูกไข่ แต่หัวและท้ายเท่ากัน เรียกว่า กลมรี; (ปาก) อ้วน เช่น เขามีสุขภาพดีขึ้นจนดูกลมไปทั้งตัว; (กลอน) โดยปริยายว่า เรียบร้อยดี เช่น ใจพระลออยู่บมิกลม. (ลอ); กลิ้งกลอกเต็มตัว เช่น คนกลมดั่งน้ำกลอกใบบัว.
กลม,กลม ๔ กลม ๔ [กฺลม] ว. (โบ) ปวง, หมด, สิ้น, เช่น ทั้งกลม คือ ทั้งปวง, จึ่งได้เมืองแก่กูทงงกลํ. (จารึกสยาม); เรียกหญิงที่ตายพร้อมกับลูกที่อยู่ในท้องว่า หญิงตายทั้งกลม หมายถึง ตายทั้งหมด คือ ตายทั้งแม่ทั้งลูก.
กลมกล่อม กลมกล่อม ว. ที่เข้ากันพอดี (ใช้แก่รสหรือเสียง).
กลมกลืน กลมกลืน ก. เข้ากันได้ดี, ไม่ขัดแย้งกัน.
กลมกลืนกลอน กลมกลืนกลอน น. ชื่อเพลงยาวกลอักษร ตัวอย่างว่า แสนเสียดายหายห่างโอ้ แสนเสียดายกรายนาฏช่าง แสนเสียดายงอนงามเจ้า ให้อ่านว่า แสนเสียดายหายห่างโอ้ห่างหาย แสนเสียดายกรายนาฏช่างนาฏกราย แสนเสียดายงอนงามเจ้างามงอน. (จารึกวัดโพธิ์).
กลมเกลียว กลมเกลียว ว. ที่เข้ากันได้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน.
กลมดิก กลมดิก ว. กลมทีเดียว, กลิ้งไปได้รอบตัว, โดยปริยายหมายความว่า กลิ้งกลอก.
กลมเป็นลูกมะนาว,กลิ้งเป็นลูกมะนาว กลมเป็นลูกมะนาว, กลิ้งเป็นลูกมะนาว (สํา) ว. หลบหลีกไปได้ คล่องจนจับไม่ติด (มักใช้ในทางไม่ดี).
กลมภะ กลมภะ [กะลมพะ] (กลอน) ว. หลายอย่างรวมกัน เช่น จําหลักจําหลอกกลม- ภบังอวจจําหลักกราย. (สมุทรโฆษ). (ทมิฬ กลมฺป).
กลเม็ด,กลเม็ด ๑ กลเม็ด ๑ [กนละเม็ด] น. วิธีที่แยบคายหรือพลิกแพลง, กัลเม็ด ก็ว่า.
กลเม็ด,กลเม็ด ๒ กลเม็ด ๒ [กนละ-] น. ชื่อเทียนชนิดหนึ่ง ซึ่งตามประเพณีเดิมจุดตั้งแต่วันเกิดมาและเลี้ยงไฟต่อกันไว้จนถึงวันตาย เมื่อถึงวันเผาก็ใช้ไฟนั้นเผา เรียกว่า เทียนกลเม็ด, เทียนจุดคู่ชีพเวลาจะสิ้นใจ.
กลยุทธ์ กลยุทธ์ [กนละ-] น. การรบที่มีเล่ห์เหลี่ยม, วิธีการที่ต้องใช้กลอุบายต่าง ๆ, เล่ห์เหลี่ยมในการต่อสู้.
กลละ กลละ [กะละละ] (แบบ) น. รูปเริ่มแรกที่ปฏิสนธิในครรภ์มารดา เช่น ผู้หญิงอันมีครรภ์ด้วยชลามพุชโยนิ เมื่อแรกก่อเป็นนั้นน้อยนักหนา เรียกชื่อว่า กลละหัวปีมีเท่านี้. (ไตรภูมิ). (ป., ส.).
กลวง,กลวง ๑ กลวง ๑ [กฺลวง] ว. เป็นรูเป็นโพรงข้างใน, ไม่ตัน.
กลวง,กลวง ๒ กลวง ๒ [กฺลวง] น. บริเวณ, ที่ว่าง, ท่ามกลาง, เช่น ในกลวงป่าตาลนี๋มีศาลาสองอัน. (จารึกสยาม).
กลวง,กลวง ๓ กลวง ๓ [กฺลวง] (ปาก) น. โรงถลุงดีบุก, คลวง ก็ว่า.
กลวม กลวม [กฺลวม] (โบ) ก. กรวม, สวม; ทับ เช่น บงงเมฆกลวมกลุ้มหล้าหล่อแสง. (ยวนพ่าย).
กล้วย,กล้วย ๑ กล้วย ๑ [กฺล้วย] น. ชื่อไม้ล้มลุกหลายชนิดในสกุล Musa วงศ์ Musaceae จัดแยกออกได้เป็น ๒ จําพวก จําพวกที่แตกหน่อเป็นกอ ผลสุกเนื้อนุ่ม กินได้ มีหลายชนิดและหลายพันธุ์ เช่น กล้วยนํ้าว้า กล้วยไข่ กล้วยหอม บางชนิดผลสุกเนื้อแข็ง มักเผา ต้ม หรือเชื่อมกิน เช่น กล้วยกล้าย กล้วยหักมุก, จําพวกที่ไม่แตกหน่อเป็นกอ ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด ใบประดับไม่ร่วง เช่น กล้วยนวล กล้วยผา.
กล้วย,กล้วย ๒ กล้วย ๒ [กฺล้วย] น. (๑) ชื่อปลาทะเลขนาดเล็กชนิด Stolephorus indicus ในวงศ์ Engraulidae รูปร่างกลมยาว ที่สันท้องระหว่างครีบท้องกับครีบก้นมีหนามแหลม ๒-๕ อัน มีสีเด่นเพียงแถบสีเงินพาดตลอดข้างลําตัว มักอยู่รวมกันเป็นฝูงใกล้ฝั่ง อาจปนกับปลาชนิดอื่นในสกุลเดียวกันซึ่งมีขนาดเล็กกว่า และอาจมีชื่อเรียกปะปนกัน เช่น กะตัก หัวอ่อน มะลิ ไส้ตัน หัวไม้ขีด เส้นขนมจีน เก๋ย.<2t>(๒) ดู ซ่อนทราย (๑).
กล้วย ๆ กล้วย ๆ (ปาก) ว. ง่ายมาก เช่น เรื่องกล้วย ๆ ของกล้วย ๆ.
กล้วยกล้าย กล้วยกล้าย ดู กล้าย.
กล้วยแขก กล้วยแขก น. กล้วยนํ้าว้าชุบแป้งทอด.
กล้วยงวงช้าง กล้วยงวงช้าง ดู ร้อยหวี.
กล้วยใต้ กล้วยใต้ (ถิ่น-เชียงใหม่) น. กล้วยน้ำว้า. (ดู น้ำว้า).
กล้วยน้อย กล้วยน้อย น. ชื่อไม้ต้นขนาดกลางชนิด Xylopia vielana Pierre ในวงศ์ Annonaceae กิ่งสีนํ้าตาลดํา ดอกหอม รากสีดํา กลิ่นเหมือนนํ้ามันดิน เชื่อกันว่ารากใช้แก้พิษงู.
กล้วยไม้ กล้วยไม้ น. (๑) ชื่อพรรณไม้หลายชนิดหลายสกุลในวงศ์ Orchidaceae ลักษณะต้น ใบ และช่อดอกต่าง ๆ กัน บางชนิดเกาะตามต้นไม้และหิน บางชนิดขึ้นอยู่บนพื้นดิน บางชนิดมีดอกงาม บางชนิดมีกลิ่นหอม, พายัพเรียก เอื้อง.<2t>(๒) (ถิ่น-ปักษ์ใต้) ต้นจุกโรหินี. (ดู จุกโรหินี).
กล้วยสั้น กล้วยสั้น ดู กุ ๒.
กล้วยหมูสัง กล้วยหมูสัง น. ชื่อไม้เถาเนื้อแข็งชนิด Uvaria grandiflora Roxb. ในวงศ์ Annonaceae มีแถบปักษ์ใต้ ดอกสีแดงเลือดนก, ย่านนมควาย ก็เรียก.
กลวิธี กลวิธี [กนละ-] น. วิธีพลิกแพลง โดยอาศัยความรู้ความชํานาญ.
กลศ กลศ [กฺลด] น. ภาชนะใส่นํ้าเทพมนตร์ของพราหมณ์ มีลักษณะเหมือนคนโท มีฝาปิด มีพวยอย่างกานํ้า เรียกว่า หม้อกลศ, (โบ) เขียนเป็น กลด ก็มี. (ส.; ป. กลส).
กลศาสตร์ กลศาสตร์ [กนละ-] น. วิชาฟิสิกส์สาขาหนึ่ง ที่ศึกษาเกี่ยวกับการกระทําของแรงต่อเทหวัตถุ และผลที่เกิดขึ้นแก่เทหวัตถุนั้นภายหลังที่ถูกแรงมากระทํา. (อ. mechanics).
กลหาย กลหาย [กะละ-] (โบ; กลอน) ก. กระหาย เช่น อันว่าทวยท่ววทงงหลายหื่นกลหายสาหัส. (ม. คําหลวง ทานกัณฑ์).
กลเหย กลเหย [กะละ-] (โบ) ก. ระเหย, ซ่านออก.
กล้อ,กล้อ ๑ กล้อ ๑ [กฺล้อ] น. เรือโกลน.<2t>ว. กลม.<2t>ก. ทําให้กลม; (ถิ่น-ปักษ์ใต้) โคลง เช่น เรือกล้อ ว่า เรือโคลง.
กล้อ,กล้อ ๒ กล้อ ๒ [กฺล้อ] (โบ) น. เครื่องสานยาชันชนิดหนึ่ง เช่น ก็ให้น้ำเต็มเต้า เข้าเต็มไหไปเต็มหม้อ ชื่อว่ากล้อก็บมิให้พร่องเลอย. (ม. คําหลวง ชูชก). (ดู กร้อ). (เทียบ ข. กฺรฬ ว่า ไห).
กลอก กลอก [กฺลอก] ก. เคลื่อนหรือขยับเขยื้อนกลับไปกลับมาภายในเขตของสิ่งนั้น ๆ เช่น กลอกตา กลอกหน้า, ทําให้มีอาการเช่นนั้น เช่น กลอกนํ้าร้อนในถ้วยเพื่อให้เย็น.
กลอกกลับ กลอกกลับ ว. ไม่อยู่กับร่องกับรอย, พลิกแพลง, (ใช้แก่กริยาพูด), กลับกลอก ก็ว่า.
กลอกแกลก กลอกแกลก (ถิ่น-ปักษ์ใต้) ว. เหลวไหล, ไม่แน่นอน.
กลอง,กลอง ๑ กลอง ๑ [กฺลอง] น. เครื่องตีทําด้วยไม้เป็นต้น มีลักษณะกลม กลวง ขึงด้วยหนัง มีหลายชนิด, ถ้าขึ้นหนังหน้าเดียว มีรูปยาวมาก ใช้สะพายในเวลาตี เรียกว่า กลองยาว หรือ เถิดเทิง, ถ้าขึ้นหนังหน้าเดียว มีรูปกลมแบนและตื้น เรียกว่า กลองรํามะนา, ถ้าขึ้นหนังทั้ง ๒ หน้า ร้อยโยงเข้าด้วยกันด้วยหนังเรียด เรียกว่า กลองมลายู, ถ้าร้อยโยงด้วยหวาย เรียกว่า กลองแขก กลองชนะ, ถ้าขึ้นหนังตรึงแน่นทั้ง ๒ หน้า เรียกว่า กลองทัด.
กลอง,กลอง ๒ กลอง ๒ [กฺลอง] น. ชื่อเพลงชนิดหนึ่งเป็นเพลงแขก ใช้ปี่ชวาและกลองแขก ทํานองเล่นกระบี่กระบอง ที่เรียกว่า สะระหม่า, ทําตอนที่เล่นกีฬาท่าต่าง ๆ มีรําดาบ รําง้าว เป็นต้น เรียกว่า เพลงกลองแขก ก็ได้, อีกอย่างหนึ่งเมื่อรําเป็นท่ามลายู ซึ่งเรียกว่า สะระหม่าแขก ใช้เพลง เรียกว่า กลองมลายู เครื่องและทํานองอย่างเดียวกับเพลงกลองแขก แต่ในตอนนี้รํากริช.
กล่อง กล่อง [กฺล่อง] น. ภาชนะใส่สิ่งของรูปกลมหรือเหลี่ยมมีฝาปิด, สิ่งที่ทําเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดเล็ก มีลิ้นชักเข้าออกได้ สําหรับบรรจุไม้ขีดไฟ เรียกว่า กล่องไม้ขีดไฟ, กลักไม้ขีดไฟ ก็เรียก.
กล้อง,กล้อง ๑ กล้อง ๑ [กฺล้อง] น. วัตถุลักษณะยาวกลวงตลอด, เรียกของใช้บางอย่างที่มีลักษณะเช่นนั้น เช่น กล้องเป่าแล่น กล้องส่อง; เครื่องที่มีรูปร่างต่าง ๆ ประกอบด้วยเลนส์สําหรับถ่ายภาพหรือขยายภาพ เช่น กล้องถ่ายรูป กล้องจุลทรรศน์; (ถิ่น-ปักษ์ใต้) หลอด เช่น กล้องเกียง ว่า หลอดตะเกียง.
กล้อง,กล้อง ๒ กล้อง ๒ [กฺล้อง] ว. เรียกข้าวที่สีเอาเปลือกออกโดยยังมีจมูกข้าวและเยื่อหุ้มเมล็ดข้าวอยู่ว่า ข้าวกล้อง.<2t>ก. ตำข้าวเปลือกให้เปลือกหลุด; เกลา, โกลน; โดยปริยายใช้ว่า ทุบ, ถอง.
กล้องแกล้ง กล้องแกล้ง [กฺล้องแกฺล้ง] ว. มีรูปร่างเอวเล็กเอวบาง, อ้อนแอ้น; มีท่าทางเป็นเชิงเจ้าชู้.
กล้องจุลทรรศน์ กล้องจุลทรรศน์ น. กล้องขยายดูของเล็กให้เห็นเป็นของใหญ่. (อ. microscope).
กล้องตาเรือ กล้องตาเรือ น. กล้องปริทรรศน์.
กล้องตุด กล้องตุด (ถิ่น-ปักษ์ใต้) น. กล้องไม้ซาง.
กล้องโทรทรรศน์ กล้องโทรทรรศน์ น. กล้องสำหรับดูของไกลให้เห็นใกล้, กล้องส่องทางไกล ก็ว่า. (อ. telescope).
กล้องปริทรรศน์ กล้องปริทรรศน์ [ปะริทัด] น. กล้องชนิดหนึ่งที่ใช้มองดูสิ่งต่าง ๆ ซึ่งมีที่กำบังขวางกั้น หรือใช้มองดูสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่เหนือระดับสายตาผู้มอง เช่น กล้องเรือดำน้ำ, กล้องตาเรือ ก็เรียก. (อ. periscope).
กลองเพล กลองเพล [-เพน] น. กลองทัดขนาดใหญ่ใช้ตีเป็นสัญญาณบอกเวลา ๑๑ นาฬิกา เพื่อภิกษุสามเณรจะได้ฉันเพล.
กลองโยน กลองโยน ดู ทะแยกลองโยน.
กล้องระดับ กล้องระดับ น. กล้องสํารวจชนิดหนึ่ง เป็นเครื่องวัดระดับชนิดฟองนํ้าที่ใช้ประกอบกับกล้องส่องเพื่อใช้หาระดับสูงตํ่าของพื้นที่.
กล้องวัดมุม กล้องวัดมุม น. กล้องสํารวจชนิดหนึ่ง สําหรับวัดมุมแนวนอนและแนวยืนได้ในขณะเดียวกัน ไม่ว่าที่หมายเล็งจะอยู่บนพื้นดินหรือในท้องฟ้าก็ตาม ประกอบด้วยจานองศาแนวนอนกับแนวยืนเพื่อใช้วัดมุม. (อ. theodolite).
กล้องสนาม กล้องสนาม น. กล้องส่องทางไกล มี ๒ ตา.
กล้องสลัด กล้องสลัด น. กล้องที่ใช้ใส่อาวุธซัดไป. (พิชัยสงคราม); กล้องส่องทางไกล มีตาเดียว.
กล้องส่องทางไกล กล้องส่องทางไกล น. กล้องโทรทรรศน์, กล้องสําหรับส่องดูของไกลให้เห็นใกล้.
กล้องสำรวจ กล้องสำรวจ น. กล้องที่ใช้ในงานรังวัดและสํารวจทําแผนที่ มีหลายชนิด เช่น กล้องระดับ กล้องวัดมุม กล้องถ่ายรูปทางอากาศ.
กล่องเสียง กล่องเสียง น. อวัยวะสำคัญในการเปล่งเสียงพูด ตั้งอยู่บริเวณส่วนบนของหลอดลม.
กลอน,กลอน ๑ กลอน ๑ [กฺลอน] น. ไม้ขัดประตูหน้าต่าง, ดาล, เครื่องสลักประตูหน้าต่าง; ไม้ที่พาดบนแปสําหรับวางเครื่องมุงหลังคาจากเป็นต้น.
กลอน,กลอน ๒ กลอน ๒ [กฺลอน] น. คําประพันธ์ซึ่งแต่เดิมเรียกคําเรียงที่มีสัมผัสทั่วไป จะเป็นโคลง ฉันท์ กาพย์ หรือร่าย ก็ตาม เช่นในคำว่า ชุมนุมตํารากลอน, ครั้นเรียกเฉพาะคําประพันธ์เฉพาะอย่างเป็นโคลง ฉันท์ กาพย์ ร่าย แล้ว คําประพันธ์นอกนี้อีกอย่างหนึ่งจึงเรียกว่า กลอน เป็นลํานําสําหรับขับร้องบ้าง คือ บทละคร สักวา เสภา บทดอกสร้อย, เป็นเพลงสําหรับอ่านบ้าง คือ กลอนเพลงยาว หรือ กลอนตลาด.
กลอน,กลอน ๓ กลอน ๓ [กฺลอน] น. ลูกตุ้ม, ขลุบ, เช่น แกว่งกลอนยรรยงยุทธ์. (อนิรุทธ์).
กล่อน กล่อน [กฺล่อน] น. ชื่อโรคชนิดหนึ่ง ตามตําราแพทย์แผนโบราณว่าเกิดจากของเหลวเข้าไปขังอยู่ในถุงอัณฑะ, ถ้าของเหลวนั้นเป็นนํ้า เรียกว่า กล่อนนํ้า, ถ้าเป็นเลือด เรียกว่า กล่อนเลือด, ถ้าเป็นหนอง เรียกว่า กล่อนหนอง.
กล้อน กล้อน [กฺล้อน] ก. ตัดหรือทําให้เกรียน (ใช้แก่ผมหรือขนสัตว์).<2t>ว. เลี่ยน, โล้น.
กลอนด้น กลอนด้น น. คํากลอนที่ว่าดะไปไม่คํานึงถึงหลักสัมผัส.
กลอนตลาด กลอนตลาด น. คํากลอนสามัญ โดยมากเป็นกลอน ๘ เช่น กลอนนิราศ นิทานคำกลอน.
กลอนบทละคร กลอนบทละคร น. กลอนเล่าเรื่อง ใช้เป็นบทแสดง วรรคแรกจะต้องขึ้นต้นด้วย เมื่อนั้น บัดนั้น หรือ มาจะกล่าวบทไป.
กลอนเพลงยาว กลอนเพลงยาว น. กลอนที่เขียนขึ้นเพื่อแสดงความรัก หรือเล่าสู่กันฟัง เป็นต้น ขึ้นต้นด้วยวรรครับหรือวรรคที่ ๒ ของบท.
กลอนลิลิต กลอนลิลิต น. คํากลอนที่แต่งอย่างร่าย. (ชุมนุมตํารากลอน).
กลอนสด กลอนสด น. กลอนที่ผูกและกล่าวขึ้นในปัจจุบันโดยไม่ได้คิดมาก่อน, โดยปริยายหมายความว่า ข้อความที่กล่าวขึ้นในปัจจุบันโดยมิได้เตรียมตัวมาก่อน เช่น พูดกลอนสด.
กลอนสวด กลอนสวด น. กลอนที่อ่านเป็นทํานองสวด แต่งเป็นกาพย์ยานี ๑๑ หรือ กาพย์ฉบัง ๑๖ และกาพย์สุรางคนางค์ ๒๘ ข้อความที่แต่งมักเป็นเรื่องในศาสนา.
กลอนสุภาพ กลอนสุภาพ น. กลอนเพลงยาว บางครั้งเรียกว่า กลอนตลาด.
กล่อม,กล่อม ๑ กล่อม ๑ [กฺล่อม] น. ชื่อมาตราเงินโบราณ ๒ กล่อม เป็น ๑ กลํ่า.
กล่อม,กล่อม ๒ กล่อม ๒ [กฺล่อม] ก. ถากแต่งให้กลมงาม เช่น กล่อมเสา กล่อมไม้; โดยปริยายหมายความว่า เหมาะเจาะ เช่น นํ้าหอมกล่อมกลิ่นดอกไม้กลั่น. (ขุนช้างขุนแผน).
กล่อม,กล่อม ๓ กล่อม ๓ [กฺล่อม] น. ชื่อเพลงเครื่องปี่พาทย์ ทําตอนพระเข้าหานาง ซึ่งเรียกว่า โลม หรือตอนขับบําเรอ เรียกว่า กล่อมมโหรี อันใช้เป็นเครื่องสายประสมในภายหลัง และมีชื่อเป็นชนิดต่าง ๆ คือ กล่อมช้าง กล่อมพระยา กล่อมนารี และกล่อมในพิธีพราหมณ์ เรียกว่า ช้าหงส์ หรือ ช้าเจ้าหงส์, ชาวบ้านมักเรียกว่า กล่อมหงส์.<2t>ก. ร้องเป็นทํานองเพื่อเล้าโลมใจหรือให้เพลิน, โดยปริยายหมายความว่า พูดให้น้อมใจตาม หรือ ทําให้เพลิดเพลิน เช่น กล่อมใจ กล่อมอารมณ์.
กล่อมเกลา กล่อมเกลา [-เกฺลา] ก. ทําให้เรียบร้อย, ทําให้ดี, โดยปริยายหมายความว่า อบรมให้มีนิสัยไปในทางดี.
กล่อมเกลี้ยง กล่อมเกลี้ยง ก. อบรมเลี้ยงดูให้มีนิสัยดี.
กล้อมแกล้ม กล้อมแกล้ม [กฺล้อมแกฺล้ม] ก. เคี้ยวไม่ทันแหลกแล้วรีบกลืน, เคี้ยวไม่ถนัด; พูดอ้อมแอ้มพอให้ผ่านไป, พูดไม่สู้ชัดความเพื่อให้เสร็จไป; กะล่อมกะแล่ม ก็ว่า.
กล่อมท้อง กล่อมท้อง ก. ใช้ฝ่ามือคลึงบริเวณท้องเบา ๆ เพื่อให้คลอดง่าย.
กล่อมมดลูก กล่อมมดลูก ก. เร่งให้มดลูกเข้าอู่เร็วขึ้นโดยการประคบบริเวณท้อง.
กล่อมหอ กล่อมหอ ก. ขับร้องหรือเล่นดนตรีเพื่อให้ครึกครื้นในพิธีแต่งงานบ่าวสาวก่อนถึงฤกษ์ส่งตัวเจ้าสาว.
กลอย,กลอย ๑ กลอย ๑ [กฺลอย] น. ชื่อไม้เถามีหนามชนิด Dioscorea hispida Dennst. ในวงศ์ Dioscoreaceae มีหัวกลมใหญ่อยู่ใต้ดิน ใบเป็นใบประกอบ มีใบย่อย ๓ ใบ หัวดิบมีพิษเบื่อเมา แต่เมื่อฝานแช่นํ้าไหลและนํามานึ่งหรือต้มให้สุกแล้วกินได้.
กลอย,กลอย ๒ กลอย ๒ [กฺลอย] ก. คล้อย, ร่วม, เช่น กลอยใจ กลอยสวาท.
กลอักษร กลอักษร [กน-, กนละ-] น. ชื่อเพลงยาวกลบทที่ซ่อนเงื่อนไว้ให้อ่านฉงน ตัวอย่างว่า โอ้อกเอ๋ยแสนวิตก กระไรเลยระกําใจ จะจากไกลไม่เคย ให้อ่านว่า โอ้อกเอ๋ยแสนวิตกโอ้อกเอ๋ย กระไรเลยระกำใจกระไรเลย จะจากไกลไม่เคยจะจากไกล. (กลอักษรงูกลืนหาง). (จารึกวัดโพธิ์).
กลอุปกรณ์ กลอุปกรณ์ [กนอุปะกอน, กนอุบปะกอน] น. อุปกรณ์เชิงกลที่ออกแบบหรือผลิตขึ้นเพื่อใช้ในกิจการอย่างใดอย่างหนึ่ง.
กลัก กลัก [กฺลัก] น. สิ่งที่ทําเป็นรูปคล้ายกระบอกสําหรับบรรจุของเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือของขนาดเล็ก มีฝาสวมปาก เช่น กลักพริก กลักเกลือ, ซองยาสูบทําด้วยเมล็ดตาล มีฝาสวมปาก, สิ่งที่ทําเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดเล็ก มีลิ้นชักเข้าออกได้ สําหรับบรรจุไม้ขีดไฟ เรียกว่า กลักไม้ขีดไฟ, กล่องไม้ขีดไฟ ก็เรียก.
กลัง กลัง [กฺลัง] (โบ) น. คลัง คือ ไม้กระบอกที่ร้อยโซ่หรือเชือกสําหรับล่ามสัตว์. (สุธน).
กลัด กลัด [กฺลัด] น. สวะที่ติดขวางคลองแน่นอยู่.<2t>ก. เสียบขัดไว้ให้อยู่ด้วยของแหลม เช่น กลัดไม้กลัด กลัดเข็มกลัด; โดยปริยายเรียกอาการที่สิ่งบางอย่างคั่งอยู่ข้างใน เช่น กลัดหนอง.
กลัดกลุ้ม กลัดกลุ้ม ก. ขัดข้องกลุ้มอยู่ในอก.
กลัดมัน กลัดมัน ว. มีความรู้สึกในทางกามารมณ์อย่างรุนแรง.
กลั่น กลั่น [กฺลั่น] ก. คัดเอาแต่ส่วนหรือสิ่งที่สําคัญหรือที่เป็นเนื้อแท้ด้วยวิธีต้มให้ออกเป็นไอ แล้วใช้ความเย็นบังคับให้เป็นของเหลว เช่น กลั่นนํ้า, โดยปริยายหมายความว่า คัดเอา เลือกเอา.
กลั้น กลั้น [กฺลั้น] ก. บังคับความรู้สึกหรือสิ่งที่อยู่ภายในร่างกายไม่ให้แสดงออกหรือหลุดออกมา.
กลั่นกรอง กลั่นกรอง ก. คัดเลือกเอาแต่สิ่งที่เห็นว่าดีที่สุด, พิจารณาอย่างถี่ถ้วนรอบคอบ.
กลั่นแกล้ง กลั่นแกล้ง ก. หาความไม่ดีใส่ให้, หาอุบายให้ร้ายโดยวิธีต่าง ๆ, แกล้งใส่ความ.
กลั้นใจ กลั้นใจ ก. อั้นลมหายใจ.
กลันทะ,กลันทก์ กลันทะ, กลันทก์ [กะลันทะ] (แบบ) น. กระแต, กระรอก. (ป. กลนฺท, กลนฺทก; ส. กลนฺทก, กลนฺตก).
กลับ กลับ [กฺลับ] ก. ตรงกันข้ามกับภาวะเดิมหรือทิศทางเดิม เช่น กลับหน้าเป็นหลัง กลับบ้าน, คืนมาสู่ภาวะเดิม เช่น กลับมีอีก, พลิกหน้าเป็นหลัง เช่น กลับปลา, เปลี่ยน เช่น กลับชาติ กลับใจ, ทําตรงกันข้ามกับที่คาดหมายหรือที่ควรจะเป็น เช่น เราพูดด้วยดี ๆ เขากลับด่าเอา.
กลับกลอก กลับกลอก ก. ไม่อยู่กับร่องกับรอย, พลิกแพลง, (ใช้แก่กริยาพูด) เช่น พูดจากลับกลอก, กลอกกลับ ก็ว่า.
กลับกลาย กลับกลาย ก. เปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่นไป.
กลับเกลือก กลับเกลือก ว. กลอกขึ้นกลอกลง (ใช้แก่ตา), กระลับกระเลือก ก็ว่า.
กลับคำ กลับคำ ก. พูดแล้วไม่เป็นตามพูด, ไม่ทำตามที่พูดไว้, พูดแล้วเปลี่ยนคำพูด.
กลับคืน กลับคืน ก. กลับที่เดิม, สู่สภาพเดิม.
กลับตาลปัตร กลับตาลปัตร [กฺลับตาละปัด] ว. ผิดความคาดหมายอย่างตรงกันข้ามแบบพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ.
กลับเนื้อกลับตัว กลับเนื้อกลับตัว (สํา) ก. เลิกทําความชั่วหันมาทําความดี.
กลับไปกลับมา กลับไปกลับมา ก. กลับกลอก, พลิกแพลง, ไม่แน่นอน.
กลับหน้ามือเป็นหลังมือ กลับหน้ามือเป็นหลังมือ (สํา) ก. เปลี่ยนแปลงหรือทําให้ผิดไปจากเดิมอย่างตรงกันข้าม, พลิกหน้ามือเป็นหลังมือ ก็ว่า.
กลัมพก,กลัมพัก กลัมพก, กลัมพัก [กะลํา-] (แบบ) น. ผักบุ้ง เช่น ประเทศที่ตํ่านํ้าลึกล้วนเหล่ากลัมพัก พ่านทอดยอดยาวสล้างสลอน. (ม. ร. ๔ มหาพน). (ป., ส. กลมฺพก).
กลัมพร กลัมพร [กะลําพอน] (แบบ) น. โทษใหญ่, ความฉิบหาย, เช่น มาทํากลัมพรภัย. (เสือโค), อันจ่อมกลัมพรภัย. (สมุทรโฆษ), ในบทกลอนโดยมากใช้แผลงเป็น กระลําพร หรือ กระลํา ก็มี.
กลัว กลัว [กฺลัว] ก. รู้สึกไม่อยากประสบสิ่งที่ไม่ดีแก่ตัว เช่น กลัวบาป กลัวถูกติเตียน, รู้สึกหวาดเพราะคาดว่าจะประสบภัย เช่น กลัวเสือ กลัวไฟไหม้.
กลั้ว กลั้ว [กฺลั้ว] ก. เอานํ้าหรือของเหลวเข้าไปสัมผัสพอให้ชุ่ม.
กลั้วเกลี้ย กลั้วเกลี้ย ก. คลุกคลี.<2t>ว. มีเล็กน้อยไม่ถึงกับมากทีเดียว, พอมีอยู่บ้าง, จวนหมด, หวุดหวิด, เช่น นํ้ากลั้วเกลี้ยคลอง แกงมีนํ้ากลั้วเกลี้ย; พอเป็นไปได้, พอประทังไปได้.
กลั้วคอ กลั้วคอ ก. ดื่มนํ้าแต่น้อย ๆ พอให้ชุ่มคอ.
กลัวน้ำ กลัวน้ำ น. โรคพิษสุนัขบ้า เรียกว่า โรคกลัวนํ้า.
กลัวลาน กลัวลาน ก. กลัวจนตั้งสติไม่อยู่.
กลา กลา [กะลา] (แบบ) น. เสี้ยวที่ ๑๖ แห่งดวงเดือน, ดวงเดือน; ระเบียบพิธีของการบูชา เช่น ไปคํานับศาลสุรากลากิจ. (อภัย), ใช้ว่า กระลา ก็มี. (ป., ส.).
กล่า กล่า [กฺล่า] (โบ; กลอน) ก. ควัก, แขวะ, แหวะ, เช่น อีกกรบอกหววมึงกูจะผ่า กูจะกล่าเอาขวนนหววมึงออกแล. (ม. คําหลวง ชูชก).
กล้า,กล้า ๑ กล้า ๑ [กฺล้า] น. ต้นข้าวที่เพาะไว้สําหรับย้ายไปปลูกที่อื่น, โดยอนุโลมเรียกพืชที่เพาะไว้สําหรับย้ายไปปลูกในที่อื่นว่า กล้า เช่น กล้าพริก กล้ามะเขือ.
กล้า,กล้า ๒ กล้า ๒ [กฺล้า] ก. ไม่กลัว, ไม่ครั่นคร้าม.<2t>ว. แข็ง เช่น เหล็กกล้า, แรง เช่น เวทนากล้า.
กลาก กลาก [กฺลาก] น. ชื่อโรคผิวหนังอย่างหนึ่ง มีหลายชนิด เกิดจากเชื้อราขึ้นเป็นวง มีอาการคัน, ขี้กลาก ก็ว่า, (ราชา) โรคดวงเดือน.
กลากลาด กลากลาด [กฺลากฺลาด] (กลอน) ว. มากหลาย, เกลื่อนกล่น, เช่น มากลากลาดกันแดน. (ลอ).
กลาง กลาง [กฺลาง] น. ส่วนที่ไม่ค่อนไปข้างใดข้างหนึ่ง, โดยปริยายหมายความว่า ในที่หรือเวลาระหว่าง เช่น กลางฝน; ที่รวม, ที่รวมกิจการงานที่มีสาขาย่อยออกไป, เช่น สํานักงานกลาง ไปรษณีย์กลาง.
กลางเก่ากลางใหม่ กลางเก่ากลางใหม่ ว. ไม่เก่าไม่ใหม่.
กลางคน กลางคน ว. มีอายุพ้นวัยหนุ่มสาว แต่ยังไม่แก่.
กลางคัน กลางคัน ว. ในระหว่างเหตุการณ์, ในระหว่างที่ยังไม่เสร็จ.
กลางค่ำ กลางค่ำ (โบ; กลอน) น. เวลากลางคืน, ใช้เข้าคู่กับคํา กลางคืน เป็น กลางคํ่ากลางคืน. (ดู คํ่า).
กลางคืน กลางคืน น. ระยะเวลาตั้งแต่ยํ่าคํ่าถึงยํ่ารุ่ง, (กฎ) เวลาระหว่างพระอาทิตย์ตกกับพระอาทิตย์ขึ้น.
กลางแจ้ง กลางแจ้ง น. นอกร่มไม้ชายคา.
กลางใจมือ กลางใจมือ น. อุ้งมือ
กลางช้าง กลางช้าง น. ตําแหน่งพนักงานประจํากลางหลังช้าง.
กลางดิน กลางดิน น. นอกที่มุงที่บัง เช่น นอนกลางดินกินกลางทราย.
กลางดึก กลางดึก น. เวลากลางคืนตอนดึก ประมาณตั้งแต่เที่ยงคืนไป.
กลางเดือน กลางเดือน น. วันเพ็ญ เช่น กลางเดือน ๖.
กลางทาสี กลางทาสี (กฎ; โบ) น. เรียกหญิงที่มีทุกข์ยาก ชายช่วยไถ่มาเลี้ยงเป็นเมีย ว่า เมียกลางทาสี. (สามดวง).
กลางนอก กลางนอก (กฎ; โบ) น. เรียกหญิงที่ชายสู่ขอมาเลี้ยงเป็นอนุภริยาว่า เมียกลางนอก. (สามดวง).
กลางบ้าน กลางบ้าน ว. ใช้เรียกยาเกร็ดที่ชาวบ้านเชื่อถือกันเองว่า ยากลางบ้าน.
กลางแปลง กลางแปลง ว. ที่แสดงหรือเล่นเป็นต้นในที่แจ้ง เช่น โขนกลางแปลง หนังกลางแปลง คล้องช้างกลางแปลง.
กลางเมือง กลางเมือง น. ประชาชน ในคําว่า ฉ้อกลางเมือง หมายถึง ฉ้อโกงประชาชน; การรบกันเองในเมือง เรียกว่า ศึกกลางเมือง; (กฎ; โบ) เรียกหญิงที่บิดามารดายินยอมยกให้เป็นภริยาชายว่า เมียกลางเมือง. (สามดวง).
กลางวัน กลางวัน น. ระยะเวลาตั้งแต่ยํ่ารุ่งถึงยํ่าคํ่า, ระยะเวลาราว ๆ เที่ยง, เรียกอาหารระหว่างมื้อเช้ากับมื้อเย็นว่า อาหารกลางวัน.
กลางหาว กลางหาว น. กลางแจ้ง เช่น รองนํ้าฝนกลางหาว, บนฟ้า เช่น เครื่องบินรบกันกลางหาว.
กลาด กลาด [กฺลาด] ว. ดาษดื่น, ใช้เข้าคู่กับคํา เกลื่อน เป็น เกลื่อนกลาด หรือ กลาดเกลื่อน.
กลาดเกลื่อน กลาดเกลื่อน [กฺลาด-] ว. ดาษดื่น, เรี่ยรายอยู่มาก, เกลื่อนกลาด ก็ว่า.
กล้าได้กล้าเสีย กล้าได้กล้าเสีย ว. ใจป้ำ, ใจเป็นนักเลง, ไม่กลัวขาดทุน.
กล้านักมักบิ่น กล้านักมักบิ่น (สํา) ว. กล้าเกินไปมักจะเป็นอันตราย.
กลาบาต กลาบาต [กะลาบาด] น. พวกนั่งยามตามไฟ, การตามไฟรักษายาม; ก้อนที่มีแสงซึ่งตกจากอากาศลงมาสู่ผิวโลก ถือว่าเป็นลางบอกเหตุร้าย, อุกกาบาต ก็เรียก. (บางทีจะเป็นคําตัดมาจาก อุกลาบาต ดู อุกกา).
กลาป กลาป [กะหฺลาบ] (แบบ) น. หมวด, ฟ่อน, กํา, มัด; ฝูงใหญ่. (ป., ส.).
กล้าม กล้าม [กฺล้าม] น. เนื้อมะพร้าวห้าว; มัดเนื้อที่รวมกันเป็นก้อน ๆ ในกายคนและสัตว์ เรียกว่า กล้ามเนื้อ.
กลาย กลาย [กฺลาย] ก. เปลี่ยนไป, แปรปรวนไป, เช่น หน้าหนาวกลายเป็นหน้าร้อน, เป็นอื่นไป, แปลงไป, เช่น ศรกลายเป็นทิพย์กระยาหาร เปรี้ยวหวานตกลงตรงหน้า. (รามเกียรติ์ ร. ๒), (โบ; กลอน) ใช้ในความว่า กราย ก็มี เช่น ไปกลายบ๋านชองตนกดี. (จารึกสยาม), จักเจริญสวัสดิภาพศักดิศรี ศัตรูไพรี บห่อนจะใกล้กลายตน. (โชค-โบราณ).<2t>ว. ที่แปลงไป เช่น แผลกลาย; เรียกปีที่ล่วงหรือเปลี่ยนไปแล้วปีหนึ่งว่า ปีกลาย.
กล้าย กล้าย [กฺล้าย] น. ชื่อกล้วยลูกผสมพันธุ์หนึ่งในสกุล Musa วงศ์ Musaceae ผลใหญ่โค้ง เป็นเหลี่ยมและยาวกว่ากล้วยหอม เปลือกหนา เนื้อเหนียว ไส้แข็งสีส้ม รสหวาน นิยมกินเมื่อทำให้สุกแล้ว, กล้วยกล้าย ก็เรียก.
กลายกลอก กลายกลอก [-กฺลอก] ดู กระลายกระหลอก.
กล่าว กล่าว [กฺล่าว] ก. บอก, แจ้ง, พูด, เช่น กล่าวคําเท็จ; แสดง เช่น กล่าวเกลาอรรถเอมอร. (ม. คําหลวง ทานกัณฑ์); ขับร้อง เช่น จะกล่าวกลอนแก้ไข. (อิเหนา); สู่ขอ เช่น ถึงจรกามากล่าวนางไว้. (อิเหนา); แต่งงาน เช่น ฝรั่งกล่าวแหม่ม. (ประเพณีของชาวคริสเตียน), คํานี้ใช้เป็นปรกติในภาษาเขียน แต่ใช้เป็นภาษาพูดก็มีในบางลักษณะ เช่น กล่าวสุนทรพจน์.
กล่าวเกลี้ยง กล่าวเกลี้ยง (กลอน) ก. พูดเพราะ เช่น กล่าวเกลี้ยงไมตรีชวนชัก. (เสือโค).
กล่าวขวัญ กล่าวขวัญ ก. พูดถึง, พูดออกชื่อและการกระทําของคนอื่น.
กล่าวโทษ กล่าวโทษ ก. แจ้งว่ากระทําผิด.
กล่าวหา กล่าวหา ก. ฟ้อง, กล่าวโทษ.
กล่าวโอม กล่าวโอม (ถิ่น-อีสาน) ก. สู่ขอ.
กลาโหม กลาโหม [กะลาโหมฺ] น. ชื่อกรมที่ปกครองหัวเมืองฝ่ายใต้ในสมัยโบราณ มีสมุหพระกลาโหมเป็นประธาน; ชื่อกระทรวงที่มีอํานาจหน้าที่เกี่ยวกับการป้องกันและรักษาความมั่นคงของราชอาณาจักรจากภัยคุกคามทั้งภายนอกและภายในประเทศ; การชุมนุมพลรบ.
กล่ำ,กล่ำ ๑ กล่ำ ๑ [กฺลํ่า] น. ชื่อมาตราเงินโบราณ ๒ กล่อม เท่ากับ ๑ กลํ่า คือ อัฐ, ๒ กลํ่า เป็น ๑ ไพ. (กลํ่า ได้แก่ มะกลํ่าตาช้าง, กล่อม ได้แก่ มะกลํ่าตาหนู).
กล่ำ,กล่ำ ๒ กล่ำ ๒ [กฺลํ่า] น. เครื่องดักปลาชนิดหนึ่ง. (ดู กร่ำ ๑).
กล่ำ,กล่ำ ๓ กล่ำ ๓ [กะหฺลํ่า] (โบ; กลอน) ใช้เข้าคู่กับคํา กระเลือก หมายความว่า กลอกไปกลอกมา.
กล้ำ กล้ำ [กฺลํ้า] ก. ควบ เช่น กลํ้าอักษร อักษรกลํ้า, ทําให้เข้ากัน, กลืนกัน, เช่น กลํ้าเสียง เสียงกลํ้า, มีโทษอันหนึ่งไซร้<2t>กลบกลํ้าพันคุณ. (โลกนิติ), คือดั่งปากเว้นกลํ้า แกล่เหมี้ยงหมากพลู. (โลกนิติ), กัลยาจะกลํ้าอําความตาย. (อิเหนา).
กล้ำกราย กล้ำกราย ก. เข้าไปปะปน, ล่วงเข้าไป.
กล้ำกลืน กล้ำกลืน ก. ฝืนใจ, อดกลั้นไม่แสดงให้เห็น.
กลิ่ง กลิ่ง [กฺลิ่ง] (โบ; กลอน) ก. เลือกสรร เช่น แลพี่แกล้งกลิ่งให้แล้ว. (ม. คําหลวง ทศพร).
กลิ้ง กลิ้ง [กฺลิ้ง] ก. อาการอย่างของกลมพลิกเลื่อนไปตามพื้น เช่น ซุงกลิ้ง ครกกลิ้ง ลูกหินกลิ้ง, ทําให้ของกลมพลิกเลื่อนไปตามพื้น เช่น กลิ้งครก กลิ้งซุง กลิ้งลูกหิน; โดยปริยายหมายความว่า คล่อง, ไม่มีติด, เช่น คนคนนี้กลิ้งได้รอบตัว.<2t>(โบ) น. ร่ม เช่น เมลืองมล่านกลิ้งเพรื้อม เพรอศพราย. (ยวนพ่าย). (มลายู giling ว่า กลิ้ง, คลึง, มวน).
กลิ้งกลอก กลิ้งกลอก ก. กลับไปกลับมาเอาแน่ไม่ได้.
กลิ้งกลางดง กลิ้งกลางดง [กฺลิ้งกฺลาง-] น. ชื่อไม้เถาชนิดหนึ่งในสกุล Dioscorea วงศ์ Dioscoreaceae ตามง่ามใบมีหัวกลมขรุขระ.
กลิ้งเกลือก กลิ้งเกลือก ก. พยายามกระเสือกกระสนไปตามมีตามได้ เช่น ยากจนก็กลิ้งเกลือกไปตามบุญตามกรรมไม่ขอพึ่งใคร, เกลือกกลิ้ง ก็ใช้.
กลิงค์ กลิงค์ [กะลิง] น. เรียกชาวอินเดียใต้พวกหนึ่งที่มีผิวดําว่า แขกกลิงค์, กลึงค์ หรือ กะเล็ง ก็ว่า. (คํานี้เดิมหมายถึงชาวอินเดียที่มาจากแคว้นกลิงคราษฎร์).
กลิ้งเป็นลูกมะนาว กลิ้งเป็นลูกมะนาว (สํา) ว. หลบหลีกไปได้คล่องจนจับไม่ติด (มักใช้ในทางไม่ดี), กลมเป็นลูกมะนาว ก็ว่า.
กลิ่น,กลิ่น ๑ กลิ่น ๑ [กฺลิ่น] น. สิ่งที่รู้ได้ด้วยจมูก คือ เหม็น หอม และอื่น ๆ, บางทีใช้หมายความว่า เหม็น เช่น ของสิ่งนั้นมีกลิ่น.
กลิ่น,กลิ่น ๒ กลิ่น ๒ [กฺลิ่น] น. ชื่อพวงดอกไม้ร้อยมีรูปแบนประกอบด้วยอุบะ, ถ้าทําให้ผูกแขวนควํ่าลงมา เรียกว่า กลิ่นควํ่า, ถ้าทําให้ผูกแขวนตะแคง เรียกว่า กลิ่นตะแคง.
กลิ่นอาย กลิ่นอาย น. กลิ่น. (เป็นคําที่มีความหมายซํ้า อาย ก็ว่า กลิ่น).
กลิ้ม กลิ้ม [กฺลิ้ม] ก. เล็มหน้าผ้า, เย็บหน้าผ้าให้เป็นตะเข็บเพื่อมิให้ชายผ้าหลุดออก.
กลี กลี [กะลี] น. สิ่งร้าย, โทษ; เรียกโรคห่าที่เป็นแก่สัตว์เลี้ยงเช่นเป็ด ไก่ วัว ควาย; ด้านของลูกสกาที่มีแต้มเดียว คือมีแต่ทางแพ้; ชื่อผีร้ายหรือผีการพนันตามคติของพราหมณ์.<2t>ว. ร้าย, ไม่เป็นมงคล, มักใช้ว่า กาลี. (ป., ส. กลิ).
กลี่ กลี่ [กฺลี่] น. ภาชนะสําหรับใส่หมากบุหรี่ โดยมากมีรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีลิ้นข้างใน ยกออกได้.
กลีบ กลีบ [กฺลีบ] น. ส่วนของดอกไม้ที่เรียงหรือซ้อนกันเป็นชั้น ๆ รอบเกสร โดยปรกติเป็นแผ่นบาง ๆ, ใช้เรียกของอื่นที่มีลักษณะเช่นนั้น เช่น กลีบตา กลีบผ้า กลีบเมฆ.
กลีบตา กลีบตา น. เปลือกตา.
กลีบบัว กลีบบัว น. เรียกพานที่ริมปากทําเป็นรูปกลีบบัวโดยรอบว่า พานกลีบบัว.
กลีบหิน กลีบหิน น. แร่ไมกา. (ดู ไมกา).
กลียุค กลียุค [กะลี-] น. ชื่อยุคที่ ๔ ของจตุรยุคตามคติของพราหมณ์ ในยุคนี้ธรรมะของมนุษย์ลดลงเหลือเพียง ๑ ใน ๔ ส่วน เมื่อเทียบกับในสมัยกฤดายุค และอายุของมนุษย์ก็สั้นลงโดยไม่มีกำหนดเวลาแน่นอน. (ป., ส. กลิยุค). (ดู จตุรยุค).
กลียุคศักราช กลียุคศักราช น. ศักราชที่เริ่มตั้งก่อนพุทธศักราช ๒๕๕๘ ปี (กลียุคศักราชลบด้วย ๒๕๕๘ เท่ากับพุทธศักราช).
กลึง กลึง [กฺลึง] ก. ทําให้กลมหรือให้เป็นรูปต่าง ๆ ด้วยเครื่องหมุน.
กลึ้ง กลึ้ง [กฺลึ้ง] (โบ) น. กลิ้ง คือ ร่ม. (กฎมนเทียรบาลในกฎหมายราชบุรี).
กลึงกล่อม กลึงกล่อม [-กฺล่อม] น. ชื่อไม้พุ่มกึ่งไม้ต้นชนิด Polyalthia suberosa (Roxb.) Thwaites ในวงศ์ Annonaceae ใบเดี่ยว เรียงสลับ ดอกเดี่ยว กลีบเลี้ยงด้านบนมีขน กลีบดอกสีเหลืองคล้ำ ผลเป็นกลุ่ม เมื่อสุกสีแดง.
กลึงเกลา กลึงเกลา ว. งามเกลี้ยงเกลา, เกลากลึง ก็ว่า.
กลึงค์ กลึงค์ [กะลึง] น. แขกกลิงค์. (ดู กลิงค์).
กลืน กลืน [กฺลืน] ก. อาการที่ทําให้อาหารหรือสิ่งอื่น ๆ ที่อยู่ในปากล่วงลําคอลงไป, โดยปริยายใช้หมายถึงอาการที่มีลักษณะคล้ายคลึงเช่นนั้น ก็ใช้ว่า กลืน ได้ในความหมายเช่นทําให้หายหรือให้สูญไป เช่น ถูกกลืนชาติ, อดกลั้นไม่สําแดงให้ปรากฏออกมา เช่น กลืนทุกข์ กลืนโศก, ประสานกันหรือเข้ากันได้สนิทดี เช่น สีกลืนกัน.
กลืนไม่เข้าคายไม่ออก กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ก. พะอืดพะอม.
กลุ่ม กลุ่ม [กฺลุ่ม] น. คน สัตว์ หรือสิ่งต่าง ๆ ที่รวมกันเป็นหมู่ ๆ หรือเป็นกลุ่มก้อน เช่น กลุ่มคน กลุ่มมด กลุ่มดาว กลุ่มด้าย; อาการที่เข้ามารวมกันเช่นนี้ เรียกว่า จับกลุ่ม; ลักษณนามเรียกของที่เป็นกลุ่ม เช่น ด้าย ๓ กลุ่ม.
กลุ้ม กลุ้ม [กฺลุ้ม] ก. รวมประดังคับคั่ง เช่น พูดกันกลุ้ม, ปกคลุมอยู่ทําให้มืดคลุ้ม เช่น ควันกลุ้ม เมฆกลุ้ม; รู้สึกอัดอั้นยุ่งใจ เช่น คิดไม่ออกกลุ้มเหลือเกิน; ชุลมุน, ขวักไขว่, เช่น วิ่งกันให้กลุ้ม.
กลุ้มใจ กลุ้มใจ ก. รู้สึกรําคาญหรือยุ่งยากใจ ไม่รู้ว่าจะทําอย่างไร.
กลุ้มรุม กลุ้มรุม ก. ประดังห้อมล้อมเข้ามา.
กลุ้มอกกลุ้มใจ กลุ้มอกกลุ้มใจ ก. กลุ้มใจ.
กลู่ กลู่ [กฺลู่] (โบ; กลอน) ก. เกลื่อน, ใช้เข้าคู่กับคํา กลาด เช่น โกยกลู่กลาดคือลาญใน. (ม. คําหลวง จุลพน).
กลูโคส กลูโคส [กฺลู-] (วิทยา) น. นํ้าตาลชนิดหนึ่งประเภทโมโนแซ็กคาไรด์ ชนิดแอลโดเฮ็กโซส ลักษณะเป็นของแข็งสีขาว หลอมละลายที่ ๑๔๖ °ซ. มีในผลองุ่นสุก นํ้าผึ้ง และผลไม้โดยมากที่มีรสหวาน เป็นองค์ประกอบปรกติในเลือด และมีในปัสสาวะของผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวาน มีรสหวานน้อยกว่านํ้าตาลทราย, เดกซ์โทรส ก็เรียก. (อ. glucose).
กลูน,กลูน์ กลูน, กลูน์ [กะลูน, กะลู] (แบบ) ก. กรุณา เช่น ทุษฐโจรรันทำ กรรมแก่บดีสูร ยศใดบกลูน และมาลักอัครขรรค์. (สมุทรโฆษ).<2t>ว. น่าสงสาร เช่น สลดกลูน์ลุงทรวง. (สุธน). (ป.).
กเลวระ กเลวระ [กะเลวะระ] (แบบ) น. ซากศพ เช่น ถึงกระนั้นก็จะพบพานซึ่งกเลวระร่าง มิเลือดก็เนื้อจะเหลืออยู่บ้างสักสิ่งอัน. (ม. ร่ายยาว มัทรี), ใช้ว่า กเฬวราก ก็มี. (ป., ส.).
กวด กวด ก. ทําให้แน่น ให้ตึง หรือให้เขม็งยิ่งขึ้น เช่น กวดเชือก กวดตะปู, เร่งรัดให้ดียิ่งขึ้นหรือเพื่อให้ทัน เช่น กวดวิชา วิ่งกวด.<2t>น. เหล็กเครื่องมือสําหรับกวดเลี่ยมขอบภาชนะ เรียกว่า เหล็กกวด.
กวดขัน กวดขัน ว. เอาจริงเอาจัง, เร่งรัดให้ยิ่งขึ้น.
กวน,กวน ๑ กวน ๑ (ถิ่น-อีสาน) (ปาก) น. กวาน, ชื่อตําแหน่งขุนนางในภาคอีสานสมัยโบราณ แต่ชาวอีสานบางถิ่นออกเสียงเป็น กวน เช่น บ้านเมืองข้อนขุนกวน ยาดไพร่.
กวน,กวน ๒ กวน ๒ ก. คนให้เข้ากัน, คนให้เข้ากันจนข้น, เช่น กวนขนม, คนให้ทั่วกันหรือให้วนไปโดยรอบ เช่น กวนนํ้า; รบกวนทําให้เกิดความรําคาญ เช่น กวนใจ, ก่อกวนทําให้วุ่นวาย เช่น กวนบ้านกวนเมือง, ชวนให้เกิดความรําคาญ ชวนให้ทําร้าย เช่น กวนมือ กวนตีน.<2t>น. เรียกของกินที่ทําด้วยผลไม้เป็นต้น เคี่ยวกับนํ้าตาลแล้วคนให้เข้ากันจนข้น เช่น ขนมกวน ทุเรียนกวน สับปะรดกวน.
กวนน้ำให้ขุ่น กวนน้ำให้ขุ่น (สํา) ก. ทําเรื่องราวที่สงบอยู่แล้วให้เกิดวุ่นวายขึ้นมา.
กวม กวม (โบ) ก. ครอบงํา เช่น มืดมนกวมกลุ้ม.
กวย,กวย ๑ กวย ๑ (ถิ่น-พายัพ) น. ตะกร้า.
กวย,กวย ๒ กวย ๒ น. ชาติข่า ในตระกูลมอญ-เขมร.
กวยจั๊บ กวยจั๊บ น. ชื่อของกินชนิดหนึ่ง ทําด้วยแป้งที่ใช้ทําเส้นก๋วยเตี๋ยว แต่หั่นเป็นชิ้นใหญ่ ๆ ต้มสุกแล้วปรุงด้วยเครื่องมีหมูเป็นต้น. (จ).
กวยจี๊ กวยจี๊ น. เมล็ดแตงโมต้มแล้วตากให้แห้ง ใช้ขบเคี้ยว. (จ).
ก๋วยเตี๋ยว ก๋วยเตี๋ยว น. ชื่อของกินชนิดหนึ่ง ทําด้วยแป้งข้าวเจ้าเป็นเส้น ๆ ลวกสุกแล้วปรุงด้วยเครื่องมีหมูเป็นต้น. (จ).
กวะ กวะ [กะวะ] (กลอน) ว. (ราว)-กะว่า, (ราว)-กับว่า, เช่น นกกระจอกทํารังราวกวะไม้. (จารึกวัดโพธิ์).
กวะกวัก กวะกวัก [กฺวะกฺวัก] ก. กวัก เช่น กวะกวักคือกวักทักถาม. (สรรพสิทธิ์).<2t>ว. กวัก ๆ, เป็นเสียงนกกวักร้อง, เช่น นกกวักลักแลเพื่อนพลาง<2t>กวักปีกกวักหาง ก็ร้องกวะกวักทักทาย. (สมุทรโฆษ).
กวะแกว่ง กวะแกว่ง [กฺวะแกฺว่ง] ก. แกว่งไปมา เช่น ช่อช้อยกวะแกว่งไกว. (ม. คําหลวง จุลพน).
กวัก,กวัก ๑ กวัก ๑ [กฺวัก] น. ชื่อนกชนิด Amaurornis phoenicurus ในวงศ์ Rallidae ลําตัวสั้น ขาและนิ้วยาว หน้าผากและลําตัวด้านล่างสีขาว อาศัยอยู่ตามหนองนํ้า เดินหากินบนใบพืชนํ้า เช่น บัว จอก แหน ในตอนเช้าหรือพลบคํ่า ร้องเสียงดัง กวัก ๆ.
กวัก,กวัก ๒ กวัก ๒ [กฺวัก] ก. อาการที่ใช้สิ่งแบน ๆ พุ้ยเข้าหาตัว, ใช้มือทําอาการเช่นนั้นเพื่อเป็นสัญญาณให้เข้ามาหาเรียกว่า กวักมือ, อาการที่นกใช้ปีกพุ้ยอากาศบินไป เรียกว่า นกกวักปีก.
กวัด กวัด [กฺวัด] ก. จับด้ามวัตถุให้ปลายตั้งขึ้นแล้วปัดไปมา, ใช้เข้าคู่กับคํา แกว่ง เป็น กวัดแกว่ง หรือ แกว่งกวัด หรือใช้เข้าคู่กับคำ ไกว เป็น กวัดไกว.
กวัดแกว่ง กวัดแกว่ง [กฺวัดแกฺว่ง] ก. จับด้ามวัตถุให้ปลายตั้งขึ้นแล้วปัดไปมา เช่น กวัดแกว่งอาวุธ, ไม่อยู่ที่ เช่น จิตกวัดแกว่ง, แกว่งกวัด ก็ว่า.
กวัดไกว กวัดไกว [กฺวัดไกฺว] ก. วัดเหวี่ยงไปมา, ไม่อยู่ที่.
กวัดไกวไสส่ง กวัดไกวไสส่ง ก. ไล่ไปให้พ้น.
กวา กวา [กฺวา] น. แตงกวา. (ดู แตง).
กว่า กว่า [กฺว่า] ว. เกิน เช่น กว่าบาท; เป็นคําใช้เปรียบเทียบในการประมาณ เช่น มากกว่า น้อยกว่า ดีกว่า, ย่อมพลกว่าพลแกว่น. (ม. คําหลวง มหาราช).<2t>บ. เลยไป, พ้นไป.<2t>สัน. ก่อน, ยังไม่ทัน, เช่น กว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้, มักใช้เข้าคู่กับคํา จะ...ก็ เป็น กว่าจะ...ก็ หรือ กว่า...จะ...ก็, โบราณใช้ว่า ยิ่ง ก็มี เช่น ใจกว่าห้วงอรรณพ. (ม. คําหลวง นครกัณฑ์); ใช้เป็นกริยาว่า ไปจาก ก็มี เช่น แทบทางที่จะกว่า. (ม. คําหลวง จุลพน), ผิออกนางธจะกว่า. (ม. คําหลวง กุมาร); ใช้เป็นวิเศษณ์ว่า จากไป ก็มี เช่น ลํ๋ตายหายกว่า. (จารึกสยาม).
กว้า กว้า [กฺว้า] (โบ) ว. หรือ, อะไร, ทําไม, เป็นไร, บ้างซิ, บ้างเถิด, ว้า, หวามใจ, เช่น ในรลุงนาภี พรั่นกว้า. (ทวาทศมาส).
กวาง,กวาง ๑ กวาง ๑ [กฺวาง] น. ชื่อสัตว์เคี้ยวเอื้องหลายชนิด ในวงศ์ Cervidae เป็นสัตว์กีบคู่ ลำตัวเพรียว คอและขายาว หางสั้น ตัวเมียเล็กกว่าตัวผู้ มีทั้งชนิดมีเขาและไม่มีเขาในเพศเดียวกันหรือต่างเพศ เช่น กวางป่า (Cervus unicolor).
กวาง,กวาง ๒ กวาง ๒ [กฺวาง] น. (๑) ชื่อปลางัวบางชนิดในวงศ์ Triacanthidae, Monacanthidae และ Balistidae. (ดู งัว ๕ ประกอบ).<2t>(๒) ปลาม้า. (ดู ม้า ๓).
กว่าง กว่าง [กฺว่าง] น. ชื่อด้วงปีกแข็งชนิด Xylotrupes gideon ในวงศ์ Dynastidae ตัวมีสีตั้งแต่สีน้ำตาลอมแดงจนถึงเกือบดำ ตัวผู้ที่มีขนาดใหญ่เรียกว่า กว่างโซ้ง หรือ กว่างชน มีเขาที่หลังอกยื่นยาวเป็นจะงอยเรียวไปทางด้านหน้าและโค้งลง ตรงปลายเป็น ๒ แฉก กับที่หัวมีเขาเล็กยื่นออกไปเป็นเขาเดี่ยว โค้งขึ้นคล้ายนอแรด แต่ปลายแยกเป็น ๒ แฉก ตัวผู้ที่มีขนาดย่อมมีเขาสั้นเรียก กว่างกิ หรือ กว่างแซม ตัวเมียไม่มีเขาเรียก กว่างแม่ หรือ กว่างอีลุ่ม, อาจเรียกแมลงปีกแข็งชนิดอื่นที่มีเขาว่า แมงกว่าง หรือ แมงกวาง เช่นกัน.
กว้าง กว้าง [กฺว้าง] น. ด้านสั้นที่คู่กับด้านยาว.<2t>ว. ไม่แคบ, แผ่ออกไป.
กว้างขวาง กว้างขวาง ก. แผ่ออกไปมาก, ใหญ่โต, เช่น มีเนื้อที่กว้างขวาง; เผื่อแผ่ เช่น มีนํ้าใจกว้างขวาง, รู้จักคนมากและมีคนรู้จักมาก เช่น กว้างขวางในสังคม.
กวางเขน กวางเขน [กฺวาง-] (โบ) น. นกกางเขน เช่น บ่าวขุนกวางเขนเขจร. (สมุทรโฆษ).
กวางแขม กวางแขม ดู เนื้อทราย.
กวางจุก กวางจุก (ถิ่น-ปักษ์ใต้) น. เก้ง. (ดู เก้ง).
กวางโจน กวางโจน [กฺวาง-] น. ชื่อไม้เถาเนื้อแข็ง ผลกลมรีป้อมขนาดหัวแม่มือ เปลือกคาย เมื่อสุกสีแดงชาด ออกเป็นพวงกระจุก เนื้อบางสีขาวคล้ายสาคู รสเปรี้ยว กินได้ กวางชอบกิน มีตามป่าดอนทั่วไป.
กว่างชน กว่างชน ดู กว่าง.
กวางชะมด กวางชะมด น. ชื่อสัตว์เคี้ยวเอื้องขนาดเล็กในสกุล Moschus วงศ์ Moschidae ลำตัวป้อม หัวเล็ก ไม่มีเขา ขนหยาบมีสีแตกต่างกัน ตัวเมียเขี้ยวสั้นมาก ตัวผู้มีเขี้ยวยาวคล้ายใบมีดยื่นพ้นริมฝีปาก และมีต่อมกลิ่นอยู่ระหว่างสะดือกับอวัยวะเพศ ขับสารคล้ายขี้ผึ้งออกมา เรียกว่า ชะมดเชียง ใช้แต่งกลิ่นเครื่องหอมและทำยาได้ มักอาศัยอยู่ตามป่าสนและป่าผลัดใบรกทึบบนภูเขา มี ๔ ชนิด ได้แก่ กวางชะมดไซบีเรีย (M. moschiferus) กวางชะมดเขาสูง (M. chrysogaster) กวางชะมดดำ (M. fuscus) และกวางชะมดป่า (M. berezovskii) ไม่พบในประเทศไทย แต่ที่นำมาเลี้ยงในประเทศไทย ได้แก่ กวางชะมดป่า.
กว่างโซ้ง กว่างโซ้ง ดู กว่าง.
กวางเดินดง กวางเดินดง น. ชื่อวิธีรําท่าหนึ่งอยู่ในลําดับว่า นาคาม้วนหาง กวางเดินดง หงส์ลีลา. (ฟ้อน); ชื่อกลบทอย่างหนึ่ง เช่น อกเอ๋ยอกประหลาดจริงที่นิ่งเฉย โอ้เอ๋ยผิดคิดไม่เห็นจะเป็นเลย เสียดายเอ๋ยที่พี่เคยสงวนงาม. (กลบท).
กวางตุ้ง,กวางตุ้ง ๑ กวางตุ้ง ๑ [กฺวาง-] น. ชาวจีนในมณฑลกวางตุ้งของประเทศจีน, เรียกภาษาของชาวจีนในมณฑลนี้ ว่า ภาษากวางตุ้ง.
กวางตุ้ง,กวางตุ้ง ๒ กวางตุ้ง ๒ [กฺวาง-] น. ชื่อผักกาดชนิดหนึ่ง เรียกว่า ผักกาดกวางตุ้ง. (ดู กาด ๑).
กวางทราย กวางทราย ดู เนื้อทราย.
กวางทอง กวางทอง น. ชื่อเพลงไทยทํานองหนึ่ง.
กวางป่า กวางป่า น. ชื่อกวางชนิด Cervus unicolor ในวงศ์ Cervidae เป็นชนิดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ขนยาวหยาบสีน้ำตาล ตัวผู้มีเขาเป็นแขนง ผลัดเขาปีละครั้ง มักอยู่ลำพังตัวเดียวยกเว้นฤดูผสมพันธุ์, กวางม้า ก็เรียก.
กวางผา กวางผา [กฺวาง-] น. ชื่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิด Naemorhedus goral ในวงศ์ Bovidae ลักษณะคล้ายแพะและเลียงผา แต่มีขนาดเล็กกว่า ขนสีเทาหรือน้ำตาลปนเทา มีแถบขนสีดำตลอดแนวสันหลัง ตัวผู้เขายาวกว่าตัวเมีย อาศัยอยู่บนภูเขาสูงชัน กินพืช เป็นสัตว์ป่าสงวนของไทย.
กวางม้า กวางม้า ดู กวางป่า.
กว้างใหญ่ กว้างใหญ่ ก. แผ่ออกไปไกล.
กว่าชื่น กว่าชื่น (โบ) ว. ยิ่ง, ยิ่งนัก.
กวาด กวาด [กฺวาด] ก. ทําให้เตียนหรือหมดฝุ่นละอองด้วยไม้กวาดเป็นต้น, ทำให้ของเคลื่อนไปในทางเดียวกัน เช่น กวาดของลงจากโต๊ะ, โดยปริยายหมายความว่า เอาไปให้หมดสิ้นเหมือนอย่างกวาด เช่น กวาดครัวเชลย โจรกวาดทรัพย์สิน; เอายาป้ายในลําคอ เรียกว่า กวาดยา.<2t>น. สิ่งที่ใช้กวาด ทําด้วยดอกอ่อนของต้นเลาเป็นต้น มัดเป็นกำ ๆ เรียกว่า ไม้กวาด, ถ้าทำด้วยทางมะพร้าวเรียกว่า ไม้กวาดทางมะพร้าว.
กวาดต้อน กวาดต้อน ก. รวบรวมคนหรือสัตว์พาหนะเป็นต้น เอามาเป็นของตน.
กวาดตา กวาดตา ก. ส่ายตาดูทั่วไป.
กวาดล้าง กวาดล้าง ก. กําจัดให้หมดไป เช่น กวาดล้างอันธพาล กวาดล้างโจรผู้ร้าย.
กว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้ กว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้ (สำ) ว. ลักษณะของการทำงานที่มีความลังเลใจ ทำให้แก้ไขปัญหาได้ไม่ทันท่วงที เมื่อได้อย่างหนึ่ง แต่ต้องเสียอีกอย่างหนึ่งไป ดุจเอาถั่วกับงามาคั่วพร้อมกัน กว่าจะคั่วจนถั่วสุก งาก็จะไหม้หมดไปก่อน.
กวาน,กว่าน กวาน, กว่าน [กฺวาน, กฺว่าน] น. ขุนนาง เช่น แล้วบัญชาสั่งเสียพวกเพี้ยกวาน ให้ไปเชิญสองท่านแม่ทัพใหญ่. (ขุนช้างขุนแผน), เพลี้ยกว่านบ้านท้าวไข้ ข่าวสยวน. (ยวนพ่าย).
กว้าน,กว้าน ๑ กว้าน ๑ [กฺว้าน] น. ตึก ใช้ควบกันว่า ตึกกว้าน; (ถิ่น-ปักษ์ใต้) ที่อยู่ซึ่งปลูกไว้คล้ายโรงนา พื้นอยู่กับดิน.
กว้าน,กว้าน ๒ กว้าน ๒ [กฺว้าน] น. เครื่องสําหรับฉุดดึงและยกของหนัก.<2t>ก. ฉุดด้วยกว้าน, ขันกว้าน ก็เรียก; รวบรวมจากที่ต่าง ๆ มาไว้เป็นจํานวนมาก เช่น กว้านสินค้ามากักตุนไว้.
กว๊าน กว๊าน [กฺว๊าน] (ถิ่น-พายัพ) น. บึง; นํ้าตอนลึก, นํ้าตอนที่ไหลวน.
กว่าเพื่อน กว่าเพื่อน ว. คําใช้เปรียบเทียบ หมายถึง ที่สุดในหมู่ เช่น ดีกว่าเพื่อน เลวกว่าเพื่อน.
กว้าว กว้าว [กฺว้าว] ดู ขว้าว.
กวาวเครือ กวาวเครือ [กฺวาว-] น. ชื่อไม้พุ่มรอเลื้อยชนิด Pueraria candollei Grah. var. mirifica (Airy Shaw et Suvatabandhu) Niyomdham ในวงศ์ Leguminosae ดอกเล็ก สีม่วงอ่อน มีหัวกลม ๆ ออกที่โคนต้นและตามราก ใช้ทํายาได้.
กวิน กวิน [กะวิน] (โบ) ว. ดีงาม เช่น ใครกวินซื่อแท้. (แช่งนํ้า). (ทมิฬ แปลว่า งาม).
กวี กวี [กะวี] น. ผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญในศิลปะการประพันธ์บทกลอน จําแนกเป็น ๔ คือ ๑. จินตกวี แต่งโดยความคิด ๒. สุตกวี แต่งโดยได้ฟังมา ๓. อรรถกวี แต่งตามความจริง ๔. ปฏิภาณกวี แต่งกลอนสด. (ป.).
กวีนิพนธ์ กวีนิพนธ์ น. คําประพันธ์ที่กวีแต่ง.
กษณะ กษณะ [กะสะหฺนะ] (กลอน) น. ครู่, ครั้ง, คราว. (ส.; ป. ขณ).
กษมา,กษมา ๑ กษมา ๑ [กะสะ-] (แบบ) น. ความอดกลั้น, ความอดโทษ, เช่น พระกษมาเสมอหล้า สี่แดน. (ยวนพ่าย).<2t>ก. กล่าวคําขอโทษ, โดยมากใช้ว่า ษมา. (ส. กฺษมา; ป. ขมา).
กษมา,กษมา ๒ กษมา ๒ [กะสะ-] (แบบ) น. แผ่นดิน. (ส. กฺษฺมา; ป. ฉมา).
กษัตร กษัตร [กะสัด] (โบ) น. พระเจ้าแผ่นดิน, เจ้านาย. (ส. กฺษตฺร; ป. ขตฺต).
กษัตรา กษัตรา [กะสัดตฺรา] (กลอน) น. กษัตริย์ เช่น คือ พรหมทัตกษัตรา. (กฤษณา).
กษัตราธิราช กษัตราธิราช น. พระเจ้าแผ่นดิน.
กษัตริย์ กษัตริย์ [กะสัด] น. พระเจ้าแผ่นดิน, ใช้เต็มว่า พระมหากษัตริย์, คนในวรรณะที่ ๒ แห่งสังคมฮินดู ซึ่งมีอยู่ ๔ วรรณะ ได้แก่ วรรณะพราหมณ์ วรรณะกษัตริย์ วรรณะแพศย์ และวรรณะศูทร. (ส. กฺษตฺริย ว่า ผู้ป้องกันภัย, ชาตินักรบ; ป. ขตฺติย).<2t>ว. แท้ไม่มีอื่นปน เช่น ทองเนื้อกษัตริย์, เรียกรูปพรรณที่ทําด้วยโลหะมีราคา เช่น ถ้าทําด้วยเงิน ทอง นาก สลับกัน เรียกว่า สามกษัตริย์.
กษัตริยชาติ กษัตริยชาติ [กะสัดตฺริยะชาด] น. ชาติกษัตริย์ เช่น รู้แน่ว่าเป็นกษัตริยชาติ. (ม. ร่ายยาว สักบรรพ).
กษัตรี กษัตรี [กะสัดตฺรี] (กลอน) น. กษัตริย์ผู้หญิง เช่น สมเด็จพระแก้วกษัตรี. (ม. คําหลวง ทานกัณฑ์); เจ้าผู้หญิง เช่น สองกษัตรีเจ้าหล้า แกล้วกว่าแกล้วใจกล้า กว่ากล้ากลัวอาย. (ลอ); สตรี เช่น จักเสื่อมสวัสดิ์กษัตรี. (กฤษณา).
กษัตรีย์ กษัตรีย์ [กะสัดตฺรี] (กลอน) น. กษัตริย์ เช่น พินทุทัตกษัตรีย์. (สมุทรโฆษ); เจ้าผู้หญิง เช่น อันว่าพระมหาสัตว์แลกษัตรีย์. (ม. คําหลวง วนปเวสน์).
กษัตรีศูร กษัตรีศูร [กะสัดตฺรีสูน] (กลอน) น. กษัตริย์ผู้เป็นใหญ่ เช่น เจ้าไตรภพโลกเมาลีเป็นกษัตรีศูร. (ม. คําหลวง นครกัณฑ์). (ส. กฺษตฺร + อีศฺวร).
กษัย,กษัย- กษัย, กษัย- [กะไส, กะไสยะ-] น. การสิ้นไป, การหมดไป, การเสื่อมไป, การน้อยไป; ชื่อโรคตามตำราแพทย์แผนโบราณว่า ทำให้ร่างกายทรุดโทรม มีอาการผอมแห้งตัวเหลืองเท้าเย็น, เขียนเป็น กระษัย ก็มี. (ส. กฺษย).
กษัยกล่อน กษัยกล่อน น. ชื่อโรคทางตําราแพทย์แผนโบราณว่า ทําให้ผอมแห้ง ซึ่งเกิดจากโรคกล่อน, เขียนเป็น กระษัยกล่อน ก็มี.
กษัยการ กษัยการ [กะไสยะกาน] น. การที่สิ่งต่าง ๆ ค่อยผุพังและแพร่สะพัดหรือกระจัดกระจายไปเพราะพลังลม พลังนํ้า หรือปฏิกิริยาเคมี. (อ. erosion).
กษัยน้ำ กษัยน้ำ น. กษัยเนื่องจากเลือด นํ้าเหลือง หรือ เสมหะเป็นพิษ ถ้ารวมทั้ง ๓ ประการ เรียกว่า กษัยเลือด.
กษัยเลือด กษัยเลือด น. กษัยเนื่องจากเลือด นํ้าเหลือง และเสมหะเป็นพิษ.
กษาปณ์ กษาปณ์ [กะสาบ] (แบบ) น. กระษาปณ์, เงินตราที่ทําด้วยโลหะ, ตําลึง (= ๒๐ มาสก) เช่น ได้ถึงร้อยกษาปณ์. (ม. ร่ายยาว ชูชก).
กษิดิ,กษีดิ กษิดิ, กษีดิ [กะสิดิ, กะสีดิ] (แบบ) น. แผ่นดิน. (ส. กฺษิติ), ในบทกลอนใช้เป็นส่วนหน้าสมาส แปลว่า พระเจ้าแผ่นดิน เช่น กษิดินทรทายทานแล้ว. (ส. กฺษิติ + อินฺทฺร), อนนว่ากษีดิศรสุริยทงงหลาย. (ส. กฺษิติ + อีศฺวร), อนนว่าพระแพศยันดรกษิดิศวร์. (ส. กฺษิติ + อีศฺวร). (ม. คําหลวง ทานกัณฑ์, วนปเวสน์).
กษีณาศรพ กษีณาศรพ [กะสีนาสบ] (แบบ) น. ขีณาสพ, พระผู้สิ้นอาสวะ, พระอรหันต์, เขียนเป็น กษีณาศรพ กษิณาศรพย และ กษิณาสยพ ก็มี เช่น อันว่าพระโลกยเชษฐาจารย์ ก็มีพุทธโองการพระคาถา ให้กษิณาศรพทงงหลายฟงง ดังนี้. (ม. คําหลวง นครกัณฑ์), อันว่าพระสาศดาบพิตร จะปกาสิตคาถา แก่กษิณาศรพยทงงหลาย ด่งงนี้. (ม. คําหลวง ฉกษัตริย์). (ส. กฺษีณ + อาสฺรว).
กษีร,กษีร-,กษีระ กษีร-, กษีระ [กะสีระ] (แบบ) น. นํ้านม เช่น กษีรสุทธมฤธู. (เสือโค). (ส.).
กษีรธารา กษีรธารา น. สายนํ้านม เช่น ให้เสวยโภชนและกษีรธารา. (ม. คําหลวง นครกัณฑ์).
กษีรรส กษีรรส น. นํ้านม เช่น เปรียบเหมือนกษีรรสคือนํ้านมสดขาวสะอาด. (ม. ร่ายยาว สักบรรพ).
กษีรามพุ กษีรามพุ น. นํ้านม เช่น ดูดดื่มกษีรามพุ. (สมุทรโฆษ). (ส. กฺษีร + อมฺพุ).
กษีรารณพ กษีรารณพ [กะสีราระนบ] น. ทะเลนํ้านม. (ส. กฺษีร + อรฺณว).
กสานติ์ กสานติ์ [กะ-] (กลอน) ว. สงบ, ราบคาบ, เช่น ผ่องนํ้าใจกสานติ์. (เฉลิมพระเกียรติพระนารายณ์). (ก + ป. สนฺติ), กระสานติ์ ก็ใช้.
กสิ,กสิ- กสิ, กสิ- [กะ-] น. การทํานา, การเพาะปลูก. (ป.).
กสิกร กสิกร [กะสิกอน] น. ผู้ทําไร่ไถนา.
กสิกรรม กสิกรรม น. การทําไร่ไถนา.
กสิณ กสิณ [กะสิน] น. สมถกรรมฐานหมวดหนึ่งว่าด้วยอารมณ์ที่กําหนดธาตุ ๔ คือ ปฐวี (ดิน) อาโป (นํ้า) เตโช (ไฟ) วาโย (ลม), ว่าด้วยวรรณะ (สี) ๔ คือ นีล (สีเขียว) ปีต (สีเหลือง) โลหิต (สีแดง) โอทาต (สีขาว), ว่าด้วยอากาศ (ที่ว่าง) และ อาโลก (แสงสว่าง) รวมเป็น ๑๐ อย่าง. (ป.).
กหังปายา กหังปายา [กะ-] น. เกณฑ์สําหรับลบพุทธศักราชเป็นจุลศักราช ตรงกับเลข ๑๑๘๑.
กหาปณะ กหาปณะ [กะหาปะนะ] (แบบ) น. เงินตรามีพิกัดเท่ากับ ๒๐ มาสก หรือ ๑ ตําลึง คือ ๔ บาท. (ป.).
ก็แหละ ก็แหละ นิ. คําขึ้นต้นใหม่ต่อข้อความเดิม เช่น ก็แหละการที่บุคคลจะมีความเจริญได้นั้น จะต้องมีคุณธรรม.
กเฬวราก กเฬวราก [กะเลวะราก] (กลอน) น. ซากศพ, บางทีใช้เข้าคู่กันเป็น กเฬวรากซากศพ, เขียนเป็น กเฬวราก์ ก็มี เช่น เผากเฬวราก์ผู้อนาถ. (มาลัยคําหลวง).
กอ,กอ ๑ กอ ๑ น. กลุ่มแห่งต้นไม้ที่เกิดจากเหง้าเดียวกัน เช่น กอหญ้า กอแขม กอไผ่, ต้นไม้ที่ขึ้นเป็นกลุ่ม เช่น กอข้าว, ใช้เข้าคู่กับคํา เหล่า ว่า เหล่ากอ หมายความว่า เชื้อสาย.
กอ,กอ ๒ กอ ๒ (ถิ่น-ปักษ์ใต้) น. ต้นก่อ. (ดู ก่อ ๒).
กอ,กอ ๓ กอ ๓ ดู หนอนกอ.
ก่อ,ก่อ ๑ ก่อ ๑ ก. ทําให้เกิดขึ้น มีขึ้น หรือเป็นรูปขึ้น เช่น ก่อไฟ ก่อสงคราม ก่อตึก.
ก่อ,ก่อ ๒ ก่อ ๒ น. ชื่อไม้ต้นหลายชนิดหลายสกุลในวงศ์ Fagaceae บางชนิดผลมีเนื้อในกินได้ รสมัน, ปักษ์ใต้เรียก กอ.
ก่อ,ก่อ ๓ ก่อ ๓ (ถิ่น-พายัพ) น. ปลาช่อน. (ดู ช่อน).
ก่อ,ก่อ ๔ ก่อ ๔ ว. งอ ในคำว่า งอก่อ หรือ งอก่องอขิง. (ไทลื้อ ก่อ ว่า งอ).
ก้อ,ก้อ ๑ ก้อ ๑ ว. แสดงอาการเจ้าชู้ เช่น ไก่ก้อ.
ก้อ,ก้อ ๒ ก้อ ๒ น. ชนชาวเขาพวกหนึ่ง ในตระกูลทิเบต-พม่า มีอยู่ทางแถบเหนือของไทย คล้ายพวกมูเซอ, อีก้อ ก็เรียก.
ก๊อ ก๊อ (ถิ่น-พายัพ) น. ทับทิม เช่น ต้นก๊อ ว่า ต้นทับทิม. (พจน. ๒๔๙๓).
กอก,กอก ๑ กอก,กอก ๑ ก. ดูดเลือด หนอง หรือลมออกจากร่างกายหรือดูดเอานํ้านมออกจากเต้านมโดยใช้ถ้วย กระบอก ฯลฯ เป็นเครื่องดูด.
กอก,กอก ๒ กอก ๒ น. มะกอก.
ก๊อก,ก๊อก ๑ ก๊อก ๑ น. เครื่องเปิดปิดนํ้าจากท่อหรือภาชนะ, หัวก๊อก ก็เรียก. (อ. cock).
ก๊อก,ก๊อก ๒ ก๊อก ๒ น. เรียกเปลือกต้นก่อชนิด Quercus suber L. ในวงศ์ Fagaceae ที่ใช้ทําจุกขวดและอื่น ๆ ว่า ไม้ก๊อก.
ก่อกรรมทำเข็ญ ก่อกรรมทำเข็ญ ก. ก่อความเดือดร้อนให้รํ่าไป.
ก่อกวน ก่อกวน ก. ก่อให้เกิดความรําคาญหรือไม่สงบอยู่ได้.
ก่อการ ก่อการ ก. ริเริ่มการ.
กอแก กอแก ก. เกาะแกะ เช่น อย่ากอแกชาววังหลังจะลาย.
กอง,กอง ๑ กอง ๑ ก. ทําให้รวมสุมกันไว้, สุมกันไว้.<2t>น. สิ่งต่าง ๆ ที่รวมกันไว้เช่นนั้น เช่น กองมะม่วง กองฟืน, สิ่งต่าง ๆ ที่สุมกันไว้ เช่น กองขยะ; กำลังพลของทหาร ตำรวจ เป็นต้น จำนวน ๔ หมวด เรียกว่า กองร้อย, ถ้าเป็นทหารหรือตำรวจหัวหน้าจะต้องมียศร้อยเอก เรือเอก เรืออากาศเอก หรือร้อยตำรวจเอก เรียกว่า ผู้บังคับกองร้อย หรือทั่ว ๆ ไปเรียกว่า ผู้กอง เฉพาะตำรวจนิยมเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า สารวัตร; ส่วนราชการที่รองจากกรม.<2t>ว. ถ้ามีคํา เป็น ประกอบหน้า หมายความว่า มาก เช่น โตขึ้นเป็นกอง มากกว่าเป็นกอง.
กอง,กอง ๒ กอง ๒ ดู รกฟ้า.
กอง,กอง ๓ กอง ๓ (ถิ่น-พายัพ) น. ถนน, ทางเดิน, เช่น กางกอง ว่า กลางถนน.
ก่อง,ก่อง ๑ ก่อง ๑ น. เครื่องประดับหน้าอก; ชื่อแผ่นผ้าที่ปิดอกหญิงคล้ายเต่า ที่หญิงรุ่นสาวใช้.
ก่อง,ก่อง ๒ ก่อง ๒ ว. สุกใส, สว่าง, งาม.
ก่อง,ก่อง ๓ ก่อง ๓ น. เครื่องมือจับสัตว์นํ้าชนิดหนึ่ง ใช้ในจังหวัดหนองคาย ทําด้วยตาข่าย ซึ่งด้านหนึ่งติดกับลําไม้ไผ่คล้ายธง ทิ้งชายด้านหนึ่งลงไปในนํ้า มุมหนึ่งถ่วงด้วยหิน และอีกมุมหนึ่งมีเชือกโยงมาบนเรือ ลากติดไปกับเรือ พอรู้ว่าปลาติดตาข่ายก็สาวเชือกขึ้นมา.
ก่อง,ก่อง ๔ ก่อง ๔ น. ไม้ชนิดหนึ่ง ผลคล้ายลางสาด แต่เปลือกหนา. (พจน. ๒๔๙๓).
ก้อง,ก้อง ๑ ก้อง ๑ ว. ดังมากอย่างเสียงในที่จํากัดเช่นในโบสถ์, ดังไปได้ไกล เช่น เขาตะโกนก้องมาจากที่สูง.
ก้อง,ก้อง ๒ ก้อง ๒ น. บรรณาการ ในคำว่า จิ้มก้อง. (จ.).
กองกลาง กองกลาง น. สิ่งที่กันไว้เป็นส่วนรวม หรือเป็นสาธารณะ.
กองกอย กองกอย น. ผีชนิดหนึ่ง เชื่อกันว่ามีตีนเดียว ไม่มีสะบ้าหัวเข่า จึงต้องเดินเขย่งเกงกอย ชอบออกมาดูดเลือดที่หัวแม่เท้าของคนที่นอนหลับพักแรมในป่า.
กองกูณฑ์ กองกูณฑ์ น. กองไฟที่ใช้ในพิธีบูชาไฟ.
กองเกิน กองเกิน น. ผู้ขึ้นทะเบียนรับราชการทหาร แต่ทางการยังไม่เรียกเข้ารับราชการ.
กองเกียรติยศ กองเกียรติยศ น. กองทหารหรือตํารวจเป็นต้น ที่จัดขึ้นเพื่อให้เป็นเกียรติแก่ประมุขของประเทศ บุคคลสําคัญ ศพทหารตํารวจ หรือสิ่งอื่น ๆ เช่น ธงชัยเฉลิมพล.
กองข้าว กองข้าว น. พิธีอย่างหนึ่งที่ชาวชนบทห่อข้าวพร้อมด้วยของหวานพากันไปเซ่นผีตามป่าในหน้าแล้ง.
กองโจร กองโจร น. หน่วยกําลังที่ทําการรบแบบโจร.
กองทัพ กองทัพ น. หน่วยทหารที่ประกอบด้วย ทหาร ๓ กองพล และมีทหารหน่วยอื่น ๆ เช่น หน่วยทหารช่าง หน่วยทหารสื่อสาร หน่วยทหารรถถัง หน่วยทหารปืนใหญ่ เป็นส่วนประกอบ มีแม่ทัพเป็นผู้บังคับบัญชา.
กองทัพน้อย กองทัพน้อย น. หน่วยทหารที่ประกอบด้วยทหารหลายกองพล มีจํานวนไม่แน่นอน เป็นการจัดตั้งขึ้นเฉพาะกิจอย่างใดอย่างหนึ่ง มีแม่ทัพน้อยเป็นผู้บังคับบัญชา.
กองทุน กองทุน น. เงินหรือทรัพย์สินที่เอามารวมเป็นก้อนเดียวกันเพื่อวัตถุประสงค์อย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ในการสมรส.
กองพล กองพล น. หน่วยทหารซึ่งมีทหารราบ ๓ กรม เป็นหลัก มีทหารหน่วยอื่น ๆ เช่น หน่วยทหารปืนใหญ่ หน่วยทหารรถถัง หน่วยทหารซึ่งมีทหารราบ ทหารขนส่ง หน่วยทหารสารวัตร เป็นส่วนประกอบ มีผู้บัญชาการกองพลเป็นผู้บังคับบัญชา.
กองพัน กองพัน น. หน่วยทหารซึ่งประกอบด้วยทหาร ๔ กองร้อย มีผู้บังคับกองพันเป็นผู้บังคับบัญชา.
กองฟอน กองฟอน น. กองขี้เถ้าศพที่เผาแล้ว.
กองมรดก กองมรดก (กฎ) ดู มรดก.
กองร้อย กองร้อย น. หน่วยทหารที่ประกอบด้วยทหาร ๔ หมวด มีผู้บังคับกองร้อยเป็นผู้บังคับบัญชา.
กองหนุน กองหนุน น. ทหารที่ปลดออกจากประจําการหรือที่ปลดจากกองเกินเมื่ออายุครบกําหนด, ทหารที่จัดไว้เพื่อเพิ่มเติมหรือสับเปลี่ยนแนวหน้า.
ก๊อซ ก๊อซ น. เรียกผ้าบาง โปร่ง ที่ใช้ปิดแผลหรือพันแผลว่า ผ้าก๊อซ. (อ. gauze).
กอด กอด ก. โอบไว้ในวงแขน, โดยปริยายหมายถึงอาการที่มีลักษณะคล้ายคลึงเช่นนั้น.
กอดแข้งกอดขา,กอดมือกอดตีน กอดแข้งกอดขา, กอดมือกอดตีน ก. ประจบประแจง.
ก่อตั้ง ก่อตั้ง ก. จัดตั้งขึ้น, ริเริ่มตั้งขึ้น.
ก่อน ก่อน ว. เดิม, เริ่ม, ลําดับแรก, เช่น แต่ก่อน, ถ้าใช้ประกอบหลังคํานามบอกเวลา หมายความว่า ล่วงมาแล้ว เช่น วันก่อน เดือนก่อน, ถ้าใช้ประกอบหน้าคํานามบอกเวลา หมายความว่า ยังไม่มาถึง เช่น ก่อนเที่ยง, ใช้ประกอบหลังคํากริยา บางกรณีหมายความว่า ให้ระงับยับยั้งไว้ชั่วคราว เช่น หยุดก่อน รอก่อน, บางกรณีหมายความว่า ล่วงหน้า เช่น ไปก่อน.
ก้อน ก้อน น. คําบอกลักษณะของเล็ก ๆ ที่เกาะหรือติดรวมกันแน่น ไม่กําหนดรูปแน่นอน โดยมากมีลักษณะค่อนข้างกลม เช่น ข้าวเกาะกันเป็นก้อน, เรียกสิ่งที่มีลักษณะเช่นนั้น เช่น ก้อนข้าว; สิ่งที่แยกหรือแตกออกจากสิ่งใหญ่ ไม่กําหนดรูปแน่นอน โดยมากมีลักษณะค่อนข้างกลม เช่น ก้อนอิฐ ก้อนหิน ก้อนดิน; ลักษณนามเรียกของเช่นนั้น เช่น ข้าว ๓ ก้อน หิน ๒ ก้อน; โดยปริยายหมายถึง จํานวนรวม เช่น ได้เป็นเงินก้อน; (ถิ่น-ปักษ์ใต้) เงิน ๑ สลึง (ที่สงขลามีค่า = ๑๕ สตางค์).
ก้อนขี้หมา ก้อนขี้หมา น. ปุ่มเหนือปลายปากบนของจระเข้, ขี้หมา หรือ หัวขี้หมา ก็เรียก.
ก้อนเส้า ก้อนเส้า น. ก้อนดิน ก้อนอิฐ หรือก้อนหินเป็นต้นที่เอามาตั้งต่างเตา; ชื่อดาวฤกษ์ภรณี มี ๓ ดวง.
กอบ กอบ ก. เอามือ ๒ ข้างรวบสิ่งของเข้ามาจนนิ้วก้อยของมือชิดกันแล้วยกขึ้น.<2t>น. เรียกของที่กอบขึ้นครั้งหนึ่ง ๆ ว่า กอบหนึ่ง ๆ, ลักษณนามเรียกปริมาณของของที่กอบขึ้นมาเช่นนั้น เช่น ทรายกอบหนึ่ง ข้าวสาร ๒ กอบ.
กอบโกย กอบโกย ก. ขนเอาไปเป็นจํานวนมาก, รวบเอาไปเป็นจํานวนมาก.
กอบด้วย กอบด้วย ว. มี (มักจะใช้ในคําที่กล่าวถึงลักษณะเพิ่มเติม) เช่น นาย ก เป็นผู้มีอํานาจและกอบด้วยเมตตา, ประกอบด้วย.
กอบนาง กอบนาง น. ชื่อไม้เถาชนิด Chilocarpus costatus Miq. ในวงศ์ Apocynaceae พบทางปักษ์ใต้ มียางขาว, ย่านกอบนาง ก็เรียก.
ก๊อบปี้ ก๊อบปี้ น. กระดาษที่ใช้สําหรับทําสําเนา เรียกว่า กระดาษก๊อบปี้. (อ. carbon paper); (ปาก) ลักษณนามเรียกสําเนาหนังสือ เช่น ก๊อบปี้หนึ่ง สําเนา ๒ ก๊อบปี้. (อ. copy).
กอปร กอปร [กอบ] ก. ประกอบ.
ก้อม ก้อม (โบ) น. ปลาย.<2t>ว. ค่อม, เตี้ย.<2t>ก. ก้ม.
กอมก้อ กอมก้อ (ถิ่น-พายัพ) น. ต้นกะเพรา. (ดู กะเพรา).
ก่อมก้อ ก่อมก้อ ว. ค่อม, เตี้ย, เช่น มีเจ่งตาบอดพลาย<2t>ก่อมก้อ. (โลกนิติ).
กอย กอย น. คนป่าพวกหนึ่ง ตัวดํา ผมหยิก อยู่ในแหลมมลายู, เงาะ ก็เรียก.
ก้อย,ก้อย ๑ ก้อย ๑ น. นิ้วเล็กที่สุดของนิ้วทั้ง ๕ เรียกว่า นิ้วก้อย; ในการเล่นปั่นแปะหรือโยนหัวโยนก้อย เรียกสมมุติด้านหนึ่งของสตางค์หรือเหรียญกระษาปณ์ว่า ด้านก้อย, คู่กับ ด้านหัว; โดยปริยายหมายความว่า เล็ก เช่น หัวเท่ากิ่งก้อย คือ หัวเล็กนิดเดียว, ไม่รู้จักนิ้วก้อยหัวแม่มือ หมายความว่า ไม่รู้จักเด็กไม่รู้จักผู้ใหญ่ หรือ ไม่รู้จักตํ่าสูง.
ก้อย,ก้อย ๒ ก้อย ๒ น. ชื่ออาหารชนิดหนึ่ง คล้ายพล่า ทำด้วยกุ้งสด เรียกว่า ก้อยกุ้ง; (ถิ่น-อีสาน) ชื่ออาหารชนิดหนึ่ง ทำจากเนื้อ ปลา กุ้ง ที่ดิบ ๆ คล้ายพล่า.
ก๋อย ก๋อย ดู อีก๋อย.
ก้อร่อก้อติก ก้อร่อก้อติก ว. แสดงอาการเจ้าชู้, ทําเป็นเจ้าชู้.
ก้อร่อก้อติก ก้อร่อก้อติก ว. อาการที่ทําเป็นเจ้าชู้.
ก่อร่างสร้างตัว ก่อร่างสร้างตัว ก. ตั้งเนื้อตั้งตัวได้เป็นหลักฐาน.
กอริลลา กอริลลา น. ชื่อลิงไม่มีหางชนิด Gorilla gorilla ในวงศ์ Pongidae เป็นลิงที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ตัวสูงขนาดคนแต่ลํ่าสันและแข็งแรงกว่ามาก มีถิ่นกําเนิดในทวีปแอฟริกา.
ก่อฤกษ์ ก่อฤกษ์ ก. ทําพิธีเริ่มก่อสร้าง เช่น วางอิฐวางหิน.
กอล์ฟ กอล์ฟ น. กีฬาชนิดหนึ่ง ใช้ไม้ตีลูกกลมผ่านพื้นที่ขวางกั้นที่เตรียมไว้ให้มีลักษณะต่าง ๆ กัน เช่น เป็นหลุมทราย บ่อนํ้า ให้ไปลงหลุมที่กําหนด. (อ. golf).
ก่อแล้วต้องสาน ก่อแล้วต้องสาน (สํา) ก. เริ่มอะไรแล้วต้องทําต่อให้เสร็จ.
กอและ,กอและ ๑ กอและ ๑ (ถิ่น-ปักษ์ใต้) น. ชื่อเรือประมงตามชายฝั่งทะเลทางภาคใต้ รูปร่างยาวเพรียว หัวและท้ายเรือแหลมสูง เขียนลวดลายสีสันต่าง ๆ ไว้อย่างสวยงาม.
กอและ,กอและ ๒ กอและ ๒ (ถิ่น-ปักษ์ใต้) น. เรียกอาหารชนิดหนึ่ง ทำด้วยไก่ที่ถอดกระดูก ชุบเครื่องปรุงรส ปิ้งให้สุก ว่า ไก่กอและ.
ก่อสร้าง ก่อสร้าง ก. ก่อและสร้างโดยใช้อิฐและปูนเป็นส่วนใหญ่.
ก่อหวอด ก่อหวอด ก. เริ่มจับกลุ่มเพื่อทําการอย่างใดอย่างหนึ่ง.
กอเอี๊ยะ กอเอี๊ยะ น. ขี้ผึ้งปิดแผลชนิดหนึ่งแบบจีน. (จ.).
กะ,กะ ๑ กะ ๑ น. เครื่องหมายบอกทํานองสวด เช่น กะมหาชาติคําหลวง, ทํานองสวด เช่น สวดกะ; รอบการเข้าเวร, ระยะเวลาที่ผลัดเปลี่ยนกันทํางาน, เช่น กะแรก กะที่ ๒.<2t>ก. กําหนด, หมาย, คะเน, ประมาณ.
กะ,กะ ๒ กะ ๒ ว. ใช้รวมกับคําวิเศษณ์ เช่น เหมือนกะ ราวกะ ถึงกะ.<2t>บ. ใช้นําหน้าผู้รับพูดหรือรับบอก เช่น พี่พูดกะน้อง เขากล่าวกะฉัน เขาบอกกะท่าน.<2t>สัน. ใช้แทนคําว่า กับ เช่น ยายกะตา, ใช้แทนคําว่า แก่ เช่น มีกะใจ. (เป็นคําเสียงกร่อนมาจาก กับ หรือ แก่).
กะ,กะ ๓ กะ ๓ น. ส่วนของสมอแบบหนึ่ง ลักษณะคล้ายแขนยื่นออกไป ๒ ข้าง สำหรับช่วยยึดเกาะติดพื้นท้องน้ำ.
กะ,กะ ๔ กะ ๔ น. ชื่อเงื่อนชนิดหนึ่ง ใช้สำหรับผูกเรือเพื่อคล้องกับที่ยึดหรือเสายึดเรือ เป็นเงื่อนที่แน่นแต่แก้ออกง่าย, ถ้าผูกเงื่อนชนิดทำห่วงไว้ก่อน เรียกว่า กะห่วง.
กะ,กะ- ๕ กะ- ๕ พยางค์หน้าอันใช้เป็น กระ- ได้, แต่มีบางคําซึ่งต้องการพยางค์นี้เพื่อสละสลวยหรือเน้นคําให้เด่นขึ้น เช่น เกริก เป็น กะเกริก, หรือเกิดเป็นพยางค์หน้าขึ้น โดยแยกเอาตัวสะกดในแม่กกแห่งคําหน้ามานํา เช่น นกยาง เป็น นกกะยาง, ผักโฉม เป็น ผักกะโฉม, ลูกดุม เป็น ลูกกะดุม.ต่อไปนี้เป็นคําที่ขึ้นด้วยพยางค์ กะ- ซึ่งเคยใช้เป็นกระ- ได้, ให้ดูคําแปลที่ กระ- นั้น ๆ คือ :-กะเกริก, กะเกริ่น.กะง่อนกะแง่น, กะเง้ากะงอด.กะจก, กะจ้อน, กะจ้อยร่อย, กะจะ, กะจัง, กะจับ, กะจับปิ้ง, กะจับปี่, กะจ่า, กะจาด, กะจาบ, กะจิบ, กะจิริด, กะจี้, กะจุก, กะจุ๋งกะจิ๋ง, กะจุบ, กะจุ๋มกะจิ๋ม, กะจุย, กะจู้, กะจู๋กะจี๋, กะเจอะกะเจิง, กะเจา, กะเจ้า, กะเจาะ, กะเจิง, กะเจิดกะเจิง, กะเจี้ยง, กะเจี๊ยบ, กะเจียว, กะแจะ, กะโจน, กะโจม.กะฉอก, กะฉ่อน, กะฉับกะเฉง, กะฉีก, กะฉูด, กะเฉด, กะโฉม.กะชดกะช้อย, กะชอน, กะชั้น, กะชับ, กะชาก, กะชาย, กะชุ, กะชุ่มกะชวย, กะแชง.กะซิก, กะซิบ, กะซุง, กะซุบกะซิบ, กะเซ็น, กะเซอ, กะเซอะกะเซอ, กะเซอะกะเซิง, กะเซ้า, กะเซิง, กะแซะ.กะดก, กะด้ง, กะดวง, กะดวน, กะด้วมกะเดี้ยม, กะดอ, กะดอง, กะดอน, กะดอม, กะดักกะเดี้ย, กะดังงา, กะดาก, กะด้าง, กะดางลาง, กะดาน, กะดิก, กะดิ่ง, กะดิบ, กะดี่, กะดี้, กะดี้กะเดียม, กะดึง, กะดุกกะดิก, กะดุ้งกะดิ้ง, กะดุบกะดิบ, กะดุม, กะดูก, กะเด็น, กะเด้า, กะเดาะ, กะเดิด, กะเดียด, กะเดือก, กะเดื่อง, กะแด็ก ๆ, กะแด้แร่, กะแด่ว, กะแดะ, กะโดก, กะโดด, กะโดน, กะได.กะตรกกะตรํา, กะต้อ, กะตรับ, กะตรุม,กะต้วมกะเตี้ยม, กะต่องกะแต่ง, กะต๊อบ, กะต้อยตีวิด, กะตัก, กะตั้ว, กะต่าย, กะติก, กะตือรือร้น, กะตุก, กะตุกกะติก, กะตุ้งกะติ้ง, กะตุ้น, กะเตง, กะเต็น, กะเตอะ, กะเตาะ, กะเตาะกะแตะ, กะเตื้อง, กะแต, กะโตกกะตาก.กะถด, กะถั่ว, กะถาง, กะถิก, กะถิน, กะเถิบ, กะโถน.กะทง, กะทบ, กะทอก, กะท่อนกะแท่น, กะท่อม, กะท้อมกะแท้ม, กะทะ, กะทั่ง, กะทั่งติด, กะทา, กะทาย, กะทาหอง, กะทํา, กะทิง, กะทึง, กะทืบ, กะทุง, กะทุ้ง, กะทุ่ม, กะทุ่มหมู, กะทู้, กะเท่, กะเทียม, กะแทก.กะนั้น, กะนี้, กะโน้น, กะไน.กะบก, กะบวย, กะบะ, กะบั้วกะเบี้ย, กะบาก, กะบาย, กะบิ, กะบิด, กะบี่, กะบุง, กะบุ่มกะบ่าม, กะบู้กะบี้, กะบูน, กะเบน, กะเบา, กะเบียด, กะเบียน, กะเบื้อง, กะแบกงา, กะแบะ.กะปรี้กะเปร่า, กะป้อกะแป้, กะป๋อง, กะปอดกะแปด, กะปั้วกะเปี้ย, กะป่ำ, กะปุก, กะปุ่มกะป่ำ, กะเป๋า, กะเปาะ, กะโปก.กะผลีกะผลาม, กะผีก.กะพอก, กะพอง, กะพัก, กะพัง, กะพังเหิร, กะพังโหม, กะพัน, กะพี้, กะพือ, กะพุ้ง, กะเพาะ, กะเพิง, กะเพื่อม.กะฟัดกะเฟียด, กะฟูมกะฟาย.กะมัง, กะมิดกะเมี้ยน, กะเมาะ.กะย่องกะแย่ง, กะย่อม, กะยาง, กะยาหงัน, กะยิ้มกะย่อง, กะยืดกะยาด.กะรอก, กะเรียน, กะไร.กะลําพัก, กะลําพุก, กะลุมพุก, กะลุมพู.กะวาน, กะวิน, กะวีกะวาด, กะวูดกะวาด, กะเวยกะวาย, กะแวน.กะสง, กะสม, กะสร้อย, กะสวน, กะสวย, กะสอบ, กะสัง, กะสัน, กะสับกะส่าย, กะสา, กะสาบ, กะสาย, กะสือ, กะสุน, กะสูบ, กะเสด, กะเส็นกะสาย, กะเส่า, กะเสาะกะแสะ, กะเสือกกะสน, กะแสง, กะแสะ.กะหนก, กะหนาบ, กะหมั่ง, กะหัง, กะหึม, กะหืดกะหอบ, กะแห, กะแหน่, กะแหนะ, กะโห้.กะอ้อกะแอ้, กะออดกะแอด, กะออม, กะอ้อมกะแอ้ม, กะแอก, กะแอม, กะไอ.
กะกร่อม กะกร่อม (ถิ่น-ปักษ์ใต้) น. เครื่องมือจับปูทะเล เป็นของชาวประมงตั้งแต่จังหวัดชุมพรถึงสุราษฎร์ธานี, บางทีเรียกว่า กร่อม หรือ ตะกร่อม, ใช้ไม้ไผ่อันเดียวผ่าตอนปลายออกเป็น ๔ ซี่ และซี่เหล่านั้นเหลาให้อ่อน จะเป็นรูปกลมหรือแบนก็ได้ เอาวงแหวนทําด้วยไม้ไผ่หรือหวายหรือลวดใส่ในหว่างซี่เหล่านั้นเพื่อบังคับให้ถ่างออก.
กะกร้าว กะกร้าว (กลอน) ว. มีเสียงอย่างขบฟันดังกร้วม ๆ, (โบ) เขียนเป็น กกร้าว ก็มี เช่น กเกรอกขบฟนนก็ดูร้าว กกร้าวขบฟนนกดูแรง. (ม. คําหลวง มหาราช).
กะกลิ้ง กะกลิ้ง น. โกฐกะกลิ้ง. (ดู โกฐกะกลิ้ง).
กะก่อง กะก่อง (กลอน) ว. งดงาม เช่น คางเพลาคือกลวิมลกัณ-<2t>ฐกะก่องคือแสงสรวล. (สมุทรโฆษ).
กะกัง กะกัง น. พี่ชาย. (ช. kakang).
กะกึก กะกึก (กลอน) ว. กึก ๆ เช่น ดังกะกึกกุกกักชักสายพาดขึ้นกับไก. (ม. ร่ายยาว กุมาร).
กะเกณฑ์ กะเกณฑ์ ก. บังคับ, กําหนดเป็นเชิงบังคับ.
กะเกาะ กะเกาะ (กลอน) ว. เสียงดังเช่นนั้น เช่น เคาะพระทวารดังกะเกาะก้องกึก. (ม. ร่ายยาว ชูชก).
กะโกระ กะโกระ [-โกฺระ] (ถิ่น-ปักษ์ใต้) น. ภาชนะชนิดหนึ่งสานด้วยใบเตย รูปร่างคล้ายครุ.
กะง้องกะแง้ง กะง้องกะแง้ง (ถิ่น-พายัพ) ว. คดไปคดมา, งอไปงอมา.
กะจัง กะจัง ดู กระจัง ๒.
กะแจะ กะแจะ ดู กระแจะ ๒.
กะชะ กะชะ น. ภาชนะสานชนิดหนึ่ง ตั้งได้คล้ายตะกร้า รูปร่างสูงตรงขึ้นไป สําหรับบรรจุเครื่องเดินทาง เช่น ผ้าและอาหาร ปากไม่มีขอบ เพื่อบีบให้ติดกันแล้วร้อยเชือกแขวนไปบนหลังสัตว์บรรทุก เป็นต้น; (ถิ่น-ปักษ์ใต้) ตะกร้าชนิดหนึ่ง.
กะชัง กะชัง (โบ) น. นํ้าปัสสาวะแห่งทารก, นํ้าครํ่า, เขียนเป็น กระชัง ก็มี. (มิวเซียม). (ดู กระชัง ๓).
กะชามาศ กะชามาศ น. ทองที่เกิดในนํ้า. (ปาเลกัว).
กะชิง,กะชิง ๑ กะชิง ๑ ดู กรรชิง.
กะชิง,กะชิง ๒ กะชิง ๒ ดู กะพ้อ ๒.
กะชึ่กกะชั่ก กะชึ่กกะชั่ก ว. ติด ๆ ขัด ๆ, ไปไม่สะดวก.
กะแช่ กะแช่ น. นํ้าเมาชนิดหนึ่ง ใช้ข้าวเหนียวนึ่งหมักแช่กับแป้งเชื้อ แต่ยังมิได้กลั่นเป็นสุรา.
กะซวก กะซวก (ปาก) ก. แทง เช่น กะซวกไส้.
กะซ้าหอย กะซ้าหอย ดู กะส้าหอย.
กะซี่ กะซี่ น. ผลหมากที่แกนไม่มีไส้ขาว, กะซี้ ก็ว่า เช่น กินหมากกะซี้ เป็นหนี้เขาจนตาย.
กะโซ่,กะโซ้,กะโซ้ ๑ กะโซ่, กะโซ้ ๑ น. เผ่าข่าโซ้ เป็นชาวป่าทางภาคอีสานของไทย มีลักษณะคล้ายเขมร. (วิทยาจารย์).
กะโซ้,กะโซ้ ๒ กะโซ้ ๒ (ถิ่น-อีสาน) น. เครื่องวิดนํ้ารูปร่างคล้ายเรือครึ่งท่อน, โชงโลง.
กะดก กะดก (ถิ่น-ปักษ์ใต้) น. กาบ เช่น กะดกหมาก = กาบหมาก, ชาวพื้นเมืองเรียกว่า ดก.
กะดง กะดง ดู ชาปีไหน.
กะดวน กะดวน ก. ตอกลิ่มเข้าไปในไม้. (ปาเลกัว).
กะดอก ๆ กะดอก ๆ (ถิ่น-ปักษ์ใต้) ว. เปล่า ๆ, เฉย ๆ.
กะดะ กะดะ (ถิ่น-ปักษ์ใต้) ก. สอย, กระทุ้ง.
กะดังบาย กะดังบาย ดู กะตังใบ.
กะดัด กะดัด (ถิ่น-ปักษ์ใต้) น. ต้นราชดัด. (ดู ราชดัด).
กะด้าง กะด้าง (ถิ่น-พายัพ) น. ต้นกระด้าง. [ดู กระด้าง ๑ (๒)].
กะดำกะด่าง กะดำกะด่าง ว. ดํา ๆ ด่าง ๆ, สีไม่เสมอกัน.
กะดี กะดี น. โรงที่ประชุมทําพิธีฝ่ายศาสนาอิสลาม นิกายเจ้าเซ็น เช่น กะดีเจ้าเซ็นแขกเต้น ตีอก. (นิ. ประธม). (เทียบ ฮินดี คัดดี ว่า พระแท่น).
กะดี่ กะดี่ ก. ดีดหรืองัดของหนักขึ้น เช่น กะดี่ซุง กะดี่เสา.
กะดุ้ง กะดุ้ง (ถิ่น-อีสาน) น. เครื่องมือจับสัตว์นํ้าชนิดหนึ่งรูปร่างคล้ายยอยก, เรียกเป็นสามัญว่า สะดุ้ง.
กะเด้ กะเด้ (ถิ่น) ว. ประเดี๋ยว เช่น รอกะเด้ = รอประเดี๋ยว, เดี๋ยวนี้ เช่น ไปกะเด้ = ไปเดี๋ยวนี้.
กะเดก กะเดก ว. โยก, โคลง.
กะเดี๋ยว กะเดี๋ยว (ปาก) ว. ประเดี๋ยว.
กะได กะได (โบ) ว. เคย เช่น เดาะกะไดไดเลียม<2t>ลอดเคล้น. (นิ. นรินทร์).
กะตรุด กะตรุด [-ตฺรุด] (กลอน) น. ตะกรุด เช่น พระกะตรุดเลศเลขลง<2t>เลิศแล้ว. (พยุหยาตรา), กะตุด ก็ใช้.
กะตอก กะตอก (ถิ่น-ปักษ์ใต้) น. กระโถน.
กะต่อย,กะต่อย ๑ กะต่อย ๑ (ถิ่น-ปักษ์ใต้) ว. เล็ก, ลีบ, เช่น สะตอกะต่อย ว่า ลูกสะตอลีบ.
กะต่อย,กะต่อย ๒ กะต่อย ๒ น. พลูป่า เรียกว่า พลูกะต่อย. (ปรัดเล).
กะตัก กะตัก น. ชื่อปลาทะเลขนาดเล็กทุกชนิดในสกุล Encrasicholina และ Stolephorus ในวงศ์ Engraulidae รูปร่างยาว กลม หรือแบนข้างเล็กน้อยแล้วแต่ชนิด ปากกว้าง ที่สันท้องระหว่างครีบท้องและครีบก้นมีหนามแหลม ๒-๗ อัน ข้างลําตัวมีสีเด่นเป็นเพียงแถบสีเงินพาดตลอดตามยาว มักอยู่รวมกันเป็นฝูงใหญ่ใกล้ฝั่ง อาจคละกันหลายชนิด, หัวอ่อน ไส้ตัน เส้นขนมจีน หัวไม้ขีด มะลิ เก๋ย เรียกปะปนกันระหว่างชนิด หรือต่างกันตามท้องถิ่นที่จับ.
กะตั้ก,กะตั้ก ๆ กะตั้ก, กะตั้ก ๆ (ปาก) น. กองใหญ่, จำนวนมากมาย, เช่น เขามีเงินเป็นกะตั้ก ๆ.
กะตัง กะตัง น. การขึ้นเกล็ด.
กะตังกะติ้ว,กะตังกะติ้ว ๑ กะตังกะติ้ว ๑ น. นํ้ายางที่ได้จากไม้เถาหลายชนิดในวงศ์ Apocynaceae เช่น มวก (Parameria barbata Schum.) กะตังกะติ้ว หรือ คุยช้าง (Willughbeia edulis Roxb.) และ ตังติ้ว (Urceola esculenta Benth.).
กะตังกะติ้ว,กะตังกะติ้ว ๒ กะตังกะติ้ว ๒ น. ชื่อไม้เถาชนิด Willughbeia edulis Roxb. ในวงศ์ Apocynaceae มีนํ้ายางขาว, คุยช้าง ก็เรียก.
กะตังใบ กะตังใบ น. ชื่อไม้พุ่ม ๒ ชนิด ในสกุล Leea วงศ์ Leeaceae คือ ชนิด L. indica (Burm.f.) Merr. ใบเป็นใบประกอบ ใบย่อยรูปไข่ปลายแหลม ดอกเล็ก สีขาวอมเขียว ออกเป็นช่อตามยอด ผลสีเขียว ใบใช้ทํายาได้, กะดังบาย ก็เรียก; และชนิด L. rubra Blume ex Spreng. ดอกมีก้านช่อ ดอกและผลสีแดง, เขือง ก็เรียก.
กะตังมูตร กะตังมูตร [-มูด] น. ปัสสาวะที่ขึ้นเกล็ดที่ผิวหน้า.
กะต่า กะต่า (ถิ่น-อีสาน) น. ตะกร้า, ตะกร้ามีหูหิ้ว; หูก.
กะต๊าก กะต๊าก ว. เสียงไก่ตัวเมียร้องเมื่อตกใจหรือออกไข่.
กะต้ำ กะต้ำ น. เครื่องมือจับสัตว์นํ้าตามริมฝั่งชนิดหนึ่ง ใช้เฝือกกั้นเป็นคอก ๓ ด้าน ด้านหนึ่งมีประตูเปิดปิดได้ ในคอกสะด้วยกิ่งไม้เพื่อล่อให้ปลาเข้าอยู่, ต้อน ก็ว่า.
กะติ๊กริก กะติ๊กริก ว. เริ่มมีเนื้อมีหนังขึ้น (มักใช้แก่เด็ก).<2t>ก. จริตจะก้าน, ระริก.
กะติงกะแตง กะติงกะแตง ก. กุลีกุจอ เช่น พระชาลีก็ลีลาแล่นไปก่อน กะติงกะแตงต้อนรับ. (ม. กาพย์ กุมาร), กะตึงกะแตง ก็ใช้.
กะตีบ กะตีบ (ถิ่น-ปักษ์ใต้) น. ต้นมะแฟน. (ดู มะแฟน).
กะตึงกะแตง กะตึงกะแตง ก. กะติงกะแตง.
กะตุ๊ก,กะตูก กะตุ๊ก, กะตูก ก. ร้องกระแทกเสียงที่ริมหูคนอื่นว่า กะตุ๊ก จนหูอื้อ เป็นการล้อกันเล่น เรียกว่า กะตูกที่หู.
กะตุด กะตุด (ปาก) น. ตะกรุด, บางทีเรียก กะตรุด ก็มี.
กะตุมู กะตุมู (ถิ่น-ปักษ์ใต้) น. ต้นขมิ้นอ้อย. (ดู ขมิ้นอ้อย).
กะเตก กะเตก ก. ไสช้างให้เดิน, มักพูดสั้น ๆ ว่า เตก.
กะเตง กะเตง ก. พาหรือเอาไปด้วย เช่น จะกะเตงกระเป๋าไปให้เกะกะทำไม กะเตงลูกไปตามหาพ่อ.
กะเตง ๆ กะเตง ๆ ว. ลักษณะที่ไปอย่างไม่เรียบร้อยคล้ายกับมีของถ่วงอยู่ข้างหนึ่ง เช่น อุ้มลูกกะเตง ๆ พายเรือกะเตง ๆ, กะเตงเรง ก็ว่า, ลักษณะที่ไปอย่างเรื่อยเปื่อย เช่น วัน ๆ ได้แต่กะเตง ๆ ไปโน่นไปนี่.
กะเตงเรง กะเตงเรง ว. กะเตง ๆ.
กะแตว กะแตว ว. ลักษณะที่ไปรบกวนบ่อย ๆ, หย่อย ๆ, เซ้าซี้.
กะแต่ว กะแต่ว ว. แสดงลักษณะของการร้องหรือการทวงสิ่งของบ่อย ๆ ว่า ร้องกะแต่ว ๆ.
กะโต๊ก กะโต๊ก ว. เสียงไก่ตัวผู้ร้อง.
กะโตงกะเตง กะโตงกะเตง ว. โตง ๆ เตง ๆ, ติดอยู่รุงรัง, พัวพัน.
กะโต้งโห่ง กะโต้งโห่ง ว. เสียงนกยูงร้อง.
กะถัว กะถัว น. นกกระตั้ว. (พจน. ๒๔๙๓).
กะทกรก กะทกรก น. (๑) ชื่อไม้พุ่มรอเลื้อยชนิด Olax scandens Roxb. ในวงศ์ Olacaceae ตามลําต้นมีหนามห่าง ๆ ใบรูปไข่หรือรี ๆ ดอกเล็ก สีขาว อยู่เป็นกระจุกที่ง่ามใบ ผลกลมหรือรีขนาดเท่าเม็ดบัวเขื่อง ๆ เป็นสมุนไพรที่รู้จักกันทั่วไป, นํ้าใจใคร่ นางจุม หรือ นางชม ก็เรียก, อุดรเรียก เยี่ยวงัว.<2t>(๒) ชื่อไม้เถาชนิด Passiflora foetida L. ในวงศ์ Passifloraceae มีมือเกาะ ใบป้อมมี ๓ หยัก ดอกสีขาว ผลกลม เมื่อสุกสีเหลือง มีกาบเป็นฝอยหุ้ม ยอดนํามาต้มใช้เป็นผัก, เถาเงาะ เงาะป่า หญ้ารกช้าง เถาสิงโต ถลกบาตร หรือ กระโปรงทอง ก็เรียก.
กะทอ กะทอ น. ภาชนะสานด้วยไม้ไผ่ตาโปร่งอย่างชะลอม รูปร่างเป็นกระบอก สําหรับใส่เสื้อผ้าและของอื่น ๆ ใช้กันมากในภาคอีสาน.
กะทัง กะทัง (ถิ่น-ปักษ์ใต้) น. ชื่อไม้ต้นขนาดกลางชนิด Litsea monopetala (Roxb.) Pers. ในวงศ์ Lauraceae มีมากทางปักษ์ใต้ ใบเมื่อขยี้มีกลิ่นฉุนคล้ายการบูร ไม้ใช้ก่อสร้างบ้านเรือนได้.
กะทังหัน กะทังหัน น. ชื่อไม้ต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ชนิด Calophyllum thorelii Pierre ในวงศ์ Guttiferae ดอกสีขาว ผลเล็ก รูปไข่ เนื้อไม้ใช้ทําพื้น ฝา เสาบ้าน และเสากระโดงเรือได้.
กะทัดรัด กะทัดรัด ว. สมทรง, สมส่วน, เหมาะเจาะ.
กะทัน กะทัน (ถิ่น-พายัพ, อีสาน) น. ต้นพุทรา. (ดู พุทรา).
กะทันหัน กะทันหัน ว. ทันใด, ปัจจุบันทันด่วน, จวนแจ.
กะทับ กะทับ น. นกตะขาบ. (พจน. ๒๔๙๓).
กะทำ กะทำ (โบ) ก. กระทํา, ทํา.
กะทิ,กะทิ ๑ กะทิ ๑ น. นํ้าที่คั้นออกจากมะพร้าวขูดโดยเจือนํ้าบ้างเล็กน้อย, ถ้าคั้นจากเนื้อมะพร้าวขูดล้วน ๆ เรียกว่า หัวกะทิ, ของหวานทําด้วยนํ้าตาลกวนกับมะพร้าวคล้ายหน้ากระฉีก แต่ใช้นํ้าตาลมากกว่า เรียกว่า นํ้าตาลกะทิ, มะพร้าวห้าวที่มีนํ้าข้น เนื้ออ่อนกล้ามหนา เรียกว่า มะพร้าวกะทิ.<2t>ว. โดยปริยายหมายความว่า ที่ดีเด่นเป็นพิเศษ เรียกว่า หัวกะทิ.
กะทิ,กะทิ ๒ กะทิ ๒ ดู กระติ๊ด ๑.
กะทิขูด กะทิขูด ดู สีกรุด.
กะทือ กะทือ น. ชื่อไม้ล้มลุกชนิด Zingiber zerumbet (L.) Smith ในวงศ์ Zingiberaceae ดอกสีเหลือง ผลกลมสีแดง เหง้าสีเหลืองอ่อน กลิ่นหอม ใช้ทํายาได้ เมื่ออ่อนใช้ปรุงอาหาร ช่อดอกอ่อนใช้เป็นผัก.
กะทุน กะทุน น. ชื่อแมลงพวกแมลงปอ แมลงปอเข็ม และแมลงช้างตัวเต็มวัยซึ่งมีลักษณะคล้ายแมลงปอ แต่มีหนวดยาว, ในบางจังหวัดเช่น นครปฐม ราชบุรี สุพรรณบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม สมุทรปราการ เรียก กระทุน กระชุน หรือ ปะทุน.
กะเทย กะเทย น. คนที่มีอวัยวะเพศทั้งชายและหญิง, คนที่มีจิตใจและกิริยาอาการตรงข้ามกับเพศของตน; ผลไม้ที่เมล็ดลีบ เช่น ลําไยกะเทย. (อะหม ว่า เทย).
กะเทยนางหมั่น กะเทยนางหมั่น น. ชื่อลิ้นจี่พันธุ์หนึ่งที่เคยปลูกในกรุงเทพมหานคร.
กะเทาะ กะเทาะ ก. ล่อนหลุดออกมาเป็นชิ้น ๆ หรือเป็นแผ่น ๆ, ทําให้ล่อนหลุดออก เช่น กะเทาะเม็ดบัว.<2t>น. สิ่งของหรือเปลือกไม้ที่หลุดล่อนออกมาจากพื้นเดิมหรือจากต้น เช่น กะเทาะมะขาม.
กะแท้ กะแท้ น. ชื่อแมลงพวกมวนขนาดเล็ก ตัวยาว ๘-๑๒ มิลลิเมตร รูปร่างคล้ายโล่ สีนํ้าตาลแก่อมดําหรือสีเกือบดํา เมื่อจับต้องตัวจะปล่อยกลิ่นฉุนเหม็นติดมือ บางทีคล้ายกลิ่นอุจจาระของคน มีหลายชนิด ที่พบกันแพร่หลาย ได้แก่ ชนิด Geotomus pygmaeus ในวงศ์ Podopidae.
กะแท่ง กะแท่ง น. ชื่อไม้ล้มลุกในสกุล Amorphophallus วงศ์ Araceae ต้นเล็กราวเท่านิ้วมือ เวลาออกดอกไม่มีใบ ก้านช่อดอกอ่อน ๆ ใช้แกงได้, พายัพเรียก ดอกก้าน.
กะแทน กะแทน ดู มะแฟน.
กะนวล กะนวล น. ชื่อไม้ต้นขนาดกลางชนิด Garcinia merguensis Wight ในวงศ์ Guttiferae มียางสีเหลืองจาง ๆ.
กะนัด กะนัด (ถิ่น-ปักษ์ใต้) น. ไม้แบน ๒ อันนอกตะกอสําหรับขัดเส้นด้ายเพื่อกันด้ายยุ่ง.
กะบอนกะบึง กะบอนกะบึง (กลอน) ก. โกรธอย่างแสนงอน, โดยมากใช้ กะบึงกะบอน.<2t>ว. ไม่รู้จักจบ, เง้า ๆ งอด ๆ, (ใช้แก่กริยาบ่น) เช่น คอยสะบัดปัดกรกะบอนกะบึง. (อิเหนา), โดยมากใช้ กะบึงกะบอน.
กะบ่อนกะแบ่น กะบ่อนกะแบ่น ว. กระท่อนกระแท่น, ไม่เสมอทั่วกัน, ไม่เรียบเสมอกัน, เช่น ตัดผมกะบ่อนกะแบ่น ทาสีกะบ่อนกะแบ่น.
กะบัง,กะบัง ๑ กะบัง ๑ น. เครื่องบัง เช่น กะบังหมวก, เครื่องกั้น, เครื่องรับ, เช่น กะบังหอก.
กะบัง,กะบัง ๒ กะบัง ๒ น. เครื่องมือจับสัตว์นํ้าชนิดหนึ่ง ใช้เสาหรือไม้ลําปักทางซ้ายและทางขวาเรียงกันเป็นลําดับ แล้วเอาเฝือกขนาบกับเสาทั้ง ๒ ข้าง อย่างเดียวกับจิบ แต่ระหว่างกลางทําร้านซึ่งสานด้วยไม้ไผ่ตลอดเป็นทางเพื่อให้ปลาเสือกตัวขึ้นแล้วเลื่อนตกลงไปในถุงอวนหรือตาข่ายที่ดักไว้ปลายทาง ต้องจับในเวลาที่นํ้าไหลเชี่ยว, กะบังรังเฝือก ก็ว่า.
กะบัง,กะบัง ๓ กะบัง ๓ น. ดอกไม้.
กะบัง,กะบัง ๔ กะบัง ๔ น. ดินขาว.
กะบั้ง กะบั้ง (ถิ่น-อีสาน) น. บ้องไม้ไผ่.
กะบังรังเฝือก กะบังรังเฝือก ดู กะบัง ๒.
กะบังลม กะบังลม น. แผ่นกั้นประกอบขึ้นด้วยกล้ามเนื้อและเนื้อพังผืดแยกช่องท้องออกจากช่องอก มีอาการยืดและหดได้เพื่อช่วยในการหายใจ.
กะบังหน้า กะบังหน้า น. กรอบหน้าเป็นเครื่องประดับ.
กะบิ้ง กะบิ้ง น. ของที่เป็นแผ่นเล็ก ๆ, ลักษณนามบอกสัณฐานสําหรับที่ดินน้อย ๆ แปลงหนึ่ง ๆ ว่า กะบิ้งหนึ่ง ๆ.
กะบิล กะบิล น. ระเบียบ, หมู่. (ดู กบิล ๒).
กะบึงกะบอน กะบึงกะบอน ก. โกรธอย่างแสนงอน, กะบอนกะบึง ก็ว่า.<2t>ว. ไม่รู้จักจบ, เง้า ๆ งอด ๆ, (ใช้แก่กริยา บ่น), กะบอนกะบึง ก็ว่า.
กะบุด กะบุด ดู กัง.
กะเบ้อ กะเบ้อ (ถิ่น-พายัพ) น. ผีเสื้อกลางวัน. (ดู ผีเสื้อ ๑).
กะเบียน กะเบียน (ถิ่น-อีสาน) น. ถาดไม้ใช้เป็นสํารับ, กระบะ.
กะเบือ กะเบือ น. เรียกครกดินหรือสากที่ตําข้าวเบือว่า ครกกะเบือ สากกะเบือ. (เพี้ยนมาจาก ข้าวเบือ).
กะปริดกะปรอย กะปริดกะปรอย [-ปฺริด-ปฺรอย] ว. มีอาการออกหรือไหลออกน้อย ๆ หยุดบ้าง ออกบ้าง, อาการที่ฝนตกน้อย ๆ ตก ๆ หยุด ๆ, โดยปริยายหมายถึงอาการที่ทํา ๆ หยุด ๆ ไม่เป็นลํ่าเป็นสัน, กะปริบกะปรอย ก็ว่า.
กะปริบ กะปริบ [-ปฺริบ] ก. กะพริบ, มักใช้ซํ้าคําว่า กะปริบ ๆ หมายความว่า กะพริบถี่ ๆ เช่น ทําตากะปริบ ๆ, ปริบ ๆ ก็ว่า.
กะปริบกะปรอย กะปริบกะปรอย [-ปฺริบ-ปฺรอย] ว. มีอาการออกหรือไหลออกน้อย ๆ หยุดบ้าง ออกบ้าง, อาการที่ฝนตกน้อย ๆ ตก ๆ หยุด ๆ, โดยปริยายหมายถึงอาการที่ทำ ๆ หยุด ๆ ไม่เป็นล่ำเป็นสัน, กะปริดกะปรอย ก็ว่า.
กะปลกกะเปลี้ย กะปลกกะเปลี้ย [-ปฺลก-เปฺลี้ย] ว. อ่อนเพลีย, อ่อนเปลี้ย, ไม่แข็งแรง.
กะปวกกะเปียก กะปวกกะเปียก ว. อ่อนกําลังจนแทบไม่อาจทรงตัวได้ตามลําพัง, ปวกเปียก ก็ว่า.
กะปอม กะปอม (ถิ่น-อีสาน) น. กิ้งก่า. (ดู กิ้งก่า).
กะปอมขาง กะปอมขาง ดู ปอมข่าง.
กะปะ กะปะ น. ชื่องูพิษชนิด Calloselasma rhodostoma ในวงศ์ Viperidae ตัวยาว ๕๐-๘๐ เซนติเมตร ลายสีนํ้าตาลเข้ม บนหลังมีลายรูปสามเหลี่ยมสีนํ้าตาลแก่เรียงสลับเยื้องกันเป็นคู่ ๆ จมูกงอน ริมฝีปากเหลือง และมีแนวสีเหลืองพาดบนลูกตาถึงมุมปาก, ตัวที่มีสีคลํ้าเรียก งูปะบุก.
กะปั่น กะปั่น (โบ) น. กําปั่น. (ตํานานอักษรไทย ของเซเดส์).
กะป้ำกะเป๋อ กะป้ำกะเป๋อ ว. เลอะ ๆ เทอะ ๆ, หลง ๆ ลืม ๆ, ป้ำเป๋อ หรือ ป้ำ ๆ เป๋อ ๆ ก็ว่า.
กะปิ กะปิ น. ของเค็มทําด้วยเคยกับเกลือโขลกและหมักไว้ใช้ปรุงอาหาร, เยื่อเคย ก็ว่า. (พม่า ว่า งาปิ).
กะปู กะปู (ปาก) น. ตะปู.
กะปูด กะปูด น. ชื่อนกในวงศ์ Centropodidae ขนปีกสีนํ้าตาลแดง ลําตัวสีดํา ร้องเสียง ปูด ๆ เดินหรือวิ่งหากินตามพื้นป่าโปร่ง บินได้ในระยะทางสั้น ๆ มี ๓ ชนิด คือ กะปูดใหญ่ (Centropus sinensis) กะปูดเล็ก (C. bengalensis) และกะปูดนิ้วสั้น (C. rectunguis), ปูด ก็เรียก, พายัพเรียก ก้นปูด.
กะปูดหลูด กะปูดหลูด ก. บวมไปทั้งตัว. (ปาเลกัว).
กะเปะ กะเปะ (ถิ่น-ปักษ์ใต้) น. ภาชนะชนิดหนึ่ง สําหรับตักนํ้าขึ้นมาจากบ่อ.
กะเปิ๊บกะป๊าบ กะเปิ๊บกะป๊าบ (ปาก) ว. พูดเสียงดังเอะอะและไม่ระมัดระวังวาจาหรือท่าทาง, มีกิริยาท่าทางหรือแต่งตัวรุงรังไม่เรียบร้อย.
กะเปียด กะเปียด น. ชื่อไม้ต้นขนาดกลางชนิด Premna tomentosa Willd. ในวงศ์ Labiatae ลักษณะคล้ายต้นสัก แต่ใบเล็กกว่า รูปไข่หรือรี ปลายแหลมก้านยาว เนื้อไม้ละเอียด ใช้ทําประโยชน์ได้, พายัพเรียก สักขี้ไก่.
กะแป้น กะแป้น น. เรือหางแมงป่องขนาดเล็ก มีใช้มากตามลํานํ้าปิง.
กะแปะ กะแปะ น. เงินปลีกโบราณ เช่น กะแปะทองแดง กะแปะดีบุก, อีแปะ ก็เรียก.
กะโปรง กะโปรง [-โปฺรง] น. ผ้านุ่งผู้หญิงแบบสากล; ฝาครอบเครื่องรถยนต์หรือฝาครอบที่เก็บของข้างหน้าและข้างหลังรถยนต์; กระบุงรูปกลมสูง ปากผายมาก พื้นก้นเป็นสี่เหลี่ยมเล็กสอบลง ลักษณะคล้ายกระโปรงบาน สำหรับขนข้าวเปลือกหรือมะพร้าวเป็นต้น; ภาชนะเย็บด้วยกาบหมากหรือใบไม้สำหรับใส่ของต่าง ๆ; กระโปรง ก็ใช้.
กะโปโล กะโปโล ว. ไม่ได้เรื่องราว; มอมแมม เช่น เด็กกะโปโล.
กะผลุบกะโผล่ กะผลุบกะโผล่ [-ผฺลุบ-โผฺล่] ว. ผลุบ ๆ โผล่ ๆ.
กะเผ่น กะเผ่น (กลอน) ว. เผ่น, ลอย, เช่น ชมบรรพตเสลาสูงกะเผ่น. (พงศ. เหนือ).
กะเผลก กะเผลก [-เผฺลก] ก. อาการเดินไม่ปรกติ เอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง.
กะโผลกกะเผลก กะโผลกกะเผลก [-โผฺลก-เผฺลก] ว. อาการเดินไม่ปรกติ คือ ยกขาข้างหนึ่งไม่ได้ระดับกับอีกข้างหนึ่งอย่างคนขาพิการเดิน, อาการที่เดินไปด้วยความลําบากหรือเคลื่อนไปบนพื้นที่ที่ขรุขระ ลุ่ม ๆ ดอน ๆ, โขยกเขยก ก็ว่า.
กะพง,กะพง ๑ กะพง ๑ น. ชื่อปลาหลายชนิดในหลายวงศ์ ลำตัวหนา แบนข้างเล็กน้อย หัวโตลาดลงมาจากด้านหลัง ตาค่อนข้างโต ปากกว้าง เช่น กะพงแดง (Lutjanus malabaricus) ในวงศ์ Lutjanidae, กะพงขาว (Lates calcarifer) ในวงศ์ Centropomidae, กะพงลาย (Datnioides quadrifasciatus) ในวงศ์ Lobotidae.
กะพง,กะพง ๒ กะพง ๒ น. ชื่อหอยทะเลกาบคู่ชนิด Musculista senhousia ในวงศ์ Mytilidae เปลือกบางยาวรี สีเขียว มีลายเป็นเส้นสีนํ้าตาล อาศัยอยู่ตามพื้นท้องทะเลที่เป็นเลนปนทราย โดยยึดติดกันเองเป็นกระจุกหรือแผ่เป็นแผ่นใหญ่.
กะพง,กะพง ๓ กะพง ๓ ดู สมพง.
กะพรวดกะพราด กะพรวดกะพราด [-พฺรวด-พฺราด] ว. พรวด ๆ พราด ๆ, ลุกลน, ลนลาน.
กะพร่องกะแพร่ง กะพร่องกะแพร่ง [-พฺร่อง-แพฺร่ง] ว. ขาด ๆ วิ่น ๆ, มีบ้างขาดบ้าง, ไม่สมํ่าเสมอ; ไม่เต็มที่, ไม่ครบถ้วน, ไม่พอเพียง, (ตามที่คาดหมายไว้).
กะพริบ กะพริบ [-พฺริบ] ก. ปิดและเปิดหนังตาโดยเร็ว, โดยปริยายหมายถึงอาการที่คล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น ไฟกะพริบ.
กะพรุน กะพรุน [-พฺรุน] น. แมงกะพรุน.
กะพรูดกะพราด กะพรูดกะพราด [-พฺรูด-พฺราด] ว. มีเสียงดังพรูดพราด.
กะพล้อ,กะพ้อ,กะพ้อ ๑ กะพล้อ, กะพ้อ ๑ น. กระบอกตักนํ้า ปากแฉลบอย่างปากพวยกา.
กะพ้อ,กะพ้อ ๒ กะพ้อ ๒ น. ชื่อปาล์มขนาดย่อมในสกุล Licuala วงศ์ Palmae มีหลายชนิด เช่น ชนิด L. spinosa Thunb. มักขึ้นเป็นกออยู่ริมทะเล หรือในที่ซึ่งนํ้าเค็มขึ้นถึง ลําต้นสูงถึง ๔ เมตร ใบกลม เส้นผ่านศูนย์กลาง ๖๐-๑๑๐ เซนติเมตร แตกเป็นแฉกลึก ก้านใบยาว ขอบก้านมีหนาม, ชนิด L. peltata Roxb. ขึ้นตามป่าดอนในที่ชุ่มชื้นและที่แฉะ ลักษณะคล้ายชนิดแรก แต่ก้านใบลํ้าอยู่ใต้โคนใบ ทั้ง ๒ ชนิดใบใช้ห่อทําไต้ ห่อของ เย็บเป็นร่ม มุงหลังคาชั่วคราว ใบอ่อนใช้มวนบุหรี่, กะชิง ก็เรียก, ปักษ์ใต้เรียก ชิง หรือ ชิ่ง, ปาล์มพวกนี้เรียก พ้อ ก็มี เช่น ใบพ้อพันห่อหุ้ม<2t>กฤษณา. (โลกนิติ).
กะพ้อ,กะพ้อ ๓ กะพ้อ ๓ น. ชื่อนกชนิดหนึ่ง. (พจน. ๒๔๙๓).
กะพอง กะพอง น. ส่วนที่นูนเป็นปุ่ม ๒ ข้างศีรษะช้าง, กระพอง ตระพอง หรือ ตะพอง ก็ว่า.
กะเพรา กะเพรา [-เพฺรา] น. ชื่อไม้ล้มลุกชนิด Ocimum tenuiflorum L. ในวงศ์ Labiatae กลิ่นฉุน ใช้ปรุงอาหาร พันธุ์ที่กิ่งและก้านใบสีเขียวอมแดงเรียก กะเพราแดง ใช้ทํายาได้, พายัพเรียก กอมก้อ.
กะเพียด,กะเพียดช้าง,กะเพียดหนู กะเพียด, กะเพียดช้าง, กะเพียดหนู ดู หนอนตายหยาก (๑).
กะมง,กะม่ง กะมง, กะม่ง ดู ม่ง ๑.
กะเม็ง กะเม็ง น. ชื่อไม้ล้มลุกขนาดเล็กชนิด Eclipta prostrata L. ในวงศ์ Compositae ขึ้นอยู่ทั่วไป ลําต้นสีม่วงคลํ้า ใบเขียวมีขนคาย ดอกสีขาว ใช้ทํายาได้, กะเม็งตัวเมีย หรือ คัดเม็ง ก็เรียก.
กะเม็งตัวผู้ กะเม็งตัวผู้ น. ชื่อไม้ล้มลุกชนิด Wedelia chinensis (Osbeck) Merr. ในวงศ์ Compositae ชอบขึ้นในที่ชื้นแฉะ ทอดลําต้นและออกรากตอนโคน ใบคาย ดอกสีเหลือง ใช้ทํายาได้.
กะเมีย กะเมีย น. ชื่อไม้เถาเนื้อแข็งชนิด Uncaria gambier Roxb. ในวงศ์ Rubiaceae ใบและกิ่งหมักแล้วนําไปสกัดได้สารที่เรียกว่า สีเสียด ใช้ทํายาได้.
กะยุ กะยุ (โบ) ก. ยก, ย่าง, เยื้อง, เช่น กะยุบาทไคลคลา. (เสือโค), กะยุบาทเบื้องปลายตีน. (พิชัยสงคราม).
กะร่องกะแร่ง กะร่องกะแร่ง ว. ร่องแร่ง, ติดห้อยอยู่นิด ๆ หน่อย ๆ, ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน, ไม่สมบูรณ์.
กะระตะ กะระตะ (กลอน) ก. ขับม้าให้วิ่ง เช่น กะระตะอาชาชิงชัย. (อิเหนา). (ช. gértak).
กะระหนะ กะระหนะ น. ชื่อเพลงไทยของเก่า เป็นเพลงเครื่องสายประสมปี่พาทย์ ทําตอนชมสวนหรือเล่นสนุก เช่น ในเรื่องอิเหนาตอนอุณากรรณเล่นมโหรีกับพวกในสวนดอกไม้เมืองกาหลัง.
กะรัง,กะรัง ๑ กะรัง ๑ น. ปะการัง. (ดู ปะการัง).
กะรัง,กะรัง ๒ กะรัง ๒ น. ชื่อปลาทะเลขนาดกลางและขนาดใหญ่หลายชนิดในสกุล Epinephelus, Cephalopholis และ Plectopomus วงศ์ Serranidae รูปร่างยาวป้อม แบนข้างเล็กน้อย เกล็ดเล็ก สีตามตัวและครีบเป็นดอกดวง แต้ม หรือบั้ง ฉูดฉาดหรือคลํ้าทึบแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับชนิดและขนาด พบอาศัยอยู่ตามบริเวณหมู่ปะการัง โขดหินใกล้ฝั่งหรือเกาะ.
กะรัต กะรัต [-หฺรัด] น. หน่วยมาตราชั่งเพชรพลอย ๑ กะรัต เท่ากับ ๒๐ เซนติกรัม หรือ ๓.๐๘๖๕ เกรน, ปริมาณทองคําแท้ที่ประสมอยู่กับธาตุอื่น โดยกำหนดทองคำและโลหะที่ประสมกันนั้นรวมเป็น ๒๔ ส่วน เช่น ทองคํา ๑๔ กะรัต หมายความว่า มีเนื้อทองคํา ๑๔ ส่วน นอกนั้นอีก ๑๐ ส่วนเป็นธาตุอื่นประสม. (อ. carat).
กะรัตหลวง กะรัตหลวง น. มาตรานํ้าหนักตามวิธีประเพณี ใช้สําหรับชั่งเพชรพลอยเท่านั้น เป็นเมตริกกะรัต เท่ากับ ๒๐ เซนติกรัม, อักษรย่อว่า กต.
กะราง,กะลาง กะราง, กะลาง น. ชื่อนกในวงศ์ Timaliidae ตัวขนาดนกเอี้ยง หากินเป็นฝูงตามพื้นดิน มีหลายชนิด เช่น กะรางหัวหงอก (Garrulax leucolophus) กะรางคอดํา (G. chinensis). (ในรําพันนามพฤกษา ฯลฯ ว่า กะราง, ในพระลอ ว่า กะลาง).
กะรางหัวขวาน กะรางหัวขวาน น. ชื่อนกชนิด Upupa epops ในวงศ์ Upupidae ปากยาวแหลมโค้งสีดํา หงอนสีส้มขอบดํา ลักษณะหงอนเหมือนหมวกของอินเดียนแดง ขนตามลําตัวสีนํ้าตาลแดง มีแถบดําขาวสลับกัน, การางหัวขวาน ก็เรียก.
กะริง กะริง น. บ่วงหวายสําหรับดักสัตว์ที่กระโดด เช่นเนื้อและกวาง. (ประพาสมลายู), กระหริ่ง ก็ใช้.
กะริงกะเรียด กะริงกะเรียด (โบ) ว. คําพ้อชนิดหนึ่งว่าทําเป็นหนุ่มเป็นสาวก่อนวัย คล้ายทําก้อร่อก้อติก เช่น เป็นหญิงเจ้าแม่อา อย่าทํากะริงกะเรียด ตัวเจ้ายังน้อยสักเท่าเขียด เจ้ามาวอนแม่จะมีผัว. (มโนห์รา).
กะรุงกะรัง กะรุงกะรัง ว. อาการที่ห้อยหรือแขวนเครื่องประดับเป็นต้น จนดูรุงรัง.
กะรุ่งกะริ่ง กะรุ่งกะริ่ง ว. ขาดออกเป็นริ้ว ๆ, เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย.
กะรุน กะรุน น. แร่ชนิดหนึ่ง ประกอบด้วยธาตุอะลูมิเนียมกับออกซิเจน แต่มักมีสิ่งอื่นผสมอยู่ทําให้มีสีต่าง ๆ เช่น ถ้าเป็นสีแดง เรียกว่า ทับทิม ถ้าเป็นสีนํ้าเงิน เรียกว่า พลอยสีนํ้าเงิน ถ้าเป็นสีเขียว เรียกว่า เขียวส่อง หรือ เขียวมรกต, อินเดีย เรียก คอรุน. (อ. corundum).
กะเร กะเร (ถิ่น-ปักษ์ใต้) น. ต้นต้นตายใบเป็น. (ดู ต้นตายใบเป็น).
กะเรกะร่อน กะเรกะร่อน น. ชื่อกล้วยไม้หลายชนิดในสกุล Cymbidium วงศ์ Orchidaceae อิงอาศัยตามต้นไม้ ใบเขียวหนา ยาว ๒๐-๖๐ เซนติเมตร เช่น กะเรกะร่อนด้ามข้าว (C. bicolor Lindl.) ดอกสีขาว กะเรกะร่อนปากเป็ด (C. finlaysonianum Lindl.) ดอกสีเหลือง ปากสีแดงคลํ้า.
กะเร่กะร่อน กะเร่กะร่อน ก. เร่ร่อนเรื่อยไป, ไม่อยู่ประจําที่.
กะเร่อ กะเร่อ (ถิ่น-ปักษ์ใต้) ว. เซ่อ, เซอะ.
กะเร่อกะร่า กะเร่อกะร่า ว. อาการที่แต่งกายรุ่มร่ามเกินพอดี เช่น เขาแต่งตัวกะเร่อกะร่าผิดกาลเทศะ, ซุ่มซ่าม เช่น เขาเดินกะเร่อกะร่าออกไปกลางถนนเลยถูกรถชน, เซ่อซ่า เช่น เขากะเร่อกะร่าเข้าไปอยู่กับพวกเล่นการพนันเลยถูกจับไปด้วย, เก้งก้าง เช่น เขาเป็นคนท่าทางกะเร่อกะร่าอย่างนั้นเอง, กะเล่อกะล่า เร่อร่า หรือ เล่อล่า ก็ว่า.
กะเรี่ยกะราด กะเรี่ยกะราด ว. เรี่ยราย, กระจัดกระจาย, หกเรี่ยราด; วางหน้าไม่สนิท.
กะโรกะเร กะโรกะเร ก. ง่อนแง่น, จวนจะล้ม. (ปาเลกัว).
กะลวย กะลวย น. เรียกขนหางไก่ตัวผู้ที่ยื่นยาวกว่าเส้นอื่นว่า หางกะลวย.
กะลอ กะลอ (ถิ่น-ปักษ์ใต้) น. ชื่อไม้ต้นขนาดย่อมหลายชนิดในสกุล Macaranga วงศ์ Euphorbiaceae มักขึ้นในป่าใสในที่ชุ่มชื้น ก้านใบลํ้าอยู่ใต้โคนใบ เช่น ชนิด M. tanarius Muell. Arg.
กะล่อกะแล่ กะล่อกะแล่ ว. ทีเล่นทีจริง. (ปาเลกัว).
กะลอจี๊ กะลอจี๊ น. ชื่อขนมของจีนชนิดหนึ่ง ทําด้วยแป้งข้าวเหนียวทอดไฟอ่อน ๆ เวลากินคลุกงาผสมนํ้าตาลทรายขาว.
กะล่อน,กะล่อน ๑ กะล่อน ๑ น. ชื่อมะม่วงชนิด Mangifera caloneura Kurz ในวงศ์ Anacardiaceae ผลเล็ก เนื้อไม่มีเสี้ยน เมื่อสุกมีกลิ่นหอมแรง, ขี้ไต้ ก็เรียก.
กะล่อน,กะล่อน ๒ กะล่อน ๒ ว. พูดคล่อง แต่ไม่จริงเป็นส่วนมาก.
กะล่อมกะแล่ม กะล่อมกะแล่ม ก. เคี้ยวไม่ทันแหลกแล้วรีบกลืน, เคี้ยวไม่ถนัด; พูดอ้อมแอ้มพอให้ผ่านไป, พูดไม่สู้ชัดความเพื่อให้เสร็จไป; กล้อมแกล้ม ก็ว่า.
กะล่อยกะหลิบ กะล่อยกะหลิบ ว. คล่องแคล่วว่องไวในการใช้มืออย่างแนบเนียนน่าดู; ดูเหมือนเมื่อเร็ว ๆ นี้เอง, ดูเหมือนไม่นาน, เช่น ดูกะล่อยกะหลิบเมื่อไม่นานมานี่เอง ล่วงเข้ามาหลายเดือนแล้ว.
กะละปังหา กะละปังหา น. ชื่อสัตว์ทะเลไม่มีกระดูกสันหลัง แต่ละตัวเล็กมาก รูปร่างทรงกระบอกหรือรูปถ้วย สร้างเปลือกเป็นโครงร่างแข็งหุ้มลําตัว มีช่องเปิดให้ตัวโผล่ออกมา อยู่รวมกันเป็นกลุ่ม โครงซากทับถมกันจนมีรูปร่างคล้ายกิ่งไม้ มีสีต่างกันแล้วแต่ชนิด บางชนิดมีขนาดใหญ่และแข็งมาก นิยมนํามาทําเป็นลูกปัดเครื่องประดับ พวกที่อยู่ในอันดับ Gorgonacea มีสีแดง เหลือง ส้ม ม่วง พวกที่อยู่ในอันดับ Antipatharia มีสีดํา, กัลปังหา ก็เรียก. (เทียบมลายู kalam pangha).
กะละมัง กะละมัง น. เรียกชามที่ทําด้วยโลหะเคลือบว่า ชามกะละมัง.
กะละแม กะละแม น. ชื่อขนมชนิดหนึ่ง ทําด้วยข้าวเหนียว กะทิ และ นํ้าตาล กวนจนเหนียวเป็นสีดํา.
กะละออม กะละออม น. ภาชนะสานด้วยไม้ไผ่ ยาชัน รูปคล้ายกระบุง ไม่มีคอ ใช้ใส่น้ำ, กระออม กะออม หรือ กัลออม ก็ว่า. (ทมิฬ กะละยัม แผลงมาจาก ส. กลศ).
กะลังตังไก่ กะลังตังไก่ ดู ตําแย ๑.
กะลัน กะลัน น. ลัน, เครื่องดักปลาไหล ทําด้วยกระบอกไม้ไผ่ มีงาแซง.
กะลันทา กะลันทา ดู คนทา.
กะลา,กะลา ๑ กะลา ๑ น. ส่วนแข็งที่หุ้มเนื้อมะพร้าว ถ้าผ่าซีก ซีกที่มีตา เรียกว่า กะลาตัวผู้ ซีกที่ตัน เรียกว่า กะลาตัวเมีย; เรียกถ้วยชามชนิดเลวเนื้อหยาบหนาว่า ชามกะลา; เรียกผมที่ตัดเป็นรูปกะลาครอบว่า ผมทรงกะลาครอบ; เรียกหมวกที่มีรูปคล้ายกะลาครอบว่า หมวกกะลา หรือ หมวกกะลาครอบ; (ปาก) กะโหลก เป็นคําไม่สุภาพ เช่น ไม่เจียมกะลาหัว คุ้มกะลาหัว.<2t>(สํา) ว. ไม่มีค่า เช่น เก่ากะลา.
กะลา,กะลา ๒ กะลา ๒ น. ชื่อไม้ล้มลุกชนิด Etlingera elatior (Jack) R.M. Smith ในวงศ์ Zingiberaceae ต้นคล้ายข่า สูง ๓-๔ เมตร ช่อดอกคล้ายบัวตูมแต่กลีบแข็ง สีชมพูหรือแดง มีดอกเล็ก ๆ แน่นเป็นกระจุกอยู่ภายใน ก้านช่อดอกผุดขึ้นจากดินและยาวได้ถึง ๑ เมตร หน่อและดอกอ่อนใช้เป็นอาหาร, กาหลา ก็เรียก, ปักษ์ใต้เรียก ปุดกะลา.
กะลาซอ กะลาซอ (ปาก) ว. คล้ายกะลาที่ทําซอ, เรียกผมที่ตัดแล้วเป็นรูปอย่างนั้น.
กะลาสี กะลาสี น. ลูกเรือ.<2t>ว. อย่างเครื่องแต่งกายกะลาสีสมัยโบราณหรือพลทหารเรือปัจจุบัน เช่น หมวกกะลาสี เงื่อนกะลาสี คอเสื้อกะลาสี. (มลายู กะลาสิ จากคำอิหร่าน ขะลาสิ).
กะลำพอ กะลำพอ น. ต้นหลุมพอ เช่น โพกพายโพกะลําพอ. (ประชุมเชิญขวัญ). (ดู หลุมพอ).
กะลิง กะลิง น. ชื่อนกปากงุ้มเป็นขอชนิด Psittacula finschii ในวงศ์ Psittacidae หัวสีเทา ตัวสีเขียว ปากแดง หางยาว.
กะลิงปลิง กะลิงปลิง น. ชื่อนกชนิดหนึ่ง. (พจน. ๒๔๙๓).
กะลิ้มกะเหลี่ย กะลิ้มกะเหลี่ย ว. แสดงอาการให้รู้ว่าอยากได้.
กะลิอ่อง กะลิอ่อง (ถิ่น-พายัพ) น. กล้วยนํ้าว้า. (ดู นํ้าว้า).
กะลุมพี กะลุมพี น. ชื่อปาล์มชนิด Eleiodoxa conferta (Griff.) Burr. ในวงศ์ Palmae ขึ้นเป็นกอในป่าพรุและที่ชื้นแฉะทางภาคใต้ ผลเป็นช่อใหญ่และแน่น ปลายผลตัด ผิวเหลืองเกลี้ยงเป็นมัน ไม่มีหนาม เยื่อหุ้มเมล็ดขาว รสเปรี้ยว ๆ ฝาด ๆ กินได้ ยางในลําต้นเหนียวใช้ติดกระดาษแทนกาวได้, ลุมพี ก็เรียก, ปักษ์ใต้เรียก หลุมพี. (มลายู ว่า กะลุมปี).
กะเล็ง กะเล็ง น. แขกกลิงค์.
กะเล่อกะล่า กะเล่อกะล่า ว. อาการที่แต่งกายรุ่มร่ามเกินพอดี เช่น เขาแต่งตัวกะเล่อกะล่าผิดกาลเทศะ, ซุ่มซ่าม เช่น เขาเดินกะเล่อกะล่าออกไปกลางถนนเลยถูกรถชน, เซ่อซ่า เช่น เขากะเล่อกะล่าเข้าไปอยู่กับพวกเล่นการพนันเลยถูกจับไปด้วย, เก้งก้าง เช่น เขาเป็นคนท่าทางกะเล่อกะล่าอย่างนั้นเอง, กะเร่อกะร่า เร่อร่า หรือ เล่อล่า ก็ว่า.
กะเลิด กะเลิด น. ยานชนิดหนึ่งไม่มีล้อ ใช้ลากไปตามท้องนาและหมู่บ้าน สําหรับบรรทุกฟ่อนข้าวเป็นต้น, เลื่อน ก็เรียก.
กะเลียว กะเลียว น. สีของม้าชนิดหนึ่ง ลักษณะเขียวอมดํา, เรียกม้าที่มีสีเช่นนั้นว่า ม้ากะเลียว หรือ ม้าสีกะเลียว.
กะแล,กะแล ๑ กะแล ๑ (ถิ่น-พายัพ) น. กาแล, ชื่อไม้เครื่องเรือนที่ต่อจากปั้นลมทั้ง ๒ ด้านไปไขว้กัน อยู่ตอนบนสุดของหลังคาที่ยื่นจากหน้าจั่ว อาจสลักลวดลายตามแต่จะเห็นงาม, บางถิ่นเรียกว่า แกแล.
กะแล,กะแล ๒ กะแล ๒ ดู แกแล ๒.
กะโล่ กะโล่ pic015.gif,กะโล่>น. ภาชนะสานของโบราณ ทารัก รูปแป้น ปากคลุ่ม ใช้ใส่ของมีเครื่องตัดผมเป็นต้น; ภาชนะสานคล้ายกระด้ง มีหลายขนาด แต่ชนิดที่ทาชันเพื่อไม่ให้นํ้ารั่วออก สําหรับหมักขี้ไต้นั้น มีขนาดใหญ่กว่ากระด้งมาก; เรียกสีหน้าที่แสดงความดีใจหรือภาคภูมิใจมากว่า หน้าบานเป็นกะโล่; ชื่อหมวกกันแดดชนิดหนึ่ง ทรงคลุ่มมีปีกแข็งโดยรอบ โครงทําด้วยไม้ฉําฉาหรือไม้ก๊อกเป็นต้นแล้วหุ้มผ้าหรือทําด้วยใบลาน เรียกว่า หมวกกะโล่.
กะโลง กะโลง (ถิ่น-อีสาน) น. ลังไม้ฉําฉา, หีบไม้; (ถิ่น-พายัพ) โคลง.
กะโล่ยาชัน กะโล่ยาชัน น. อาการที่หน้าบานเพราะถูกใจหรือบวมมากเพราะถูกตบเป็นต้น เรียกว่า หน้าบานเป็นกะโล่ยาชัน หรือ หน้าบวมเป็นกะโล่ยาชัน.
กะวอกกะแวก กะวอกกะแวก ว. อาการหลุกหลิกอย่างลิง.
กะวะ,กะวะ ๑ กะวะ ๑ น. เครื่องมือจับสัตว์นํ้าชนิดหนึ่ง สําหรับรุนกุ้งรุนเคยตามชายฝั่งแม่นํ้า ลําคลอง หรือทะเล รูปคล้ายสวิง มีถุงตาข่ายอย่างตาละเอียดแขวนอยู่ ใช้ไสตามริมฝั่งเพื่อจับกุ้งเล็ก ๆ หรือเคย.
กะวะ,กะวะ ๒ กะวะ ๒ น. ชื่อนกเงือกชนิด Buceros bicornis ในวงศ์ Bucerotidae โคนปากด้านบนมีลักษณะโหนกคล้ายกล่องขนาดใหญ่ คอสีขาว ปีกสีดําพาดเหลือง ปลายปีกขาว หางสีขาวพาดดํา, กก หรือ กาฮัง ก็เรียก.
กะส้มชื่น กะส้มชื่น (ถิ่น-พายัพ) น. ต้นว่านนํ้า. (ดู ว่านนํ้า).
กะสมอ กะสมอ ก. นำสมอเรือไปทอดไว้ในที่ที่เรือใหญ่ต้องการเข้าจอดหรือเทียบเรือ ซึ่งเป็นที่เข้าจอดหรือเข้าเทียบแล้วค่อย ๆ กว้านสมอนำเรือเข้าไป.
กะสัง กะสัง (ถิ่น-อีสาน) น. ต้นมะสัง. (ดู มะสัง).
กะส้าหอย กะส้าหอย น. เปลือกซากหอยต่าง ๆ ที่ทับถมกันอยู่ ใช้ทําปูนขาวที่เรียกว่า ปูนหอย. (ไกลบ้าน), กะซ้าหอย ก็ว่า.
กะหนอกะแหน กะหนอกะแหน [-หฺนอ-แหฺน] ว. เสียงพูดอย่างน่าเอ็นดูเหมือนเสียงเด็กพูด.
กะหน็องกะแหน็ง กะหน็องกะแหน็ง ว. แปร่ง, ไม่ชัด, ฟังไม่ออก, (ใช้แก่การพูด), หน็องแหน็ง หรือ อีหน็องอีแหน็ง ก็ว่า.
กะหนะ กะหนะ น. ทางของต้นจากที่ใช้กรุฝา.
กะหนุงกะหนิง กะหนุงกะหนิง ว. เสียงพูดจู๋จี๋ระหว่างคู่รักเป็นต้น.
กะหมอก กะหมอก [-หฺมอก] น. ไฟ. (ดิกชนารีไทย).
กะหร่อง กะหร่อง (ปาก) ว. ผอมเกร็ง.
กะหรอด กะหรอด [-หฺรอด] น. นกกรอด. (ดู ปรอด).
กะหร็อมกะแหร็ม กะหร็อมกะแหร็ม ว. มีเล็กน้อย, มีห่าง ๆ ไม่เป็นพวกเป็นหมู่, เช่น ผมขึ้นกะหร็อมกะแหร็ม, หร็อมเเหร็ม หรือ หย็อมเเหย็ม ก็ว่า.
กะหราน กะหราน (ปาก) ว. อร่าม, ใช้ประกอบกับแดงหรือเหลือง เช่น แดงกะหราน เหลืองกะหราน.
กะหรี่ กะหรี่ น. แกงชนิดหนึ่ง สีเหลือง ปรุงด้วยเครื่องแกงกะหรี่; เรียกเครื่องแกงกะหรี่ซึ่งประกอบด้วยขมิ้นและเครื่องเทศอื่น ๆ บดเป็นผงว่า ผงกะหรี่. (มลายู มาจากทมิฬว่า ผัด; อ. curry).
กะหรี่ปั๊บ กะหรี่ปั๊บ น. ชื่อของกินชนิดหนึ่ง ใช้แป้งสาลีห่อไส้ผสมผงกะหรี่ แล้วจับจีบคล้ายหอยแครง ทอดนํ้ามัน.
กะหลาป๋า,กะหลาป๋า ๑ กะหลาป๋า ๑ น. ชื่อเมืองในเกาะชวาสมัยโบราณ ต่อมาเรียก ปัตตาเวีย, ปัจจุบันชื่อ จาการ์ตา; เรียกหมวกชนิดหนึ่งสานด้วยไม้ไผ่อย่างละเอียด รูปทรงสูง ผู้หญิงนิยมใช้ในเวลาแข่งเรือ มีดอกไม้จีนเสียบ เป็นของเก่าในสมัยต้นรัชกาลที่ ๕ ขึ้นไปว่า หมวกกะหลาป๋า; เรียกขวดแก้วสำหรับใช้ใส่น้ำอบ ทรงกระบอกแปดเหลี่ยม มีสีต่าง ๆ มีจุกแก้ว เถาหนึ่งมี ๓ ใบ ว่า ขวดกะหลาป๋า.
กะหลาป๋า,กะหลาป๋า ๒ กะหลาป๋า ๒ น. ชื่อชมพู่พันธุ์หนึ่งของชนิด Syzygium samalangense (Blume) Merr. et L.M. Perry ผลสีเขียว รสหวาน เรียกว่า ชมพู่กะหลาป๋า เป็นพรรณไม้ชวา.
กะหล่ำ กะหล่ำ น. ชื่อไม้ล้มลุกชนิด Brassica oleracea L. ในวงศ์ Cruciferae มีหลายพันธุ์ เช่น กะหลํ่าปลี หรือ กะหลํ่าใบ (B. oleracea L. var. capitata L.) กะหลํ่าดอก หรือ กะหลํ่าต้น (B. oleracea L. var. botrytis L.) กะหลํ่าดาว หรือ กะหลํ่าหัวลําต้น [B. oleracea L. var. gemmifera (DC.) Thell.] และ กะหลํ่าปม (B. oleracea L. var. gongylodes L.).
กะหลีกะหลอ กะหลีกะหลอ ก. แสดงกิริยาท่าทางหรือพูดจาประจบประแจงเกินงาม.
กะหลี่กัญชา กะหลี่กัญชา น. ใบและช่อดอกเพศเมียของกัญชาที่แห้ง ใช้สูบปนกับยาสูบ.
กะหลุกกะหลิก กะหลุกกะหลิก ก. หลุก ๆ หลิก ๆ.
กะหำ กะหำ น. ไข่หํา, ลูกอัณฑะ.
กะหำแพะ กะหำแพะ น. ชื่อมะเขือพันธุ์หนึ่งของชนิด Solanum melongena L..
กะหือ กะหือ ว. เสียงครวญคราง.
กะหูด กะหูด (ถิ่น) น. เครื่องมือจับสัตว์นํ้าชนิดหนึ่ง ใช้ในท้องที่จังหวัดจันทบุรี รูปร่างคล้ายกรวย ทําด้วยไม้ไผ่.
กะเหรี่ยง กะเหรี่ยง น. ชื่อชนชาวเขาเผ่าหนึ่ง ปรกติอาศัยอยู่ทางพรมแดนทิศตะวันตกของประเทศไทย, โซ่ ก็เรียก, (โบ) เรียกว่า กั้ง ก็มี.
กะเหลาะเปาะ กะเหลาะเปาะ ว. กลมน่าดู, ตะเหลาะเปาะ ก็ว่า.
กะแหยก กะแหยก [-แหฺยก] ดู แสยก ๒.
กะแหะ กะแหะ ก. แหะ ๆ.
กะโหลก กะโหลก [-โหฺลก] น. ส่วนแข็งที่หุ้มเนื้อมะพร้าวหรือตาลเป็นต้น เรียกว่า กะโหลกมะพร้าว กะโหลกตาล, ภาชนะที่ทําด้วยกะโหลกมะพร้าวโดยตัดทางตาออกพอเป็นช่องกว้างเพื่อใช้ตักนํ้า; กระดูกที่หุ้มมันสมอง; โดยปริยายหมายความถึงวัตถุที่มีลักษณะเช่นนั้น เช่น กะโหลกหุ่นหัวโขน; เรียกพรรณไม้บางชนิด เช่น ลําไย ลิ้นจี่ ที่มีผลโต เนื้อหนากว่าปรกติ เช่น ลําไยกะโหลก ลิ้นจี่กะโหลก.
กะโหล้ง กะโหล้ง [-โล่ง] (ถิ่น-พายัพ) น. กะโหลก.
กะไหล่ กะไหล่ น. กรรมวิธีเคลือบสิ่งที่เป็นโลหะด้วยเงินหรือทองเป็นต้น โดยใช้ปรอทละลายเงินหรือทองให้เป็นของเหลว แล้วทาลงบนโลหะที่ต้องการเคลือบ จากนั้นไล่ปรอทออกโดยใช้ความร้อน, กาไหล่ ก็ว่า.<2t>ว. เรียกของเช่นพานเป็นต้นที่เคลือบเงินหรือทองด้วยกรรมวิธีเช่นนั้นว่า พานกะไหล่เงิน พานกะไหล่ทอง. (เทียบทมิฬ กะลายิ).
กะอวม กะอวม (ถิ่น-ปักษ์ใต้) น. ชื่อไม้ต้นขนาดกลางชนิด Acronychia pedunculata (L.) Miq. ในวงศ์ Rutaceae ผลเล็ก สีเขียวอ่อนหรือสีนวล กินได้, เปล้าขลิบทอง ไพรสามกอ มะงัน หรือ กระเบื้องถ้วย ก็เรียก.
กะออม กะออม น. ภาชนะสานด้วยไม้ไผ่ ยาชัน รูปคล้ายกระบุง ไม่มีคอ ใช้ใส่น้ำ, กระออม กัลออม หรือ กะละออม ก็ว่า.
กะอาน กะอาน ดู กระอาน.
กะอาม กะอาม น. กะอวม เช่น กะอามลั่นทมชวน ใจรื่น รมย์นา. (พงศ. เหนือ).
กะอิด กะอิด ดู ไก่ไห้ (๑).
กะอูบ กะอูบ (ถิ่น-พายัพ) น. ผอบ เช่น จึงแก้เอาเสื้อและผ้าคาดศีรษะใส่ในกระอูบคำ. (ประชุมพงศ. ๑๐).
กะเอว กะเอว น. เอว เช่น ถวัดเท้าท่าเตะมวย ตึงเมื่อย หายฮา แก้กะเอวขดค้อม เข่าคู้โขยกโขยง. (จารึกวัดโพธิ์),สะเอว ก็ว่า.
กะแอ,กะแอ ๑ กะแอ ๑ น. เครื่องบังแดดมีคันปักดิน หมุนได้ตามต้องการ.
กะแอ,กะแอ ๒ กะแอ ๒ ว. อ่อน, เล็ก, เรียกลูกควายตัวเล็ก ๆ ตามเสียงที่มันร้องว่า ลูกกะแอ, ลูกแหง่ ก็ว่า.
กะแอน กะแอน (ถิ่น-พายัพ) น. ต้นกระชาย. (ดู กระชาย).
กัก กัก ก. ไม่ให้ล่วงพ้นเขตที่กําหนดไว้, กำหนดเขตให้อยู่, เช่น กักตัว, กักกัน ก็ว่า; ยึดไว้, ไม่ปล่อยไป, เช่น กักรถ กักนํ้า.<2t>ว. หยุดชะงัก เช่น หยุดกัก.
กั๊ก กั๊ก น. เรียกทางสี่แยกว่า สี่กั๊ก; ส่วน ๑ ใน ๔ ของเหล้าเทหนึ่ง, ส่วน ๑ ใน ๔ ของเหล้าขวดใหญ่ขนาด ๗๕๐ ซีซี., ส่วน ๑ ใน ๔ ของนํ้าแข็งซองหนึ่ง แบ่งออกได้เป็น ๔ มือ; เสื้อชนิดหนึ่ง ตัวสั้นเสมอเอว ไม่มีแขน ไม่มีปก ผ่าอกตลอด ติดกระดุมหรือไม่ติดก็ได้ มักใช้สวมทับเสื้อเชิ้ต เรียกว่า เสื้อกั๊ก; วิธีแทงโปวิธีหนึ่ง ถ้าลูกค้าแทงกั๊ก ๒ ประตูใด โปออกประตูใดประตูหนึ่งใน ๒ ประตูนั้น เจ้ามือใช้ ๑ ต่อ ถ้าโปออกประตูอื่นนอกจาก ๒ ประตูที่แทงไว้ เจ้ามือกิน.<2t>(ถิ่น-พายัพ) ก. พูดติดอ่าง.
กักกรา กักกรา [-กฺรา] น. โกฐกักกรา. (ดู โกฐกักกรา).
กักกัน กักกัน ก. กําหนดเขตให้อยู่, กัก ก็ว่า.<2t>(กฎ) น. วิธีการเพื่อความปลอดภัยอย่างหนึ่งที่ศาลใช้ในกรณีที่ให้ควบคุมผู้กระทําความผิดติดนิสัยไว้ภายในเขตกําหนด เพื่อป้องกันการกระทําความผิด เพื่อดัดนิสัย และเพื่อฝึกหัดอาชีพ.
กักการุ กักการุ (แบบ) น. ดอกฟัก เช่น อิกกักการุดิเรกอเนกดิบุษปวัน อ้อยลำแลใหญ่ครัน คือหมาก. (สมุทรโฆษ). (ป.).
กักขฬะ กักขฬะ [กักขะหฺละ] ว. หยาบคายมาก. (ป.; ส. กกฺขฏ).
กักขัง กักขัง ก. บังคับให้อยู่ในสถานที่อันจํากัด, เก็บตัวไว้ในสถานที่อันจํากัด.<2t>(กฎ) น. โทษทางอาญาสถานหนึ่ง ที่ให้กักตัวผู้ต้องโทษไว้ในสถานที่ซึ่งกําหนดไว้อันมิใช่เรือนจํา.
กักคุม กักคุม ก. บังคับให้อยู่ในอารักขา.
กักด่าน กักด่าน ก. กักกุมไว้เพื่อตรวจตรา เช่นตรวจโรคติดต่อ.
กักตัว กักตัว ก. ยึดไว้, ไม่ปล่อยไป.
กักตุน กักตุน ก. เก็บสินค้าไว้เป็นจํานวนมากเพื่อเก็งกําไร, ตุน ก็ว่า.<2t>(กฎ) น. มีโภคภัณฑ์ไว้ในครอบครองเกินปริมาณที่จําเป็นสําหรับใช้จ่ายส่วนตัว และไม่นําออกจําหน่ายตามวิถีทางการค้าปรกติ
กักบริเวณ กักบริเวณ ก. บังคับให้อยู่ในบริเวณที่กําหนดไว้.
กัง กัง น. ชื่อลิงชนิด Macaca nemestrina ในวงศ์ Cercopithecidae ขนสีน้ำตาลอมเทา หางสั้นงอโค้งขึ้นไปทางด้านหลัง ทางปักษ์ใต้ใช้เก็บมะพร้าว, กะบุด ก็เรียก.
กั้ง,กั้ง ๑ กั้ง ๑ น. ชื่อสัตว์นํ้าไม่มีกระดูกสันหลังในชั้น Crustacea อันดับ Stomatopoda มีหลายวงศ์ ส่วนใหญ่อยู่ในวงศ์ Squillidae หายใจด้วยเหงือก ลําตัวแบนหรือกลม แบ่งเป็นปล้อง ๆ เปลือกที่หุ้มท่อนหัวและอกคลุมมาถึงอกปล้องที่ ๕ แต่ไม่ถึงปล้องที่ ๘ กรีมีลักษณะแบนราบ มี ๖ ขา, กั้งตั๊กแตน ก็เรียก.
กั้ง,กั้ง ๒ กั้ง ๒ (กลอน) ก. กั้น.
กั้ง,กั้ง ๓ กั้ง ๓ (โบ) น. กะเหรี่ยง. (อนันตวิภาค).
กั้งกระดาน กั้งกระดาน ดู กระดาน ๒.
กังกะ กังกะ (แบบ) น. เหยี่ยว เช่น เกิดเป็นภักษแก่กังกโกรญจคฤธรกา บินมาวว่อนร่อน ก็ร้อง. (สมุทรโฆษ).
กังก้า กังก้า ว. จังก้า, ลักษณะยืนถ่างขาตั้งท่าเตรียมสู้ เช่น ถกเขมรกังก้าเรียกข้าไทย. (ขุนช้างขุนแผน-แจ้ง).
กังเกียง กังเกียง ดู กางเกียง.
กังขา กังขา น. ความเคลือบแคลง, ความสงสัย. (ป.).
กังฉิน กังฉิน ว. คดโกง, ไม่ซื่อตรง. (จ. กังฉิน ว่า อำมาตย์ทุจริต, อำมาตย์ทรยศ).
กั้งตั๊กแตน กั้งตั๊กแตน ดู กั้ง ๑.
กังฟู กังฟู น. ศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวแบบหนึ่งของจีน เน้นหนักไปในทางฝึกสมาธิและความแข็งแกร่งว่องไวของร่างกาย.
กังวล กังวล ก. ห่วงใย, มีใจพะวงอยู่. (ข.).
กังวาน กังวาน ว. ก้องอยู่ได้นาน เช่น เสียงระฆังกังวาน, มีกระแสเสียงก้องและแจ่มใส.
กังเวียน กังเวียน น. ขอบผ้าปกกระพองช้าง เช่น จัดพาดกังเวียนวาง ห่อได้. (ตําราช้างคําโคลง-วชิรญาณ เล่ม ๒๑).
กังสดาล กังสดาล [-สะดาน] น. ระฆังวงเดือน เช่น แว่วสําเนียงเสียงระฆังกังสดาล. (อิเหนา).
กังสะ กังสะ (แบบ) น. สัมฤทธิ์ เช่น ดั่งดามพะกังสกล่อมเกลา. (สมุทรโฆษ). (ป.).
กังไส กังไส น. เครื่องถ้วยปั้นที่ทํามาจากแคว้นเกียงสีในประเทศจีน.
กังหัน กังหัน น. สิ่งที่ประกอบด้วยใบพัดหมุนได้ด้วยกําลังลม, จังหัน ก็ว่า, โดยปริยายเรียกเครื่องหมุนบางชนิดมีรูปทํานองกังหัน ทําให้เกิดกําลังงาน เช่น กังหันนํ้า คือเครื่องหมุนด้วยกําลังนํ้า, กังหันลม คือเครื่องหมุนด้วยกําลังลม, กังหันไอนํ้า คือเครื่องหมุนด้วยกําลังไอนํ้า; (วิทยา) ใช้เรียกเครื่องจักรที่หมุนอย่างกังหัน; ชื่อดอกไม้ไฟชนิดที่จุดแล้วหมุนอย่างกังหัน, ลักษณนามว่าต้น. (ข. กงฺหาร).
กังหันใบพัด กังหันใบพัด น. เครื่องยนต์ซึ่งใช้กังหันขับใบพัด.
กังหันไอพ่น กังหันไอพ่น น. เครื่องยนต์ซึ่งใช้กังหันขับเครื่องอัดอากาศ, เครื่องยนต์ไอพ่น ก็ว่า.
กัจฉปะ กัจฉปะ [กัดฉะปะ] (แบบ) น. เต่า เช่น หมู่มัจฉกัจฉปะทุกสิ่งสรรพ์. (ม. ร่ายยาว จุลพน). (ป., ส.).
กัจฉะ กัจฉะ [กัดฉะ] (ราชา) น. รักแร้, ใช้ว่า พระกัจฉะ. (ป.; ส. กกฺษ).
กัจฉา กัจฉา [กัดฉา] (แบบ) น. สายรัดท้องช้าง. (ป.; ส. กกฺษา, กกฺษฺยา).
กัญ กัญ (แบบ) น. กันย์, ชื่อราศีหนึ่งใน ๑๒ ราศี เช่น อีกกัญเป็นชื่อราศี. (ไวพจน์ประพันธ์). (ป. กญฺา).
กัญจุก,กัญจุการา กัญจุก, กัญจุการา (แบบ) น. เสื้อ. (ป., ส.).
กัญชา กัญชา [กัน-] น. ชื่อไม้ล้มลุกชนิด Cannabis sativa L. ในวงศ์ Cannabidaceae ใบมนแฉกลึกเข้าไปทางก้านหลายแฉก ดอกสีเขียว ช่อดอกเพศผู้และช่อดอกเพศเมียอยู่ต่างต้นกัน ใบและช่อดอกเพศเมียที่แห้งเรียก กะหลี่กัญชา ใช้สูบปนกับยาสูบ มีสรรพคุณทําให้มึนเมา เปลือกลําต้นใช้ทําเชือกป่าน และทอผ้า.
กัญญา,กัญญา ๑ กัญญา ๑ [กันยา] น. สาวรุ่น, สาวน้อย. (ป.; ส. กนฺยา).
กัญญา,กัญญา ๒ กัญญา ๒ [กันยา] น. เครื่องบังแดดรูปหลังคา ใช้สําหรับแคร่หามหรือเรือยาวเพื่อเป็นเกียรติยศ, เรียกแคร่หามหรือเรือยาวที่มีกัญญาว่า แคร่กัญญา เรือกัญญา.
กัญญา,กัญญา ๓ กัญญา ๓ [กันยา] น. เรียกข้าวเหนียวดําพันธุ์หนึ่งที่เมล็ดดําเป็นมันว่า ข้าวกัญญา.
กัฐ กัฐ (แบบ) น. ไม้ฟืน; ไม้วัด (คือใช้ในมาตราวัด). (ป., ส. กฏฺ; ส. กาษฺ).
กัณฏกะ,กัณฐกะ กัณฏกะ, กัณฐกะ [กันตะกะ, กันถะกะ] (แบบ) น. หนาม. (ป., ส. กณฺฏก).
กัณฐ,กัณฐ-,กัณฐา กัณฐ-, กัณฐา [กันถะ-] (แบบ) น. คอ. (ป.).
กัณฐกะ กัณฐกะ [-ถะกะ] น. เครื่องประดับคอ เช่น คางเพลาคือกลวิมลกัณ-<2t>ฐกก่องคือแสงสรวล. (สมุทรโฆษ). (ป., ส.).
กัณฐชะ กัณฐชะ (ไว) น. อักษรในภาษาบาลีและสันสกฤตที่มีเสียงเกิดจากเพดานอ่อน ได้แก่ พยัญชนะวรรค ก คือ ก ข ค ฆ ง และอักษรที่มีเสียงเกิดจากเส้นเสียงในลำคอ ได้แก่ ห และ สระ อะ อา. (ป.; ส. กณฺวฺย).
กัณฐัศ,กัณฐัศว์ กัณฐัศ, กัณฐัศว์ [กันถัด] น. ชื่อม้าตระกูลหนึ่ง, ในบทกลอนใช้เรียกม้าทั่วไป.
กัณฐี กัณฐี [กันถี] (แบบ) น. เครื่องประดับคอ เช่น แก้วกัณฐีถนิมมาศนั้น. (ม. คําหลวง มหาราช).
กัณฑ์ กัณฑ์ [กัน] น. ข้อความที่แต่งเป็นคําเทศน์เรื่องหนึ่ง ๆ ที่จบลงคราวหนึ่ง ๆ, ตอนหนึ่ง ๆ ของคําเทศน์ที่เป็นเรื่องยาว เช่น มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์ทศพร กัณฑ์หิมพานต์, ลักษณนามของเทศน์ เช่น เทศน์กัณฑ์หนึ่ง เทศน์ ๒ กัณฑ์; เรื่องหรือหมวด, ตอน, ส่วนของเรื่อง. (ป.).
กัณฑ์เทศน์ กัณฑ์เทศน์ น. เครื่องไทยธรรมถวายพระผู้แสดงพระธรรมเทศนา, สิ่งของสําหรับถวายพระผู้แสดงพระธรรมเทศนา, เครื่องกัณฑ์ ก็ว่า; เรียกการเอาเงินติดเทียนบูชากัณฑ์เทศน์หรือเรียกการเอาเงินหรือสิ่งของบูชาธรรมเนื่องในการเทศน์ว่า ติดกัณฑ์เทศน์.
กัณณ์ กัณณ์ (แบบ) น. หู. (ป.; ส. กรฺณ).
กัณห,กัณห- กัณห- [กันหะ-] ว. ดํา, มักใช้เป็นส่วนหน้าของสมาส. (ป.; ส. กฺฤษฺณ).
กัณหธรรม กัณหธรรม น. ธรรมฝ่ายดํา คือ อกุศล.
กัณหปักษ์ กัณหปักษ์ น. ฝ่ายดํา คือ ข้างแรม.
กัด,กัด ๑ กัด ๑ ก. เอาฟันกดไว้โดยแรง เพื่อไม่ให้สิ่งที่กดไว้หลุดไป เช่น กัดไว้ให้อยู่ กัดไว้ให้แน่น หรือเพื่อให้เข้าไปให้ทะลุ ให้ฉีกขาดเป็นต้น เช่น สุนัขกัดเป็นแผลลึกเข้าไป หนูกัดผ้าเป็นรู ปากคันกัดเสียจนไม่มีชิ้นดี, โดยปริยายหมายความว่า ทําให้หมดไปสิ้นไป เช่น สนิมกัดเหล็กจนกร่อน กัดสิวกัดฝ้าออกให้หมด, ทําให้เปื่อยเป็นแผล เช่น ปูนกัดปาก; (ปาก) คอยหาเรื่อง เช่น เขากัดฉันไม่เลิก, ทะเลาะวิวาท เช่น ๒ คนนี้กัดกันอยู่เสมอ.<2t>น. เครื่องมือจับปลาทะเลชนิดอวน.
กัด,กัด ๒ กัด ๒ น. ชื่อปลานํ้าจืดขนาดเล็กชนิด Betta splendens ในวงศ์ Anabantidae ทํารังเป็นหวอดที่ผิวนํ้า ตัวผู้ใหญ่กว่าตัวเมีย มีสีสวยงาม สามารถกางครีบและแผ่นปิดเหงือก เปล่งสีลำตัวให้เข้มขึ้น ในขณะต่อสู้มักกัดกัน จึงเรียกว่า ปลากัด.
กัด,กัด ๓ กัด ๓ (โบ) น. พิกัด.<2t>ก. กะ เช่น ซ้นนกัดค่าพระราชกุมาร. (ม. คําหลวง กุมาร).
กัด,กัด ๔ กัด ๔ น. คํากํากับชื่อปีในวิธีนับศักราชของไทยเหนือ ตรงกับเลข ๖.
กัดติด,กัดไม่ปล่อย กัดติด, กัดไม่ปล่อย ก. ติดตามอย่างไม่ละวาง, ทำงานเรื่องใดเรื่องหนึ่งอย่างจริงจัง เช่น เขาทำงานแบบกัดไม่ปล่อย.
กัดป่า กัดป่า ดู กริม.
กัดฟัน กัดฟัน ก. เอาฟันต่อฟันกดกันไว้แน่น เป็นอาการแสดงถึงความอดกลั้น, โดยปริยายหมายความว่า มานะ; ขบฟันในเวลานอนหลับ.
กัดลาก กัดลาก น. เครื่องมือจับสัตว์นํ้าชนิดหนึ่ง. (ดู อวนลาก).
กัดวาง กัดวาง น. เครื่องมือจับสัตว์นํ้าชนิดหนึ่ง. (ดู อวนลอย).
กัดหางตัวเอง กัดหางตัวเอง (สํา) ว. พูดวนไปวนมา.
กัตติกมาส กัตติกมาส [กัดติกะมาด] น. เดือนอันมีพระจันทร์เพ็ญเสวยฤกษ์กัตติกา คือ เดือน ๑๒ ตามจันทรคติ ตกในราวเดือนพฤศจิกายน. (ป.).
กัตติกา กัตติกา [กัด-] น. ดาวฤกษ์ที่ ๓ มี ๘ ดวง เห็นเป็นรูปธงสามเหลี่ยม มีหางเรียวยาว, ดาวธงสามเหลี่ยม หรือ ดาวลูกไก่ ก็เรียก, (โบ) เขียนเป็น กฤติกา ก็มี. (ป. กตฺติกา; ส. กฺฤตฺติกา).
กัตติเกยา กัตติเกยา น. การตามเพลิงในพิธีพราหมณ์.
กัตรทัณฑ์ กัตรทัณฑ์ [กัดตฺระ-] (แบบ) น. ไม้เท้าคนแก่ เช่น แล้วทรงธารพระกรกัตรทัณฑ์. (ม. ร่ายยาว วนปเวสน์). (ป. กตฺตร = คนแก่ + ทณฺฑ = ไม้เท้า; ส. กรฺตฺร + ทณฺฑ).
กัตรา กัตรา [กัดตฺรา] น. เรือผีหลอก.
กัทลี กัทลี [กัดทะลี] (แบบ) น. กล้วย เช่น คิดพ่างผลกัทลี ฆ่ากล้วย. (โลกนิติ). (ป., ส. กทลี).
กัน,กัน ๑ กัน ๑ (ปาก) ส. คําใช้แทนตัวผู้พูด เพศชาย พูดกับผู้เสมอกันหรือผู้น้อยในทํานองกันเอง, เป็นสรรพนามบุรุษที่ ๑.
กัน,กัน ๒ กัน ๒ ว. คําประกอบท้ายกริยาของผู้กระทําตั้งแต่ ๒ คนขึ้นไป แสดงการกระทําร่วมกัน อย่างเดียวกัน หรือต่อกัน เช่น คิดกัน หารือกัน.
กัน,กัน ๓ กัน ๓ ก. กีดขวางไว้ไม่ให้เข้ามาหรือออกไป หรือไม่ให้เกิดมีขึ้น เช่น กันฝน กันสนิม กันภัย, แยกไว้ เช่น กันเงินไว้ ๕๐๐ บาทเพื่อจ่ายในสิ่งที่จําเป็น กันเอาไว้เป็นพยาน.<2t>น. ชื่อช้างศึกพวกหนึ่ง มีหน้าที่ป้องกันและล้อมทัพ, ช้างดั้ง ก็เรียก, เรียกเรือซึ่งกำหนดให้เข้ากระบวนเสด็จทางชลมารค ทำหน้าที่ถวายอารักขา มีหลายลำ ตั้งเป็นแถวขนาบกระบวนเรือพระที่นั่งทั้ง ๒ ข้าง และกันอยู่ท้ายกระบวนระหว่างเรือของเจ้านายที่ตามเสด็จ ว่า เรือกัน.
กัน,กัน ๔ กัน ๔ ก. โกนให้เป็นเขตเสมอ เช่น กันคิ้ว กันคอ กันหน้า. (ข. กาล่).
กั่น,กั่น ๑ กั่น ๑ น. ส่วนที่ถัดจากโคนอาวุธหรือเครื่องมือเป็นต้น สําหรับหยั่งลงไปในด้าม.
กั่น,กั่น ๒ กั่น ๒ (ถิ่น-พายัพ) ก. ดุ.
กั้น กั้น ก. กีดขวางหรือทําสิ่งกีดขวางเพื่อบัง คั่น หรือกันไว้ไม่ให้เข้ามา เช่น กั้นกลด ภูเขากั้นเขตแดน กั้นถนน.
กันกง กันกง ก. ล้อมวง, กันรอบ.
กั้นกาง กั้นกาง ก. กางแขนออกขวางทางไว้, โดยปริยายหมายถึง ทําอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นการขัดขวางเพื่อไม่ให้ไปดังประสงค์.
กันเกรา กันเกรา [-เกฺรา] น. ชื่อไม้ต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ชนิด Fagraea fragrans Roxb. ในวงศ์ Gentianaceae ชอบขึ้นในที่ชื้นแฉะทั่วไปในป่าดิบ ใบสีเขียวแก่ ค่อนข้างหนา ยาวราว ๕-๗ เซนติเมตร ดอกดก สีขาวแล้วเปลี่ยนเป็นสีเหลือง หอมมาก ออกเป็นช่อคล้ายช่อดอกเข็ม ผลเท่าเมล็ดถั่วลันเตา เมื่อสุกสีแดง เนื้อไม้สีเหลืองละเอียด แน่น เป็นมัน แข็งและทนทาน นิยมใช้ในการก่อสร้างต่าง ๆ, ตําเสา หรือ มันปลา ก็เรียก.
กันไกร,กันไตร กันไกร, กันไตร [-ไกฺร,-ไตฺร] ดู กรรไตร.
กันเขากันเรา กันเขากันเรา (ปาก) ว. พวกเขาพวกเรา.,
กันฉิ่ง กันฉิ่ง ดู กรรชิง.
กันชน กันชน น. เครื่องป้องกันการกระทบกระแทกด้านหน้าและด้านหลังรถยนต์, เรียกประเทศที่กั้นอยู่ระหว่างดินแดนของ ๒ ประเทศ เพื่อมิให้พิพาทกันในเรื่องดินแดนและผลประโยชน์ว่า ประเทศกันชน.
กันชิง กันชิง น. กรรชิง.
กันชีพ กันชีพ น. สายห้อยใช้สะพายเฉวียงบ่า ๒ ข้าง หรือข้างเดียว.
กันเชอ กันเชอ น. ภาชนะสานคล้ายกระจาดขนาดเล็ก แต่สูงกว่า ก้นสอบ ปากกว้าง ใช้กระเดียด, กระเชอ ก็เรียก.
กั้นซู่ กั้นซู่ (โบ) น. เครื่องจับปลาชนิดหนึ่ง กล่าวกันว่ามีลักษณะเหมือนถุงอย่างเดียวกับโพงพาง หรือเป็นไม้ซึ่งปักเป็นปีกของเครื่องมือประจําที่ซึ่งเรียก กั้นซู่รั้วไซมาน หรือ ซู่กั้นรั้วไซมาน.
กันแซง,กันแซง ๑ กันแซง ๑ น. กองทําหน้าที่แซงในพยุหยาตรา, คู่กันกับ กันแทรก คือ กองทําหน้าที่แทรกทั้งนี้เพื่อป้องกันจอมทัพ.
กันแซง,กันแซง ๒ กันแซง ๒ น. กระแชง เช่น หลังคากันแซง. (พงศ. ร. ๓/๘).
กันดอง กันดอง (โบ) น. ถ่องแถว เช่น เทเพนทรพฤกษนุกันดอง. (กล่อมช้างของเก่า).
กันดาร กันดาร [-ดาน] ว. อัตคัด, ฝืดเคือง, เช่น กันดารข้าว กันดารน้ำ, ลําบาก, แห้งแล้ง, คํานี้มักใช้แก่เวลา ท้องที่ หรือถิ่นที่มีลักษณะเช่นนั้น เช่น คราวกันดาร ทางกันดาร ที่กันดาร.<2t>น. ป่าดง, ทางลําบาก. (ป. กนฺตาร).
กันดาล กันดาล [-ดาน] น. กลาง, ท่ามกลาง, เช่น ในกันดาลท้าวทงงหลายผู้ก่อนน้นน. (ม. คําหลวง ทศพร). (ข. กณฺฎาล).
กันแดด กันแดด น. ชื่อหมวกชนิดหนึ่ง ทรงคลุ่ม มีปีกแข็งโดยรอบ โครงทำด้วยไม้ก๊อกหรือไม้ฉำฉาหรือไม้โสน หุ้มด้วยผ้า, หมวกกะโล่ ก็เรียก.<2t>ว. ที่ลดความเข้มของแสง เช่น แว่นกันแดด หมวกกันแดด.
กันได กันได น. หลักฐานที่ยึดถือ เช่น กรมธรรม์กันได. (กฎหมาย เล่ม ๒).
กันต์ กันต์ ก. ตัด, โกน, เช่น เกศากันต์ (ตัดผม, โกนผม); ยินดี, พอใจ, เช่น สุนทรกันต์ มุทุกันต์.<2t>ว. น่าใคร่, น่าพอใจ, งดงาม, เช่น กันตาภิรมย์ หมายถึง ยินดียิ่งในสิ่งที่น่าพอใจ.
กันตัง กันตัง น. ชื่อไม้ต้นมีใบคัน. (พจน. ๒๔๙๓).
กันตัว กันตัว ก. ป้องกันตัว, รักษาตัว.
กันไตร กันไตร [-ไตฺร] น. กรรไตร.
กันทร กันทร [-ทอน] (แบบ) น. ถํ้า, ซอกเขา (ที่เป็นเองหรือช่างทําขึ้น). (ป., ส.).
กันทรากร กันทรากร [-ทะรากอน] (แบบ) น. ภูเขา. (ป., ส.).
กันทะ กันทะ (โบ) น. กระทะ เช่น จึ่งตั้งโลหะกันทะโดยตบะบนเส้าโขมดผี ให้ประโคมแล้วโหมอัคคี มาลีธูปเทียนบูชา. (รามเกียรติ์ ร. ๒ ตอนศึกไมยราพณ์).
กันท่า กันท่า (ปาก) ก. แสดงกิริยาอาการขัดขวางไม่ให้ผู้อื่นกระทําการอย่างใดอย่างหนึ่งได้สะดวก.
กันแทรก กันแทรก [-แซก] น. กองทําหน้าที่แทรก เพื่อป้องกันจอมทัพ, คู่กันกับ กันแซง.
กั้นบัง กั้นบัง น. ว่านกั้นบัง. (ดู กําบัง ๓).
กันพิรุณ กันพิรุณ น. กรรภิรมย์.
กันภัย,กันภัยมหิดล กันภัย, กันภัยมหิดล น. ชื่อไม้เถาชนิด Afgekia mahidolae Burtt et Chermsir. ในวงศ์ Leguminosae พบทางจังหวัดกาญจนบุรี ใบเป็นใบประกอบ ช่อหนึ่งมีใบย่อยหลายใบ ด้านล่างของใบมีขนสีนํ้าตาล ดอกเป็นช่อตั้ง สีขาวปนม่วง ฝักสั้นป้อมแบน ๆ ตั้งชื่อวิทยาศาสตร์เพื่อเฉลิมพระเกียรติแด่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี.
กันภิรมย์ กันภิรมย์ ดู กรรภิรมย์.
กันเมียง กันเมียง น. เด็ก, โบราณเขียนเป็น กันมยง เช่น แลเด็กหญิงถ่าวชาววยงก็ดี อันกันมยงทักแท่ให้แต่งแง่ดูงาม. (ม. คําหลวง ทศพร). (ข. เกฺมง = เด็ก).
กันย์ กันย์ น. สาวรุ่น, สาวน้อย; ชื่อกลุ่มดาวรูปหญิงสาวเรียกว่า ราศีกันย์ เป็นราศีที่ ๕ ในจักรราศี.
กันยา กันยา น. สาวรุ่น, สาวน้อย. (ส.; ป. กญฺา).
กันยายน กันยายน น. ชื่อเดือนที่ ๙ ตามสุริยคติ ซึ่งเริ่มด้วยเดือนมกราคม มี ๓๐ วัน, (เลิก) ชื่อเดือนที่ ๖ ตามสุริยคติซึ่งเริ่มด้วยเดือนเมษายน. (ส. กนฺยา = นางงาม, นางสาวน้อย + อายน = มา = เดือนที่อาทิตย์มาสู่ราศีกันย์).
กันลง,กันลอง,กันลอง ๑ กันลง, กันลอง ๑ น. แมลงภู่ เช่น กันลงกันลึงคลึงคนธ์. (ม. คําหลวง จุลพน). (ข. กนฺลง่); ของที่เหลือ, มูลฝอย; การกบฏ, การบุกรุก.
กันลอง,กันลอง ๒ กันลอง ๒ ก. กระโดด, ข้าม, ผ่าน.<2t>ว. เลิศ, ยิ่ง; ล่วง, พ้น, เช่น มหาโพยมกันลอง. (กล่อมช้างของเก่า). (ข. กนฺลง).
กันลึง กันลึง (โบ) ก. จับ เช่น กันลงกันลึงคลึงคนธ์. (ม. คําหลวง จุลพน).
กันและกัน กันและกัน ส. คําใช้แทนชื่อในลักษณะที่มีการกระทําร่วมกันหรือต่อกันโดยมีบุรพบทประกอบหน้า เช่น รักซึ่งกันและกัน เพื่อประโยชน์ของกันและกัน.
กันสาด กันสาด น. เพิงที่ต่อชายคาสําหรับกันฝน, บังสาด ก็เรียก.
กันแสง กันแสง (ราชา) ก. ร้องไห้, ราชาศัพท์ใช้ว่า ทรงพระกันแสง หรือ ทรงกันแสง. (ข. กนฺแสง ว่า ผ้าเช็ดปาก, ผ้าเช็ดมือ, ผ้าเช็ดหน้า).
กั้นหยั่น กั้นหยั่น น. มีดปลายแหลม มีคม ๒ ข้าง ส่วนของใบมีดตั้งแต่กั่นถึงปลายใหญ่เท่ากัน เป็นอาวุธ ใช้เหน็บเอว, จีนใช้เป็นเครื่องหมายกันจัญไร เช่นในรูปสิงโตคาบกั้นหยั่น.
กันเอง กันเอง ว. เป็นพวกเดียวกัน, สนิทสนมกัน, เช่น ราคากันเอง.
กันเอา กันเอา ว. กรรเอา, กลมกล่อม, เช่น สรวญเสียงกันเอาเอา<2t>มโนเทพรังรักษ์. (อนิรุทธ์).
กับ,กับ ๑ กับ ๑ น. เครื่องดักสัตว์ชนิดหนึ่ง มีลิ้นหรือไก เมื่อไปกระทบเข้าก็จะปิดหรืองับทันที, โดยปริยายหมายถึงอุบายที่ใช้ล่อให้หลงเชื่อ.
กับ,กับ ๒ กับ ๒ เป็นคําที่เชื่อมคําหรือความเข้าด้วยกัน มีความหมายว่า รวมกันหรือเกี่ยวข้องกัน เช่น ฟ้ากับดิน กินกับนอน หายวับไปกับตา.
กับ,กับ ๓ กับ ๓ ลักษณนามเรียกใบลานซึ่งจัดเข้าแบบสําหรับจารหนังสือประมาณ ๘๐๐ ใบ.
กับ,กับ ๔,กับข้าว กับ ๔, กับข้าว น. อาหารซึ่งปรกติใช้กินพร้อมข้าว.
กับแก้,กับแก้ ๑ กับแก้ ๑ (ถิ่น-พายัพ) น. ชื่อไม้ล้มลุกไร้ดอกชนิด Selaginella argentea (Wall. ex Hook. et Grev.) Spring ในวงศ์ Selaginellaceae ใช้ทำยาได้ ใบอ่อนใช้เป็นผัก, พ่อค้าตีเมีย ก็เรียก.
กับแก้,กับแก้ ๒ กับแก้ ๒ (ถิ่น-อีสาน) น. ตุ๊กแก. (ดู ตุ๊กแก ๑).
กับแกล้ม กับแกล้ม [-แกฺล้ม] น. ของกินกับเหล้า, แกล้ม ก็ว่า.
กับบุเรศ กับบุเรศ [-เรด] (แบบ; กลอน) น. การบูร เช่น กับบุเรศสมุลแว้งก็มี. (ม. คําหลวง มหาพน). (ป. กปฺปุร).
กับระเบิด กับระเบิด น. วัตถุระเบิดที่วางดักไว้ เมื่อไปเหยียบหรือกระทบเข้าก็จะระเบิดทันที.
กัป กัป [กับ] น. อายุของโลกตั้งแต่เมื่อพระพรหมสร้างเสร็จจนถึงเวลาที่ไฟประลัยกัลป์มาล้างโลก, บางทีใช้เข้าคู่กับคํา กัลป์ เช่น ชั่วกัปชั่วกัลป์ นานนับกัปกัลป์พุทธันดร. (ป. กปฺป; ส. กลฺป). (ดู กัลป-, กัลป์).
กัปตัน กัปตัน น. นายเรือ. (อ. captain).
กัปนก กัปนก [กับปะหฺนก] (แบบ) ว. กําพร้า, น่าสงสาร, เช่น อันว่าพราหมณชรา ชีณกัปนก. (ม. คําหลวง ชูชก). (ป. กปณก).
กัปบาสิก,กัปปาสิก กัปบาสิก, กัปปาสิก (แบบ) ว. อันทอด้วยฝ้าย. (ดู กรรบาสิก).
กัปปิย,กัปปิย-,กัปปิยะ กัปปิย-, กัปปิยะ [กับปิยะ] ว. สมควร. (ป.).
กัปปิยการก กัปปิยการก [-การก] น. ผู้ปฏิบัติภิกษุในเรื่องปัจจัย ๔ คือ จีวร อาหาร ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค.
กัปปิยภัณฑ์ กัปปิยภัณฑ์ น. สิ่งของที่ควรแก่ภิกษุ ได้แก่ ปัจจัย ๔ คือจีวร อาหาร ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค และสิ่งอื่น ๆ เช่น ร่ม รองเท้า.
กัปปิยโวหาร กัปปิยโวหาร น. โวหารที่ควรแก่ภิกษุ เช่น เรียกเงินตรา ว่า กัปปิยภัณฑ์, ถ้อยคําสํานวนที่เหมาะแก่กาลเทศะ.
กัปปีย์ กัปปีย์ [กับปี] (ปาก) น. กับข้าว (ใช้เฉพาะภิกษุสามเณร), มักใช้เข้าคู่กับคำ จังหัน ว่า กัปปีย์จังหัน.
กัมบน กัมบน [กําบน] (แบบ) ก. หวั่นไหว, กําบน ก็ว่า. (ป. กมฺปน). (ม. คําหลวง กุมาร, หิมพานต์).
กัมป,กัมป-,กัมปน,กัมปน- กัมป-, กัมปน- [กําปะ-, กําปะนะ-] น. การหวั่นไหว, แผ่นดินไหว. (ป., ส.).
กัมปนาการ กัมปนาการ น. อาการคือการหวั่นไหว. (ป.).
กัมปนาท กัมปนาท น. เสียงสนั่นหวั่นไหว. (ป. กมฺป + นาท).
กัมประโด กัมประโด น. ผู้ทําหน้าที่หาลูกค้าให้บริษัทหรือธนาคาร. (โปรตุเกส).
กัมปี กัมปี (แบบ) ก. ไหว เช่น อันว่ามหาปรัตพีผืนผไทแท่น แผ่นผเทศมณฑล สกลกัมปี ดุจครวีไหวหว่นนป่นนไปมาเมื่อน้นน. (ม. คําหลวง ฉกษัตริย์). (ป., ส. กมฺป).
กัมพล กัมพล [กํา-] (แบบ) น. ผ้าทอด้วยขนสัตว์. (ป.).
กัมพุช,กัมพุช ๑,กัมพุช,กัมพุช- กัมพุช ๑, กัมพุช- [กําพุด, กําพุดชะ-] น. แคว้นเขมร, (โบ) ชื่อแคว้นหนึ่งทางตอนเหนือของอินเดีย, กัมโพช ก็ใช้.
กัมพุช,กัมพุช ๒ กัมพุช ๒ น. ชื่อเพลงไทยทํานองหนึ่ง.
กัมพุชพากย์ กัมพุชพากย์ น. ภาษาเขมร.
กัมพู กัมพู (แบบ) น. หอยสังข์; ทอง เช่น กัมพูหุ้มพู่พรรณจามรี. (บุณโณวาท), ทองสุคนธ์ปนสุวรรณ์กัมพู. (รามเกียรติ์ ร. ๒), (โบ) เขียนเป็น กําพู กําภู ก็มี. (ป., ส. กมฺพุ).
กัมพูชา กัมพูชา น. ชื่อประเทศเขมร.
กัมโพช กัมโพช [กําโพด] น. แคว้นเขมร, (โบ) ชื่อแคว้นหนึ่งทางตอนเหนือของอินเดีย, กัมพุช ก็ใช้.
กัมมัชวาต กัมมัชวาต [กํามัดชะวาด] (แบบ) น. กรรมชวาต, ลมเบ่ง. (ป.).
กัมมัฏฐาน กัมมัฏฐาน ดู กรรมฐาน.
กัมมันตภาพรังสี กัมมันตภาพรังสี [กํามันตะ-] น. การเสื่อมสลายโดยตัวเองของนิวเคลียสของอะตอมที่ไม่เสถียร เป็นผลให้ได้อนุภาคแอลฟา อนุภาคบีตา รังสีแกมมา ซึ่งเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีช่วงคลื่นสั้นมากและมีพลังงานสูง ทั้งหมดนี้พุ่งออกมาด้วยความเร็วสูงมาก ในบางกรณีอาจมีพลังงานความร้อนและพลังงานแสงเกิดตามมาด้วย เช่น การเสื่อมสลายของนิวเคลียสของธาตุเรเดียมไปเป็นธาตุเรดอน. (อ. radioactivity).
กัมมันตรังสี กัมมันตรังสี [กํามันตะ-] ว. ที่สามารถเกิดกัมมันตภาพรังสีได้ (ใช้แก่ธาตุหรือสาร). (อ. radioactive).
กัมมาร กัมมาร [กํามาน] (แบบ) น. กรรมาร, ช่างทอง, ช่างเหล็ก. (ป.; ส. กรฺมาร).
กัมลาศ กัมลาศ [กํามะลาด] (แบบ) น. กมลาสน์ คือ พระพรหม เช่น เพียงกัมลาศลงมาดิน. (ม. คําหลวง กุมาร). (ป., ส. กมลาสน).
กัยวิกัย กัยวิกัย [ไกยะวิไก] (แบบ) น. การซื้อและการขาย. (ป. กยวิกย).
กัลชาญ กัลชาญ [กันละชาน] ว. กลชาญ, เชี่ยวชาญ, เช่น แด่พระผู้กัลชาญพิเศษ. (ม. คําหลวง ทศพร).
กัลบก กัลบก [กันละ-] (แบบ) น. ช่างตัดผม, ช่างโกนผม. (ส.; ป. กปฺปก).
กัลป,กัลป-,กัลป์ กัลป-, กัลป์ [กันละปะ-, กัน] น. กัป, อายุของโลกตั้งแต่เมื่อพระพรหมสร้างเสร็จจนถึงเวลาที่ไฟประลัยกัลป์ล้างโลก ซึ่งได้แก่ช่วงเวลากลางวัน วันหนึ่งของพระพรหม คือ ๑,๐๐๐ มหายุค (เท่ากับ ๔,๓๒๐,๐๐๐,๐๐๐ ปีมนุษย์) เมื่อสิ้นกัลป์ พระอิศวรจะล้างโลกด้วยไฟประลัยกัลป์ โลกจะไร้สิ่งมีชีวิตและอยู่ในความมืดมนจนถึงรุ่งเช้าของวันใหม่ แล้วพระพรหมก็จะสร้างโลกเป็นการขึ้นต้นกัลป์ใหม่ โลกจะถูกสร้างและถูกทำลายเช่นนี้สลับกันตลอดอายุของพระพรหม ทั้งนี้ตามคติของพราหมณ์, บางทีใช้เข้าคู่กับคํา กัป เช่น ชั่วกัปชั่วกัลป์ นานนับกัปกัลป์พุทธันดร. (ส.; ป. กปฺป).
กัลปนา กัลปนา [กันละปะนา] ก. เจาะจงให้.<2t>น. ที่ดินหรือสิ่งอื่นเช่นอาคารซึ่งเจ้าของอุทิศผลประโยชน์ให้แก่วัดหรือศาสนา; ส่วนบุญที่ผู้ทําอุทิศให้แก่ผู้ตาย. (ส.; ป. กปฺปนา).
กัลปพฤกษ์,กัลปพฤกษ์ ๑ กัลปพฤกษ์ ๑ [กันละปะพฺรึก] น. ต้นไม้ที่เชื่อกันว่าให้ผลสําเร็จตามความปรารถนา; เรียกต้นไม้ที่ทําขึ้นเนื่องในการทิ้งทานในงานเมรุหลวง และมีลูกมะนาวบรรจุเงินตราห้อยอยู่ตามกิ่งต่าง ๆ ของต้นไม้นั้นว่าต้นกัลปพฤกษ์, เรียกลูกมะนาวที่บรรจุเหรียญเงินนั้นว่า ลูกกัลปพฤกษ์; (โบ) ใช้ว่า กํามพฤกษ์ ก็มี เช่น พวกประจํากํามพฤกษ์บังคมไหว้. (รามเกียรติ์ ร. ๒). (ส.; ป. กปฺปรุกฺข).
กัลปพฤกษ์,กัลปพฤกษ์ ๒ กัลปพฤกษ์ ๒ [กันละปะพฺรึก] น. ชื่อไม้ต้นชนิด Cassia bakeriana Craib ในวงศ์ Leguminosae มีมากทางภาคอีสานและภาคเหนือ ดอกสีชมพูอ่อน ออกเป็นช่อในระหว่างทิ้งใบหรือผลิใบใหม่ ฝักมีขนนุ่ม.
กัลปังหา กัลปังหา [กันละ-] ดู กะละปังหา.
กัลปาวสาน กัลปาวสาน [กันละปาวะสาน] น. ที่สุดแห่งระยะเวลากัลป์หนึ่ง คือ ช่วงเวลา ๔,๓๒๐,๐๐๐,๐๐๐ ปีมนุษย์. (ส. กลฺป + อวสาน).
กัลปิต กัลปิต [กันละปิด] (แบบ) ว. สําเร็จแล้ว; ควรแล้ว; ตัดแล้ว. (ส.; ป. กปฺปิต).
กัลพุม กัลพุม [กันพุม] (โบ) น. กรรพุม, มือที่ประนม, เช่น ถวายกรกัลพุมบันสารโกสุม ศิโรจม์. (ม. คำหลวง ฉกษัตริย์); พุ่ม เช่น จับพฤกษางกูรกัลพุม โดยกุสุมฤดูกาล. (ม. คำหลวง วนปเวสน์).
กัลเม็ด กัลเม็ด [กันละ-] น. กลเม็ด, วิธีที่แยบคาย, สิ่งที่แยบคาย; แหวนที่มีก้านหัวเป็นเกลียวถอดออกจากเรือนได้ เรียกว่า แหวนกัลเม็ด, ขวดที่มีจุกเป็นเกลียวเรียกว่า ขวดกัลเม็ด.
กัลยา กัลยา [กันละยา] น. นางงาม.
กัลยาณ,กัลยาณ- กัลยาณ- [กันละยานะ-] ว. งาม, ดี, ใช้เป็นบทหน้าสมาส เช่น กัลยาณคุณ = คุณอันงาม กัลยาณธรรม = ธรรมอันดี กัลยาณมิตร = มิตรดี. (ป., ส.).
กัลยาณมิตร กัลยาณมิตร [กันละยานะมิด] น. ชื่อเพลงไทยทํานองหนึ่ง.
กัลยาณี กัลยาณี [กันละยานี] น. นางงาม, หญิงงาม. (ป., ส.).
กัลยาเยี่ยมห้อง กัลยาเยี่ยมห้อง น. ชื่อเพลงไทยทํานองหนึ่ง.
กัลเว้า กัลเว้า [กันเว้า] ว. พูดอ่อนหวาน, พูดเอาใจ, เช่น ก็มีพระราชโองการอนนกัลเว้า. (ม. คําหลวง มหาราช).
กัลหาย กัลหาย [กัน-] ก. กรรหาย เช่น ชายใดเดอรร้อนรนนจวนจวบสร้อยสรสวรก็หายกัลหายหื่นหรรษ์. (ม. คําหลวง จุลพน).
กัลโหย กัลโหย [กัน-] ก. กรรโหย เช่น สารเสียงหงสกัลโหย. (สมุทรโฆษ).
กัลออม กัลออม [กันละ- ] น. ภาชนะสานด้วยไม้ไผ่ ยาชัน รูปคล้ายกระบุง ไม่มีคอ ใช้ใส่น้ำ, กะออม กระออม หรือ กะละออม ก็ว่า.
กัลเอา กัลเอา [กัน-] ว. กรรเอา, กลมกล่อม. (ข. กฺรเอา).
กัศมล กัศมล [กัดสะมน] (แบบ) ว. น่าเกลียด, ไม่งาม, อุจาด, เช่น บพิตรพราหมณ์นี้กาจกัศมลร้ายพ้นคนในโลกย์นี้. (ม. คําหลวง กุมาร). (ส.).
กัศยป กัศยป [กัดสะหฺยบ] (แบบ) น. เต่า. (ส.).
กัษณ กัษณ [กัดสะหฺนะ] (กลอน) น. กษณะ, ขณะ, เช่น ในเมื่อกาลกัษณ. (ม. คําหลวง สักบรรพ).
กา,กา ๑ กา ๑ น. ชื่อนกชนิด Corvus macrorhynchos ในวงศ์ Corvidae ตัวดํา ร้องกา ๆ, อีกา ก็เรียก; ชื่อดาวฤกษ์ธนิษฐา เช่น แม้นดาวกามาใกล้ในมนุษย์. (อภัย).
กา,กา ๒ กา ๒ น. ชื่อปลานํ้าจืดชนิด Morulius chrysophekadion ในวงศ์ Cyprinidae ปากงุ้มตํ่า ตาเล็ก ตลอดทั้งหัว ตัว และครีบมีสีม่วงจนดําทึบ เฉพาะเกล็ดมีจุดสีเหลืองประปราย, เพี้ย ก็เรียก.
กา,กา ๓ กา ๓ น. ภาชนะสําหรับใส่นํ้าหรือต้มนํ้า มีพวยและหูสําหรับหิ้วหรือจับ, ลักษณนามว่า ใบ หรือ ลูก
กา,กา ๔ กา ๔ น. คํากํากับชื่อปีในวิธีนับศักราชของไทยเหนือ ตรงกับเลข ๐.
กา,กา ๕ กา ๕ ก. ทําเครื่องหมายเป็นรูปกากบาท, ทำเครื่องหมายไว้ให้สังเกตได้ เช่น ดูเฉพาะที่กาไว้.
ก๋า,ก๋า ๑ ก๋า ๑ (ปาก) ว. อาการที่ทําท่าว่าเก่ง เช่น ยืนก๋า เต้นก๋า.
ก๋า,ก๋า ๒ ก๋า ๒ ดู หมอช้างเหยียบ.
กาก กาก น. สิ่งที่เหลือเมื่อคั้นหรือคัดเอาส่วนดีออกแล้ว เช่น กากมะพร้าว; หยากเยื่อ; เดนเลือก (ใช้เป็นคําด่า) เช่น กากมนุษย์ คนกาก.
กาก,กาก-,กากะ กาก-, กากะ (แบบ) น. กา (นก). (ป., ส.).
กากขยาก กากขยาก น. กากที่หยาบ, หยากเยื่อ.
กากข้าว กากข้าว น. ข้าวเปลือกที่ปนอยู่ในข้าวสารหรือข้าวสุก.
กากคติ กากคติ [กากะคะติ] น. ชื่อกาพย์ชนิดหนึ่ง มีดําเนินกลอนอย่างกาที่บินไป เช่น สรรเพ็ชญ์เจ้าได้ ทรงฤทธิ์เรืองไกร ย่อมบำเพงทาน ให้พระวิมุติ โลกุดรญาณแสวงศีลาจาร ประเสริฐหนักหนา. (ชุมนุมตํารากลอน).
กากณึก กากณึก [กากะหฺนึก] น. ทรัพย์มีค่าเท่าค่าแห่งชิ้นเนื้อพอกาพาไปได้; ชื่อมาตราเงินอย่างตํ่าที่สุด. (ป. กากณิกา).
กากบาท กากบาท [กากะบาด] น. ชื่อเครื่องหมายอย่างตีนกา มีรูป + หรือ ; ใช้ + เป็นเครื่องหมายวรรณยุกต์บอกเสียงจัตวา.
กากเพชร กากเพชร น. ส่วนของเพชรที่คัดออก; ผงแวววาวคล้ายกระจกสําหรับโรยแต่งเครื่องประดับเป็นต้น; เครื่องใช้ตัดกระจก; เครื่องใช้เจียระไนรัตนชาติ; เครื่องบดวาล์ว, เรียกเครื่องลับมีดเป็นต้นชนิดหนึ่งว่า หินกากเพชร.
กากภาษา กากภาษา [กากะพาสา] น. ชาติกา เช่น ลางมารนิรมิตอินทรีย์เศียรเป็นอสุรี และกายเป็นกากภาษา. (คําพากย์).
กากรุน,กากกะรุน กากรุน, กากกะรุน น. ผงของกะรุนที่เอามาผสมครั่งขัดของแข็งเช่นป้าน.
กากหมู กากหมู น. มันหมูที่เจียวเอานํ้ามันออกแล้ว.
กากะทิง กากะทิง ดู กระทิง ๒.
กากะเยีย กากะเยีย น. เครื่องสําหรับวางหนังสือใบลาน ทําด้วยไม้ ๘ อันร้อยเชือกไขว้กัน.
ก๋ากั่น ก๋ากั่น ว. อวดกล้า (มักใช้แก่ผู้หญิง).
กากี,กากี ๑ กากี ๑ น. กาตัวเมีย. (ป., ส.).
กากี,กากี ๒ กากี ๒ น. หญิงมากชู้หลายผัว. (เป็นคําด่า มีเค้าเรื่องมาจาก กากาติชาดก).
กากี,กากี ๓ กากี ๓ ว. สีนํ้าตาลปนเหลือง, สีสนิมเหล็ก.
กากีแกมเขียว กากีแกมเขียว ว. สีเขียวขี้ม้า.
กาคาบพริก กาคาบพริก (สํา) ว. ลักษณะที่คนผิวดําแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสีแดง.
กาง,กาง ๑ กาง,กาง ๑ ก. ถ่างออก เช่น กางขา, คลี่ เช่น กางปีก, เหยียดออกไป เช่น กางแขน, ขึงออกไป เช่น กางใบ กางมุ้ง, แบะออก เช่น กางหนังสือ.<2t>ว. ที่ถ่างออก คลี่ออก เหยียดออก ขึงออก หรือ แบะออก เช่น หูกาง ท้องกาง.
กาง,กาง ๒ กาง ๒ (ถิ่น-พายัพ) น. ต้นคาง. (ดู คาง ๒).
ก้าง,ก้าง ๑ ก้าง ๑ น. ส่วนแข็งที่ประกอบเป็นโครงร่างของปลา โดยปรกติหมายเอาชิ้นที่แหลมเล็ก ๆ.
ก้าง,ก้าง ๒ ก้าง ๒ น. ชื่อปลานํ้าจืดชนิด Channa gachua ในวงศ์ Channidae คล้ายปลาช่อนหรือปลากระสงซึ่งเป็นปลาสกุลเดียวกัน เว้นแต่ปลาก้างนั้นเกล็ดข้างตัวมีราว ๔๑-๔๕ เกล็ด ขอบครีบต่าง ๆ เป็นสีส้ม, ขี้ก้าง ก็เรียก.
ก้าง,ก้าง ๓ ก้าง ๓ (กลอน) ก. กั้ง, กั้น, ขวาง, เช่น สองท้าวยินสองสายใจ จักก้างกลใด บดีบันโดยดังถวิล. (สรรพสิทธิ์).
กางเกง กางเกง น. เครื่องนุ่งมี ๒ ขา.
กางเกียง กางเกียง ก. ไม่ลงรูป, ไม่ลงรอย, ไม่ลงที่, สวมกันไม่เข้า, ใช้ว่า กางเกี่ยง ก็มี เช่น เมื่อนั้น พระคาวีเห็นนางยังกางเกี่ยง ยิ้มพลางทางลงไปจากเตียง แล้วกล่าวเกลี้ยงแกล้งปลอบให้ชอบใจ. (คาวี), กังเกียง หรือ กําเกียง ก็ว่า.
กางเกี่ยง กางเกี่ยง ดู กางเกียง.
ก้างขวางคอ ก้างขวางคอ น. ผู้ขัดขวางมิให้ทําการได้สะดวก, ผู้ขัดขวางให้ผู้อื่นเสียประโยชน์.
กางของ กางของ (ถิ่น-อีสาน) น. ต้นปีบ. (ดู ปีบ ๑).
กางขี้มอด กางขี้มอด (ถิ่น-พายัพ) น. ชื่อไม้ต้นขนาดใหญ่ชนิด Acrocarpus fraxinifolius Wight et Arn. ในวงศ์ Leguminosae มีฝักแบน ๆ, ขางแดง หรือ แดงนํ้า ก็เรียก.
กางเขน กางเขน น. ชื่อนกชนิด Copsychus saularis ในวงศ์ Turdidae ตัวขนาดนกปรอด ส่วนบนลําตัวสีดํา ส่วนล่างตั้งแต่หน้าอกลงไปสีขาวหม่น ปีกมีลายพาดสีขาว มักอยู่เป็นคู่หรือกลุ่มเล็ก ๆ กินแมลง, พายัพเรียก จีแจ๊บ, อีสานเรียก จี่จู้.
ก้างปลา ก้างปลา น. ชื่อไม้พุ่มหลายชนิดในสกุล Phyllanthus และ Securinega วงศ์ Euphorbiaceae ใบยาวรี ปลายใบทู่ ออกดอกเป็นกลุ่มอยู่ตามง่ามใบแถวปลายกิ่ง ชนิดผลสีขาว เรียก ก้างปลาขาว (S. virosa Baill.) ชนิดผลสีคลํ้า เรียก ก้างปลาแดง (S. leucopyrus Muell. Arg.) และชนิด P. reticulatus Poir. ชนิดหลังนี้เรียกกันว่า ก้างปลาเครือ ใช้ทํายาได้.
กางเวียน กางเวียน (โบ) น. เครื่องมือสำหรับเขียนวงกลม ส่วนโค้งของวงกลม หรือกะระยะ ทำด้วยโลหะ มี ๒ ขา ปลายข้างหนึ่งแหลม ปลายอีกข้างหนึ่งมีดินสอเป็นต้น อีกแบบหนึ่งมีปลายแหลมทั้ง ๒ ข้าง แบบหลังนี้ใช้สำหรับเขียนบนโลหะก็ได้, วงเวียน หรือ กงเวียน ก็ว่า; การหมุนเวียนชนิดหนึ่ง เช่น แล้วจับเท้าทั้งสองหันเวียนไปดั่งบุคคลทํากางเวียน. (กฎหมายเก่า).
กาจับหลัก,กาจับหลัก ๑ กาจับหลัก ๑ น. ไม้แป้นวงกลม มีหลักปักอยู่ที่ริมแป้น ที่ปลายหลักมีวัตถุรูปกระจับสําหรับรับคางศพที่บรรจุโกศ; เครื่องดักทําร้ายของโบราณ มีของแหลมอยู่ข้างล่าง เมื่อคนนั่งกระทบไกเข้าก็ลัดขึ้นเสียบทวาร; ท่าถือขอช้างอย่างหนึ่ง. (ตําราขี่ช้าง).
กาจับหลัก,กาจับหลัก ๒ กาจับหลัก ๒ (๑) ดู กาสามปีก (๑).<2t>(๒) ดู ราชดัด.
กาชาด กาชาด น. เครื่องหมายรูปกากบาท (+) สีแดงชาดบนพื้นขาว เป็นเครื่องหมายกาชาดสากล.
ก๊าซ ก๊าซ น. อากาศธาตุ, (วิทยา) สถานะหนึ่งของสสาร รูปร่างและปริมาตรไม่คงที่ ขึ้นอยู่กับภาชนะที่บรรจุ, เรียกไฟซึ่งเกิดจากการจุดอะเซทิลีน ซึ่งได้จากก้อนแคลเซียมคาร์ไบด์ทําปฏิกิริยากับนํ้าว่า ไฟก๊าซ, แก๊ส ก็ว่า. (อ. gas).
ก๊าซไข่เน่า,แก๊สไข่เน่า ก๊าซไข่เน่า, แก๊สไข่เน่า น. แก๊สพิษชนิดหนึ่ง มีกลิ่นเหม็นเหมือนไข่เน่า มีสูตร H2S เกิดขึ้นจากการเสื่อมสลายของสารอินทรีย์ที่ประกอบด้วยกํามะถัน ในธรรมชาติมักมีปรากฏละลายอยู่ในบ่อนํ้าร้อนและในแหล่งนํ้าแร่บางแห่ง. (อ. hydrogen sulphide).
ก๊าซเฉื่อย,แก๊สเฉื่อย ก๊าซเฉื่อย, แก๊สเฉื่อย น. ธาตุที่เป็นแก๊ส มีสมบัติไม่ไวต่อปฏิกิริยาเคมี ได้แก่ ฮีเลียม นีออน อาร์กอน คริปทอน ซีนอน และเรดอน, ปัจจุบันเรียก ก๊าซมีตระกูล, แก๊สมีตระกูล (noble gases) หรือ ก๊าซหายาก, แก๊สหายาก (rare gases). (อ. inert gases).
ก๊าซชีวภาพ,แก๊สชีวภาพ ก๊าซชีวภาพ, แก๊สชีวภาพ น. แก๊สที่เกิดจากการเสื่อมสลายผุพังของสิ่งมีชีวิต หรือสิ่งที่สืบเนื่องจากสิ่งมีชีวิต ติดไฟได้ ใช้เป็นเชื้อเพลิงเป็นต้น.
ก๊าซน้ำตา,แก๊สน้ำตา ก๊าซน้ำตา, แก๊สน้ำตา น. สารที่อยู่ในสภาพที่แพร่กระจายเป็นไอหรือควันทําให้ระคายเคืองนัยน์ตาอย่างรุนแรง นํ้าตาไหล และมองไม่เห็นชั่วขณะหนึ่ง. (อ. tear gas).
ก๊าซหุงต้ม,แก๊สหุงต้ม ก๊าซหุงต้ม, แก๊สหุงต้ม น. แก๊สที่ประกอบด้วยสารอินทรีย์ที่ติดไฟได้ง่าย ใช้ในการหุงต้มเป็นต้น.
กาซะลอง กาซะลอง (ถิ่น-พายัพ) น. ต้นปีบ. (ดู ปีบ ๑).
กาซะลองคำ กาซะลองคำ น. ชื่อไม้ต้นชนิด Radermachera ignea (Kurz) Steenis ในวงศ์ Bignoniaceae ชอบขึ้นตามที่ค่อนข้างชุ่มชื้นทางภาคเหนือ เปลือกเรียบสีเทา ดอกสีเหลืองทอง, อ้อยช้าง ก็เรียก.
กาญจน,กาญจน-,กาญจนา กาญจน-, กาญจนา [กานจะนะ-] (แบบ) น. ทอง. (ส.; ป. กญฺจน).
กาญจนาภิเษก กาญจนาภิเษก น. พระราชพิธีที่พระเจ้าแผ่นดินกระทำเมื่อครองราชสมบัติได้ ๕๐ ปี.
กาฐ กาฐ [กาด] (แบบ) น. ไม้ฟืน เช่น คือโกยกาฐอันกองแลนองธรณิภาค กลาดกล่นถกลหลาก อนันต์. (สรรพสิทธิ์), กาษฐะ ก็ใช้. (ป. กฏฺ; ส. กาษฺ).
กาด,กาด ๑ กาด ๑ น. ชื่อไม้ล้มลุกหลายชนิดหลายสกุล บางชนิดใช้ใบ บางชนิดใช้หัวเป็นผัก เช่น ผักกาดกวางตุ้ง (Brassica chinensis Jusl.) ผักกาดขม หรือ ผักกาดเขียว (B. juncea Czern. et Coss.) ผักกาดขาว หรือ แป๊ะช่าย (B. chinensis Jusl. var. pekinensis Rupr.) ผักกาดหัว หรือ ไช้เท้า (Raphanus sativus L.) ในวงศ์ Cruciferae, ผักกาดหอม (Lactuca sativa L.) ในวงศ์ Compositae, ผักเหล่านี้เป็นพรรณไม้ที่นําเข้ามาปลูกเพื่อเป็นอาหาร.
กาด,กาด ๒ กาด ๒ (ถิ่น-พายัพ) น. ตลาด.
ก๊าด ก๊าด น. เรียกนํ้ามันชนิดหนึ่งที่ใช้ตามตะเกียงว่า นํ้ามันก๊าด. (อ. kerosene).
กาน กาน ก. ตัดเพื่อให้แตกใหม่ เช่น กานต้นมะขาม, ตัดเพื่อให้ลําต้นเปลา เช่น กานต้นสน; ควั่นเปลือกและกระพี้ต้นไม้เพื่อให้ยืนต้นตาย เช่น กานต้นสัก, ควั่นเปลือกและกระพี้ต้นไม้เพื่อให้มีลูก เช่น กานต้นมะพร้าว.
ก่าน ก่าน ว. ด่าง, ผ่าน, มีลายพาด, เช่น พนคณนกหค ก่านแกม ปีกหางนวยแนม นนวยนเนียร้องริน. (ม. คำหลวง มหาพน); เก่ง, กล้า, กั่น, เช่น ปางเมื่อเจ้าเข้าดงด่าน ตววก่านกาจชาติชัฏขน สัตวตนสื่อชื่อมนนหมี ได้ทีทำนำความเข็ญ. (ม. คําหลวง ทานกัณฑ์).
ก้าน,ก้าน ๑ ก้าน ๑ น. ส่วนที่ต่อดอก หรือใบ หรือผล กับกิ่งไม้, เรียกสิ่งที่มีลักษณะคล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น ก้านตุ้มหู ก้านไม้ขีด; กระดูกกลางแห่งใบไม้บางอย่าง เช่น มะพร้าว จาก.
ก้าน,ก้าน ๒ ก้าน ๒ น. ก่าน, กล้า, เช่น รู้ไป่ทันแก่ก้าน<2t>กล่าวถ้อยกลางสนาม. (โลกนิติ).
ก๊าน ก๊าน (ถิ่น-พายัพ) ก. ค้าน, แพ้, สู้ไม่ได้, เช่น ก๊านพ่ายหนี.
ก้านขด ก้านขด น. ชื่อลายชนิดหนึ่งที่เขียนเป็นลายขดไปขดมา.
ก้านแข็ง ก้านแข็ง น. เรียกกําไลชนิดหนึ่งว่า กําไลก้านแข็ง.
ก้านคอ ก้านคอ น. ลําคอด้านหลัง.
กานดา กานดา น. หญิงที่รัก. (ส. กานฺตา; ป. กนฺตา).
กานต์ กานต์ (แบบ) ว. เป็นที่รัก, โดยมากใช้เป็นส่วนท้ายของสมาส เช่น จันทรกานต์ เป็นที่รักของพระจันทร์ ได้แก่แก้วผลึกที่ถูกแสงจันทร์แล้วมีเหงื่อ, คู่กับ สูรยกานต์ เป็นที่รักของพระอาทิตย์ ได้แก่แก้วที่รวมแสงอาทิตย์ให้เกิดไฟได้. (ส.).
ก้านตอง ก้านตอง น. ไม้ขนาบข้างเรือรูปกลม ๆ คล้ายทางกล้วย.
ก้านต่อดอก ก้านต่อดอก น. ชื่อวิธีร้อยดอกไม้เป็นตาข่าย; ชื่อลายชนิดหนึ่ง; ชื่อกลบทชนิดหนึ่ง เช่น แสนถวิลเทวษว้าอาวรณ์สมร ทุกข์ระทมกรมทรวงดั่งศรรอน จะนั่งนอนมีแต่พรํ่ากําสรวลครวญ.
กานท,กานท์ กานท, กานท์ (โบ) น. บทกลอน เช่น สารสยามภาคพร้อง<2t>กลกานท นี้ฤๅ. (ยวนพ่าย).
กานน,กานน ๑ กานน ๑ [-นน] (แบบ) น. ป่า, ดง, เช่น อันว่าท้องเขาวงกฏกานน. (ม. คําหลวง วนปเวสน์). (ป., ส.).
กานน,กานน ๒ กานน ๒ [-นน] ดู ตีนนก (๑).
ก้านบัว ก้านบัว น. กําไลเท้า.
ก้านพร้าว ก้านพร้าว น. โกฐก้านพร้าว. (ดู โกฐก้านพร้าว).
กานพลู กานพลู [-พฺลู] น. ชื่อไม้ต้นขนาดกลางชนิด Syzygium aromaticum (L.) Merr. et L.M. Perry ในวงศ์ Myrtaceae ดอกตูมมีรสเผ็ดร้อน ตากแห้งแล้วใช้เป็นเครื่องเทศและทํายา. (ทมิฬ กิรามบู).
ก้านมะพร้าว ก้านมะพร้าว ดู ทางมะพร้าว.
ก้านยาว ก้านยาว น. ชื่อทุเรียนพันธุ์หนึ่ง; (ปาก) ผู้ที่มีรูปร่างผอมสูงกว่าปรกติ.
ก้านแย่ง ก้านแย่ง น. ชื่อลายชนิดหนึ่ง ซึ่งมีรูปโครงเป็นตาข่ายแย่งดอกแย่งก้านกัน.
ก้านเหลือง ก้านเหลือง น. ชื่อไม้ต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ชนิด Nauclea orientalis (L.) L. ในวงศ์ Rubiaceae คล้ายกระทุ่ม ขึ้นตามริมนํ้า เนื้อไม้สีเหลือง ละเอียด ใช้ในการก่อสร้าง.
กาน้า กาน้า น. ชื่อไม้ต้นชนิด Canarium album (Lour.) Raeusch. ในวงศ์ Burseraceae ผลคล้ายสมอบางชนิด กินได้ มีถิ่นกําเนิดในประเทศจีน, สมอจีน ก็เรียก.
กาน้ำ กาน้ำ น. ชื่อนกในวงศ์ Phalacrocoracidae ตัวสีดํา คอยาว ว่ายนํ้าเหมือนเป็ด ดํานํ้าจับปลากินเป็นอาหาร อาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูง ในประเทศไทยมี ๓ ชนิด คือ กานํ้าใหญ่ (Phalacrocorax carbo) กานํ้าปากยาว (P. fuscicollis) และ กานํ้าเล็ก (P. niger).
กาบ,กาบ ๑ กาบ ๑ น. เปลือกหุ้มชั้นนอกของผล ช่อดอก หรือลําต้นของต้นไม้บางชนิด ลอกออกได้ เช่น กาบมะพร้าว กาบหมาก กาบกล้วย, โดยปริยายหมายถึงสิ่งที่มีลักษณะเช่นนั้น.
กาบ,กาบ ๒ กาบ ๒ น. ชื่อหอยนํ้าจืดกาบคู่หลายชนิดหลายสกุลในวงศ์ Unionidae และ Amblemidae เปลือกบางหรือหนาแล้วแต่ชนิดและวัย มีหลายขนาด ผิวนอกเป็นสีเขียวคลํ้าหรือนํ้าตาลเข้ม ด้านในเป็นมุก เช่น ชนิด Chamberlainia hainesiana, กาบนํ้าจืด ก็เรียก.
กาบ,กาบ ๓ กาบ ๓ น. คํากํากับชื่อปีในวิธีนับศักราชของไทยเหนือตรงกับเลข ๑.
ก้าบ ๆ ก้าบ ๆ ว. เสียงร้องของเป็ด.
กาบกี้ กาบกี้ น. ชื่อหอยนํ้าจืดกาบคู่ชนิด Uniandra contradens ในวงศ์ Amblemidae เป็นหอยกาบขนาดกลาง, กี ก็เรียก.
กาบเขียง กาบเขียง น. ส่วนที่หุ้มจั่นหมาก จั่นมะพร้าว.
กาบคู่ กาบคู่ น. ชื่อเรียกหอยในชั้น Bivalvia หรือ Pelecypoda เปลือกหุ้มตัวมีลักษณะเป็น ๒ กาบ ปิดและเปิดได้.
กาบเดียว,กาบเดี่ยว กาบเดียว, กาบเดี่ยว น. ชื่อเรียกหอยในชั้น Gastropoda มีเปลือกต่อกันเป็นชิ้นเดียวโดยเวียนเป็นวงซ้อนกัน และมีช่องให้ตัวหอยโผล่ออกมาจากเปลือกได้.
กาบน้ำจืด กาบน้ำจืด ดู กาบ ๒.
กาบบัว กาบบัว น. ชื่อนกขนาดใหญ่ชนิด Mycteria leucocephala ในวงศ์ Ciconiidae ตัวใหญ่ คอและขายาว ลําตัว หัว และคอสีขาว มีแถบดําคาดขวางหน้าอก ขนคลุมปีกตอนปลายสีชมพู ปากยาวสีเหลือง อาศัยอยู่ตามบึงและหนองนํ้า กินปลา.
กาบปูเล กาบปูเล น. ส่วนล่างของทางใบที่หุ้มรอบลําต้นหมากเมื่อแก่จัดแล้วหลุดลงมา.
กาบพรหมศร กาบพรหมศร น. ชื่อกาบกระหนกชนิดหนึ่งที่ประกอบกับโคนเสา เช่น เสาบุษบก มีลักษณะคล้ายอินทรธนูละคร.
กาบหอยแครง กาบหอยแครง ดู ว่านกาบหอย.
กาบุรุษ กาบุรุษ [กาบุหฺรุด] (แบบ) น. คนเลว. (ส. กาปุรุษ; ป. กาปุริส).
กาบู กาบู น. กระเบื้องมุงหลังคาชนิดหนึ่ง มีลักษณะเป็นกระเบื้อง ๒ แผ่นวางคร่อมกัน แผ่นคว่ำมีรูปร่างเหมือนกาบกล้วย ข้างใต้ตอนบนมีงวงหรือขอสำหรับยึดกับระแนง ส่วนแผ่นหงายที่อยู่ข้างล่างนั้นเป็นแผ่นแบน งอริมขึ้นทั้ง ๒ ข้าง มีขออยู่ตอนบนเพื่อเกี่ยวกับระแนง ปัจจุบันนิยมทำให้กระเบื้องแผ่นคว่ำและแผ่นหงายติดเป็นแผ่นเดียวกันเพื่อให้มีความคงทนมากขึ้น, กระเบื้องกาบกล้วย ก็เรียก.
กาเปี้ยด กาเปี้ยด (ถิ่น) น. ต้นหนอนตายหยาก. (พจน. ๒๔๙๓).
กาฝาก กาฝาก น. ชื่อพืชเบียนหลายชนิดในหลายวงศ์ที่อาศัยเกาะดูดนํ้าและแร่ธาตุ หรือสารอาหารที่สังเคราะห์แล้วจากพรรณไม้อื่น ส่วนใหญ่มักใช้เรียกไม้พุ่มที่อาศัยเกาะเบียนไม้ต้นชนิดต่าง ๆ ในวงศ์ Loranthaceae, Santalaceae และ Viscaceae.
กาพย์ กาพย์ น. คําร้อยกรองประเภทหนึ่ง มีหลายชนิด เช่น กาพย์ฉบัง กาพย์สุรางคนางค์ กาพย์ยานี กาพย์ขับไม้. (ส. กาวฺย).
กาพย์กลอน กาพย์กลอน น. คําร้อยกรอง.
กาฟักไข่ กาฟักไข่ น. ชื่อการเล่นอย่างหนึ่ง ผู้เล่นหาไม้หรือของอื่นมาคนละชิ้นสมมุติเป็นไข่ มอบให้แก่ผู้ที่ถูกจับสลาก สมมุติเป็นกา ผู้เป็นการักษาสิ่งนั้นไว้ในวงเขตที่กําหนด ผู้เล่นนอกนั้นคอยลักไข่.
กาเฟอีน กาเฟอีน น. สารประกอบอินทรีย์ประเภทพิวรีน มีสูตรเคมี C8H10O2N4 ลักษณะเป็นผลึกสีขาว มีในใบชา เมล็ดกาแฟ เป็นยาเสพติดอย่างอ่อน มีฤทธิ์อย่างแรงต่อหัวใจ ใช้ในการแพทย์. (ฝ. caféine).
กาแฟ,กาแฟ ๑ กาแฟ ๑ น. ชื่อเครื่องดื่มชนิดหนึ่ง ทํามาจากเมล็ดต้นกาแฟ.
กาแฟ,กาแฟ ๒ กาแฟ ๒ น. ชื่อไม้พุ่มหลายชนิดในสกุล Coffea วงศ์ Rubiaceae เช่น ชนิด C. arabica L., C. canephora Pierre ex Froehner และ C. liberica Bull. ex Hiern ชนิดหลังนี้ กาแฟใบใหญ่ ก็เรียก, กาแฟเป็นพืชแถบทวีปแอฟริกา ปลูกเป็นพืชเศรษฐกิจ เมล็ดแก่คั่วแล้วบด ใช้ชงเป็นเครื่องดื่ม ในเมล็ดกาแฟมีสารเคมีชนิดหนึ่ง เรียกว่า กาเฟอีน.
กาม,กาม- กาม, กาม- [กามมะ-] น. ความใคร่, ความใคร่ทางเมถุน. (ป., ส.).
ก้าม ก้าม น. อวัยวะของสัตว์บางชนิดเช่นปูและกุ้ง สําหรับหนีบอาหารเป็นต้น.
ก้ามกราม ก้ามกราม น. ชื่อกุ้งนํ้าจืดชนิด Macrobrachium rosenbergii ในวงศ์ Palaemonidae ตัวโต เปลือกสีครามปนเขียว ก้ามสีฟ้า มีหนาม วางไข่ในนํ้ากร่อย, กุ้งหลวง ก็เรียก, เพศเมียเรียก กุ้งนาง.
กามกรีฑา กามกรีฑา น. ชั้นเชิงในทางกาม. (ส.).
กามกิจ กามกิจ น. การร่วมประเวณี.
ก้ามกุ้ง ก้ามกุ้ง ดู ผกากรอง.
ก้ามเกลี้ยง ก้ามเกลี้ยง น. ชื่อกุ้งนํ้าจืดชนิด Macrobrachium sintangense ในวงศ์ Palaemonidae ตัวเล็กกว่ากุ้งก้ามกราม ก้ามเล็กเรียบไม่มีหนาม.
กามคุณ กามคุณ น. สิ่งที่น่าปรารถนามี ๕ ประการ คือ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส; ความปรารถนาในเมถุน. (ป., ส.).
กามฉันท์ กามฉันท์ น. ความพอใจในกามคุณทั้ง ๕. (ป.).
ก้ามดาบ ก้ามดาบ ดู เปี้ยว ๑.
กามตัณหา กามตัณหา น. ความอยากในกามคุณทั้ง ๕. (ป.).
กามท,กามท- กามท- [กามมะทะ-] ว. ผู้ให้ตามที่ปรารถนา เช่น หนึ่งโสดกามทราช จักประพาศยลราชี ตามวิถีแนวไม้ไพรระเรียง. (ม. คําหลวง หิมพานต์). (ป., ส.).
กามเทพ กามเทพ น. เทพเจ้าแห่งความรัก. (ป.).
กามน กามน [กา-มน] ว. เต็มไปด้วยกาม เช่น ฤๅโฉมพระศรีศริ อภิลาศกามน. (สุธน). (ป., ส.).
ก้ามปู ก้ามปู น. ชื่อไม้ต้นขนาดใหญ่ชนิด Albizia saman (Jacq.) F. Muell. ในวงศ์ Leguminosae เรือนยอดทึบแบนแผ่สาขากว้างใหญ่จึงให้ร่มเงาได้ดี ช่อดอกเป็นพู่สีชมพูแก่ ฝักแก่สีนํ้าตาลไหม้ ยาวประมาณ ๑๒ เซนติเมตร รสหวาน เป็นไม้ที่นําเข้ามาปลูก เดิมเรียก จามจุรีแดง แต่มักเรียกสั้น ๆ ว่า จามจุรี, พายัพเรียก ฉำฉา หรือ สำสา.
ก้ามปูหลุด ก้ามปูหลุด น. ชื่อไม้ล้มลุกชนิด Tradescantia zebrina Hort. ex Bosse ในวงศ์ Commelinaceae ลําต้นเรียว และเป็นปล้อง ๆ เลื้อยไปตามดิน ใบสีเขียวหม่น ใบด้านบนมีแถบสีเทาคาดตามยาว ด้านล่างสีม่วงแดง ดอกสีชมพู.
กามภพ กามภพ น. ที่เกิดของผู้ที่ยังเกี่ยวด้วยกาม, โลกเป็นที่อยู่อาศัยของผู้เสพกาม ได้แก่ อบายภูมิ ๔ (นรกภูมิ ติรัจฉานภูมิ เปรตวิสัยภูมิ อสุรกายภูมิ) มนุษยโลก ๑ และสวรรค์ ๖ ชั้น (จาตุมหาราชิกหรือจาตุมหาราชิกา ดาวดึงส์ ยามา ดุสิต นิมมานนรดี ปรนิมมิตวสวัตดี) รวมเป็น ๑๑, กามภูมิ ก็ว่า. (ป.).
กามราค,กามราคะ กามราค, กามราคะ [กามมะราก, กามมะ-] น. ความกําหนัดในกาม. (ป., ส.).
กามโรค กามโรค น. โรคซึ่งติดต่อกันได้โดยการประกอบกามกิจหรือติดต่อกันโดยใช้สิ่งของร่วมกับคนเป็นกามโรคเป็นต้น, เรียกเป็นสามัญว่า โรคบุรุษ หรือ โรคผู้หญิง.
กามวิตก กามวิตก น. ความครุ่นคิดในกาม, ความคิดคำนึงในทางกาม. (ป.).
กามวิตถาร กามวิตถาร [กามวิดถาน] น. การประกอบกามกิจที่ผิดปรกติวิสัย เช่น รักร่วมเพศ, การทรมานตนหรือผู้อื่นก่อนหรือในระหว่างร่วมเพศ.<2t>ว. ผิดปรกติทางเพศเช่นนั้น.
กามสมังคี กามสมังคี ว. พร้อมด้วยกามคุณ เช่น เสด็จเสวยอุฬาริกราชกามสมังคีศรีสุขุมสุข. (ม. ร่ายยาว นครกัณฑ์). (ป. กาม + สมงฺคี = มีความพร้อมเพรียง).
กามัช กามัช ว. เกิดแต่กาม. (ป., ส.).
กามา กามา (กลอน) น. กาม เช่น เข้าแต่หอล่อกามา. (มูลบท).
กามาทีนพ กามาทีนพ น. โทษแห่งกาม. (ป. กาม + อาทีนว).
กามาพจร,กามาวจร กามาพจร, กามาวจร ว. ที่ยังข้องอยู่ในกาม, ที่ท่องเที่ยวอยู่ในกามภพ. (ป. กาม + อวจร).
กามามิศ กามามิศ น. อามิสคือกาม เช่น ฝ่ายเจ้าช้างจงจม ตมเปือกกามามิศ. (ม. คําหลวง ทานกัณฑ์). (ป. กาม + ส. อามิษ).
กามารมณ์ กามารมณ์ น. กามคุณ, อารมณ์ที่น่าใคร่. (ป. กาม + อารฺมณ).
กามินี กามินี น. หญิง เช่น จงกามินีปน รสร่วม กันนา. (ลอ). (ป. ว่า หญิงมีความใคร่).
กามิศ,กาเมศ กามิศ, กาเมศ ว. เต็มไปด้วยกาม เช่น ชงครากามิศน้อง ยังยังติดแม่. (ทวาทศมาส), โกมลมิ่งโกมุท กาเมศ เรียมเอย. (ทวาทศมาส).
กาเมสุมิจฉาจาร กาเมสุมิจฉาจาร [-มิดฉาจาน] น. การประพฤติผิดในประเวณี. (ป.).
กาโมทย กาโมทย [-โมด] (แบบ) ว. เป็นที่ตั้งขึ้นแห่งความรัก, น่ารัก, เป็นที่เกิดแห่งความรัก, เช่น พรมงคลน้นนโสด แก่แก้วกาโมทยมหิษี กัลยาณีสาวสวรรค์ประเสริฐนั้น. (ม. คําหลวง ทศพร). (ป. กาม + อุทย).
กาย,กาย- กาย, กาย- [กายยะ-] น. ตัว เช่น ไม่มีผ้าพันกาย, และมักใช้เข้าคู่กับคํา ร่าง เป็น ร่างกาย, ใช้เป็นส่วนท้ายของสมาส หมายความว่า หมู่, พวก, เช่น พลกาย = หมู่ทหาร. (ป., ส.).
ก่าย ก่าย ก. พาด, พาดไขว้กัน, เช่น เอาฟืนก่ายกัน, พาดเกยอยู่หรือค้างอยู่ เช่น เอามือก่ายหน้าผาก นอนเอาขาก่ายกัน, บางทีก็ใช้เข้าคู่กับคํา เกย เป็น ก่ายเกย หรือ เกยก่าย.
กายกรรม กายกรรม น. การทําทางกาย; การดัดตนเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง, การเล่นห้อยโหนโยนตัวเป็นต้น. (ส. กาย + กรฺม; ป. กาย + กมฺม).
ก่ายกอง ก่ายกอง ว. มักใช้เข้าคู่กับคํา มากมาย เป็น มากมายก่ายกอง หมายความว่า มากเกิน, ล้นหลาม.
กายทวาร กายทวาร น. ทางกาย. (ป., ส. กาย + ทฺวาร).
กายทุจริต กายทุจริต [กายยะทุดจะหฺริด] น. ความประพฤติชั่วทางกาย ได้แก่ การฆ่าสัตว์ ๑ การลักทรัพย์ ๑ การประพฤติผิดในกาม ๑.
กายบริหาร กายบริหาร [กายบอริหาน] น. การบริหารร่างกาย, การออกกำลังกาย.
กายพันธน์ กายพันธน์ น. เครื่องรัดตัว คือ รัดประคด. (ป., ส.).
กายภาพ กายภาพ ว. เกี่ยวกับสิ่งที่ไม่มีชีวิต, เกี่ยวกับสสารและพลังงาน, เช่น วิทยาศาสตร์กายภาพ (physical science) ศึกษาเกี่ยวกับสสารและพลังงาน; เกี่ยวกับลักษณะตามธรรมชาติของโลก เช่น ภูมิศาสตร์กายภาพ (physical geography) ศึกษาเกี่ยวกับธรรมชาติของผิวดิน บรรยากาศ อากาศ พืช และสัตว์ในถิ่นต่าง ๆ.
กายภาพบำบัด กายภาพบำบัด น. การรักษาโรคโดยอาศัยวิธีการทางฟิสิกส์แทนการใช้ยา เช่น โดยการนวด การฉายรังสี การใช้กระแสไฟฟ้า การใช้กระแสนํ้า ความร้อน หรือการออกกําลังกาย. (อ. physical therapy).
กายวิภาคศาสตร์ กายวิภาคศาสตร์ [-วิพากคะสาด] น. วิทยาศาสตร์การแพทย์สาขาหนึ่ง ว่าด้วยเรื่องโครงสร้างของร่างกายโดยศึกษาเป็นส่วน ๆ. (อ. anatomy).
กายสิทธิ์ กายสิทธิ์ ว. มีฤทธิ์เดชต่าง ๆ อยู่ในตัว.
กายสุจริต กายสุจริต [กายยะสุดจะหฺริด] น. ความประพฤติชอบทางกาย ได้แก่ การไม่ฆ่าสัตว์ ๑ การไม่ลักทรัพย์ ๑ การไม่ประพฤติผิดในกาม ๑.
กายาพยพ กายาพยพ [กายาพะยบ] น. ส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น มือ เท้า. (ป., ส. กาย + อวยว).
กายินทรีย์,กาเยนทรีย์ กายินทรีย์, กาเยนทรีย์ น. ร่างกายซึ่งเป็นใหญ่ในการรับสัมผัส. (ป. กาย + อินฺทฺริย).
กาเยน กาเยน น. ยางไม้ชนิดหนึ่ง สีเหลืองแก่ ใสคล้ายแก้ว.
การ,การ ๑ การ ๑ น. งาน, สิ่งหรือเรื่องที่ทํา, มักใช้เข้าคู่กับคํา งาน เช่น การงาน เป็นการเป็นงาน ได้การได้งาน, ถ้าอยู่หน้านาม หมายความว่า เรื่อง, ธุระ, หน้าที่, เช่น การบ้าน การครัว การคลัง การเมือง, ถ้าอยู่หน้ากริยา ทํากริยาให้เป็นนาม เช่น การกิน การเดิน.
การ,-การ,-การ ๒ -การ ๒ น. ผู้ทํา, มักใช้เป็นส่วนท้ายสมาสคําบาลีและสันสกฤต เช่น กรรมการ ตุลาการ, ถ้าอยู่หลังคําอื่นที่ไม่ใช่คําศัพท์ มีความหมายเป็นเฉพาะก็มี เช่น กงการ เจ้าการ นักการ ผู้บังคับการ ผู้กำกับการ.
การ,-การ,-การ ๓ -การ ๓ คําประกอบท้ายสมาสคําบาลีและสันสกฤต มีความหมายเหมือน การ ๑ เช่น ราชการ พาณิชยการ.
การก การก [กา-รก] น. ผู้ทํา. (ไว) ก. กริยาที่ทําหน้าที่ประธาน กรรม หรือส่วนขยายของประโยคที่คล้ายกับนาม มี ๕ ชนิด คือ กรรตุการก กรรมการก การิตการก วิกัติการก และวิเศษณการก. (ป., ส.).
การกลั่นทำลาย การกลั่นทำลาย น. กรรมวิธีที่ให้ความร้อนสูงแก่สารอินทรีย์โดยไม่ให้อากาศเข้า เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีขึ้นแก่สารนั้น ให้ผลเป็นสารที่ระเหยได้และแยกตัวออกมา เช่น การกลั่นทําลายขี้เลื่อย ให้ผลเป็นเมทิลแอลกอฮอล์ กรดนํ้าส้ม และสารอื่นอีก, การกลั่นทําลายถ่านหิน ให้ผลเป็นแก๊สถ่านหินที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงได้ นํ้ามันเบนซิน ลูกเหม็นกันแมลงสาบ และสารอื่นที่มีประโยชน์อีกมาก กากที่เหลือเรียกว่า ถ่านโค้ก. (อ. destructive distillation).
การขนส่งมวลชน การขนส่งมวลชน น. ระบบการขนส่งผู้โดยสารครั้งละมาก ๆ.
การครัว การครัว น. การหุงหาอาหาร.
การคลัง การคลัง น. การจัดการเงิน, การคลังแผ่นดิน หรือ การคลังสาธารณะ คือ การจัดการเงินของประเทศ, การคลังเอกชน คือ การจัดการเงินของบุคคล เช่น บริษัท; ชื่อกระทรวงที่มีอํานาจหน้าที่เกี่ยวกับการเงินแผ่นดิน ภาษีอากร การรัษฎากร กิจการเกี่ยวกับที่ราชพัสดุ กิจการอันกฎหมายบัญญัติให้เป็นการผูกขาดของรัฐ กิจการหารายได้ ซึ่งรัฐมีอํานาจดําเนินการได้แต่ผู้เดียวตามกฎหมาย และไม่อยู่ในอํานาจหน้าที่ของกระทรวง ทบวง กรมอื่น และกิจการซึ่งจะเป็นสัญญาผูกพันต่อเมื่อรัฐบาลได้ให้อํานาจหรือให้สัตยาบัน รวมทั้งการคํ้าประกันหนี้ของส่วนราชการ องค์การของรัฐ สถาบันการเงิน และรัฐวิสาหกิจ.
การเงิน การเงิน น. กิจการเกี่ยวกับเงิน, เรื่องเกี่ยวกับเงิน เช่น เดือนนี้การเงินไม่ค่อยดี.
การจร การจร น. งานซึ่งไม่ได้ทําเป็นประจําหรือที่คาดไม่ถึง.
การณ์ การณ์ [กาน] น. เหตุ, เค้า, มูล, เช่น รู้เท่าไม่ถึงการณ์ สังเกตการณ์. (ป., ส.).
การ์ด การ์ด (ปาก) น. บัตรเชิญในโอกาสต่าง ๆ เช่น การ์ดแต่งงาน การ์ดงานศพ.
การต่างประเทศ การต่างประเทศ น. ชื่อกระทรวงที่มีอํานาจหน้าที่เกี่ยวกับราชการต่างประเทศ.
การ์ตูน,การ์ตูน ๑ การ์ตูน ๑ น. ภาพล้อ, ภาพตลก, บางทีเขียนเป็นภาพบุคคล บางทีเขียนเป็นภาพแสดงเหตุการณ์ที่ผู้เขียนตั้งใจล้อเลียนจะให้ดูรู้สึกขบขัน, หนังสือเล่าเรื่องด้วยภาพเขียน ซึ่งแบ่งหน้ากระดาษเป็นช่อง ๆ มีคำบรรยายสั้น ๆ อ่านง่าย เนื้อเรื่องมักเป็นนิทานหรือนวนิยาย.
การ์ตูน,การ์ตูน ๒ การ์ตูน ๒ น. ชื่อปลาทะเลขนาดเล็กทุกชนิดในสกุล Amphiprion วงศ์ Pomacentridae ลําตัวสั้นและแบนข้าง สีเหลือง แสด หรือแดง บางชนิดมีส่วนบนรวมทั้งครีบหลังดําคลํ้า มักมีแถบสีขาวเด่นพาดขวางบนหัวและลําตัว ๑-๒ แนว แล้วแต่ชนิดหรือขนาด พบอาศัยตามแนวปะการัง โดยเฉพาะอยู่กับดอกไม้ทะเลในลักษณะพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน.
การเต การเต [กาน-] น. กานดา เช่น ธรณีธรณิศแก้ว<2t>การเต. (ทวาทศมาส).
การทะเบียนราษฎร การทะเบียนราษฎร (กฎ) น. งานทะเบียนต่าง ๆ ตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร เช่น ทะเบียนบ้าน ทะเบียนคนเกิด ทะเบียนคนตาย รวมทั้งการจัดเก็บข้อมูลทะเบียนประวัติราษฎร.
การนำ การนำ (ไฟฟ้า) น. การเคลื่อนที่ของกระแสไฟฟ้าผ่านตัวนําหรือฉนวน; (ความร้อน) การส่งถ่ายพลังงานความร้อนผ่านเทหวัตถุโดยวิธีการซึ่งโมเลกุลของเทหวัตถุนั้นกระทบกระแทกกันเนื่องจากโมเลกุลสั่นสะเทือนอย่างรวดเร็วมาก.
การบ้าน การบ้าน น. งานที่ครูกําหนดให้นักเรียนไปทําที่บ้าน (เฉพาะโรงเรียน), งานที่เกี่ยวกับบ้าน, มักใช้เข้าคู่กับคําอื่น เช่น การบ้านการเมือง การบ้านการเรือน.
การบ้านการเมือง การบ้านการเมือง น. กิจการบ้านเมืองทั่ว ๆ ไป.
การบ้านการเรือน การบ้านการเรือน ดู การเรือน.
การบุเรียน การบุเรียน (โบ) น. การเปรียญ.
การบูร การบูร [การะบูน] น. ชื่อไม้ต้นชนิด Cinnamomum camphora (L.) J.S. Presl ในวงศ์ Lauraceae เนื้อไม้มีสารสีขาว กลิ่นฉุนร้อน ซึ่งกลั่นแยกออกมาได้ เรียกว่า การบูร หรือ กรบูร ใช้ทํายา. (ส. กฺรบูร).
การบูรป่า การบูรป่า น. ชื่อไม้ล้มลุกชนิด Adenosma indiana (Lour.) Merr. ในวงศ์ Scrophulariaceae ขึ้นตามป่าเบญจพรรณทั่วไป ต้นสูงประมาณ ๓๐ เซนติเมตร ใบเดี่ยวออกตรงข้ามกัน ขอบใบจักถี่ ใบมีกลิ่นคล้ายกลิ่นใบกะเพรา โหระพา แต่อ่อนกว่า ดอกเล็ก สีม่วงออกเป็นช่อเรียวยาวตามง่ามใบและที่ปลายยอด, กระต่ายจาม ข้าวคํา หรือ พริกกระต่าย ก็เรียก.
การประกอบโรคศิลปะ การประกอบโรคศิลปะ (กฎ) น. การประกอบวิชาชีพที่กระทำหรือมุ่งหมายจะกระทำต่อมนุษย์เกี่ยวกับการตรวจโรค การวินิจฉัยโรค การบำบัดโรค การป้องกันโรค การส่งเสริมและการฟื้นฟูสุขภาพ การผดุงครรภ์ แต่ไม่รวมถึงการประกอบวิชาชีพทางการแพทย์และสาธารณสุขอื่นตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น ๆ.
การเปรียญ การเปรียญ [-ปะเรียน] น. เรียกศาลาวัดสําหรับพระสงฆ์แสดงธรรมว่า ศาลาการเปรียญ.
การแผ่รังสี การแผ่รังสี (ความร้อน) น. การส่งถ่ายพลังงานความร้อนในลักษณะเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าซึ่งเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเท่ากับความเร็วของแสง เมื่อเทหวัตถุใดดูดกลืนคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้านั้นไว้ได้ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าก็จะแปรสภาพเป็นพลังงานความร้อนเป็นผลให้เทหวัตถุนั้นมีอุณหภูมิสูงขึ้นกว่าเดิม.
การพา การพา (ความร้อน) น. การส่งถ่ายพลังงานความร้อนผ่านของเหลวหรือแก๊สโดยวิธีการซึ่งโมเลกุลของของเหลวหรือแก๊สเคลื่อนที่ไป.
การเมือง การเมือง น. (๑) งานที่เกี่ยวกับรัฐหรือแผ่นดิน เช่น วิชาการเมือง ได้แก่วิชาว่าด้วยรัฐ การจัดส่วนแห่งรัฐ และการดําเนินการแห่งรัฐ.<2t>(๒) การบริหารประเทศเฉพาะที่เกี่ยวกับนโยบายในการบริหารประเทศ เช่น การเมืองระหว่างประเทศ ได้แก่การดําเนินนโยบายระหว่างประเทศ.<2t>(๓) กิจการอํานวยหรือควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน เช่น ตําแหน่งการเมือง ได้แก่ตําแหน่งซึ่งมีหน้าที่อํานวย (คณะรัฐมนตรี) หรือควบคุม (สภาผู้แทนราษฎร) การบริหารแผ่นดิน.<2t>(ปาก) ว. มีเงื่อนงํา, มีการกระทําอันมีเจตนาอื่นแอบแฝงอยู่, เช่น ป่วยการเมือง.
การย์ การย์ [กาน] (แบบ) น. หน้าที่, กิจ, ธุระ, งาน. (ส.).
การเรือน การเรือน น. งานของแม่บ้าน เช่น หุงต้มอาหาร เย็บปักถักร้อย, การบ้านการเรือน ก็ว่า.
การละเล่น การละเล่น น. มหรสพต่าง ๆ, การแสดงต่าง ๆ เพื่อความสนุกสนานรื่นเริง.
การวิก การวิก [การะวิก] น. นกการเวก เช่น การวิกรวังวนกุณาล พเพรียกพร้องกระแสงใส. (สมุทรโฆษ). (ป. กรวีก; ส. กรวีก, กลวิงฺก).
การเวก,การเวก ๑ การเวก ๑ [การะ-] น. ชื่อนกในเรื่องปรัมปรา เชื่อกันว่ามีอยู่ในป่าหิมพานต์ บินสูงเหนือเมฆ ร้องเพราะ สัตว์ทั้งหลายได้ยินก็หยุดชะงักไป.
การเวก,การเวก ๒ การเวก ๒ [การะ-] น. ชื่อนกในวงศ์ Paradisaeidae มีหลายสกุล หลายชนิด ทุกชนิดมีสีสันสวยงาม พบเฉพาะในเกาะนิวกินี เกาะใกล้เคียง และตะวันออกเฉียงเหนือของออสเตรเลีย ที่รู้จักกันมากที่สุด คือ ชนิด Paradisaea apoda.
การเวก,การเวก ๓ การเวก ๓ [การะ-] น. ชื่อไม้เถาเนื้อแข็งชนิด Artabotrys siamensis Miq. ในวงศ์ Annonaceae ดอกหอมอ่อน กลีบดอกคล้ายกระดังงาจีนแต่ขนาดเล็กกว่า, กระดังงัว กระดังงาเถา หรือ หนามควายนอน ก็เรียก.
การเวก,การเวก ๔ การเวก ๔ [การะ-] น. ชื่อเพลงไทยชนิดหนึ่ง เรียกว่า การเวกตัวผู้ การเวกตัวเมีย หรือ การเวกใหญ่.
การสื่อสาร การสื่อสาร น. วิธีการนำถ้อยคำ ข้อความ หรือหนังสือเป็นต้น จากบุคคลหนึ่งหรือสถานที่หนึ่งไปยังอีกบุคคลหนึ่งหรืออีกสถานที่หนึ่ง.
การะเกด การะเกด น. ชื่อไม้พุ่มเพศผู้ชนิด Pandanus tectorius Blume ในวงศ์ Pandanaceae มักขึ้นในที่ชื้นแฉะและริมนํ้า ใบแคบและยาว ขอบใบมีหนามห่าง ๆ ดอกสีเหลือง กลิ่นหอม, ลําเจียกหนู ก็เรียก.
การะบุหนิง การะบุหนิง น. ดอกแก้ว. (ช.).
การัณย์ การัณย์ [การัน] น. กรณีย์, กิจ, เช่น ชี้แจงแถลงเรื่องการัณย์ ส่งคชสำคัญ ทั้งหมอแลควาญมาถวาย. (ดุษฎีสังเวย).
การันต์ การันต์ [การัน] น. ที่สุดอักษร, ตัวอักษรที่ไม่ออกเสียง ซึ่งมีไม้ทัณฑฆาตกํากับไว้ เช่นตัว ต์ ในคําว่า การันต์, (ปาก) เรียกตัวอักษรที่มีไม้ทัณฑฆาตกำกับ เช่น ล์ ว่า ล การันต์ ค์ ว่า ค การันต์.
การางหัวขวาน การางหัวขวาน ดู กะรางหัวขวาน.
การิตการก การิตการก [การิดตะ-] (ไว) น. ผู้ถูกใช้ให้ทํา, เป็นประธานของประโยค เรียงไว้หน้ากริยา ถูก-ให้ เช่น คนงานถูกนายจ้างให้ทํางานทั้งกลางวันและกลางคืน, ถ้ามิได้เป็นประธานก็เรียงไว้หลังบุรพบท ยัง หรือกริยานุเคราะห์ ให้ เช่น นายจ้างยังลูกจ้างให้ทํางาน นายจ้างให้ลูกจ้างทํางาน.
การิตวาจก การิตวาจก [การิดตะ-] (ไว) ก. กริยาที่บอกว่าประธานเป็นการิตการกหรือผู้รับใช้, กริยาของประโยคที่แสดงว่าประธานทําหน้าที่เป็นการิตการก คือ เป็นผู้ถูกใช้ กริยาของการิตวาจกใช้กริยานุเคราะห์ ถูก ถูก-ให้ หรือ ถูกให้ เช่น ลูกจ้างถูกนายจ้างให้ทํางาน.
การุญ,การุณย์ การุญ, การุณย์ [การุน] น. ความกรุณา. (ป., ส.).
กาเรการ่อน กาเรการ่อน น. ต้นกะเรกะร่อน. (พจน. ๒๔๙๓).
กาเรียน กาเรียน ดู กระเรียน ๑.
กาเรียนทอง กาเรียนทอง น. ชื่อเพลงไทยทำนองหนึ่ง. (ดู กระเรียน ๒).
กาล,กาล ๑,กาล- กาล ๑, กาล- [กาน, กาละ-] น. เวลา, คราว, ครั้ง, หน. (ป., ส.).
กาล,กาล ๒ กาล ๒ [กาน] (โบ) น. คําประพันธ์.
กาลกรรณี,กาลกิณี กาลกรรณี, กาลกิณี [กาละกันนี, กานละกันนี, กาละกินี, กานละกินี] น. เสนียดจัญไร, ลักษณะที่เป็นอัปมงคล. (ส. กาลกรฺณี; ป. กาลกณฺณี).
กาลกิริยา กาลกิริยา [กาละ-, กาน-] น. ความตาย เช่น ถึงซึ่งกาลกิริยา. (ป.).
กาลจักร กาลจักร [กาละ-] น. ชื่อพิธีกรรมในลัทธิตันตระ ซึ่งมีข้อปฏิบัติเบื้องต้น ๕ อย่าง คือ ดื่มนํ้าเมา กินเนื้อสัตว์ พรํ่ามนตร์ แสดงท่ายั่วยวน และ เสพเมถุน ซึ่งปฏิบัติในเวลากลางคืนหรือที่มืด, กาฬจักร ก็ว่า. (ส.).
กาลเทศะ กาลเทศะ [กาละ-] น. เวลาและสถานที่; ความควรไม่ควร. (ส.).
กาลโยค กาลโยค [กาละ-] (โหร) น. การกําหนด วัน ยาม ฤกษ์ ราศี ดิถี ของแต่ละปี เป็น ธงชัย อธิบดี อุบาทว์ โลกาวินาศ.
กาลสมุตถาน กาลสมุตถาน [กาละสะหฺมุด-] น. กองโรคที่เกิดขึ้นเพราะธาตุไม่เป็นไปตามเวลาปรกติ. (แพทย์).
กาลักน้ำ กาลักน้ำ น. เครื่องมืออย่างง่ายซึ่งอาศัยความดันของอากาศเพื่อใช้ถ่ายเทของเหลวออกจากภาชนะ โดยใช้หลอดหรือท่อที่ใช้ถ่ายเทของเหลวจากระดับหนึ่งไปสู่ระดับที่ตํ่ากว่า โดยไหลผ่านระดับที่สูงกว่าระดับทั้ง ๒ นั้น. (อ. siphon).
กาลัญญุตา กาลัญญุตา [กาลันยุตา] น. ความเป็นผู้รู้กาล. (ป.).
กาลัญญู กาลัญญู [กาลันยู] น. ผู้รู้กาล. (ป.).
กาลัด กาลัด น. แก้วหุง; สายหยุด. (ช.).
กาลานุกาล กาลานุกาล (โบ) น. งานบำเพ็ญกุศลถวายพระบรมอัฐิและพระอัฐิในกาลใดกาลหนึ่ง. (ป. กาล + อนุกาล).
กาลิก กาลิก น. ของที่พระสงฆ์เก็บไว้ฉันได้ตามเวลาที่กําหนดให้ มี ๓ อย่าง คือ ๑. ยาวกาลิก-ของที่เก็บไว้ฉันได้ชั่วคราวตั้งแต่เช้าถึงเที่ยงวัน ได้แก่ข้าวปลาอาหาร ๒. ยามกาลิก-ของที่เก็บไว้ฉันได้ชั่วคราวเพียงวันหนึ่งกับคืนหนึ่ง ได้แก่นํ้าอัฐบาน ๓. สัตตาหกาลิก-ของที่เก็บไว้ฉันได้ชั่วคราวเพียง ๗ วัน ได้แก่ เภสัชทั้ง ๕. (ป.).
กาลี,กาลี ๑ กาลี ๑ ว. ชั่วร้าย, เสนียดจัญไร. (ส. กลิ).
กาลี,กาลี ๒ กาลี ๒ น. ชื่อหนึ่งของพระอุมา ชายาพระอิศวร เรียกว่า เจ้าแม่กาลี, ปรกติสร้างรูปเป็นหญิงผิวดำ (ส. กาลี ว่า หญิงดำ), และว่ามีอำนาจเสมือน กาล (เวลา) ที่ไม่มีผู้ใดเอาชนะได้. (ส.).
กาแล กาแล (ถิ่น-พายัพ) น. ชื่อไม้เครื่องเรือนที่ต่อจากปั้นลมทั้ง ๒ ด้านไปไขว้กัน อยู่ตอนบนสุดของหลังคาที่ยื่นจากหน้าจั่ว อาจสลักลวดลายตามแต่จะเห็นงาม, เรียก กะแล หรือ แกแล ก็มี.
กาแล็กซี กาแล็กซี น. ระบบขนาดใหญ่ของดาวฤกษ์ ประกอบด้วยกลุ่มดาวฤกษ์ เนบิวลา และเทห์ฟากฟ้าอื่น ๆ กาแล็กซีมากกว่า ๑,๐๐๐ ล้านกาแล็กซีรวมกันเป็นเอกภพ, ทางช้างเผือก ถือเป็นกาแล็กซีหนึ่ง. (อ. galaxy).
กาแล็กโทส กาแล็กโทส (วิทยา) น. นํ้าตาลชนิดหนึ่งประเภทโมโนแซ็กคาไรด์ ชนิดแอลโดเฮ็กโซส ลักษณะเป็นของแข็งสีขาว มีรสหวานน้อยกว่านํ้าตาลทราย หลอมละลายที่ ๑๖๕ °ซ.-๑๖๘ °ซ. โมเลกุลของกาแล็กโทสเชื่อมโยงกับโมเลกุลของกลูโคสเป็นโมเลกุลของแล็กโทสซึ่งมีในนํ้านม. (อ. galactose).
กาว,กาว ๑ กาว ๑ น. ของเหนียวที่เคี่ยวมาจากเอ็น หนัง กีบสัตว์ เป็นต้น สําหรับใช้ติดหรือผนึกสิ่งของ.
กาว,กาว ๒ กาว ๒ (ถิ่น-อีสาน) น. ต้นเทียนกิ่ง. (ดู เทียนกิ่ง).
ก้าว ก้าว น. ระยะทางชั่วยกเท้าย่างไปครั้งหนึ่ง.<2t>ก. ยกเท้าย่างไป.
ก้าวก่าย ก้าวก่าย ก. ล่วงลํ้าเข้าไปยุ่งเกี่ยวหน้าที่ผู้อื่น, เหลื่อมลํ้าไม่เป็นระเบียบ เช่น งานก้าวก่ายกัน.
ก้าวเฉียง ก้าวเฉียง ก. เดินเป็นฟันปลา (ใช้แก่การแล่นเรือ); โดยปริยายใช้แก่การพูดไม่ตรงหรือพูดเลี่ยง เช่น นงลักษณ์แกล้งกล่าวก้าวเฉียง. (อิเหนา).
ก้าวร้าว ก้าวร้าว ว. เกะกะระราน (ใช้แก่กิริยาและวาจาที่กระด้างและล่วงเกินผู้อื่น).
ก้าวล่วง ก้าวล่วง ก. ละเมิด เช่น ภิกษุก้าวล่วงสิกขาบท.
กาววาว กาววาว ว. แวววาว, ฉูดฉาด, บาดตา, (ใช้แก่สี).
ก้าวหน้า ก้าวหน้า ก. เปลี่ยนแปลงของเดิมให้ดีขึ้นตามลําดับ, เจริญวัฒนาเร็วกว่าปรกติ.
กาวาง กาวาง น. ชื่อมะปรางพันธุ์หนึ่ง รสเปรี้ยวจัด.
กาเวียน กาเวียน น. กาต้มนํ้าชนิดหนึ่ง อยู่ในถังซึ่งมีเตาไฟ.
กาแวน กาแวน น. ชื่อนกชนิด Crypsirina temia ในวงศ์ Corvidae ซึ่งเป็นวงศ์เดียวกับกา รูปร่างคล้ายนกแซงแซวแต่ปลายหางกว้างกว่า, กระแวน ก็เรียก.
กาศิก,กาศิก- กาศิก, กาศิก- [กาสิกะ-] (แบบ) ว. ที่มาจากแคว้นกาสี, เหมือนไหม, แกมไหม. (ส.; ป. กาสิก).
กาศิกพัสตร์ กาศิกพัสตร์ น. ผ้าเนื้อละเอียดมาจากแคว้นกาสี. (ส.).
กาษฐะ กาษฐะ [กาดสะถะ] (แบบ) น. ไม้ฟืน; ไม้วัด (คือใช้ในมาตราวัด). (ส.; ป. กฏฺ).
กาษา,กาสา,กาสา ๑ กาษา, กาสา ๑ น. ผ้าชนิดหนึ่ง เช่น คลังถวายผ้ากาษา. (กฎ. ราชบุรี ๒/๑๐๗), และพระไตรภูวนาทิตยวงศ์ก็ให้ผ้าลายและเสื้อกาสาคนละสํารับ. (พงศ. กรุงเก่า), ฝันว่าห่มผ้าขาวกาสา. (ตําราทํานายฝัน). (ทมิฬและมลายู กาสา ว่า ผ้าดิบ, ผ้าหยาบ).
กาสร กาสร [-สอน] (แบบ) น. ควาย. (ส.).
กาสะ กาสะ (ราชา) น. การไอ, ใช้ว่า พระกาสะ. (ป., ส.).
กาสัก,กาสัก ๑ กาสัก ๑ น. นกที่เชื่อกันว่าเป็นสัตว์กายสิทธิ์บินมาไม่เห็นตัว ถ้าได้ขนมันไว้ก็หายตัวได้.
กาสัก,กาสัก ๒ กาสัก ๒ น. ชื่อไม้พุ่มชนิด Leea macrophylla Roxb. ex Hornem. ในวงศ์ Leeaceae ใบใหญ่ ใช้ทํายาได้, พญากาสัก เสือนั่งร่ม หรือ ตาลปัตรฤๅษี ก็เรียก.
กาสา,กาสา ๒ กาสา ๒ น. แร่ชนิดหนึ่งมีสีเขียว.
กาสามปีก กาสามปีก น. (๑) ชื่อไม้ต้นชนิด Vitex peduncularis<2t>Wall. ex Schauer ในวงศ์ Labiatae ขึ้นทั่วไปในป่าเบญจพรรณ ใช้ทํายาได้, กาจับหลัก หรือ ตีนนก ก็เรียก.<2t>(๒) ชื่อไม้พุ่มชนิด Flemingia sootepensis Craib ในวงศ์ Leguminosae ขึ้นทั่วไปในป่าเบญจพรรณ ใช้ทํายาได้.<2t>(๓) ชื่อไม้พุ่มรอเลื้อยชนิด Pueraria striata Kurz ในวงศ์ Leguminosae ใบเป็นใบประกอบ มีใบย่อย ๓ ใบ ดอกเล็กมาก สีม่วง รูปดอกถั่ว ฝักมี ๘-๑๐ เมล็ด.<2t>(๔) ดู ตีนนก (๑).
กาสาร กาสาร [-สาน] (แบบ) น. สระ, บ่อ, ทะเลสาบ. (ส.).
กาสาว,กาสาว-,กาสาวะ กาสาว-, กาสาวะ [กาสาวะ-] น. ผ้าย้อมฝาด, เขียนเป็น กาสาว์ ก็มี. (ป.).
กาสาวพัสตร์ กาสาวพัสตร์ น. ผ้าย้อมฝาด คือผ้าเหลืองพระ. (ป. กาสาว + ส. วสฺตร = ผ้า).
กาสิโน กาสิโน น. สถานการพนันขนาดใหญ่และโอ่โถง มีการพนันหลายชนิด เช่น รูเล็ตต์ ไพ่. (ฝ. casino).
กาหล กาหล [-หน] (แบบ) น. แตรงอน เช่น หมื่นกาหลวิชัยมีหน้าที่ประโคมแตรงอน.<2t>ว. เอะอะอื้ออึง เช่น แตกตื่นกันกาหลอลหม่าน, ยามพลบสยงกึกก้อง กาหล แม่ฮา. (กำสรวล).
กาหลง กาหลง น. ชื่อไม้พุ่มชนิด Bauhinia acuminata L. ในวงศ์ Leguminosae ปลายใบหยักเว้าลึก ดอกใหญ่ สีขาว ออกเป็นช่อสั้นตามง่ามใบ.
กาหลงรัง กาหลงรัง (สํา) น. ผู้ที่ไปหลงติดอยู่ ณ บ้านใดบ้านหนึ่งแล้วไม่ยอมกลับบ้านของตน, ผู้เร่ร่อนไปไม่มีที่พักพิงเป็นหลักแหล่ง.
กาหลา,กาหลา ๑ กาหลา ๑ [-หฺลา] ว. เหมือนดอกไม้. (ช.).
กาหลา,กาหลา ๒ กาหลา ๒ ดู กะลา ๒.
กาหัก กาหัก น. นกเงือก. (พจน. ๒๔๙๓).
กาเหว่า กาเหว่า ดู ดุเหว่า.
กาไหล่ กาไหล่ ก. กะไหล่.
กาฬ,กาฬ- กาฬ, กาฬ- [กาน, กาละ-, กานละ-] น. รอยดําหรือแดงที่ผุดตามร่างกายคนเมื่อตายแล้ว.<2t>ว. ดํา, มักใช้เป็นส่วนหน้าของสมาส. (ป.).
กาฬจักร กาฬจักร [กาละจัก] น. กาลจักร.
กาฬปักษ์ กาฬปักษ์ [กาละ-] ว. ฝ่ายดํา คือ ข้างแรม.
กาฬปักษี กาฬปักษี [กาละ-] น. ชื่อโรคชนิดหนึ่ง เป็นเมื่อมารดาออกไฟแล้วได้ ๕ เดือน ยังอยู่ในเขตเรือนไฟ มีอาการร้องไห้แล้วหอบ หรือร้องไห้เมื่อหลับ สะดุ้งผวาตื่นตกใจ. (แพทย์).
กาฬพฤกษ์ กาฬพฤกษ์ น. ชื่อไม้ต้นชนิด Cassia grandis L.f. ในวงศ์ Leguminosae ลําต้นดํา ใบอ่อนสีแดง ดอกเล็ก สีแดงคล้ำแล้วเปลี่ยนเป็นสีชมพูอมส้ม ฝักใหญ่อ้วนสั้น ผิวขรุขระ ด้านข้างมีสัน เป็นพรรณไม้ที่นําเข้ามาปลูก.
กาฬมุข กาฬมุข น. เกียรติมุข.
กาฬโรค กาฬโรค [กานละ-, กาละ-] น. ชื่อโรคระบาดอย่างร้ายแรงชนิดหนึ่ง มักมีอาการบวมนูนที่รักแร้เป็นต้น.
กาฬวาต กาฬวาต [กานละ-] น. ลมพายุใหญ่อย่างหนึ่ง เช่น ด้วยกําลังกาฬวาตโบกเบียน.
กาฬาวก กาฬาวก [-วะกะ] น. ชื่อช้างตระกูล ๑ ใน ๑๐ ตระกูล กายสีดํา, ช้าง ๑๐ ตระกูล คือ ๑. กาฬาวกหัตถี สีดํา ๒. คังไคยหัตถี สีเหมือนสีนํ้าไหล ๓. ปัณฑรหัตถี สีขาวดังเขาไกรลาส ๔. ตามพหัตถี สีทองแดง ๕. ปิงคลหัตถี สีทองอ่อนดั่งสีตาแมว ๖. คันธหัตถี สีไม้กฤษณา มีกลิ่นตัวหอม ๗. มงคลหัตถี สีนิลอัญชัน มีกิริยาท่าทางเดินงดงาม ๘. เหมหัตถี สีเหลืองดั่งทอง ๙. อุโบสถหัตถี สีทองคํา ๑๐. ฉัททันตหัตถี กายสีขาวบริสุทธิ์ดั่งสีเงินยวง แต่ปากและเท้าสีแดง. (ป.).
กาฮัง กาฮัง ดู กะวะ ๒.
กำ,กำ ๑ กำ ๑ ก. งอนิ้วมือทั้ง ๔ ให้จดอุ้งมือ, เอานิ้วมือทั้ง ๕ โอบรอบสิ่งใดสิ่งหนึ่ง, อาการที่งอนิ้วมือทั้ง ๕ รวบสิ่งใดสิ่งหนึ่งไว้.<2t>น. มือที่กําเข้า; ปริมาณของเต็มมือที่กําเข้า, กำมือ ก็ว่า; มาตราวัดรอบของกลม เมื่อวัดได้เท่าไร แล้วทบกึ่งได้ยาวราว ๑๐ เซนติเมตร เช่น ของกลมวัดรอบได้ยาว ๒๐ เซนติเมตร ของกลมนั้นเรียกว่ามีขนาด ๑ กํา, มี ๓ ชนิด คือ ๑. กําสลึง (ยาว ๔ นิ้ว ๑ กระเบียด หรือ ๑๐.๗๕ เซนติเมตร) ๒. กําเฟื้อง (ยาว ๔ นิ้วครึ่งกระเบียด หรือ ๑๐.๕ เซนติเมตร) ๓. กําสองไพ (ยาว ๔ นิ้ว ๒ หุน หรือ ๑๐.๒๕ เซนติเมตร); ลักษณนามเรียกผักหรือหญ้าที่มัดไว้ เช่น ผักกําหนึ่ง หญ้า ๒ กํา.
กำ,กำ ๒ กำ ๒ น. ซี่ล้อรถหรือเกวียน.
กำ,กำ ๓,กำม กำ ๓, กำม (โบ) น. กรรม เช่น ไข้เจ็บหมอตั้งกําไว้, ท่านว่าเป็นกํามของเขาเอง. (อัยการเบ็ดเสร็จ).
ก่ำ ก่ำ ว. สุกใส, เข้ม, จัด, (มักใช้แก่สีแดงหรือทองที่สุก).
ก้ำ ก้ำ (โบ) น. ด้าน, ฝ่าย, ทิศ.
กำกวม,กำกวม ๑ กำกวม ๑ น. นกขนปีกสีเขียว ปากแดง กินกุ้งและปลา. (พจน. ๒๔๙๓).
กำกวม,กำกวม ๒ กำกวม ๒ ว. เคลือบคลุม, คลุมเครือ, มีความหมายได้หลายนัย.
กำกัด กำกัด ก. จํากัดเข้า, จํากัดให้แคบเข้า.
กำกับ กำกับ ก. ดูแล, ควบคุม; ควบ ในความเช่น มีหนังสือกํากับมาด้วย.
ก้ำกึ่ง ก้ำกึ่ง ว. เกือบเท่า ๆ กัน, พอ ๆ กัน, ไล่เลี่ยกัน, เช่น ฝีมือกํ้ากึ่งกัน.
กำกูน กำกูน น. ชื่อพรรณไม้ชนิดหนึ่ง เช่น คูนกํากูนกํายาน. (ลอ), กําคูน ก็ว่า.
กำเกรียก กำเกรียก น. ชื่อการพนันใช้กําเบี้ยหรือเม็ดอื่น ๆ แล้วทายกัน.
ก้ำเกิน ก้ำเกิน ว. ล่วงเกิน, เกินเลย.
กำเกียง กำเกียง ดู กางเกียง.
กำขี้ดีกว่ากำตด กำขี้ดีกว่ากำตด (สํา) ได้บ้างดีกว่าไม่ได้อะไรเลย.
กำคูน กำคูน น. กํากูน เช่น กรรบูรแกมกําคูนคันธ์. (สมุทรโฆษ).
ก่ำเคือ ก่ำเคือ (ถิ่น-พายัพ) น. ต้นมะกลํ่าตาหนู. (ดู มะกลํ่า).
กำจร กำจร [-จอน] ก. ฟุ้งไป. (ส. ขจร ว่า ไปในอากาศ).
กำจัด,กำจัด ๑ กำจัด ๑ น. ชื่อไม้ต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ชนิด Zanthoxylum rhetsa (Roxb.) DC. ในวงศ์ Rutaceae ต้นและกิ่งก้านเป็นหนาม ใบเป็นใบประกอบ มีใบย่อย ๕-๘ คู่ ผลเล็ก ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง ๖-๗ มิลลิเมตร ผิวขรุขระ มีกลิ่นฉุนคล้ายกลิ่นลูกผักชี เมล็ดกลมดําเป็นมัน ผลใช้เป็นเครื่องแกงเพื่อชูรส, พายัพเรียก มะข่วง หรือ หมากข่วง.
กำจัด,กำจัด ๒ กำจัด ๒ ก. ขับไล่, ปราบ, ทําให้สิ้นไป. (ข. ขฺจาต่ ว่า พลัด, แยก).
กำจาย,กำจาย ๑ กำจาย ๑ ก. กระจาย. (ข. ขฺจาย).
กำจาย,กำจาย ๒ กำจาย ๒ น. (๑) ชื่อไม้พุ่มชนิด Caesalpinia digyna Rottler ในวงศ์ Leguminosae ขึ้นในป่าเบญจพรรณ ต้นมีหนาม ดอกสีเหลือง ออกเป็นช่อตามง่ามใบ ฝักพองหนา มีรสฝาด ใช้ย้อมหนังได้ เมล็ดสีดําให้นํ้ามันจุดไฟ.<2t>(๒) ดู ขี้อ้าย (๑).
กำจาย,กำจาย ๓ กำจาย ๓ น. เรียกงาช้างที่หักติดอยู่ในไม้หรือสิ่งอื่น ๆ ว่า งากําจาย. (ปรัดเล).
กำชับ กำชับ ก. สั่งยํ้าให้แน่นอน.
กำชับกำชา กำชับกำชา ก. ยํ้าแล้วยํ้าอีก เช่น แล้วกําชับกําชาข้าไท. (คาวี).
กำชำ กำชำ (ถิ่น-ปักษ์ใต้) น. ต้นมะหวด. (ดู มะหวด).
กำโชก กำโชก (โบ) ก. กรรโชก.
กำซาบ กำซาบ ก. ซึมเข้าไป, ทา, อาบ, หมายถึงศรที่อาบยาพิษก็ได้ เช่น สายกําซาบ.
กำซำ กำซำ (ถิ่น-ปักษ์ใต้) น. ต้นมะหวด. (ดู มะหวด).
กำด้น กำด้น น. ท้ายทอย, ส่วนที่คอกับศีรษะต่อกัน, เช่น เหมือนกดคอยอกําด้นลูกสาวศรี. (มณีพิชัย).
กำดัด กำดัด ว. กําลังรุ่น เช่น วัยกำดัด; เต็มที่ เช่น สงัดเสียงสิงสัตว์กำดัดดึก. (โคบุตร).<2t>ก. พะวง, ห่วงใย, ขวนขวาย, เช่น ฤๅสองศุขารมย ชวนชายชํไม้เมิลป่า พระวงวิ่งวาศนาเด็กกำดัดเล่น. (ม. คำหลวง มัทรี); กําหนัด เช่น โอ้เจ้าพี่ศรีสวัสดิ์กำดัดสวาท นุชนาฏแม่อย่าลืมเนื้อความหลัง. (โคบุตร).
กำดาล กำดาล (กลอน) ก. ดาล เช่น กําเดาะกําดาลทวี. (บวรราชนิพนธ์).
กำเดา กำเดา น. เลือดที่ออกทางจมูก เรียกว่า เลือดกําเดา. (ข. เกฺดา ว่า ร้อน); แพทย์แผนโบราณเรียกไข้ชนิดหนึ่งที่เกิดจากหวัดว่า ไข้กําเดา.
กำเดาะ กำเดาะ ว. กระเตาะ, รุ่น, เพิ่งแตกเนื้อสาว. (ปาเลกัว).
ก่ำต้น ก่ำต้น (ถิ่น-พายัพ) น. ต้นมะกลํ่าตาช้าง. (ดู มะกลํ่า).
กำตัด กำตัด น. ชื่อการเล่นของเด็กชนิดหนึ่ง; การพนันชนิดหนึ่ง ลักษณะเหมือนกําถั่ว ใช้กําเบี้ย ต่างคนต่างถือแต้ม ไม่มีเจ้ามือ กําแล้วจะเติมหรือชักออกก็ได้.
กำตาก กำตาก น. สิทธิพิเศษในค่าภาษีอากรขนอนตลาดที่พระเจ้าแผ่นดินยกให้แก่พระยาแรกนาขวัญในระหว่างพิธี ๓ วันในครั้งโบราณ.
กำถั่ว กำถั่ว น. ชื่อการพนันอย่างเดียวกับโปกำ แต่ใช้มือกำเบี้ยแทนการใช้ถ้วยครอบ. (ดู โปกำ ประกอบ).
กำทวน กำทวน ว. สนั่น, หวั่นไหว, ก้อง, เช่น เสียงมฤคคชสีหไกรสร สีหนาทกําธร กําทวนข้างป่าหิมพานต์. (สมุทรโฆษ).
กำธร กำธร [-ทอน] ว. สนั่น, หวั่นไหว, สะเทือน, เช่น เสียงเทพอวยอาศิรวาท กำธรอากาศ ฦๅเลวงไชยไชย. (สมุทรโฆษ). (เทียบ ข. กํทร ว่า บรรลือเสียง, ตีรัว).
กำนล กำนล [-นน] น. เงินค่าคำนับครู, เงินคํานับบูชาครูปี่พาทย์ คือ พระประคนธรรพ หรือ พระนารท ซึ่งถือว่าเป็นครูเดิมของตน มีเทียนสําหรับจุดที่ตะโพนด้วย. (ข. กํณล่ ว่า เครื่องคํานับ, ค่ากำนล; ไม้สำหรับหนุนอย่างไม้หมอน).
กำนัด กำนัด [กำหฺนัด] (โบ) ก. กําหนัด เช่น พิศเพี้ยนพระพนิดาทุกขานลกํานัด<2t>ดัดรัตนธารี มาดู. (สมุทรโฆษ).
กำนัน กำนัน น. ผู้ป้องกัน, ผู้รักษา, ผู้ดูแล, เช่น หัวหมื่นกับกํานันพระแสง; (กฎ) ตําแหน่งพนักงานฝ่ายปกครองซึ่งมีอํานาจหน้าที่ปกครองราษฎรที่อยู่ในเขตตําบล.<2t>ก. กัน, ถือ, เช่น พระจงกํานันกําหนดสัญญา. (สุธน).
กำนัล,กำนัล ๑ กำนัล ๑ ก. ให้ของกันด้วยความนับถือ.
กำนัล,กำนัล ๒ กำนัล ๒ น. นางอยู่งานที่ทรงใช้สอยในพระราชมนเทียร และได้รับพระราชทานหีบหมากกาไหล่ แต่ยังไม่นับว่าเป็นเจ้าจอม เรียกว่า นางกำนัล.
กำเนิด กำเนิด [กําเหฺนิด] น. การเกิด เช่น บิดามารดาเป็นผู้ให้กําเนิดแก่บุตร, มูลเหตุดั้งเดิม เช่น ตัวหนังสือไทยมีกําเนิดมาอย่างไร.<2t>ก. เกิด, มีขึ้น, เป็นขึ้น, เช่น โลกกําเนิดมาจากดวงอาทิตย์.
กำเนียจ กำเนียจ [กำเหฺนียด] ว. เกียจ, คด, ไม่ซื่อ, โกง; คร้าน; (โบ) เขียนเป็น กำนยจ ก็มี เช่น อนนว่าพระโพธิสัตว์ก็ใส่กลกล่าว กํานยจกยจแก่นางพญาด่งงนี้. (ม. คําหลวง กุมาร).
กำบด กำบด ก. บัง เช่น มีโลมกําบดบัง ปลายเท้า สองแฮ. (โชค-โบราณ).
กำบน กำบน ก. กัมบน, หวั่นไหว, เช่น ปางน้นนไกรโกรมธาตุ เอาดอยราชเมรู แลนนทพนชูเปนเซรอด ก็เกอดพิการกำบน. (ม. คำหลวง ทานกัณฑ์). (มาจาก ป., ส. กมฺปน).
กำบัง,กำบัง ๑ กำบัง ๑ ก. บัง เช่น หาที่กําบังฝน, บังอย่างมิดชิด เช่น กําบังกายเข้าไป.
กำบัง,กำบัง ๒ กำบัง ๒ น. ช่อดอกไม้. (ช.).
กำบัง,กำบัง ๓ กำบัง ๓ น. ชื่อว่านต้นดั่งกระชาย หัวเล็ก ๆ ติดกันดั่งกล้วยไข่ ต้นและใบเขียว เนื้อในขาว ใช้สําหรับเป็นว่านกันภัยในทางลัทธิ และกันว่านร้ายต่าง ๆ, ว่านกั้นบัง ก็เรียก. (พจน. ๒๔๙๓).
กำบัด กำบัด ก. ปัด.
กำบิด กำบิด (โบ) น. กรรบิด, มีด. (ข. กําบิต).
ก่ำบึ้ง ก่ำบึ้ง ดู บึ้ง ๑.
กำเบ้อ,กำเบ้อ ๑ กำเบ้อ ๑ (ถิ่น-พายัพ) น. ชื่อไม้พุ่มหลายชนิดในสกุล Mussaenda วงศ์ Rubiaceae ดอกสีเหลืองหรือแสด กลีบหนึ่งของวงกลีบนอกใหญ่แผ่ออกเป็นใบขาว ดูไกล ๆ คล้ายผีเสื้อเกาะดอกไม้.
กำเบ้อ,กำเบ้อ ๒,ก่ำเบ้อ กำเบ้อ ๒, ก่ำเบ้อ (ถิ่น-พายัพ) น. ผีเสื้อกลางวัน. (ดู ผีเสื้อ ๑).
กำโบล,กำโบล ๑ กำโบล ๑ (แบบ) น. กโบล, กระพุ้งแก้ม, เช่น ปรางเปรียบกำโบลบง- กชรัตนรจนา. (สุธน). (ป., ส. กโปล).
กำโบล,กำโบล ๒ กำโบล ๒ (โบ) ก. ลูบ, ลูบคลํา, ลูบไล้, เช่น ฤๅอาจกําโบลปิยุทร์นงเยาว์ ฤๅอาจอุกเอา กระมลยุคลมามือ. (สรรพสิทธิ์), คำโบล ก็ใช้.
กำปอ กำปอ น. ชื่อเพลงเขมรชนิดหนึ่ง เรียกว่า เขมรกําปอ. (วิวาห์พระสมุทร).
กำปั่น,กำปั่น ๑ กำปั่น ๑ น. เรือเดินทะเลขนาดใหญ่ชนิดหนึ่ง รูปร่างหัวเรือเรียวแหลม ท้ายเรือมนและราบในระดับเดียวกับหัวเรือ, ถ้ามีเสายาวยื่นออกไปสําหรับผูกสายใบ มีเสากระโดง ๓ เสา มีใบ เรียกว่า กําปั่นใบ, ถ้าเสากระโดงตรงกลางไม่มี มีปล่องไฟโดยใช้เดินด้วยกําลังเครื่องจักรไอนํ้า เรียกว่า กําปั่นไฟ. (เทียบมลายู หรือ ฮินดูสตานี ว่า capel).
กำปั่น,กำปั่น ๒ กำปั่น ๒ น. หีบทําด้วยเหล็กหนา สําหรับใส่เงินและของต่าง ๆ รูปค่อนข้างเป็นรูปลูกบาศก์ ฝามีหูยาวตรงกลาง ตอนปลายทําเป็นช่องเล็กเพื่อปิดลงมาสวมขอเหล็กโค้งที่ตัวหีบสําหรับใส่กุญแจ เดิมทําเป็นหีบฝังตะปูหัวเห็ดทั่วตัว.
กำปั่น,กำปั่น ๓ กำปั่น ๓ น. ชื่อทุเรียนพันธุ์หนึ่ง.
กำปั้น กำปั้น น. มือที่กําเข้าให้แน่นเพื่อจะทุบเป็นต้น.
กำผลา กำผลา [-ผฺลา] น. ง้าว.
กำพง กำพง น. ท่านํ้า, ตําบล, เช่น มีทงงสมรรถพนจร รม่งงมรกําพงไพร. (ม. คําหลวง มหาพน). (ข. กํพง ว่า ท่านํ้า; มลายู กัมพง ว่า ตําบล).
กำพด กำพด น. จอมประสาทหัวช้าง เช่น โขมดสารกําพด ทรงเทริด. (ตําราช้างคําโคลง).
กำพต กำพต [-พด] น. ลูกศร เช่น พระเอาโอสถ ทาลูกกําพต พาดสายศิลปคือ พระอัคนี สมเด็จสี่มือ ดาลเดชระบือ ระเบิดบาดาล. (สุธน).
กำพร้า,กำพร้า ๑ กำพร้า ๑ [-พฺร้า] น. เรียกหนังที่เป็นผิวชั้นนอกของคนและสัตว์ว่า หนังกําพร้า.
กำพร้า,กำพร้า ๒ กำพร้า ๒ [-พฺร้า] ว. ไร้บิดาหรือมารดาเลี้ยงดูแต่เด็ก, (โบ) หมายถึง ร้างลูกร้างเมียด้วย เช่น สองจะลีลาสู่ฟ้า ลาแม่เป็นกำพร้า เจ้าแม่เอ้ยปรานี แม่รา. (ลอ), (กลอน) ใช้เป็น ก่ำพร้า ก็มี เช่น เจ้าจะละเรียมไว้ ก่ำพร้าคนเดียว. (ลอ).
กำพร้า,กำพร้า ๓ กำพร้า ๓ ดู ไก่เตี้ย.
กำพราก กำพราก [-พฺราก] น. ไม้รวกหรือไม้ไผ่ที่เสี้ยมปลายให้แหลม ใช้สําหรับขุด เรียกว่า ไม้กําพราก.
กำพวด,กำพวด ๑ กำพวด ๑ น. ส่วนประกอบของปี่ซึ่งทําให้เกิดเสียงเวลาเป่า สอดติดอยู่กับเลาปี่.
กำพวด,กำพวด ๒ กำพวด ๒ น. ปลาจุมพรวด เช่น แลฝั่งล้วนหลังกําพวดพราย. (เพลงยาวนายภิมเสน). (ดู จุมพรวด).
กำพอง กำพอง น. ชื่อตัวไม้อันบนที่เป็นราวลูกกรงเรือนหรือเกวียน, กระพอง ก็เรียก.
กำพืด กำพืด น. เทือกเถา, เผ่าพันธุ์, (มักใช้เป็นทํานองหยาม) เช่น รู้กําพืด.
กำพุด กำพุด ดู จุมพรวด.
กำพู,กำพู ๑ กำพู ๑ น. ไม้กลึงสําหรับเป็นที่รวมร้อยซี่ร่ม ซี่ฉัตร หรือ ซี่พุ่ม. (ข. กํพูล ว่า ยอด).
กำพู,กำพู ๒ กำพู ๒ (โบ) น. กัมพู.
กำเพลิง กำเพลิง [-เพฺลิง] น. ปืนไฟ. (ข. กําเภฺลีง).
กำแพง กำแพง น. เครื่องกั้น เครื่องล้อม ที่ก่อด้วยอิฐ ดิน หรือ หิน เป็นต้น. (ข. กํแพง).
กำแพ้ง กำแพ้ง น. เรียกไม้ไผ่ที่ปล้องข้างในเป็นโรค มีสีดํา ๆ กลิ่นเหม็นว่า กําแพ้ง, กระแพ้ง ก็ว่า.
กำแพงแก้ว กำแพงแก้ว น. กําแพงเตี้ย ๆ ที่ทําล้อมโบสถ์ วิหาร หรือเจดีย์ เป็นต้น เพื่อให้ดูงาม.
กำแพงขาว กำแพงขาว น. ชื่อว่านชนิดหนึ่ง ใบคล้ายหมากผู้หมากเมีย ต้นและใบเขียว มีลายดั่งว่านเสือ แต่ลายเบา มีพรายปรอท หัวเหมือนกระชาย ตุ้มรากกลมทอดไปยาว หัวมีกลิ่นหอม ใช้อยู่คงเขี้ยวเขานองา, อีกชนิดหนึ่งเรียก มายาประสาน เป็นว่านประสานบาดแผล. (กบิลว่าน).
กำแพงเขย่ง กำแพงเขย่ง [-ขะเหฺย่ง] น. ชื่อพระพิมพ์ปางลีลา ยกพระบาทข้างหนึ่งคล้ายเขย่ง เพราะขุดพบที่จังหวัดกำแพงเพชรเป็นแห่งแรก จึงเรียกว่า พระกำแพงเขย่ง, ถ้ามีขนาดสูงประมาณ ๑ ศอก เรียกว่า พระกำแพงศอก.
กำแพงเจ็ดชั้น,กำแพงเจ็ดชั้น ๑ กำแพงเจ็ดชั้น ๑ น. ชื่อมนตร์.
กำแพงเจ็ดชั้น,กำแพงเจ็ดชั้น ๒ กำแพงเจ็ดชั้น ๒ น. (๑) ชื่อไม้พุ่มชนิด Lithosanthes biflora Blume ในวงศ์ Rubiaceae ขึ้นตามป่าดิบ ใบเดี่ยว ออกตรงข้ามกัน ดอกสีขาว เนื้อไม้เป็นชั้น ๆ ใช้ทํายาได้.<2t>(๒) ชื่อไม้พุ่มรอเลื้อยชนิด Salacia chinensis L. ในวงศ์ Celastraceae ขึ้นตามป่าดิบ ใบเดี่ยว ออกตรงข้ามกัน ขอบใบจัก ดอกสีเขียวอมเหลือง ใช้ทํายาได้, ตะลุ่มนก หรือ นํ้านอง ก็เรียก.<2t>(๓) ดู ขมิ้นเครือ.
กำแพงมีหูประตูมีช่อง,กำแพงมีหูประตูมีตา กำแพงมีหูประตูมีช่อง, กำแพงมีหูประตูมีตา (สํา) น. การที่จะพูดหรือทําอะไร ให้ระมัดระวัง แม้จะเป็นความลับเพียงไรก็อาจมีคนล่วงรู้ได้.
กำแพงเศียร กำแพงเศียร น. ไก่พันทาง มีหงอนเป็นจัก ๆ. (พจน. ๒๔๙๓).
กำภู กำภู (โบ) น. กัมพู.
กำมพฤกษ์ กำมพฤกษ์ [-มะพฺรึก] (โบ) น. กัลปพฤกษ์ เช่น พวกประจํากํามพฤกษ์บังคมไหว้. (รามเกียรติ์ ร. ๒).
กำมลาศน์ กำมลาศน์ [-มะลาด] (โบ) น. กมลาสน์.
กำมเลศ กำมเลศ [-มะเลด] (โบ) น. กมเลศ.
กำมะถัน กำมะถัน น. ธาตุสีเหลือง ติดไฟง่าย กลิ่นเหม็นฉุน ใช้ทํายา ทําดินปืน ฯลฯ, สุพรรณถัน ก็ว่า; (วิทยา) ธาตุลําดับที่ ๑๖ สัญลักษณ์ S เป็นอโลหะ ลักษณะเป็นของแข็ง มีอัญรูปหลายแบบ ใช้ประโยชน์ได้มากมาย เช่น ในอุตสาหกรรมทํากรดซัลฟิวริก อุตสาหกรรมยาง ทําหัวไม้ขีดไฟ ดินปืน ดอกไม้เพลิง และยารักษาโรค, ยาประเภทซัลฟาและประเภทเพนิซิลลินก็มีธาตุกํามะถันเป็นองค์ประกอบด้วย. (อ. sulphur).
กำมะลอ กำมะลอ น. เรียกของลงรักแบบญี่ปุ่นและจีน เช่นหีบ โอ กระบะ ว่า เครื่องกํามะลอ, เรียกไม้ดัดชนิดหนึ่งที่ดัดให้เหมือนรูปต้นไม้ที่ญี่ปุ่นและจีนเขียนลงในเครื่องกํามะลอว่า ไม้กํามะลอ; เรียกกลดที่ทําด้วยผ้าขาวหรือแพรขาวเขียนลายทอง สําหรับใช้กับเจ้านายหรือพระพุทธรูปว่า กลดกํามะลอ, เรียกลายที่เขียนที่เครื่องกํามะลอเป็นลายสี ลายทอง หรือ ลายทองแทรกสี หรือเขียนบนผ้าขาวหรือแพรขาวว่า ลายกํามะลอ; เรียกของทําเทียมหรือของเล็กน้อยที่ทําหยาบ ๆ ไม่ทนทานว่า ของกํามะลอ.<2t>ว. เลวไม่ทนทาน, ไม่ดี, ไม่งาม.
กำมะหยี่,กำมะหยี่ ๑ กำมะหยี่ ๑ [-หฺยี่] น. ผ้าชนิดหนึ่ง มีขนด้านเดียวอ่อนนุ่ม เป็นมัน.
กำมะหยี่,กำมะหยี่ ๒ กำมะหยี่ ๒ น. ชื่อดาวเรืองพันธุ์หนึ่ง. (พจน. ๒๔๙๓).
กำมะหริด กำมะหริด [-หฺริด] น. ผ้าที่ทอด้วยขนสัตว์แกมไหม.
กำมังละการ กำมังละการ น. ตําหนัก. (ช.).
กำมังวิลิต กำมังวิลิต น. ตําหนักในสระ. (ช.).
กำมัชพล กำมัชพล [-มัดชะพน] น. ชื่อเกณฑ์เลขในคัมภีร์สุริยยาตร ซึ่งคํานวณมาจากจุลศักราช.
กำมา กำมา น. ศอกตูม คือ ศอกที่กํานิ้วมือ, กํา ก็เรียก เช่น ๒ ศอกกํา คือ ๒ ศอกกับอีกศอกตูมหนึ่ง.
กำมือ กำมือ น. มือที่กําเข้า; ปริมาณของเต็มมือที่กําเข้า; กำ ก็ว่า; มาตราตวงตามวิธีประเพณีของไทยโบราณ ๔ หยิบมือ = ๑ กำมือ ๔ กำมือ = ๑ ฟายมือ และอีกแบบหนึ่ง ๔ ใจมือ = ๑ กำมือ ๘ กำมือ = ๑ จังออน.
กำยาน,กำยาน ๑ กำยาน ๑ น. วัตถุหอมชนิดหนึ่ง เกิดจากยางใสกลิ่นหอมที่ออกจากเปลือกของต้นกำยานบางชนิด เกิดขึ้นได้เนื่องจากเปลือกถูกกรีดหรือมีราลง ก็จะขับยางใสกลิ่นหอมออกมา เมื่อแห้งจะแข็งติดอยู่กับลำต้น แกะออกมาได้.
กำยาน,กำยาน ๒ กำยาน ๒ น. (๑) ชื่อไม้ต้นขนาดกลางหลายชนิดในสกุล Styrax วงศ์ Styracaceae ขึ้นตามป่าเขาในระดับสูง ใบเดี่ยว ด้านบนสีขาว ดอกสีขาว หอมอ่อน ๆ ไม้ต้นชนิดนี้ บางชนิดเมื่อเปลือกถูกกรีดหรือมีราลง ก็จะขับยางใสกลิ่นหอมออกมา เมื่อแห้งจะแข็งติดอยู่กับลำต้น แกะออกมาได้ เรียกว่า กำยาน.<2t>(๒) ชื่อกล้วยพันธุ์หนึ่ง มีกลิ่นหอม เรียกว่า กล้วยกํายาน. (พจน. ๒๔๙๓).
กำยำ กำยำ ว. ใหญ่โตแข็งแรง เช่น รูปร่างกํายําลํ่าสัน.
กำรอ กำรอ ว. เข็ญใจ เช่น แก่ฝูงมนุษย์ผู้กํารอ. (ม. คําหลวง นครกัณฑ์).
กำราก,กำหราก กำราก, กำหราก น. ช้างตกมัน เช่น หยาบคายฉายฉัดถีบแทง กํารากร้ายแรง แลเหลือกำลังควาญหมอ. (ดุษฎีสังเวย), กลจะขี่ช้างกําหรากเหลือลาม. (ตําราขี่ช้าง).
กำราบ กำราบ [-หฺราบ] ก. ทําให้เข็ดหลาบ, ทําให้กลัว, ทําให้สิ้นพยศ, ทําให้สิ้นฤทธิ์.
กำราล กำราล [-ราน] (แบบ) น. เครื่องลาด เช่น นั่งในกําราลไพโรจน์ในนิโครธารามรังเรจน้นน. (ม. คําหลวง ทศพร). (ข. กํราล).
กำรู กำรู (โบ) ก. กรู, รวมหมู่กันเข้ามา, ประดังกันเข้ามา, เช่น กํารูคลื่นเป็นเปลว. (แช่งนํ้า).
กำเริบ กำเริบ ก. รุนแรงขึ้น เช่น โรคกําเริบ กิเลสกําเริบ.
กำเริบเสิบสาน กำเริบเสิบสาน ก. ได้ใจ, เหิมใจ.
กำไร กำไร น. ผลที่ได้เกินต้นทุน.<2t>ว. ยิ่ง, เกิน, เช่น ทรงบําเพ็ญบารมีสี่อสงไขยกําไรแสนมหากัป.
กำลอง กำลอง (โบ; กลอน) ก. ลอง, ประลอง, เช่น เสร็จสองแทงกันจระโจรม จักแล่นแรดโซรม กำลองกำลังถเมินเชิง. (สมุทรโฆษ).
กำลัง,กำลัง ๑ กำลัง ๑ น. แรง, สิ่งที่ทําให้เกิดอํานาจความเข้มแข็ง.
กำลัง,กำลัง ๒ กำลัง ๒ น. (คณิต) เลขชี้กําลังที่เขียนลงบนจํานวนจริง เช่น ๕๒ อ่านว่า ๕ ยกกําลัง ๒ ๗ อ่านว่า ๗ ยกกําลัง ; (ฟิสิกส์) จํานวนงานที่สิ่งใดสิ่งหนึ่งกระทําได้โดยสมํ่าเสมอในหนึ่งหน่วยเวลา เขียนเป็นความสัมพันธ์ได้ คือ กำลังเท่ากับ , อัตราของการทํางาน ก็เรียก; ขนาดของของกลมที่วัดโดยรอบ เช่น ช้างมีกําลัง (วัดรอบอก) เท่านั้นนิ้ว เท่านี้นิ้ว, ไม้มีกําลัง (วัดรอบลําต้น) เท่านั้นนิ้ว เท่านี้นิ้ว.
กำลังกิน กำลังกิน ว. เหมาะที่จะกิน.
กำลังกินกำลังนอน กำลังกินกำลังนอน (สำ) ว. อยู่ในวัยกินวัยนอน เช่น เด็กกําลังกินกําลังนอน.
กำลังใจ กำลังใจ น. สภาพของจิตใจที่มีความเชื่อมั่นและกระตือรือร้นพร้อมที่จะเผชิญกับเหตุการณ์ทุกอย่าง.
กำลังช้างเผือก กำลังช้างเผือก น. ชื่อพรรณไม้ ๒ ชนิดในสกุล Hiptage วงศ์ Malpighiaceae ขึ้นตามป่าเบญจพรรณทั่วไป ใบเดี่ยว ค่อนข้างกลมมน ขอบหยักตื้น ๆ ออกตรงข้ามกัน ดอกสีขาวอมชมพู ชนิด H. bengalensis Kurz เป็นไม้เถาเนื้อแข็ง, โนรา ก็เรียก; ชนิด H. candicans Hook.f. เป็นไม้พุ่มหรือไม้ต้นขนาดเล็ก, พญาช้างเผือก ก็เรียก.
กำลังช้างสาร กำลังช้างสาร ดู ตานเหลือง.
กำลังดี กำลังดี ว. พอดี.
กำลังเทียน กำลังเทียน (ฟิสิกส์) น. หน่วยวัดความเข้มของความสว่างของแหล่งกําเนิดแสง, แรงเทียน ก็ว่า, ปัจจุบันใช้หน่วยแคนเดลา.
กำลังภายใน กำลังภายใน น. กําลังที่เร้นอยู่ภายใน, กําลังที่เกิดจากการฝึกจิต โดยเฉพาะในลัทธิเต๋าและพระพุทธศาสนาบางนิกาย เพื่อให้จิตใจกล้าแข็งจนสามารถทําสิ่งที่คนทั่วไปทําไม่ได้.
กำลังม้า กำลังม้า (วิทยา) น. หน่วยวัดกำลังหรืออัตราของการทำงานโดยกำหนดว่า ๑ กำลังม้า คือ อัตราของการทำงานได้ ๕๕๐ ฟุตปอนด์ต่อวินาที ๑ กำลังม้า มีค่าเท่ากับ ๗๔๕.๗ วัตต์, แรงม้า ก็ว่า. (อ. horsepower).
กำลังวังชา กำลังวังชา น. กําลัง.
กำลังวัวเถลิง กำลังวัวเถลิง [-ถะเหฺลิง] น. ชื่อไม้พุ่มชนิด Anaxagorea luzonensis A. Gray ในวงศ์ Annonaceae ใบเดี่ยว ออกสลับกัน ดอกสีขาวกลิ่นหอม, โคเถลิง ก็เรียก.
กำลังเหมาะ กำลังเหมาะ ว. พอเหมาะ.
กำลุง กำลุง (แบบ) บ. ใน, ที่, เช่น แล้วจึงตั้งกมลจิตร ประดิษฐ์กําลุงใน หุงการชาลอรรคนิประไพ ก็เผาอาตมนิศกนธ์. (ดุษฎีสังเวย).
กำลูน กำลูน (โบ) ว. น่ากรุณา, น่าเอ็นดู, น่าสงสาร, เช่น ครั้นเห็นยิ่งระทดกําลูนสลดชีวา. (ม. คําหลวง มัทรี). (ป. กลูน).
กำเลา กำเลา (แบบ) ว. โง่, อ่อน, ไม่รู้เท่าทัน, ไม่มีไหวพริบ, เช่น ดุจตักแตนเต้นเห็นไฟ บมิใฝ่หนีไกล กำเลากำเลาะหวังเขญ. (อนิรุทธ). (ข. กํเลา จาก เขฺลา).
กำเลาะ กำเลาะ (แบบ) ว. หนุ่ม, สาว, เช่น หากกูกำเลาะหลงกาม ไป่คำนึงความ แลโดยอำเภอลำพัง. (สุธน). (ข. กํโละ ว่า หนุ่ม).
กำไล กำไล น. ชื่อเครื่องประดับสําหรับสวมข้อมือหรือข้อเท้า ทําด้วยเงินหรือทองเป็นต้น, ราชาศัพท์เรียกกําไลมือว่า ทองพระกร กําไลเท้าว่า ทองพระบาท.
กำไลคู่ผี กำไลคู่ผี น. กําไลขื่อผี. (ดู ขื่อผี).
กำสรด กำสรด [-สด] (แบบ) ก. สลด, แห้ง, เศร้า, เช่น จักคอยเห็นข้าโหยหา แต่องคเอกา จะแสนกำสรดลำเค็ญ. (สุธนู).
กำสรวล กำสรวล [-สวน] (แบบ) ก. โศกเศร้า, ครํ่าครวญ, ร้องไห้, เช่น ไทกำสรดสงโรธ ท้ยนสงโกจกำสรวลครวญไปพลาง. (ม. คำหลวง ทานกัณฑ์). (โบ กําสรวญ).
กำเสาะ กำเสาะ ก. กระเสาะ, เสาะ, เช่น เสือกซบสยบสกลลง กำเสาะโศกระด้าวดาล. (สุธน).
กำแสง กำแสง (โบ) ก. กันแสง เช่น กําแสงสมรมี กําเสาะจิตรจาบัลย์. (สูตรธนู).
กำหนด กำหนด [-หฺนด] ก. หมายไว้, ตราไว้.<2t>น. การหมายไว้, การตราไว้; (เลิก) บทบริหารบัญญัติคล้ายพระราชกฤษฎีกา โดยมากเป็นบัญญัติที่เกี่ยวกับบุคคลหรือข้าราชการบางจําพวก เช่น พระราชกําหนดเครื่องแบบแต่งกายข้าราชการฝ่ายทหารและพลเรือน.
กำหนดการ กำหนดการ น. ระเบียบการที่บอกถึงขั้นตอนของงานที่จะต้องทําตามลําดับ.
กำหนัด กำหนัด [-หฺนัด] น. ความใคร่ในกามคุณ.<2t>ก. ใคร่ในกามคุณ เช่น เทียรย่อมให้เกิดวัฒนาการกําหนัดใน. (ม. ร่ายยาว มหาพน).
กำหมัด กำหมัด น. มือที่กําเข้าให้แน่นเพื่อจะชกหรือต่อย.
กำเหน็จ กำเหน็จ [-เหฺน็ด] น. ค่าจ้างทําเครื่องเงินหรือทองรูปพรรณ.
กำแหง กำแหง [-แหงฺ] ว. แข็งแรง, กล้าแข็ง, เข้มแข็ง.<2t>ก. อวดดี.
กิก,กิ๊ก กิก, กิ๊ก ว. เสียงของแข็งกระทบกัน.
กิ่ง กิ่ง น. ส่วนที่แยกออกจากต้น, แขนง; ใช้เรียกส่วนย่อยที่แยกออกไปจากส่วนใหญ่ แต่ยังขึ้นอยู่กับส่วนใหญ่ เช่น กิ่งอําเภอ กิ่งสถานีตํารวจ; ลักษณนามเรียกงาช้างว่า กิ่ง; ชื่อเรือชนิดหนึ่งในกระบวนพยุหยาตรา.
กิ่งก้อย กิ่งก้อย (สำ) ว. เล็ก เช่น หัวเท่ากิ่งก้อย คือ หัวเล็กนิดเดียว.<2t>น. นิ้วเล็ก เช่น จะชนะไม่เท่ากิ่งก้อย. (สังข์ทอง).
กิ้งก่า กิ้งก่า น. ชื่อสัตว์เลื้อยคลานในวงศ์ Agamidae ตัวมีเกล็ด หางยาว ส่วนใหญ่อาศัยบนต้นไม้ มีหลายสกุลและหลายชนิด เช่น กิ้งก่าบ้านหัวนํ้าเงิน (Calotes mystaceus) กิ้งก่าเขา (Acanthosaura armata), อีสานเรียก ปอม หรือ กะปอม.
กิ้งกือ กิ้งกือ น. ชื่อสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังหลายวงศ์ มีเปลือกตัวแข็ง ลําตัวยาวแบ่งเป็นปล้อง ไม่แบ่งอกหรือท้องให้เห็น ปล้องตามลําตัวจับกันเป็นคู่ตามยาวยืดหดเข้าหากันได้ ทําให้สามารถขดตัวเป็นวงกลมได้เมื่อถูกรบกวน ปล้องแต่ละคู่จะมีขา ๒ คู่ ยกเว้นปล้องแรกไม่มีขา ปล้องที่ ๒ ถึง ๔ มีขาเพียงคู่เดียว จํานวนขาอาจมีได้ถึง ๒๔๐ คู่ ชนิดตัวโตที่พบบ่อย ๆ อยู่ในสกุล Graphidostreptus ส่วนตัวขนาดย่อมอยู่ในสกุล Cylindroiulus ทั้ง ๒ สกุลอยู่ในวงศ์ Julidae.
กิ้งกือเหล็ก กิ้งกือเหล็ก น. ชื่อกิ้งกือขนาดเล็กชนิด Polydesmus spp. ในวงศ์ Polydesmidae โตขนาดก้านไม้ขีดไฟ ยาว ๒-๒.๕ เซนติเมตร สีดําเป็นมัน ขอบข้างลําตัวและท้องสีครีมอ่อน หากินอยู่ตามกองขยะ ปุ๋ยหมัก มักซุกอยู่ในที่มืดและชื้น.
กิ้งโครง,กิ้งโครง ๑ กิ้งโครง ๑ น. ชื่อนกในวงศ์ Sturnidae ลักษณะคล้ายนกเอี้ยงซึ่งอยู่ในวงศ์เดียวกัน กินผลไม้และแมลง ในประเทศไทยมีหลายชนิด เช่น กิ้งโครงคอดํา (Sturnus nigricollis) กิ้งโครงแกลบปีกขาว (S. sinensis), คลิ้งโคลง ก็เรียก.
กิ้งโครง,กิ้งโครง ๒ กิ้งโครง ๒ น. จั่นมะพร้าวแห้ง.
กิ่งทองใบหยก กิ่งทองใบหยก (สํา) ว. เหมาะสมกัน (ใช้แก่หญิงกับชายที่จะแต่งงานกัน).
กิงบุรุษ กิงบุรุษ (แบบ) น. กินนร เช่น และเป็นที่เขานิยมว่ามีนกอย่างหนึ่งซึ่งเรียกว่ากิงบุรุษ. (ม. ร่ายยาว วนปเวสน์).
กิ่งหาย กิ่งหาย ดู หิ่งหาย.
กิ่งอำเภอ กิ่งอำเภอ (กฎ) น. ท้องที่ที่มีความจำเป็นในการปกครอง แยกมาจากอำเภอที่มีเขตท้องที่กว้างขวางแต่จำนวนประชากรไม่มาก หรือที่ที่มีชุมชนมากแต่ท้องที่ไม่กว้างขวางพอที่จะตั้งขึ้นเป็นอำเภอ มีปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่งอำเภอเป็นหัวหน้าปกครอง.
กิจ,กิจ- กิจ, กิจ- [กิด, กิดจะ-] น. ธุระ, งาน. (ป. กิจฺจ).
กิจกรรม กิจกรรม น. การที่ผู้เรียนปฏิบัติการอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อการเรียนรู้; กิจการ.
กิจการ กิจการ น. การงานที่ประกอบ, ธุระ.
กิจจะ กิจจะ (กลอน) น. กิจ เช่น กอบกิจจะคุ้มขัง. (ชุมนุมตํารากลอน). (ป.).
กิจจะลักษณะ กิจจะลักษณะ ว. เป็นการเป็นงาน, เป็นเรื่องเป็นราว, เป็นระเบียบเรียบร้อย.
กิจจา กิจจา [กิด-] (กลอน) น. เรื่องราว, ข้อความ.
กิจจานุกิจ กิจจานุกิจ [กิดจานุกิด] น. การงานน้อยใหญ่ หมายเอาการงานทั่วไป. (ป.).
กิจวัตร กิจวัตร น. กิจที่ทําเป็นประจํา.
กิดาการ กิดาการ น. อาการเล่าลือ, เสียงสรรเสริญ, ข่าวเลื่องลือ, บางทีเขียนเป็น กิฎาการ ก็มี เช่น แห่งเออกอึงกิฎาการ. (ตะเลงพ่าย). (ป. กิตฺติ + อาการ).
กิดาหยัน กิดาหยัน [-หฺยัน] น. มหาดเล็ก. (ช.).
กิตติ กิตติ [กิดติ] น. คําเล่าลือ, คําสรรเสริญ. (ป.).
กิตติกรรมประกาศ กิตติกรรมประกาศ น. ข้อความที่กล่าวถึงผลงานและแสดงความขอบคุณบุคคลที่เกี่ยวข้อง หรือที่ให้ความช่วยเหลือต่าง ๆ มักเขียนไว้ตอนต้นของวิทยานิพนธ์. (อ. acknowledgements).
กิตติคุณ กิตติคุณ น. คุณที่เลื่องลือ.
กิตติมศักดิ์ กิตติมศักดิ์ [-ติมะ-] ว. ยกย่องเพื่อเป็นเกียรติยศ เช่น ปริญญากิตติมศักดิ์ สมาชิกกิตติมศักดิ์.
กิตติศัพท์ กิตติศัพท์ น. เสียงเล่าลือ, เสียงสรรเสริญ, เสียงยกย่อง. (ป. กิตฺติ = สรรเสริญ, ยกย่อง + ส. ศพฺท = เสียง).
กิน กิน ก. เคี้ยว เช่น กินหมาก, เคี้ยวกลืน เช่น กินข้าว, ดื่ม เช่น กินนํ้า, ทําให้ล่วงลําคอลงไปสู่กระเพาะ; โดยปริยายหมายความว่าเปลือง เช่น กินเงิน กินเวลา, ทําให้หมดเปลือง เช่น รถกินนํ้ามัน หลอดไฟชนิดนี้กินไฟมาก; รับเอา เช่น กินสินบน, หารายได้โดยไม่สุจริต เช่น กินจอบกินเสียม; ชนะในการพนันบางอย่าง.
กินกริบ กินกริบ ก. หาประโยชน์ใส่ตัวได้อย่างแนบเนียน.
กินกัน กินกัน ก. เอาเงินกันในระหว่างคู่ขาการพนัน, มักใช้ในความปฏิเสธว่า ไม่กินกัน.
กินกำไร กินกำไร ก. กินเศษกินเลย, เบียดแว้ง, เบียดบัง.
กินเกลียว กินเกลียว ก. เข้ากันได้สนิท, มักใช้ในความปฏิเสธว่า ไม่กินเกลียวกัน.
กินเกลือกินกะปิ กินเกลือกินกะปิ (สํา) ว. อดทนต่อความลำบากยากแค้น เช่น เขาเคยกินเกลือกินกะปิมาด้วยกัน.
กินแกลบกินรำ กินแกลบกินรำ [-แกฺลบ-] (สํา) ว. โง่ เช่น ฉันไม่ได้กินแกลบกินรำนี่ จะได้ไม่รู้เท่าทันคุณ.
กินขวา,กินซ้าย กินขวา, กินซ้าย ก. อาการที่รถ เรือ ว่าว เป็นต้น เคลื่อนลํ้าไปทางขวาหรือซ้ายมากเกินควร
กินขาด กินขาด (ปาก) ว. ดีกว่ามาก, เหนือกว่ามาก, ชนะเด็ดขาด.
กินข้าวต้ม กระโจมกลาง กินข้าวต้ม กระโจมกลาง (สำ) ก. ทำอะไรด้วยความใจร้อนไม่พิจารณาให้รอบคอบ มักเป็นผลเสียแก่ตน.
กินแขก กินแขก (ถิ่น-พายัพ) ก. กินเลี้ยงในการแต่งงาน.
กินความ กินความ ก. หมายความไปถึง, ได้ความครบอย่างกะทัดรัด.
กินเครา กินเครา [-เคฺรา] น. ชื่อนกในวรรณคดี เช่น นกพริกจิกจอกกินเครา. (สมุทรโฆษ).
กินงาย กินงาย ก. กินอาหารมื้อเช้า.
กินเจ,กินแจ กินเจ, กินแจ ก. ถือศีลอย่างญวนหรือจีน โดยกินอาหารจำพวกผักล้วน ไม่มีเนื้อสัตว์.
กินใจ กินใจ ก. รู้สึกแหนงใจ, สะดุดใจ, กระทบใจ; ซาบซึ้งใจ.
กินช้อน กินช้อน ก. กินอาหารด้วยช้อน.
กินชัน กินชัน ดู ชันโรง.
กินดอก,กินดอกเบี้ย กินดอก, กินดอกเบี้ย ก. ได้รับผลประโยชน์ที่เกิดจากทุนหรือเงินให้กู้.
กินดอง กินดอง ก. กินเลี้ยงในการแต่งงาน.<2t>(ถิ่น-อีสาน) น. พิธีอย่างหนึ่งทําเมื่อผัวเมียมีบุตรด้วยกันคนหนึ่ง หรือไม่มีบุตร แต่ได้ทําพิธีแปลงออกครบ ๓ ปี.
กินด่าง กินด่าง (ถิ่น-อีสาน) น. พิธีอย่างหนึ่ง ทําเมื่อผัวเมียมีบุตรด้วยกัน ๒ คน.
กินดาย กินดาย ก. กินดะไปจนหมด (ใช้เฉพาะการเล่นหมากแยก).
กินดิบ,กินดิบ ๑ กินดิบ ๑ ก. ชนะโดยง่ายดาย.
กินดิบ,กินดิบ ๒ กินดิบ ๒ (ถิ่น-ปักษ์ใต้) น. ชื่อกล้วยพันธุ์หนึ่ง.
กินตะเกียบ กินตะเกียบ ก. กินอาหารด้วยตะเกียบ.
กินตัว กินตัว ก. ผุหรือขาดกร่อนไปเองอย่างผ้าขนสัตว์; ริบสิ่งที่นํามาพนันขันต่อกันจากผู้แพ้.
กินตา กินตา ก. ลวงตาให้เห็นขนาดผิดไป.
กินตามน้ำ กินตามน้ำ (สำ) ก. รับของสมนาคุณที่เขาเอามาให้โดยไม่ได้เรียกร้อง (มักใช้แก่เจ้าพนักงานผู้มีอำนาจ).
กินตำแหน่ง กินตำแหน่ง ก. ได้ครองตําแหน่ง.
กินโต๊ะ กินโต๊ะ ก. กินเลี้ยงด้วยอาหารอย่างดีแบบนั่งโต๊ะ, โดยปริยายหมายความว่า รุมทําร้าย.
กินแถว กินแถว ก. เอาตัวหมากออกจากกระดานตลอดทั้งแถว (ใช้เฉพาะการเล่นหมากแยก).<2t>ว. กระทบกระเทือนทุกคนในพวกนั้น, ถูกลงโทษทุกคนในพวกนั้น.
กินทาง กินทาง ว. ลํ้าทาง (ใช้แก่ยวดยาน) เช่น ขับรถกินทาง.
กินที่ กินที่ ก. เปลืองที่.
กินที่ลับไขที่แจ้ง กินที่ลับไขที่แจ้ง (สํา) ก. เปิดเผยเรื่องที่ทํากันในที่ลับ.
กินนร กินนร [-นอน] น. อมนุษย์ในนิยาย มี ๒ ชนิด ชนิดหนึ่งเป็นครึ่งคนครึ่งนก ท่อนบนเป็นคน ท่อนล่างเป็นนก อีกชนิดหนึ่งมีรูปร่างเหมือนคน เมื่อจะไปไหนมาไหน ก็ใส่ปีกใส่หางบินไป.
กินนรเก็บบัว กินนรเก็บบัว น. ชื่อกลบทชนิดหนึ่ง ตัวอย่างว่า ฉิใจฉะใจกระไรสมร หวังสวาทปลิดสวาทบําราศจร ตัดอาลัยตัดอาวรณ์ให้นอนเดียว.
กินนรฟ้อนโอ่ กินนรฟ้อนโอ่ น. ชื่อท่าละครชนิดหนึ่ง.
กินนรรำ กินนรรำ น. ชื่อท่าละครชนิดหนึ่ง; ชื่อเพลงปี่พาทย์ชนิดหนึ่ง. (ดึกดําบรรพ์); ชื่อกลบทชนิดหนึ่งตัวอย่างว่า ชะจิตใจไฉนนางระคางเขิน ปะพบพักตร์จะทักทายชม้ายเมิน ละเลิงเหลือจะเชื้อเชิญเผอิญอาย.
กินนรเลียบถ้ำ กินนรเลียบถ้ำ น. ชื่อท่ารำแม่บทท่าหนึ่ง, กินรินเลียบถ้ำ ก็ว่า.
กินนอกกินใน กินนอกกินใน ก. เอากําไรในการซื้อขาย ทั้งในราคาและนอกราคาที่กําหนด.
กินนอน กินนอน น. เรียกโรงเรียนที่จัดให้นักเรียนกินอยู่หลับนอนในโรงเรียนว่า โรงเรียนกินนอน, เรียกนักเรียนที่อยู่ในโรงเรียนกินนอนว่า นักเรียนกินนอน.
กินน้ำ กินน้ำ ก. มีท้องเรือจมลึกลงไปในนํ้า เช่น เรือกินนํ้าตื้น เรือกินน้ำลึก.
กินน้ำตา กินน้ำตา (สํา) ก. ร้องไห้, เศร้าโศก.
กินน้ำตาต่างข้าว กินน้ำตาต่างข้าว (สำ) ก. ร้องไห้เศร้าโศกจนไม่เป็นอันกิน.
กินน้ำใต้ศอก กินน้ำใต้ศอก (สํา) ก. จําต้องยอมเป็นรองเขา, ไม่เทียมหน้าเทียมตาเท่า, (มักหมายถึงเมียน้อยที่ต้องยอมลงให้แก่เมียหลวง).
กินน้ำพริกถ้วยเก่า กินน้ำพริกถ้วยเก่า (สำ) ก. อยู่กับเมียคนเดิม.
กินน้ำพริกถ้วยเดียว กินน้ำพริกถ้วยเดียว (สํา) ก. อยู่กับเมียคนเดียว.
กินน้ำไม่เผื่อแล้ง กินน้ำไม่เผื่อแล้ง (สํา) ก. มีอะไรใช้หมดทันทีไม่คิดถึงวันข้างหน้า.
กินน้ำเห็นปลิง กินน้ำเห็นปลิง (สํา) ก. รู้สึกตะขิดตะขวงใจเหมือนจะกินนํ้าเห็นปลิงอยู่ในนํ้าก็กินไม่ลง.
กินใน กินใน ก. แหนงใจ, กินใจ.
กินบนเรือนขี้บนหลังคา กินบนเรือนขี้บนหลังคา (สํา) ก. เนรคุณ.
กินบวช กินบวช ก. กินเครื่องกระยาบวชในลัทธิพิธี เช่นพิธีตรุษ, ใช้เข้าคู่กับคํา ถือศีล เป็น ถือศีลกินบวช, กินในเวลาตามกําหนดของการถือพรตในลัทธิศาสนา.
กินบ้านกินเมือง กินบ้านกินเมือง ก. ตื่นสายมาก ในความว่า นอนกินบ้านกินเมือง; (ปาก) ฉ้อราษฎร์บังหลวง.
กินบ้านผ่านเมือง กินบ้านผ่านเมือง (โบ) ก. ครองเมือง.
กินบุญ กินบุญ (ถิ่น-อีสาน, ชาวไทยอิสลาม) ก. กินเลี้ยงในงานทําบุญ.
กินบุญเก่า กินบุญเก่า (สํา) ก. ได้รับผลแห่งความดีที่ทําไว้แต่ปางก่อน (มักใช้เป็นสํานวนอุปมาแก่คนที่นอนกินนั่งกินสมบัติเก่า).
กินแบ่ง กินแบ่ง น. เรียกสลากที่จําหน่ายแก่ผู้ถือเพื่อรับรางวัลในการเสี่ยงโชค โดยผู้จําหน่ายหักส่วนลดเป็นกําไรว่า สลากกินแบ่ง.
กินปลิง กินปลิง น. นกชนิดหนึ่ง. (พจน. ๒๔๙๓).
กินปลี กินปลี น. ชื่อนกในวงศ์ Nectariniidae ตัวเล็ก ปากยาวโค้งงองุ้มปลายแหลมเล็ก กินแมลง นํ้าหวานในปลีกล้วยและดอกไม้ ในประเทศไทยมีหลายชนิด เช่น กินปลีอกเหลือง (Nectarinia jugularis) กินปลีแก้มสีทับทิม (Anthreptes singalensis).
กินปิ่นโต กินปิ่นโต ก. ว่าจ้างให้ทำอาหารใส่ปิ่นโตส่งให้ตามที่ตกลงกัน, ผูกปิ่นโต ก็ว่า, (ปาก) ว่าปิ่นโต.
กินปูนร้อนท้อง กินปูนร้อนท้อง (สํา) ก. ทําอาการมีพิรุธขึ้นเอง, แสดงอาการเดือดร้อนขึ้นเอง.
กินเปล่า กินเปล่า [-เปฺล่า] ก. ได้ประโยชน์เปล่า ๆ ไม่ต้องตอบแทน.<2t>น. เรียกเงิน ทรัพย์สิน หรือสิ่งอื่น ๆ ที่เสียไป เพื่อให้ได้สิทธิตามที่ตกลงกันว่า เงินกินเปล่า.<2t>ว. ได้ประโยชน์แต่ฝ่ายเดียว เช่น เตะกินเปล่า.
กินเปี้ยว กินเปี้ยว น. ชื่อนกกระเต็นชนิด Halcyon chloris ในวงศ์ Alcedinidae ปากแบนข้างสีดําปลายแหลม ลําตัวด้านบนสีนํ้าเงินเขียว คอและใต้ท้องสีขาว หากินในป่าแสม ป่าโกงกาง กินปูเปี้ยวและปลา.
กินผัว กินผัว ว. มีผัวกี่คน ๆ ก็ตายจากไปก่อนหมด.
กินเพรา กินเพรา [-เพฺรา] น. กินอาหารมื้อเย็น.
กินมือ กินมือ ก. กินอาหารด้วยมือ.
กินเมีย กินเมีย ว. มีเมียกี่คน ๆ ก็ตายจากไปก่อนหมด.
กินเมือง กินเมือง ก. ครอบครองเมือง.
กินไม่ลง กินไม่ลง (ปาก) ก. เอาชนะไม่ได้.
กินรังแตน กินรังแตน (สํา) ก. มีอารมณ์เสียหงุดหงิดบ่นว่าเกินกว่าเหตุ.
กินริน,กินรี กินริน, กินรี [กินนะริน, กินนะรี] (กลอน) น. กินนรเพศหญิง เช่น ดุจกินรินแน่ง พักตราแพ่งมานุษย์. (ม. คําหลวง ทานกัณฑ์), กินรีแอ่นกินรากร. (ม. คําหลวง วนปเวสน์).
กินรินเลียบถ้ำ กินรินเลียบถ้ำ น. ชื่อท่ารำแม่บทท่าหนึ่ง, กินนรเลียบถ้ำ ก็ว่า.
กินรุก กินรุก ก. เดินหมากเข้าไปกินหมากของอีกฝ่ายหนึ่งแล้วอยู่ในตำแหน่งที่จะกินขุนของอีกฝ่ายหนึ่งทันที (ใช้ในการเล่นหมากรุก).
กินรูป กินรูป ว. มีลักษณะให้เห็นขนาดย่อมกว่าตัวจริง, ใหญ่ดูเป็นเล็ก, ซ่อนรูป ก็ว่า.
กินแรง กินแรง ก. เอาเปรียบผู้อื่นในการทํางานหรือในการเลี้ยงชีพ; หนักแรง, ต้องใช้แรงมาก.
กินลม กินลม ก. ต้านลม, รับลม, เช่น ว่าวกินลม ใบเรือกินลม.
กินลมกินแล้ง กินลมกินแล้ง (สํา) ก. ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย.
กินล้างกินผลาญ กินล้างกินผลาญ ก. กินครึ่งทิ้งครึ่ง, กินทิ้งกินขว้าง, กินอย่างสุรุ่ยสุร่าย.
กินลึก กินลึก ว. มีเล่ห์ลึกซึ้ง.
กินเลี้ยง กินเลี้ยง ก. กินอาหารร่วมกันหลายคนเพื่อสังสรรค์กันเป็นต้น.
กินเวลา กินเวลา ก. เปลืองเวลา, ใช้เวลามาก.
กินเศษกินเลย กินเศษกินเลย (สำ) ก. กินกําไร, ยักเอาเพียงบางส่วนที่มีจํานวนเล็กน้อยไว้, ยักเอาส่วนที่เหลือไว้เป็นของตน, เอาเพียงบางส่วนไว้เป็นของตน.
กินส้อม กินส้อม ก. กินอาหารด้วยส้อม.
กินสั่ง กินสั่ง ก. กินมากผิดปรกติเมื่อถึงคราวจะตาย, โดยปริยายหมายความถึงกินจุเกินควร.
กินสำรับ กินสำรับ ก. กินอาหารที่เขาจัดมาเป็นสํารับ, (สำ) กินอาหารอย่างดี.
กินสินบน กินสินบน ก. รับเงินหรือสิ่งของต่าง ๆ เป็นต้นเพื่อให้ทำประโยชน์แก่ผู้ให้ในทางมิชอบ.
กินสี่ถ้วย กินสี่ถ้วย ก. กินเลี้ยงในงานมงคล [สี่ถ้วย คือ ขนม ๔ อย่าง อย่างละถ้วย ได้แก่ ไข่กบ (สาคูหรือเมล็ดแมงลัก), นกปล่อย (ลอดช่อง), มะลิลอย (ข้าวตอก), อ้ายตื้อ (ข้าวเหนียว) มีนํ้ากะทิใส่ชามอยู่กลาง].
กินเส้น กินเส้น ก. ชอบกัน, เข้ากันได้, มักใช้ในความปฏิเสธว่า ไม่กินเส้นกัน.
กินหน้า,กินหลัง,กินหาง กินหน้า, กินหลัง, กินหาง ว. ลักษณาการของว่าวที่สายซุงบนสั้น เรียกว่า กินหน้า, ที่สายซุงบนยาว เรียกว่า กินหลัง, ที่เสียหางตัวเอง เรียกว่า กินหาง.
กินหู้ กินหู้ (ปาก) ก. ผิดคาด. (มาจากเรื่องแทงหวย ถูกตัวเช้า กินตัวคํ่า).
กินเหนียว กินเหนียว (ถิ่น-ปักษ์ใต้) ก. กินเลี้ยงในงานแต่งงาน.
กินเหมือนหมู อยู่เหมือนหมา,กินอย่างหมู อยู่อย่างหมา กินเหมือนหมู อยู่เหมือนหมา, กินอย่างหมู อยู่อย่างหมา (สํา) ว. เละเทะไม่มีระเบียบ.
กินเหล็กกินไหล กินเหล็กกินไหล (สํา) ว. ทนต่อความเหน็ดเหนื่อยหรือความเจ็บปวดได้อย่างผิดปรกติ.
กินแหนง กินแหนง ก. สงสัย, ระแวง, ไม่แน่ใจ, มักใช้เข้าคู่กับคำ แคลงใจ เป็น กินแหนงแคลงใจ.
กินอยู่กับปาก อยากอยู่กับท้อง กินอยู่กับปาก อยากอยู่กับท้อง (สํา) ก. รู้ดีอยู่แล้วแสร้งทําเป็นไม่รู้.
กินอยู่พูวาย กินอยู่พูวาย ก. กินอย่างอิ่มหนําสําราญ.
กิ๊บ กิ๊บ น. ที่หนีบผมทําด้วยโลหะหรือพลาสติกเป็นต้น สําหรับบังคับผมให้อยู่ในลักษณะที่ต้องการหรือเพื่อประดับตกแต่ง.
กิมตึ๋ง กิมตึ๋ง น. ชื่อเครื่องหมายถ้วยปั้นชนิดหนึ่งที่สั่งมาจากประเทศจีน. (จ.).
กิมิชาติ กิมิชาติ (แบบ) น. หนอน, หมู่หนอน. (ป.).
กิมิวิทยา กิมิวิทยา น. วิชาว่าด้วยหนอน.
กิโมโน กิโมโน น. เครื่องแต่งกายประจําชาติญี่ปุ่น เป็นเสื้อยาว หลวม แขนกว้าง มีผ้าคาดเอว, โดยปริยายใช้เรียกเสื้อสตรีที่มีลักษณะเช่นนั้น.
กิโยตีน กิโยตีน น. เครื่องมือประหารชีวิตแบบหนึ่ง ประกอบด้วยใบมีดขนาดใหญ่ ด้านคมมีลักษณะเฉียง เลื่อนลงมาตามร่องเสาให้ตัดคอนักโทษ. (ฝ. guillotine).
กิระ กิระ ว. เล่าลือ เช่น คํากิระ หมายความว่า คําเล่าลือ. (ป.).
กิริณี กิริณี น. ช้างพัง. (โบ เขียนเป็น กิรินี). (ป.).
กิรินท กิรินท [-ริน] (แบบ) น. ช้างสําคัญ เช่น อ้าบัดนี้แม่มาเดอรดิน สีพิกากิรินทไกรอาศน กวยนแก้วราชรจนา. (ม. คําหลวง วนปเวสน์). (ป. กรินฺท; ส. กรินฺ ว่า ผู้มีมือคืองวง).
กิริเนศวร กิริเนศวร [-เนสวน, -เนด] น. ช้างสําคัญ เช่น ทรงนั่งกิริเนศวรโจมทอง. (ม. คําหลวง ทานกัณฑ์).
กิริยา กิริยา น. การกระทํา; อาการที่แสดงออกมาด้วยกาย, มารยาท, บางทีใช้ในอาการที่ดี เช่น มีกิริยา หมายความว่า มีกิริยาดี. (ป.).
กิริยาสะท้อน กิริยาสะท้อน น. การเคลื่อนไหวอย่างฉับพลันของกล้ามเนื้อที่ไม่อยู่ในอํานาจสั่งงานของสมอง เพื่อตอบสนองสิ่งกระตุ้น เป็นการหลีกเลี่ยงอันตรายหรือสิ่งรบกวน เช่นหดมือเมื่อถูกของร้อน.
กิเลน กิเลน น. ชื่อสัตว์ในนิยายจีน, ตามตําราของจีนว่า หัวเป็นมังกร มีเขาอ่อน ๑ เขา ตัวเป็นกวาง ตีนมีกีบเหมือนม้า หางเป็นพวง.
กิเลส,กิเลส- กิเลส, กิเลส- [-เหฺลด, -เหฺลดสะ-] น. เครื่องทําใจให้เศร้าหมอง ได้แก่ โลภ โกรธ หลง เช่น ยังตัดกิเลสไม่ได้ กิเลสหนา; กิริยามารยาท ในคําว่า กิเลสหยาบ.
กิเลสมาร กิเลสมาร น. กิเลสซึ่งนับเป็นมารอย่างหนึ่ง. (ป.). (ดู มาร).
กิโล,กิโล- กิโล, กิโล- เป็นคําประกอบข้างหน้าหน่วยมาตราเมตริก หมายความว่า พัน เช่น กิโลเมตร กิโลกรัม.<2t>(ปาก) น. เครื่องชั่ง เช่น กิโลนี้ไม่เที่ยง; คำเรียกสั้น ๆ ของกิโลกรัมและกิโลเมตร.
กิโลกรัม กิโลกรัม น. ชื่อมาตราชั่งนํ้าหนัก เท่ากับ ๑,๐๐๐ กรัม, อักษรย่อว่า กก., (ปาก) เรียกสั้น ๆ ว่า กิโล หรือ โล. (ฝ. kilogramme).
กิโลไซเกิล กิโลไซเกิล น. หน่วยวัดความถี่ของกระแสไฟฟ้าสลับหรือคลื่นวิทยุ มีค่าเท่ากับ ๑,๐๐๐ ไซเกิลต่อวินาที, ปัจจุบันใช้ว่า กิโลเฮิรตซ์. (อ. kilocycle).
กิโลมกะ กิโลมกะ [-มะกะ] น. พังผืด. (ป.).
กิโลเมตร กิโลเมตร น. ชื่อมาตราวัด เท่ากับ ๑,๐๐๐ เมตร, อักษรย่อว่า กม., (ปาก) เรียกสั้น ๆ ว่า กิโล. (ฝ. kilometre).
กิโลลิตร กิโลลิตร น. ชื่อมาตราตวง เท่ากับ ๑,๐๐๐ ลิตร หรือ ๑ ลูกบาศก์เมตร, อักษรย่อว่า กล. (ฝ. kilolitre).
กิโลเฮิรตซ์ กิโลเฮิรตซ์ น. หน่วยวัดความถี่ของกระแสไฟฟ้าสลับหรือคลื่นวิทยุ ใช้สัญลักษณ์ kHz ๑ กิโลเฮิรตซ์ มีค่าเท่ากับ ๑,๐๐๐ เฮิรตซ์ หรือเท่ากับ ๑,๐๐๐ ไซเกิลต่อวินาที. (อ. kilohertz).
กิ่ว กิ่ว ว. คอดมาก, เล็กตอนกลาง, เช่น คอกิ่ว ท้องกิ่ว หางกิ่ว; (ถิ่น-พายัพ) คอด.
กิ๋ว,กิ๋ว ๑,กิ๋ว ๆ กิ๋ว ๑, กิ๋ว ๆ ว. เสียงร้องเยาะเย้ย, บางทีทำอาการกระดิกนิ้วชี้ตรงไปที่หน้าผู้ที่ถูกเย้ย, กุ๋ย หรือ กุ๋ย ๆ ก็ว่า.
กิ๋ว,กิ๋ว ๒ กิ๋ว ๒ (ถิ่น-พายัพ) น. ขนที่ขึ้นบนไฝดํา, ขนเพชร.
กี กี ดู กาบกี้.
กี่,กี่ ๑ กี่ ๑ น. เครื่องทอผ้า, เครื่องเย็บสมุด; ที่ตั้งพระกลดหรือพระแสงง้าวเป็นต้น.
กี่,กี่ ๒ กี่ ๒ ว. คําประกอบหน้าคําอื่น หมายความว่า เท่าไร เช่น กี่วัน กี่บาท, ใช้ตามหลังคําว่า ไม่ เป็น ไม่กี่ หมายความว่า ไม่มาก ไม่หลาย เช่น ไม่กี่วัน ไม่กี่บาท. (โบ ว่า ขี หรือ ขี่).
กี้,กี๊ กี้, กี๊ น. เวลาที่ล่วงไปหยก ๆ, มักใช้ประกอบกับคํา เมื่อ เมื่อแต่ หรือ เมื่อตะ เป็น เมื่อกี้ เมื่อแต่กี้ เมื่อตะกี้ หรือ เมื่อกี๊ เมื่อแต่กี๊ เมื่อตะกี๊.
กี๋ กี๋ น. ฐานสําหรับรองสิ่งของหรือสำหรับนั่ง ทําด้วยวัตถุต่าง ๆ มีรูปต่าง ๆ กัน เช่น กี๋รองแจกัน กี๋รองกระถางต้นไม้; ภาชนะมีรูปต่าง ๆ สําหรับใส่เครื่องนํ้าชาแบบจีน เช่น กี๋ญวน.
กี่กระตุก กี่กระตุก น. เครื่องทอผ้าชนิดหนึ่งที่มีสายกระตุกเพื่อให้กระสวยพุ่งไปได้เอง.
กีฏ,กีฏ- กีฏ- [กีตะ-] (แบบ) น. แมลง. (ป. กีฏ ว่า ตั๊กแตน).
กีฏวิทยา กีฏวิทยา น. วิชาว่าด้วยแมลง. (อ. entomology).
กีด กีด ก. กั้น, ขวาง, เกะกะ.
กีดกัน กีดกัน ก. กันไม่ให้ทําได้โดยสะดวก.
กีดกั้น กีดกั้น ก. ขัดขวางไว้.
กีดขวาง กีดขวาง ก. ขวางกั้นไว้, ขวางเกะกะ.
กีดหน้าขวางตา กีดหน้าขวางตา ก. เกะกะขัดขวางทําให้เขาไม่สะดวกใจ.
กีตาร์ กีตาร์ น. เครื่องดีดชนิดหนึ่ง รูปคล้ายซอฝรั่ง มี ๖ สาย ใช้มือดีด. (อ. guitar).
กีบ,กีบ ๑ กีบ ๑ น. เล็บเท้าสัตว์บางชนิดในพวกกินหญ้าอย่างม้าและวัว.
กีบ,กีบ ๒ กีบ ๒ น. ชื่อหน่วยเงินตราของลาว.
กีบแรด กีบแรด น. ชื่อเฟินชนิด Angiopteris evecta Hoffm. ในวงศ์ Marattiaceae ทางใบยาวแยกแขนง ที่โคนก้านใบมีส่วนคล้ายกีบแรดหรือกีบม้ากํากับอยู่ ใช้ทํายาได้, ว่านกีบแรด หรือ ว่านกีบม้า ก็เรียก.
กี่มากน้อย กี่มากน้อย ว. เท่าไร.
กีรติ กีรติ [กีระติ] (แบบ) น. เกียรติ. (ส.).
กีฬา กีฬา น. กิจกรรมหรือการเล่นเพื่อความสนุกเพลิดเพลิน เพื่อความแข็งแรงของร่างกาย หรือเพื่อผ่อนคลายความเคร่งเครียดทางจิต. (ป.). (ดู กรีฑา).
กึก กึก ว. เสียงของแข็ง ๆ กระทบกัน; ทันที เช่น หยุดกึก; (กลอน) ดังก้อง เช่น กึกฟ้าหล้าหล่มธรณี. (สมุทรโฆษ).
กึกก้อง กึกก้อง ว. ดังสนั่น, ดังมาก.
กึกกัก กึกกัก ว. เสียงดังเช่นนั้น, ติด ๆ ขัด ๆ.
กึกกือ กึกกือ ว. ใช้เข้าคู่กับคํา พิลึก ว่า พิลึกกึกกือ หมายความว่า แปลกประหลาดมาก, ผิดปรกติมาก, ชอบกลมาก.
กึง กึง ว. เสียงดังเช่นนั้น, ดังก้อง.
กึ่ง กึ่ง ว. ครึ่ง.
กึ่งกลาง กึ่งกลาง ว. ใจกลาง, ตรงกลาง.
กึงกัง กึงกัง ว. เสียงดังอย่างล้อเกวียนกระทบพื้นที่แข็ง.
กึ่งราชการ กึ่งราชการ ว. ไม่ใช่ทางราชการแท้.
กึ๋น กึ๋น น. กระเพาะที่ ๒ ของสัตว์ประเภทสัตว์ปีก มีหน้าที่ย่อยอาหารต่อจากกระเพาะที่ ๑ ประกอบด้วยผนังที่มีกล้ามเนื้อหนาและเหนียวสําหรับบดอาหาร โดยมีหินก้อนเล็ก ๆ ที่กลืนเข้าไปเป็นเครื่องช่วย.
กุ,กุ ๑ กุ ๑ ก. สร้างให้เป็นเรื่องเป็นข่าวขึ้นโดยไม่มีมูล.
กุ,กุ ๒ กุ ๒ น. ชื่อกล้วยพันธุ์หนึ่ง, กล้วยสั้น ก็เรียก.
กุ,กุ ๓ กุ ๓ (โบ) ก. กรุ เช่น กุกดดดาน คือ กรุกระดาน. (จารึกสยาม).
กุก กุก ว. เสียงของแข็ง ๆ กระทบกัน.<2t>ก. กิริยาที่หนูร้องดังเช่นนั้น เรียกว่า หนูกุก.<2t>น. เครื่องดักหนูเป็นหีบมีกระดานหก มีลูกกลิ้ง เมื่อหนูเข้าไปเหยียบกระดานหก ลูกกลิ้งจะกลิ้งมาปิดช่อง แล้วหนูจะกระโดดเข้าไปยังอีกที่หนึ่ง และถูกขังอยู่ในนั้น; เสียงส่งท้ายการขันของนกเขาหลวง ซึ่งอาจมีได้ถึง ๓ กุก.
กุ๊ก,กุ๊ก ๑ กุ๊ก ๑ น. ชื่อนกชนิดหนึ่งในจําพวกนกเค้า เรียกว่า นกกุ๊ก. (พจน. ๒๔๙๓).
กุ๊ก,กุ๊ก ๒ กุ๊ก ๒ น. คนทำอาหารในโรงแรมหรือภัตตาคารเป็นต้น. (อ. cook).
กุ๊ก,กุ๊ก ๓ กุ๊ก ๓ ดู อ้อยช้าง (๑).
กุกกัก,กุก ๆ กัก ๆ กุกกัก, กุก ๆ กัก ๆ ว. กึกกัก, ติด ๆ ขัด ๆ, ไม่สะดวก; เสียงดังเช่นนั้น.
กุ๊กกิ๊ก,กุ๊ก ๆ กิ๊ก ๆ กุ๊กกิ๊ก, กุ๊ก ๆ กิ๊ก ๆ ก. พูดหรือเล่นกันเงียบ ๆ; ประจบ เช่น ไปกุ๊กกิ๊กกับแม่ไม่นานก็ได้เงินมา.
กุกกุฏ,กุกกุฏ- กุกกุฏ- [-กุตะ-] (แบบ) น. ไก่, ไก่ป่า, เช่น กุกกุฏสังวัจฉร (ปีระกา). (ป.).
กุกกุร,กุกกุร- กุกกุร- [-กุระ-] (แบบ) น. สุนัข, ลูกสุนัข, เช่น กุกกุร สังวัจฉร (ปีจอ). (ป.).
กุกขี้หมู กุกขี้หมู ดู รักหมู.
กุกรรม กุกรรม (แบบ) น. การชั่ว, การไม่ดี. (ส.; ป. กุกมฺม).
กุก่อง กุก่อง (โบ) ว. รุ่งเรือง, สุกใส, เช่น กุก่องกนกมี. (สมุทรโฆษ).
กุกะ กุกะ ว. ขรุขระ เช่น ทั้งนํ้าใจก็ดื้อดันดุกุกะไม่คิดกลัว. (ม. ร่ายยาว ชูชก).
กุกะมะเทิ่ง กุกะมะเทิ่ง ว. ทะลึ่งตึงตัง.
กุกุธภัณฑ์ กุกุธภัณฑ์ [กุกุดทะ-] (โบ) น. กกุธภัณฑ์.
กุ้ง,กุ้ง ๑ กุ้ง ๑ น. ชื่อสัตว์นํ้าไม่มีกระดูกสันหลังในชั้น Crustacea อันดับ Decapoda มีหลายวงศ์ หายใจด้วยเหงือก ลําตัวยาว แบนหรือกลม แบ่งเป็นปล้อง ๆ เปลือกที่หุ้มท่อนหัวและอกคลุมมาถึงอกปล้องที่ ๘ ส่วนใหญ่กรีมีลักษณะแบนข้าง ก้ามและขาอยู่ที่ส่วนหัวและอก มี ๑๐ ขา มีทั้งในนํ้าจืดและนํ้าเค็ม มีหลายชนิด เช่น กุ้งก้ามกราม กุ้งก้ามเกลี้ยง กุ้งตะกาด กุ้งตะเข็บ กุ้งนาง กุ้งฝอย กุ้งหลวง กุ้งหัวแข็ง กุ้งหัวโขน.
กุ้ง,กุ้ง ๒ กุ้ง ๒ ว. โกงน้อย ๆ, ใช้แก่หลังว่า หลังกุ้ง คือ หลังโกงน้อย ๆ.
กุ้งดีด,กุ้งดีดขัน กุ้งดีด, กุ้งดีดขัน น. ชื่อกุ้งขนาดเล็กหลายชนิดหลายสกุล เช่น สกุล Alpheus ในวงศ์ Alpheidae มีก้ามใหญ่ ๒ ข้าง โดยมีก้ามข้างหนึ่งโตกว่า สามารถงับก้ามทําให้เกิดเสียงดังโดยเฉพาะเมื่อกระทบขันเสียงจะดังยิ่งขึ้น จึงได้ชื่อว่า กุ้งดีดขัน พบอาศัยหลบซ่อนอยู่ตามซอกวัสดุต่าง ๆ ริมฝั่งทั้งในนํ้าเค็มและนํ้ากร่อย ยกเว้นชนิด Alpheus microrhynchus ที่พบอยู่ในนํ้าจืดด้วย, กระเตาะ ก็เรียก.
กุ้งเต้น กุ้งเต้น น. ชื่อสัตว์หลายชนิดในวงศ์ Talitridae, Hyalidae และ Acanthogammaridae เป็นต้น ลักษณะคล้ายกุ้ง ลําตัวมีขนาดเล็ก ยาว ๐.๕-๑๕.๐ มิลลิเมตร ตัวแบนทางข้าง หัวไม่มีปลอก อกปล้องแรกรวมกับหัว อกที่เหลือมี ๗ ปล้อง ท้องมี ๖ ปล้อง รยางค์ ๒ คู่แรกอยู่ติดกับหัวโตกว่าคู่อื่น บางคู่ปลายคล้ายก้ามหนีบ รยางค์ที่อกถัดมามี ๕ คู่ รยางค์ท้องมี ๖ คู่ ๓ คู่สุดท้ายสั้นแข็งใช้สําหรับดีด จึงดีดได้เก่ง อาศัยอยู่ตามฝั่งนํ้าหรือที่ชื้นแฉะ ชนิดที่พบบ่อยตามชายทะเลฝั่งตะวันออกของไทย ได้แก่ Orchestia floresiana.
กุ้งนาง กุ้งนาง น. กุ้งก้ามกรามเพศเมียลำตัวและก้ามมีขนาดเล็กกว่าเพศผู้เสมอเมื่อมีอายุเท่ากัน.
กุ้งฝอย กุ้งฝอย น. ชื่อกุ้งตัวเล็ก ๆ มีหลายชนิด ที่พบในทะเล คือ ชนิด Penaeopsis avirostris ในวงศ์ Penaeidae ที่พบในนํ้าจืด คือ สกุล Caridina และ สกุล Atyopsis ในวงศ์ Atyidae และชนิด Macrobrachium lanchesteri ในวงศ์ Palaemonidae.
กุ้งฟัด กุ้งฟัด น. กุ้งแห้งที่เอาเปลือกออก.
กุ้งมังกร กุ้งมังกร ดู หัวโขน ๓.
กุ้งไม้ กุ้งไม้ น. กุ้งที่ปอกเปลือกเสียบไม้ตากแห้ง.
กุ้งยิง กุ้งยิง น. ฝีหัวเล็ก ๆ ซึ่งเกิดจากการอักเสบที่ต่อมขอบตา.
กุ้งส้ม กุ้งส้ม น. ของกินชนิดหนึ่งทําด้วยกุ้ง ใช้หมักด้วยข้าวสุก เกลือ และกระเทียม.
กุ้งหนามใหญ่ กุ้งหนามใหญ่ ดู หัวโขน ๓.
กุ้งหลวง กุ้งหลวง ดู ก้ามกราม.
กุ้งเหลือง กุ้งเหลือง น. ชื่อกุ้งทะเลชนิด Penaeus latisulcatus ในวงศ์ Penaeidae ขนาดเล็กกว่ากุ้งกุลาดํา ลําตัวสีเหลืองปนนํ้าตาล ขอบของส่วนท้องสีม่วง แพนหางสีฟ้า, กุ้งเหลืองหางฟ้า ก็เรียก.
กุ้งเหลืองหางฟ้า กุ้งเหลืองหางฟ้า ดู กุ้งเหลือง.
กุ้งแห กุ้งแห น. ชื่อกุ้งขนาดกลางชนิด Macrobrachium equidens ในวงศ์ Palaemonidae ก้ามมีปื้นสีเข้ม อาศัยอยู่ในย่านน้ำกร่อย พบบ้างในน้ำจืดหรือชายทะเล.
กุ้งแห้ง กุ้งแห้ง น. กุ้งทะเลที่ตากแห้ง, โดยปริยายหมายความว่า ผอมมาก.
กุงอน กุงอน [-งอน] น. นกช้อนหอย เช่น มีกุโงกกุงานและกุงอน. (สมุทรโฆษ).
กุงาน กุงาน น. ห่าน, ใช้หมายความถึง นกยูง ก็มี เช่น แพนกุงานกระพือ. (สมุทรโฆษ), กลางคชเทอดแพน กุงาน ง่าคว้าง. (ลิลิตพยุหยาตรา).
กุโงก กุโงก น. นกยูง, กระโงก ก็ใช้. (ข. โกฺงก).
กุจี กุจี (แบบ) น. หญิงค่อม เช่น ทฤษฎีกุจีจิตจํานง. (สุธน).
กุญแจ กุญแจ น. เครื่องสําหรับใส่ประตูหน้าต่างเป็นต้น เพื่อยึดหรือสลักไม่ให้เปิดเข้าออกได้ เวลากดหรือไขออก มีเสียงลั่นดังกริ๊ก มีลูกไข เรียกว่า ลูกกุญแจ, ประแจ ก็เรียก. (ป., ส. กุญฺจิกา ว่า ลูกดาล, เทียบมลายู กุญจี).
กุญแจกล กุญแจกล น. กุญแจที่เปิดโดยใช้รหัส.
กุญแจประจำหลัก กุญแจประจำหลัก น. กุญแจเสียง.
กุญแจปากตาย กุญแจปากตาย น. เครื่องมือโลหะชนิดหนึ่ง รูปร่างตอนปลายทั้ง ๒ ข้างคล้ายก้ามปู มีขนาดปากตายตัว ใช้สําหรับขันหรือคลายนอตเป็นต้น.
กุญแจผี กุญแจผี น. ลูกกุญแจหรือเส้นลวดเป็นต้นที่ทําขึ้นสําหรับไขกุญแจ มักใช้เพื่อการทุจริต.
กุญแจมือ กุญแจมือ น. ห่วงเหล็กมีกุญแจไข สําหรับเจ้าหน้าที่ใช้ใส่ข้อมือผู้ต้องหา.
กุญแจรหัส กุญแจรหัส น. กุญแจที่ใช้ระบบสัญลักษณ์; สมุดประมวลรหัส เพื่อใช้เข้ารหัสและถอดรหัส บรรจุข้อความที่เข้ารหัสไว้ด้านหนึ่งและข้อความที่ถอดรหัสแล้วไว้อีกด้านหนึ่ง.
กุญแจเลื่อน กุญแจเลื่อน น. เครื่องมือโลหะชนิดหนึ่ง มีส่วนประกอบสําหรับเลื่อนเพื่อปรับขนาดปากได้ ใช้สําหรับขันหรือคลายนอตเป็นต้น.
กุญแจเสียง กุญแจเสียง pic017.gif,กุญแจเสียง>น. เครื่องหมายอย่างหนึ่งที่ใช้ในการบันทึกเสียงดนตรีสากล เขียนไว้ตอนหน้าของบรรทัด ๕ เส้นเพื่อกําหนดระดับเสียงของตัวโน้ต, กุญแจประจําหลัก ก็เรียก.
กุญแจแหวน กุญแจแหวน [-แหฺวน] น. เครื่องมือโลหะชนิดหนึ่ง ตอนปลายทั้ง ๒ ข้างมีลักษณะคล้ายแหวน ขอบเหลี่ยม มีขนาดตายตัว ใช้สําหรับขันหรือคลายนอตเป็นต้น.
กุญชร กุญชร [กุนชอน] (แบบ) น. ช้าง. (ป.).
กุฎ,กุฎา กุฎ, กุฎา [กุด, กุดา] (กลอน) น. ยอด เช่น มัชฌิมากุฎาประมาณ. (สมุทรโฆษ). (ป., ส. กูฏ).
กุฎาคาร กุฎาคาร น. เรือนยอดเช่นปราสาท เช่น ธก็แต่งกุฎาคาร ปราสาท. (ลอ.).
กุฎาธาร กุฎาธาร น. ยอด เช่น กุฎาธารธาษตรี. (ยอพระเกียรติ ร. ๒).
กุฎี กุฎี น. กระท่อมที่อยู่ของนักบวช เช่น พระภิกษุ, เรือนหรือตึกสําหรับพระภิกษุสามเณรอยู่. (ป., ส. กุฏิ).
กุฎุมพี กุฎุมพี ดู กระฎุมพี. (ป. กุฏุมฺพิก; ส. กุฏุมฺพินฺ).
กุฏฐัง กุฏฐัง น. โรคเรื้อนซึ่งทําให้อวัยวะเช่นมือและเท้ากุดเหี้ยนไป. (ป.).
กุฏไต กุฏไต (แบบ) น. เสื้อชนิดหนึ่ง เช่น ห่มกุฏไตขอหง้า, โกตไต ก็ว่า เช่น ห่มโกตไตอวดอ้าง. (พยุหยาตรา). (เทียบอิหร่าน และ ตุรกี ว่า เสื้อกั๊กสําหรับทหาร).
กุฏิ,กุฏิ ๑ กุฏิ ๑ [กุด, กุดติ, กุติ] น. เรือนหรือตึกสําหรับพระภิกษุสามเณรอยู่. (ป., ส.).
กุฏิ,กุฏิ ๒ กุฏิ ๒ [กุด] น. ที่บรรจุศพที่ก่ออิฐถือปูนเป็นหลัง ๆ; เรือนที่ทําให้นกขุนทองนอน. (เทียบทมิฬ กูฏุ ว่า รังนก).
กุณฑ์ กุณฑ์ น. ไฟ เช่น เกิดกุณฑ์วุ่นวายทั้งเวียงชัย. (อิเหนา). (ส.).
กุณฑล กุณฑล [-ทน] น. ตุ้มหู. (ป., ส.).
กุณฑี กุณฑี [-ที] น. คนที, หม้อนํ้า, หม้อนํ้ามีหู, เต้านํ้า, เช่น พลูกัดชลกุณฑี<3t>ลูกไม้. (โลกนิติ). (ป., ส.).
กุณโฑ กุณโฑ [-โท] น. คนโท, หม้อนํ้า.
กุณาล กุณาล [-นาน] (แบบ) น. นกดุเหว่า เช่น การวิกระวังวน<3t>กุณาล. (สมุทรโฆษ). (ป., ส.).
กุณิ,กุณี กุณิ, กุณี น. คนง่อย. (ป., ส.); กระเช้า เช่น แลมีมือกุ ํกุณีแลขอขุดธงง ก็ท่องยงงไพรกันดาร เอามูลผลาหารในพนาลี. (ม. คําหลวง วนปเวสน์).
กุด กุด ก. ตัด ในคําว่า กุดหัว ว่า ตัดหัว.<2t>ว. ด้วนสั้นหรือเหี้ยนเข้าไป เช่น ยอดกุด นิ้วกุด หางกุด.<2t>(ถิ่น-อีสาน) น. บึง, ลํานํ้าที่ปลายด้วน.
กุดัง กุดัง (ปาก) น. โรงเก็บสินค้าหรือสิ่งของเป็นต้น, โกดัง ก็เรียก; เรียกรถบรรทุกขนาดใหญ่ชนิดหนึ่งว่า รถกุดัง. (ม. gudang ว่า โรงงาน, โรงเก็บของ, ร้านขายของ).
กุดั่น กุดั่น น. ทองแกมแก้ว คือ เครื่องประดับเพชรพลอยหรือกระจก เช่น ลายปั้นกุดั่น คือ ลายปั้นปิดทองประดับกระจก, โกศกุดั่น คือ โกศทําด้วยไม้จําหลักปิดทอง ประดับกระจก; ชื่อลายเป็นดอกไม้ ๔ กลีบรวมกันอยู่เป็นพืด, ถ้าแยกอยู่ห่าง ๆ เรียกว่า ประจํายาม.
กุดา กุดา (แบบ) ใช้เป็นสร้อยคําของ กุฎี เช่น สู่กุฎีกุดาสวรรค์. (ม. คําหลวง มัทรี).
กุทัณฑ์ กุทัณฑ์ น. เกาทัณฑ์, ธนู.
กุน กุน น. ชื่อปีที่ ๑๒ ของรอบปีนักษัตร มีหมูเป็นเครื่องหมาย.
กุ๊น กุ๊น ก. ขลิบเย็บหุ้มริมผ้าหรือของอื่น ๆ ใช้แถบผ้าย้วยหรือเฉลียงเย็บหุ้ม ๒ ข้างเม้มเข้าเป็นตะเข็บกลมบ้างแบนบ้าง มักใช้ที่คอเสื้อหรือชายเสื้อเป็นต้น.
กุนเชียง กุนเชียง น. ไส้กรอกอย่างจีน.
กุนที กุนที [กุนนะที] น. แม่นํ้าน้อย ๆ, แม่นํ้าเล็ก ๆ, เช่น แตกเป็นนิเทศกุนทีน้อย ๆ. (ม. ร่ายยาว กุมาร). (ป. กุนฺนที; ส. กุนที, กุ = น้อย + นที = แม่นํ้า).
กุโนกามอ กุโนกามอ (ถิ่น-ปัตตานี) น. ต้นคนทีเขมา. (ดู คนทีเขมา).
กุบ กุบ น. ซองหนังชนิดหนึ่ง เมื่อตัดทองคําใบชิ้นสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ สอดในกระดาษแก้วหนาแผ่นเล็กซ้อนกันเป็นตั้งแล้วใส่ในซองหนังนั้น ตีซองแผ่ทองคำให้บางออกไป; ชาวภาคพายัพบางถิ่นและพวกเงี้ยวเรียกหมวกชนิดต่าง ๆ ว่า กุบ; (ถิ่น-ปักษ์ใต้) กลัก, กล่อง.
กุบกับ กุบกับ ว. เสียงดังเช่นนั้น.
กุม กุม ก. เอาอุ้งมือปิด ป้อง กัน หรือ จับไว้ เช่น กุมขมับ กุมมือ กุมดาบ; คุม เช่น กุมตัว กุมสติ กุมอํานาจ.
กุ่ม กุ่ม น. ชื่อไม้ต้นในสกุล Crateva วงศ์ Capparidaceae ใบเป็นใบประกอบมีใบย่อย ๓ ใบ ดอกเป็นช่อ กลีบดอกสีขาวแล้วกลายเป็นสีเหลือง ผลกลมหรือรูปไข่ ผิวนอกแข็งและสาก ๆ สีเขียวนวล เช่น กุ่มบก [C. adansonii DC. subsp. trifoliata (Roxb.) Jacobs] กุ่มนํ้า [C. magna (Lour.) DC. และ C. religiosa Forst.f.].
กุมฝอย กุมฝอย น. ขยะ, เศษของที่ทิ้งแล้ว, คุมฝอย หรือ มูลฝอย ก็ว่า.
กุมภ,กุมภ-,กุมภ์ กุมภ-, กุมภ์ [กุมพะ-] น. หม้อ; ชื่อกลุ่มดาวรูปหม้อ เรียกว่า ราศีกุมภ์ เป็นราศีที่ ๑๐ ในจักรราศี. (ป.).
กุมภการ กุมภการ น. ช่างหม้อ. (ป.).
กุมภนิยา กุมภนิยา น. ชื่อพิธีชุบศรพรหมาสตร์ของอินทรชิตในเรื่องรามเกียรติ์.
กุมภัณฑ,กุมภัณฑ-,กุมภัณฑ์ กุมภัณฑ-, กุมภัณฑ์ [-พันทะ-] น. ยักษ์ เช่น หนึ่งท่าทานพกุมภัณฑ์คันธอสูร โสรจสินธุสมบูรณ์ ณ สระ (สมุทรโฆษ); ฟักเขียว เช่น ป่าเอลาลุอลาพุกุมภัณฑอคร้าวอนันต์. (สมุทรโฆษ).
กุมภัณฑยักษ์ กุมภัณฑยักษ์ น. ลมกุมารอย่างหนึ่งมีอาการคล้ายบาดทะยัก ผู้ที่เป็นลมนี้ตาจะช้อนสูง หน้าเขียว มือกํา เท้างอ หลังแอ่น กัดฟัน. (แพทย์).
กุมภา กุมภา (กลอน) น. จระเข้ เช่น ตัวกูหลงอยู่ด้วยกุมภา จะเสื่อมเสียวิชาที่เรียนรู้. (ไกรทอง).
กุมภาพันธ์ กุมภาพันธ์ น. ชื่อเดือนที่ ๒ ตามสุริยคติ ซึ่งเริ่มต้นด้วยเดือนมกราคม มี ๒๘ หรือ ๒๙ วัน, (เลิก) ชื่อเดือนที่ ๑๑ ตามสุริยคติ ซึ่งเริ่มด้วยเดือนเมษายน. (ป. กุมฺภ = หม้อ + อาพนฺธ = ผูก = เดือนที่อาทิตย์มาสู่ราศีกุมภ์).
กุมภิล,กุมภีล์ กุมภิล, กุมภีล์ [กุมพิน, -พี] (แบบ) น. จระเข้. (ป. กุมฺภีล; ส. กุมฺภีร).
กุมลัคน์ กุมลัคน์ (โหร) ก. ลักษณาการที่ดาวพระเคราะห์อยู่ประจำในเรือนเดียวกับลัคน์ เรียกว่า กุมลัคน์.
กุมเหง กุมเหง (ปาก) ก. ข่มเหง, รังแก, ใช้กําลังหรืออํานาจทําให้เดือดร้อน, คุมเหง ก็ว่า.
กุมาร กุมาร [-มาน] น. เด็กชาย. (ป., ส. กุมาร ว่า เด็กชาย, ลูกหลวง); ชื่อกัณฑ์ที่ ๘ แห่งมหาเวสสันดรชาดก.
กุมารลฬิตา กุมารลฬิตา [กุมาระละลิตา] น. ชื่อฉันท์วรรณพฤติแบบหนึ่ง กําหนดด้วย ๒ คณะ คือ ช คณะ และ ส คณะ และเติมครุข้างท้ายอีก ๑ คำ หรือ ๑ พยางค์ จึงมีบาทละ ๗ คำ หรือ ๗ พยางค์ (ตามแบบว่า กุมารลฬิตาชฺสฺคา) ตัวอย่างว่า อนึ่งนุชมีจิต สนิทกรุณะเปรมปรี ดิสวามิมะนะภักดี ภิบาลบมิอนาทร. (ชุมนุมตำรากลอน).
กุมารา กุมารา (กลอน) น. กุมาร, เด็กชาย, เช่น เมื่อนั้น พระไชยเชษฐ์ความแสนเสนหา พยายามตามปลอบกุมารา อนิจจาปลื้มใจไม่ดูดี. (ไชยเชษฐ์), (ป.; ส. กุมาร ว่า เด็กชาย, ลูกหลวง).
กุมารี กุมารี น. เด็กหญิง. (ป., ส.).
กุมุท กุมุท [กุมุด] (แบบ) น. บัว, บัวขาว, บัวสาย. (ป., ส.); เลขนับจํานวนสูงเท่ากับ ๑๐,๐๐๐,๐๐๐ ยกกําลัง ๑๕ หรือ ๑ มี ๐ ตามหลัง ๑๐๕ ตัว.
กุย,กุย ๑ กุย ๑ น. ชื่อสัตว์เคี้ยวเอื้องชนิด Saiga tatarica ในวงศ์ Bovidae มีถิ่นกําเนิดในแถบไซบีเรียตอนใต้ มองโกเลียตะวันตก และจีนตะวันตกเฉียงเหนือ เขามีราคาแพง ใช้ทํายาได้.
กุย,กุย ๒ กุย ๒ น. ชาวป่าพวกหนึ่งคล้ายพวกมูเซอ.
กุย,กุย ๓ กุย ๓ (ถิ่น-พายัพ) น. หมัด, กําปั้น, มักใช้เข้าคู่กับคํา ลูก ว่า ลูกกุย เช่น เตรียมลูกกุยมาทั่วที่ตัวดี. (ขุนช้างขุนแผน).
กุ๊ย กุ๊ย น. คนเลว, คนโซ. (จ. กุ๊ย ว่า ผี).
กุ๋ย,กุ๋ย ๆ กุ๋ย, กุ๋ย ๆ ว. เสียงร้องเยาะเย้ย, บางทีทำอาการกระดิกนิ้วชี้ตรงไปที่หน้าผู้ที่ถูกเย้ย, กิ๋ว หรือ กิ๋ว ๆ ก็ว่า.
กุยช่าย กุยช่าย น. ชื่อไม้ล้มลุกชนิด Allium tuberosum Roxb. ในวงศ์ Alliaceae คล้ายต้นหอมหรือกระเทียม ใบแบน กลิ่นฉุน กินได้ นําเข้ามาปลูกเพื่อเป็นอาหาร, พายัพเรียก หอมแป้น. (จ.).
กุยเฮง กุยเฮง น. เสื้อแบบจีนชนิดหนึ่ง คอกลม ผ่าอกตลอด ติดกระดุม มีกระเป๋าด้านล่างข้างละกระเป๋า. (จ.).
กุรระ,กุรุระ กุรระ, กุรุระ [กุระระ, กุรุระ] (แบบ) น. นกเขา, แปลว่า เหยี่ยว ก็มี เช่น แม่กุรร์จาปน้อยหาย แลนา. (ม. คําหลวง ทานกัณฑ์). (ป., ส. กุรร).
กุระ กุระ (ถิ่น-ปักษ์ใต้) น. ชื่อไม้ต้นขนาดกลางชนิด Sapium indicum Willd. ในวงศ์ Euphorbiaceae ขึ้นตามที่ลุ่มนํ้าขังและริมคลองนํ้ากร่อย ทุกส่วนมียางขาว ผลกลม แก่จัดแยกออกเป็น ๓ ซีก, สมอทะเล ก็เรียก.
กุรุง กุรุง (โบ) น. กรุง เช่น จากกุรุงสาวถีกับสงฆ์ ห้าร้อยหย่อนองค์ อดิเรกประดับบริพาร. (บุณโณวาท).
กุรุพินท์ กุรุพินท์ น. ทับทิม, เขียนเป็น กรพินธุ์ ก็มี เช่น ดยรดาษแก้วกรพินธุ์. (ม. คําหลวง มหาราช). (ส. กุรุวินฺทุ ว่า แก้วทับทิม).
กุรุส กุรุส น. มาตรานับจำนวน เท่ากับ ๑๒ โหล หรือ ๑๔๔. (อ. gross).
กุเรา กุเรา น. ชื่อปลาทะเลและนํ้ากร่อยหลายชนิดใน ๒ สกุล คือ สกุล Eleutheronema และ Polynemus วงศ์ Polynemidae ครีบอกตอนล่างมีก้านครีบแยกออกจากกันเป็นเส้นยาวรวม ๓-๗ เส้น แล้วแต่ชนิด ลําตัวและครีบสีเทาอมเงิน เช่น ชนิด E. tetradactylum, P. sextarius, กุเลา ก็เรียก.
กุล,กุล ๑,กุล- กุล ๑, กุล- [กุน, กุนละ-, กุละ-] น. ตระกูล, สกุล. (ป., ส.).
กุล,กุล ๒ กุล ๒ (ถิ่น-ปักษ์ใต้) น. ต้นพิกุล. (ดู พิกุล).
กุลทูสก กุลทูสก [กุละทูสก] น. ผู้ประทุษร้ายต่อตระกูล หมายถึงภิกษุที่ประจบตระกูลต่าง ๆ ด้วยอาการที่ผิดวินัย. (ป.).
กุลธิดา กุลธิดา [กุนละ-] น. ลูกหญิงผู้มีตระกูล.
กุลบดี กุลบดี [กุนละ-] น. หัวหน้าตระกูล. (ส.).
กุลบุตร กุลบุตร [กุนละ-] น. ลูกชายผู้มีตระกูล.
กุลสตรี กุลสตรี [กุนละ-] น. หญิงผู้มีตระกูลและมีความประพฤติดี.
กุลสัมพันธ์ กุลสัมพันธ์ [กุนละ-] ว. เกี่ยวเนื่องกันทางตระกูล. (ป.).
กุลา,กุลา ๑ กุลา ๑ น. ชื่อว่าวชนิดหนึ่ง มีรูปร่าง ๕ แฉก หัวแหลม, คู่กับ ว่าวปักเป้า, ว่าวจุฬา ก็เรียก.
กุลา,กุลา ๒ กุลา ๒ น. ชนชาติต้องสู้และไทยใหญ่, กุหล่า หรือ คุลา ก็ว่า; (ถิ่น-พายัพ) ใช้เรียกชนต่างประเทศ เช่น เรียกชนชาติฝรั่งว่า กุลาขาว, เรียกชนชาติแขกว่า กุลาดํา.
กุลา,กุลา ๓ กุลา ๓ ดู ช้อนหอย ๒.
กุลาซ่อนผ้า กุลาซ่อนผ้า น. การเล่นของเด็กชนิดหนึ่ง.
กุลาดำ กุลาดำ น. ชื่อกุ้งทะเลชนิด Penaeus monodon ในวงศ์ Penaeidae ตัวแบนข้าง ขนาดค่อนข้างใหญ่ สีเขียวอมน้ำตาล มีแถบสีดำและสีจางพาดขวางเป็นลายตลอดลำตัว.
กุลาตีไม้,กุลาตีอก กุลาตีไม้, กุลาตีอก น. การเล่นชนิดหนึ่งในงานพระราชพิธี. (กฎ. ราชบุรี; ดึกดําบรรพ์).
กุลาลาย กุลาลาย น. ชื่อกุ้งทะเลชนิด Penaeus semisulcatus ในวงศ์ Penaeidae รูปร่างและขนาดคล้ายกุ้งกุลาดํา สีน้ำตาลอมแดง แต่มีลายน้อยกว่ากุ้งกุลาดำ หนวดมีลายสลับเป็นปล้อง.
กุลาหล กุลาหล [-หน] (กลอน) ว. โกลาหล เช่น สนั่นครั่นครื้น กุลาหล. (รามเกียรติ์ ร. ๑).
กุลี,กุลี ๑ กุลี ๑ น. คนรับจ้างทํางานหนักมีหาบหามเป็นต้น.
กุลี,กุลี ๒ กุลี ๒ เพี้ยนมาจาก กลี เช่น เกิดการกุลี. (กฎ. ราชบุรี).
กุลี,กุลี ๓ กุลี ๓ ลักษณนามบอกปริมาณ คือผ้าห่อหนึ่งที่รวมกัน ๒๐ ผืน (ใช้แก่ผ้าลาย ผ้าพื้น ผ้าขาวม้า และโสร่ง เป็นต้น).
กุลีกุจอ กุลีกุจอ ก. ช่วยจัดช่วยทําอย่างเอาจริงเอาจัง.
กุเลา กุเลา น. ปลากุเรา. (ดู กุเรา).
กุแล กุแล น. ชื่อปลาทะเลหลายชนิดในสกุล Sardinella และ Herklotsichthys วงศ์ Clupeidae ลําตัวยาว แบนข้างมาก สันท้องแหลม เกล็ดบางหลุดง่าย เกล็ดในแนวสันท้องเป็นเหลี่ยมคมเรียงต่อกันคล้ายฟันเลื่อย ปากเล็กเชิดขึ้นเล็กน้อย ฟันเล็กมาก ซี่เหงือกมีจํานวนมาก ไม่มีก้านครีบแข็งหรือเงี่ยง ลําตัวสีเงิน เฉพาะด้านหลังสีนํ้าเงินเข้ม บนลําตัวที่ใกล้มุมแผ่นปิดเหงือกมักมีแต้มสีดําคลํ้า ๑ จุด ครีบหลังและครีบหางสีดําคลํ้าอมเหลือง ขนาดยาวได้ถึง ๑๘ เซนติเมตร, อกรา หรือ อกแล ก็เรียก, ส่วน กุแลกลม หรือ กุแลกล้วย หมายถึงชนิดในสกุล Dussu